ในระหว่างที่เหอวาวาฝึกทำเกี๊ยวยอดเซียนให้ชำนาญจนได้สูตรที่มั่นใจว่าอร่อยตามต้นฉบับแล้ว จินเหอก็กลับไปทำงานที่ตระกูลกู้ ทว่าเมื่อถึงเวลาเงินเดือนออกก็กลับไม่ได้เงินแม้แต่หยวนเดียว พอไปสอบถามแม่ใหญ่ถึงได้รู้ว่า หลินอวี่หักเงินเดือนของเขาไปเป็นค่าเช่าบ้าน ตั้งแต่นั้นมาเหอวาวาจึงไม่ให้สามีกลับไปทำงานที่ตระกูลกู้อีก
ความคิดที่จะหาอะไรมาขายเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเก็บเป็นเงินทุนในการเปิดร้านจึงได้ยกมาปัดฝุ่นอีกครั้ง ตามความคิดของลี่หยวน โชคดีที่ป้าจูเพื่อนบ้านที่แสนดี ถึงแม้ว่าจะเพิ่งรู้จักกันไม่นาน ทว่าคล้ายกับบ้านทั้งสองถูกโฉลกกันที่สุด ป้าจูจึงให้เป็ดมาก่อนโดยที่ยังไม่ต้องจ่ายเงิน ซึ่งมันเป็นผลดีกับป้าจู เพราะเธอไม่ต้องไปหาซื้อแป้งเพื่อให้หญิงสาวมาหัดทำเกี๊ยวนั่นเอง
อีกอย่างเป็ดที่ป้าจูเลี้ยงไว้ก็มากขึ้นทุกวัน เพราะคนรับซื้อเป็ดไม่มารับเป็ดไปขายสักที ป้าจูจึงยินดีแบ่งปันเพื่อให้วาวานำมาใช้ทำเป็นอาหารขาย
กลิ่นหอมของเป็ดย่างราดซอส ลอยออกไปกลางถนน กลิ่นของน้ำหมักเครื่องเทศซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของวาวา ดึงดูดคนที่กำลังเดินผ่านไปมาให้เข้ามามองดู เธอคิดค้นเตาย่างเป็ดแบบใหม่ขึ้นมา ด้วยการนำไม้เสียบเป็ดแล้วขึงตัวของมันออกให้กว้างที่สุด กางเพื่อให้หนังของมันตึงและเรียบ ก่อนจะนำน้ำซอสรอบแรกทาลงไป แล้วย่างไปได้เพียงแค่พักใหญ่ก็นำลงมาทาน้ำซอสอีกรอบ ดังนั้นหนังเป็ดของเธอจึงมีความกรอบและมีสีที่ค่อนข้างเข้มสดชวนกิน ไม่ซีดเหมือนเป็ดย่างของร้านอื่น
“ผมไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าสีของหนังเป็ดย่างจะชวนน่ากินถึงขนาดนี้ คุณไปได้สูตรนี้มาจากไหนหรือที่รัก” จินเหอเอ่ยถามภรรยาด้วยความสงสัย มือก็หมุนเป็ดย่างไปด้วย
วาวาได้เพียงแค่อมยิ้มแต่ก็ไม่กล้าตอบ เพราะเธอเองก็มั่นใจว่าต่อให้พูดออกไปตามความจริง จินเหอผู้เป็นสามีก็ไม่มีทางเชื่อ ดังนั้นจึงหันมาขยิบตาพร้อมกับยิ้มให้อย่างมีเลศนัย
“สูตรลับฉบับท่านเซียนค่ะ ที่ร้านของเรานอกจากจะมีเกี๊ยวยอดเซียนแล้ว ยังจะต้องมีอาหารอย่างอื่นเพื่อเอาไว้รับรองลูกค้าอีกด้วย นี่มันเป็นแค่เพียงสูตรประจำตัวของฉันที่ได้รับถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ เพราะฉะนั้นที่ไม่เคยทำให้คุณได้ชิม ก็เป็นเพราะตอนนั้นเรายังต้องอยู่ในบ้านใหญ่ ถ้าขืนฉันทำออกมาแล้วมันดีก็จะทำให้เราต้องลำบากทำเลี้ยงคนทั้งบ้านอีก” วาวาเอ่ยตอบพลางทาน้ำซอสลงไปที่ตัวเป็ดอีกครั้ง
“คุณนี่ฉลาดจริงๆ ผมไม่คิดมาก่อนเลยว่าเมื่อก่อนเห็นคุณเงียบๆ แต่ที่แท้แล้วกลับมีความคิดที่ฉลาดล้ำลึกอย่างนี้นี่เอง ผมนี่เป็นสามีที่ไม่เอาไหนจริงๆ”
“อย่าพูดแบบนั้นเลยค่ะ รีบหมุนตัวเป็ดเร็วเข้า เตาของเรามันเล็กเลยทำให้ย่างเป็ดได้เพียงแค่ครั้งละสามตัว ตอนนี้ยังพอมีเวลา แต่ถ้าเกิดลูกค้าเข้ามาเยอะขึ้น รับรองคุณจะหมุนย่างเป็ดจนต้องบ่นเจ็บข้อมือเชียวล่ะค่ะ” เหอวาวาเอ่ยเย้าสามีเสียงหวาน
