ต้นเดือนใหม่ มีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายมาพร้อมกัน ข่าวดีคือสามารถจ่ายดอกเบี้ยที่แสนแพงสำเร็จ ลบคำสบประมาทหยาบคายของใครบางคนไปได้ครั้งหนึ่ง ส่วนข่าวร้ายมาเบลพึ่งได้รับแจ้งเมื่อวานตอนเย็น คาชามาหาเธอที่ห้องเช่า บอกว่าตอนนี้บิดาบังเกิดเกล้าหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้านแล้ว หนี้ในส่วนของเขา หากตามจับพ่อกลับมาไม่ได้ แน่นอนว่าคนต้องชดใช้แทนคือเธอ
ที่มหาวิทยาลัยในวันใหม่มาเบลจึงมีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก พอนึกว่าดอกเบี้ยจะทบขึ้นมาอีกเท่าหนึ่ง ร่างกายที่ไม่ค่อยได้พักผ่อนส่งสัญญาณรบกวนจิตใจไม่หยุด ขณะทำการทดสอบวัดระดับความรู้ยังเสียสมาธิจนจับโฟกัสลำบาก ดีว่าเธออ่านหนังสือมามากพอ ไม่อย่างนั้นคงทำไม่ได้แน่
ใต้อาคารเก่าห้าชั้นของสาขาบัญชี ชายหนุ่มตัวสูงเดินมาพร้อมกับแก้วนมปั่นเย็นชื่นใจ และอีกแก้วเป็นกาแฟมอคค่าสีน้ำตาลนวล พอนั่งลงบนม้านั่งเดียวกับหญิงสาวก็เลื่อนนมปั่นกลิ่นมะลิไปให้เธอ พร้อมถามขึ้นอย่างเป็นห่วง
“ไม่ค่อยได้พักผ่อนเลยเหรอช่วงนี้ เอานี่ นมปั่นชามะลิของโปรดเบล เดี๋ยวไปกินข้าวกันต่อ เราเลี้ยงเอง”
มาเบลเงยหน้ามองเพื่อนชายร่วมชั้นปี ก่อนจะส่ายศีรษะหงอยๆ “ยังต้องไปทำงาน ถ้าไม่กลับตอนนี้เดี๋ยวสาย”
“ทำงานอย่างกับติดหนี้ร้อยล้าน พักบ้างก็ได้ แค่แปบเดียวเอง มัวแต่ยุ่งหัวหมุน มันจะหาแฟนไม่ได้เอานะ”
ลีโอกล่าวทีเล่นทีจริง ทว่านัยน์ตาอ่อนโยนลึกซึ้งราวกับเกลียวคลื่นที่พร้อมจะม้วนตัวเธอลงไป มาเบลไม่สังเกตจึงจับความผิดปกติของชายหนุ่มไม่ได้ เธอดื่มนมปั่นรสชาติหวานกลมกล่อมกำลังดีลงไปจากนั้นเหลือบมองนาฬิกา
“ถ้าบอกว่าติดหนี้ร้อยล้านจริงลีจะเชื่อเบลไหม”
“ต้องไม่เชื่ออยู่แล้ว เบลอดออมรู้จักวางแผนการใช้เงิน ไม่ใช่คนสุรุ่ยสุร่ายสักหน่อย จะไปทำอะไรให้ติดหนี้ตั้งร้อยล้านกัน” เขาพึ่งรู้จักมาเบลตอนที่พวกเราเจอกันในคลาสเรียน แม้ไม่ถือว่านานนัก แต่ระยะเวลาหนึ่งเทอมที่ได้คลุกคลีกับหญิงสาวและใช้เวลาร่วมกันทำงานส่งอาจารย์ นิสัยของเธอเป็นแบบไหนเขาเองก็พอจะทราบ
เทียบกับคนรุ่นราวคราวเดียวกัน มาเบลเป็นผู้หญิงที่ขยันขันแข็งหาเงินเก่งไม่เป็นสองรองใคร ไม่อายทำมาหากิน งานไหนได้เงินเธอทำหมด ยังประมาณตนไม่ติดหรูนิยมของแบรนด์ ทั้งที่หน้าตาดีจนสามารถใช้ความสวยแลกเงินและชีวิตสุขสบายมาได้ง่ายๆ แต่เธอกลับไม่ยอมเป็นเด็กเลี้ยงของเสี่ยสักคน นั่นยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้ผู้ชายอยากปกป้องดูแล
“ต้องไปทำงานแล้ว ขอบคุณที่เลี้ยงน้ำนะ ไว้วันหลังเบลจะเลี้ยงข้าวตอบแทน บ๊ายบาย”
มาเบลเก็บกระเป๋ารีบจากไปอย่างร้อนรน ทิ้งให้ชายหนุ่มที่เบื้องหลังถอนหายใจทอดยาว ลีโอคิดว่าเขาต้องหาทางช่วยมาเบลสักหน่อย ขืนปล่อยให้เธอทำงานเป็นบ้าเป็นหลัง แล้วเมื่อไหร่พวกเราจะมีโอกาสได้รู้จักกันมากยิ่งขึ้นเล่า
