เห็นได้ชัดเถ้าแก่เนี้ยหวั่นเกรงคาชาจนพูดจาติดขัด แล้วเหตุใดมาเบลจึงสัมผัสได้ว่าในความกลัวนั้นมีความชื่นชมคละเคล้าอยู่ด้วย อย่าบอกว่าเจ๊เป็นโรคแพ้คนหล่อ ไม่ผิดจากที่คาดไว้ อาการออกขนาดนี้ใช่แน่นอน
หลังอธิบายสองแง่งสองง่ามแทบจะพูดออกไปแล้วว่าพึ่งทำอะไรกันมา คาชาก็นั่งลงที่โต๊ะในมุมหนึ่งเพื่อรับประทานอาหาร บรรยากาศในร้านขณะนั้นจากที่เคยอึกทึกแทบจะเหมือนตลาดสด เวลานี้เงียบกริบราวกับร้างผู้คน มาเบลนึกว่าตัวเองมาเข้างานผิดที่ ไม่ชินสักนิดเมื่อเหล่าอันธพาลที่โหวกเหวกเป็นนิสัย เวลานี้รักษาระเบียบยิ่งกว่านักเรียน แม้แต่เสียงช้อนกระทบจานข้าวก็ยังไม่ปรากฏให้ได้ยิน
คาชานั่งเพลิดเพลินกับอาหารอยู่ในมุมของเขา ระหว่างเสิร์ฟเบียร์เย็นๆ ให้ จู่ๆก็เกิดความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา
วันแรกที่เจอกันไม่ทันสังเกต ท่ามกลางมาเฟียฝูงหนึ่ง รู้เพียงว่าผู้ชายคนนี้สามารถออกคำสั่งกับคนเหล่านั้น เลยคาดเดาสถานะว่าเขาคงอยู่ระดับหัวหน้า เป็นอันธพาลชาวต่างชาติตัวสูงที่มีนิสัยเถื่อนถ่อยไร้ยางอายคนหนึ่ง มาเจอกันอีกครั้งหลังค่ำคืนเฮงซวยที่ถูกตราหนี้ติดตัว ก็ยังคงเถื่อนถ่อยไร้ยางอายเหมือนเดิม สายตาจาบจ้วงทีราวกับมีดแหลม รวมไปถึงคำพูดหยาบโลนทะลึ่ง มันช่างขัดแย้งอย่างแรงเมื่อเปรียบเทียบกับภาพลักษณ์เทพบุตรภายนอก
เขามีหน้าตาที่โดดเด่นหล่อเหลา คิ้วดกจมูกโด่งเป็นสัน ผิวพรรณรูปร่างอย่างชาวยุโรป ส่วนสูงที่น่าจะแตะถึง 190 เซนติเมตร ยิ่งเสริมให้น่าเกรงขามสมกับเป็นมาเฟียทำงานผิดกฎหมาย ในเมื่ออยู่แก๊งค์มาเฟียรัสเซีย มาเบลคาดเดาว่าเขาคงจะมาจากที่นั่นเช่นกัน เพียงแต่เคยมีโอกาสได้สบตาครั้งหนึ่ง ดวงตาของเขาไฉนเป็นสีเข้ม
แถมยังพูดภาษาไทยได้คล่องปรือ มันอาจเป็นเพราะว่าทำธุรกิจเถื่อนอยู่ที่นี่มานานแล้ว หรือบางทีไม่พ่อก็แม่ของเขา ใครคนใดคนหนึ่งอาจจะเป็นคนฝั่งตะวันออกก็ได้ นึกถึงดวงตาที่ลุ่มลึกดุจเกลียวคลื่นสงบเงียบในทะเลยามราตรี อันที่จริงต้องยอมรับว่ามันมีแรงดึงดูดมหาศาล ขณะเดียวกันก็หนาวยะเยือกและอันตราย
“อือ…” เห็นเธอเหม่อจ้องอยู่นานแล้ว คาชาคิดว่ามาเบลรอทิปเสิร์ฟจึงใจดีล้วงเงินออกมาให้เธอปึกหนึ่ง พร้อมกับส่งสายตากะลิ้มกะเลี่ยชวนให้ใจคอไม่ดี “ถ้าเย็นนี้ไปบริการฉัน เธอก็จะได้อีก”
มาเบลรีบฉวยเอาเงินแล้วค้อนตาคว่ำ ไม่ต่อปากต่อคำกับคนที่ดีแต่พูดจาแทะโลมเธอ อดอยากขาดแคลนมากหรือไง หน้าตาอย่างเขาแค่กระดิกนิ้ว สาวๆ ที่คลับคงกรูกันเข้าใส่เหมือนฝูงมดเลยล่ะมั้ง