เป็นอย่างที่วาวาพูดไว้ไม่มีผิด เพราะเพียงแค่มีชายสูงวัยท่านหนึ่งเดินผ่าน แล้วหันมาเพราะสนใจเป็ดย่างที่มีหนังกรอบชุ่มฉ่ำ หนังของมันปล่อยน้ำมันซึ่งถูกเปลวไฟย่างอย่างอ่อนๆออกมา ชวนให้ความรู้สึกสัมผัสนุ่มละมุนลิ้น
“เป็ดย่างตัวเท่าไหร่แม่หนู”
“ตัวละสองหยวนค่ะคุณลุง”
เมื่อได้ยินราคา คุณลุงท่านนั้นถึงกับผงะตกใจ ร้องขึ้นมาด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง
“นี่มันเป็ดย่างข้างถนนชัดๆ แต่ทำไมถึงคิดราคาแพงเท่าเหลาอาหาร จะหน้าเลือดเกินไปหรือเปล่า”
“เป็ดย่างตัวนี้ คือเป็ดย่างยอดเซียน รับรองว่าถ้าใครได้เคี้ยวหนังกรอบๆ ของมันเข้าไป หรือได้ลองลิ้มรสเนื้อนุ่มๆ ฉ่ำซอสไม่มีแห้งกระด้าง แล้วจะบอกเลยว่าราคานี้ไม่แพงเด็ดขาด ถึงแม้ว่าจะขายข้างถนน ไม่ได้ขายบนเหลาอาหาร ทว่าสามีของฉัน ก็ตั้งใจย่างมันด้วยความใส่ใจ” เหอวาวาอธิบายเสียงใส ไม่ได้มีความโกรธเคืองในน้ำเสียงของคุณลุงคนนั้นเลยแม้แต่น้อย
“ฉันไม่เชื่อเด็ดขาด ฉันกินเป็ดย่างมาทั้งชีวิต ที่บ้านของฉันก็มีสูตรเฉพาะ เป็นสูตรที่รับการถ่ายทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น แต่ที่ฉันสนใจก็เป็นเพราะว่าวิธีการย่างแบบนี้ ฉันเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ฉันจะไม่เชื่อเด็ดขาดถ้ายังไม่ได้ลองชิม” ชายสูงวัยคนนั้นเอ่ยค้านขึ้นอย่างไม่เชื่อ
“ถ้าอย่างนั้น คุณลุงลองชิมได้เลยค่ะ ถ้าไม่อร่อยวาวาจะแถมเงินให้อีกด้วย” เหอวาวาว่าพลางผายมือลงไปยังจานเล็กที่มีชิ้นเป็ดย่างสำหรับทดลองชิมที่มีไม้จิ้มเล็กๆ ปักอยู่
จินเหอได้ยินภรรยาพูดเช่นนั้นก็รู้สึกตกใจ รีบเดินเข้าไปซ้อนทางด้านหลังของเหอวาวา พร้อมกับยกมือขึ้นป้องปากแล้วกระซิบเบาๆ ข้างหลังใบหูสวย
“เรามีเงินมากขนาดนั้นที่ไหนกัน เงินที่เหลืออยู่ก็เอาไปซื้อซอส มาให้คุณทำน้ำซอสเคี่ยวเป็ดหมดแล้ว ถ้าลุงคนนี้เป็นพวกนักต้มตุ๋นมาหลอกลวงเอาเงินของเรา เราจะเอาที่ไหนจ่าย”
เธอรีบกระซิบกลับไป “ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนเหลวไหล ถึงการแต่งตัวของเขาจะดูธรรมดา แต่คุณดูรองเท้าของเขาสิ มันเป็นรองเท้าราคาแพง หนังอย่างดี อีกอย่างรอดูก่อนว่าถ้าเขาชิมแล้วจะพูดอะไรออกมา”
จินเหอรู้สึกตื่นเต้นเพราะหลังจากเหอวาวาฟื้นขึ้นมาจากการล้มหัวฟาดพื้น ภรรยาของเขาดูคล้ายจะกลายเป็นคนละคน จากที่เป็นหญิงสาวที่มีนิสัยตื่นกลัว มักเก็บเนื้อเก็บตัวไม่ค่อยสุงสิงกับใคร กลับกลายเป็นคนสดใส ทั้งยังชอบพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนอื่น และที่ชวนให้น่าตกใจก็คือมีหัวการค้าและฝีมือการทำอาหารอย่างน่าอัศจรรย์
เป็นไปอย่างที่เหอวาวาคาดการณ์ เพราะเพียงแค่ชายสูงวัยคนนั้นคีบหนังเป็ดย่าง ซึ่งถูกชโลมด้วยน้ำซอสสูตรพิเศษ เขาก็ถึงกับเบิกตาค้างพร้อมกับร้องตะโกนออกมา