รถประจำทางจอดที่หน้าป้ายซอยทางเข้าที่พัก หลังจากกลับห้องไปเปลี่ยนชุดมาเบลก็รีบไปเข้างานต่อที่ร้านเจ๊หวังทันที ร้านอาหารไทยจีนร้านนี้นายจ้างและลูกจ้างมีไม่มาก จึงค่อนข้างสนิทสนมกัน พอเห็นหน้ามาเบล เจ๊หวังก็ถามไถ่ว่าวันนี้เธอทำข้อสอบได้หรือเปล่า ให้ความรู้สึกเหมือนคนที่บ้านถามไถ่ลูกหลานตอนไปเรียนอย่างไรอย่างนั้น
มาเบลนิ่งไป ครั้งสุดท้ายที่มีผู้ใหญ่ถามเธอแบบนี้ก็คือตอนอายุสิบสองปีก่อนที่มารดาจะเสีย บิดาไม่เคยอยากรู้ว่าการเรียนของเธอเป็นยังไง คงเพราะเจ๊หวังอายุรุ่นราวคราวเดียวกับแม่ของเธอ มันจึงทำให้อ่อนไหวมากเป็นพิเศษ
“อย่างเบลทำได้อยู่แล้วเจ๊ ง่ายนิดเดียวเอง” การคิดคำนวณตัวเลขเป็นสิ่งที่เธอชอบมาแต่ไหนแต่ไร
ถึงไม่ได้เรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยในระบบปกติเหมือนคนอื่น ก็ไม่คิดจะทิ้งความฝันอาชีพนักบัญชี พอมีโอกาสเรียนนอกระบบ จึงได้เลือกเรียนสาขาที่ตัวเองชอบและถนัด คณะเธอกับคณะบริหารมีวิชาพื้นฐานที่ต้องเรียนด้วยกันหลายตัว นั่นจึงเป็นเหตุให้ได้รู้จักกับลีโอ หนุ่มปีหนึ่งคณะบริหารที่พื้นฐานบ้านรวยฐานะดี แต่ดันเป็นคนขี้เกียจซะได้
“เดี๋ยวถ้าเบลจบแล้วยังไม่มีแผนจะไปทำงานที่ไหน ก็มาทำบัญชีร้านให้เจ๊ได้นะ เจ๊ขึ้นเงินเดือนให้เอง”
“จริงเหรอเจ๊ พูดแล้วห้ามคืนคำนะคะ” ทำงานกับเจ๊หวังแค่ตำแหน่งเด็กเสิร์ฟเงินเดือนก็สูงกว่าคนเรียนจบใหม่ตั้งเท่าหนึ่ง ถ้าทำบัญชีให้คงมีรายรับเพิ่มขึ้นมาอีกแน่ เสียก็แต่ติดแหงกอยู่เพราะหนี้ ถ้าไม่มีมันเธอคงสงบจิตสงบใจได้มากกว่า
ตอนมาเข้างานต่อที่คลับบาคารอส เห็นได้ชัดว่าบรรยากาศคึกคักเป็นพิเศษ พี่สาวคนสวยทั้งหลายกระวนกระวายอยู่ไม่สุข ประเดี๋ยวก็เติมเครื่องสำอาง ประเดี๋ยวก็คอยจัดผมให้เป็นทรง หรือวันนี้จะมีแขกกระเป๋าหนักมาใช้บริการ มาเบลทำงานอยู่ที่คลับได้หนึ่งเดือน เริ่มจดจำแขกที่มีเงินถุงเงินถังได้บ้าง แต่ก็ไม่ทราบว่าเป็นใครที่ทำให้คนในคลับแตกตื่นได้เช่นนี้ คิดไปคิดมาเห็นจะมีอยู่แค่ครั้งเดียวที่เกิดเหตุการณ์ลักษณะคล้ายๆกัน
นั่นคือตอนเจ้านายใหญ่คนนั้นเข้ามาตรวจความเรียบร้อย…
วันนี้เป็นวันศุกร์สุดสัปดาห์นี่ มาเบลกลอกตา ปฏิกิริยาของเธอตรงข้ามกับความกระตือรือร้นรอบด้านโดยสิ้นเชิง
ประจบประแจงเจ้านายเก่ง ชีวิตถึงจะพุ่งพรวดติดจรวดใช้ได้แค่กับคนที่ไม่ต้องเป็นหนี้ร้อยล้านน่ะสิ
คนอย่าง บลาดิมียร์ คาชา ต่อให้ไม่ถูกโยงใยจนตกเป็นทาสของเขา เธอก็ไม่เคยมีความคิดอยากข้องแวะใช้เต้าไต่หรือเกี่ยวพันใดๆ ทำไมน่ะเหรอ? นอกจากนิสัยที่สารเลวสิ้นดี เขายังเป็นถึงมาเฟียทำงานผิดกฎหมายสารพัด สักวันใดวันหนึ่ง เกิดขัดใจขึ้นมาคงจะได้โดนยิงทิ้งข้างถนนไม่ต่างกับสุนัข รักชีวิตอย่าพยายามเข้าไปพัวพันกับคนอันตราย
เฮอะ! จะไม่พัวพันคงยาก ยังไม่ทันไรผู้จัดการคลับก็เดินตรงมาหาเธอ “มาเบล คุณคาชาให้เธอขึ้นไปหา”
“ฉันเหรอคะ?”