เวลาหนึ่งทุ่มวันเดียวกัน ทันทีที่เลิกเสิร์ฟจากร้านอาหารมาเข้างานต่อที่คลับบาคารอส มาเบลหูตาไว สัมผัสได้ว่าบรรยากาศของผู้คนรอบตัวผิดแผกไปจากเดิม มีทั้งที่มองมาด้วยความสงสัยใคร่รู้และจับจ้องจนน่าอึดอัด อย่างกับเธอไปก่อเรื่องบางอย่างมา คนที่ช่วยไขข้อข้องใจให้กระจ่างก็คือน้ำตาล หญิงสาวรุ่นพี่ที่อยู่มาก่อน
เพราะอีกฝ่ายเห็นว่าเธอมีปณิธานแรงกล้าใช้ความความขยันแลกเงิน แทนที่จะใช้หน้าตาเรียกทรัพย์ ประกอบกับพนักงานเสิร์ฟผู้หญิงที่ทำหน้าที่เสิร์ฟจริงๆ ก็มีอยู่กันแค่นี้ ทั้งคู่จึงสนิทกันอย่างรวดเร็ว
“พวกเราไม่ใช่คนอื่นคนไกล ไม่จำเป็นต้องปิดบังหรอก ตกลงว่าจริงไหมอ่ะ ที่เจ้านายใหญ่เอ็นดูน้องเบลอยู่”
“เจ้านายใหญ่?” มาเบลย่นคิ้วมุ่น หมายถึงใคร เธอไปได้รับความเอ็นดูจากเจ้านายใหญ่ท่านไหนอีก
“แหมๆ อย่าอุบไว้เลย คนเขารู้กันทั้งคลับแล้วว่าวันนี้เจ้านายท่านนั้นของเราไปส่งน้องเบลที่ร้านเจ๊หวัง คุณคาชา เจ้าของคลับแล้วก็คาสิโนที่พวกเรากำลังทำงานให้อยู่นี่ไง อย่าบอกนะว่าน้องเบลไม่รู้จักเจ้านาย
ระดับเด็กเสิร์ฟอย่างเราๆ อาจจะไม่ค่อยได้บริการเขานัก ส่วนมากเวลาคุยธุรกิจในห้องวีไอพีจะเรียกใช้สาวๆ อกสะบึ้มซะส่วนใหญ่ แต่ในรอบหนึ่งสัปดาห์ที่คุณคาชาเข้ามาตรวจงาน เพราะว่าเจ้านายของเราหล่อวัวตายควายล้ม สาวๆที่นี่จึงเฝ้ารอวันหยุดสุดสัปดาห์จะได้เจอคุณเขากัน
คนระดับนั้นแค่ได้เห็นครั้งเดียวก็ฝังใจจำไม่ลืมแล้ว มันเลยไม่แปลกที่น้องเบลจะโดนมอง ในที่นี้ไม่ว่าใครก็อยากเป็นหนูตกถังข้าวสารกลายเป็นคนโปรด ยกเว้นพี่ไว้คนหนึ่ง รสนิยมของพี่มันค่อนข้างเฉพาะน่ะ”
มาเบลไม่เห็นแววตาลุ่มลึกที่น้ำตาลมองตัวเธอ เพราะมัวแต่ตกอยู่ในภวังค์ความคิด ทั้งยังตกตะลึง
คาชาไม่ใช่แค่ระดับหัวหน้าสาขาอะไรทำนองนั้น แต่เป็นถึงนายใหญ่เจ้าของคลับและคาสิโนบาคารอสแห่งนี้ เป็นชายหนุ่มที่มีอำนาจเหนือแก๊งค์มาเฟียรัสเซียบอสโควิก ผู้ซึ่งโดนเธอตบและโต้เถียงไม่หยุดปาก นี่มันบ้าอะไรกันแน่…
เขาน่าจะเคยฆ่าคนด้วยซ้ำ แต่กลับปล่อยหนูตัวเล็กๆ อย่างเธอไว้ ทั้งที่โดนลบหลู่หลายครั้ง ก็ยังทำราวกับมีเมตตา หรือแท้ที่จริงคงเกรงจะไม่มีใครอยู่ใช้หนี้มหาศาลนั่นให้มากกว่า
“รวยจะตายอยู่แล้ว กับเงินร้อยล้านยังจะมารีดเลือดกับปูอีก ใจจืดใจดำซะไม่มี”