“สวรรค์ นี่มันเป็ดย่างเทพเซียนชัดๆ รสชาติกลมกล่อม หนังกรอบไม่แห้ง ไม่ยุ่ย มิหนำซ้ำยังไม่มีกลิ่นคาวติดแม้แต่นิดเดียว มันช่างเป็นหนังเป็ดย่างที่อร่อยที่สุด” ชายสูงวัยคนนั้นร้องออกมาด้วยความตื่นตะลึงกับรสสัมผัสที่ได้ลิ้มลอง
“เห็นไหมคะ ฉันบอกคุณลุงแล้ว คราวนี้ราคาที่ฉันบอกไปไม่แพงเลยจริงๆ ใช่ไหม”
ชายแก่ลังเลเมื่อคิดจะคีบเนื้อเป็ดซึ่งอยู่ในจานทดลองชิมขึ้นมาอีกครั้ง ในที่สุดเขารีบวางตะเกียบลงแล้วเอ่ยคำถามที่เหอวาวาคาดการณ์ล่วงหน้าไว้แล้วออกมา
“แม่หนู ฉันต้องการสูตรเป็ดย่างของเธอ ยินดีจะขายให้ฉันไหม” ชายคนนั้นหยิบปากกาและกระดาษออกมา เขาเขียนจำนวนเงินสำหรับค่าสูตรเป็ดย่างวางไว้ตรงหน้าเหอวาวา
จินเหอตกตะลึงไม่คิดว่าสูตรเป็ดย่างของภรรยาจะมีราคาสูงถึงเพียงนี้ จำนวนของมันแม้กระทั่งเขาก็ยังเคยเห็นเงินจำนวนนี้แค่ไม่กี่ครั้งในตอนที่ยังอยู่บ้านใหญ่ แต่ดูเหมือนว่าภรรยาของเขาจะไม่ตกใจหรือตื่นเต้นแม้แต่น้อย
“คุณลุง วันนี้ขายเพียงแค่เป็ดค่ะ แต่ยังไม่คิดจะขายสูตร เอาไว้วันหน้าเมื่อไหร่ที่ฉันประกาศขายจะคิดถึงคุณลุงเป็นคนแรกนะคะ”
ทั้งที่ถูกปฏิเสธแต่ชายแก่กลับไม่รู้สึกโกรธ เขากลับยกนิ้วให้กับวาวาพร้อมกับเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงชื่นชม
“หายากเหลือเกิน คุณหนุ่มสาวที่มีปณิธานกล้าแข็งแบบนี้ ตกลงวันนี้ฉันจะรับเพียงแค่เป็ดย่างกลับไป แต่เมื่อไหร่ที่เธอคิดจะขายสูตรของมัน ขอให้เธอจงเดินทางไปหาฉัน ที่ภัตตาคารชิงเหอ บอกว่ามาพบเถ้าแก่ตง เพียงเท่านี้เธอก็จะได้พบฉันทันที”
ที่แท้แล้วชายแก่คนนี้ก็คือเจ้าของภัตตาคารเลื่องชื่อที่สุดในเมืองแห่งนี้ เป็นไปอย่างที่วาวาคาดการณ์ไว้ไม่มีผิด และท้ายที่สุดเมื่อเขาไม่ได้สูตรเป็ดย่างกลับไป เขาจึงเหมาเป็ดย่างที่มีอยู่บนโต๊ะและในเตาทั้งหมดกลับไปด้วย ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายที่เตาของเธอนั้นเล็กเกินไป จึงทำให้ย่างเป็ดได้เพียงแค่สามตัวต่อครั้งเท่านั้น แต่นั่นมันก็มากเพียงพอแล้วสำหรับการหาทุนก้อนแรก
หลังจากปิดร้านเนื่องจากเธอไม่มีเตามากพอจะใช้ในการย่าง ทุนที่ได้มาจากการขายเป็ดย่างทั้งวันมันก็มากเพียงพอที่จะทำให้ใช้เป็นทุนเปิดร้านเกี๊ยว และยังเป็นค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวได้อีกพักใหญ่ จินเหอรู้สึกปลื้มใจและรู้สึกภูมิใจในตัวของภรรยาตนเองมาก
“คุณสมกับเป็นภรรยาของผมจริงๆ ทั้งเก่ง และมีฝีมือ แต่ผมก็ยังมีเรื่องไม่เข้าใจอยู่ว่า ทำไมคุณถึงไม่ยอมขายสูตรเป็ดย่างให้แก่เถ้าแก่ตง เพราะนั่นมันอาจจะทำให้เราได้เงินมากกว่าที่เราขายได้ทั้งหมดในวันนี้เสียอีก”
วาวายิ้มอย่างมีเลศนัย ไม่ได้เอ่ยตอบข้อสงสัยของจินเหอ เนื่องจากว่าเหอวาวาคิดถึงแผนการทางธุรกิจที่เป็นที่นิยมในยุคสมัยของเธอชาติก่อน ถ้าหากว่าตนจะนำมาใช้ในยุคสมัยนี้ก็คงจะไม่ผิดอะไรใช่ไหม
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?