น้ำตาลมาได้ยินเข้าพอดีพลันตกตะลึงเช่นกัน “อ่า ผู้จัดการทำไมไม่แนะนำสาวๆ คนอื่นให้นายใหญ่ล่ะคะ น้องเบลยังไม่เป็นงานเท่าที่ควร เกิดไปทำตัวเงอะงะต่อหน้าเจ้านาย ถึงตอนนั้นคนที่จะโดนตำหนิคือผู้จัดการนะ”
“เธอคิดว่าฉันไม่ได้แนะนำไปหรือไง แขกท่านอื่นของเจ้านายฉันส่งสาวๆ ไปคอยดูแลแล้ว แต่เจ้านายอยากให้มาเบลไปคอยเสิร์ฟเฉพาะในห้องวีไอพีด้วย”
“หมายความว่าไม่ได้ไปนั่งคุยกับแขก แค่เสิร์ฟใช่ไหมคะ”
ผู้จัดการพยักหน้าอย่างไม่ค่อยจะแน่ใจนัก เขาก็ไม่ทราบความคิดของเจ้านายใหญ่ เพราะสาวๆ ที่จัดส่งไปพอดีกับจำนวนแขก จะยังต้องการเด็กเสิร์ฟทำไมอีก ในเมื่อหญิงสาวเหล่านั้นสามารถทำหน้าที่ส่วนนี้แทนได้ ช่างเถอะ คาดเดาไปก็ไม่เกิดประโยชน์ คำสั่งของเจ้านายผู้ไม่เหมือนใครคือสิ่งสำคัญที่สุด
มาเบลจึงโดนจองตัวให้คอยบริการเฉพาะในห้องรับแขกระดับวีไอพี เธอประหม่าอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มากเท่าทำงานวันแรกเพราะเรียนรู้วิธีเอาตัวรอดจากเสือสิงห์อันตรายมาได้ประมาณหนึ่ง พอเข้าไปในห้องวีไอพีหรูหราที่ซึ่งลูกค้าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่าคืนละครึ่งล้าน ได้เห็นว่าแขกด้านในทั้งห้าคนใครเป็นใครบ้าง มาเบลรีบลดความเป็นจุดสนใจ เดินเข้าไปในมุมสำหรับจัดแจงเครื่องดื่มเงียบๆ ทันที
น่าเสียดายคืนนี้ต้องมาติดอยู่ที่นี่ รายได้ในส่วนของทิปเลยอาจจะไม่เท่าที่เสิร์ฟข้างนอก แขกในห้องเป็นคนในแวดวงเดียวกับคาชา คบหาสมาคมกันได้ย่อมหมายความว่าไม่ใช่คนรวยทั่วไป แต่เป็นมาเฟียธุรกิจสีเทาเหมือนกัน เธอไม่หวังส้มหล่นใดๆ แค่แอบคิดว่าหากพวกเขาเลิกงานเลี้ยงก่อนตีหนึ่งคงจะดีไม่ใช่น้อย
เธอจะได้ลงไปที่คาสิโน คอยเสิร์ฟเครื่องดื่มและเก็บทิปจากเศรษฐีขี้เมา คนพวกนั้นมักจะใจป้ำแจกทิปอย่างกับหว่านเงินเล่น ขอแค่รู้จังหวะและขยันหน่อย เธอสามารถทำรายได้พอๆ กับเด็กเอ็นเบอร์หนึ่งของคลับเชียวล่ะ
“น้องสาวหน้าตาน่าเอ็นดูใช้ได้แฮะ มานี่หน่อย ไปยืนอยู่ตรงนั้นทำไม มาให้ดูใกล้ๆ ซิ”
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?