ยังดีว่าหลังจากที่เขาไปส่งเธอครั้งนั้นก็ไม่ได้ทำเรื่องให้ตกเป็นเป้าสายตาอีก ชีวิตของมาเบลเลยสงบลงบ้างเล็กน้อย ไม่ต้องโดนส่อเสียดเรื่องที่ว่าตกกระป๋องเป็นหมาหัวเน่า ถึงจะยังมีคนพูดถึงอยู่ มันก็ไม่ระคายเพราะเธอไม่ได้อยากเป็นคนโปรดของเจ้านายใหญ่คนนั้นสักนิด
“ฮึ! ไหนบอกไม่อยากรับแขก ทำไมเดือนนี้ถึงจ่ายดอกครบ แค่เสิร์ฟไม่น่าจะมีเงินขนาดนี้”
คาชาเอนหลังพักผ่อนอยู่บนเก้าอี้หนังสีดำ พึ่งได้รับรายงานจากลูกน้องว่ายัยเด็กปากเก่งคนนั้นจ่ายดอกเบี้ยเดือนนี้มาได้ด้วยจำนวนเงินหกแสนกว่าบาท ซึ่งพอๆ กับรายได้ของเด็กเอ็นตัวท็อปที่คลับ หน้าสวยๆ แบบนั้นคงจะจับไอ้โง่ได้สักตัวแน่ ไม่งั้นไม่มีทางที่คนธรรมดาเหลือแต่ตัวอย่างเธอจะหาเงินจำนวนนี้ได้ภายในหนึ่งเดือน
“ทางไอ้สวะนั่นล่ะ คืนในส่วนของมันมาได้เท่าไหร่” คาชาหันไปถามกับผู้ช่วย เขาอุตส่าห์ใจดีแบ่งหนี้ให้สองพ่อลูกคนละครึ่ง ตกฝ่ายละห้าสิบล้าน แถมอัตราดอกเบี้ยยังเป็นไปตามข้อกฎหมาย เชื้อสายเดียวกัน น่าจะเก่งไม่แพ้กันนะ
“พ่อของเธอ เรื่องนี้ผมว่าจะรายงานนายตั้งแต่เมื่อวาน แต่ไม่มีโอกาสสักที คือว่า ไอ้มานพมันหนีไปประเทศเพื่อนบ้านแล้วครับ”
“หนี? คงไม่มีปัญญาทำงานก็เลยจะไปเล่นพนันที่นั่นแทนล่ะสิ มีพ่อแบบนี้แม้จะเป็นฉันก็เหนื่อยแทนเลย แล้วตกลงว่ายัยเด็กนั่นรับแขกหรือว่าไม่รับ”
นายใหญ่ให้ความสนใจเรื่องหยุมหยิมอย่างหาได้ยาก ผู้ช่วยไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อนจึงแอบใคร่รู้ แม้แต่แก๊งค์คู่อริไม้เบื่อไม้เมาประกาศจะเด็ดหัวเจ้านายให้ได้ ยังไม่ทำให้เขานึกอยากถามไถ่ข้อมูลสักนิด เหตุใดกับลูกหนี้สาวจนๆ คนหนึ่งถึงได้ให้ความสำคัญนัก
“ผมถามพนักงานของคลับให้แล้วครับ เธอไม่ได้รับแขก แต่ช่วงดึกจะลงไปที่คาสิโนเพื่อเสิร์ฟ แล้วก็จะได้ทิปจากตรงนั้น ยังมีงานขายของออนไลน์แล้วก็รับจ้างทำการบ้านฟรีแลนซ์ในอินเตอร์เน็ตครับ”
เรียกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมงใช้เวลาทำงานไปแล้วยี่สิบชั่วโมง นอนน้อยพอๆ กับเจ้านายของเขาเลยทีเดียว
“ขยันจนน่าหงุดหงิดเลยแฮะ ถ้าเพิ่มหนี้ในส่วนของพ่อเธอเข้าไป จะเลี้ยงให้เชื่องได้ไหมนะ”
ถ้าเธอยอมเป็นของเล่นของเขาแต่แรก ก็จะได้ลดหย่อนหนี้ไปแล้ว คราวนี้มาดูกันว่าหากต้องเหนื่อยเพิ่มเป็นสองเท่า จะยังกอดศักดิ์ศรีไว้ได้อีกหรือเปล่า
“ส่งคนไปจับมันกลับมา ถึงลูกสาวมันจะใช้หนี้ให้ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะลอยตัวสบายใจได้”
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?