ตอนที่ 2 อยากรู้ความจริง

หญิงสาวร่างอรชรกำลังเลือกชุดสุดเซ็กซี่สำหรับไปปาร์ตีคืนนี้ สุดท้ายก็ได้เดรสเกาะอกสั้นสีดำรัดรูปเผยสัดส่วนโค้งเว้าน่ามอง อีกทั้งหน้าอกหน้าใจที่แหวกลึกจนเห็นร่องสวย

นลินเดินไปที่ชั้นวางกระเป๋าแบรนด์เนมสุดรักสุดหวงของเธอเพื่อเลือกกระเป๋าที่เธอจะสะพายวันนี้ ทันใดนั้นเองเธอก็ได้ยินเสียงแตะคีย์การ์ดที่หน้าประตู ก่อนที่ประตูบานใหญ่จะเปิดออก 

แกร็ก !

ทั้งคู่หันมาประจันหน้ากันพอดี สิ่งแรกที่สะดุดตาเธียร์คือหน้าอกหน้าใจที่เปิดโชว์จนเกือบจะเห็นจุก 

“จะแต่งตัวไปไหน จะไปหาผัวใหม่หรือไง”

ปากแบบนี้น่าโดนตบจริง ๆ นลินคิดในใจ แต่ก็รู้ตัวว่าตนเองมีความผิด จึงเถียงอะไรเขาไม่ออก 

เธอเคยตกลงกับเธียร์ไว้ว่าถ้าเลือกที่จะอยู่กับเขา ก็ต้องตัดเรื่องที่จะไปเที่ยวกลางคืนโดยไม่มีเขาออก แต่ตอนนี้กลับถูกจับได้คาหนังคาเขาว่ากำลังจะแอบหนีเที่ยว 

“ลินไม่ได้ไปหาผัวใหม่ค่ะ เพราะลินไม่เคยมีผัว”

นลินสะบัดบ๊อบเดินหนีเขาเข้าห้องหน้าตาเฉย 

“แล้วที่ยืนหัวโด่อยู่นี่คืออะไร ! “

ร่างสูงตะโกนถามตามหลังพร้อมกับปิดประตู

นลินนั่งแต่งหน้าต่อที่โต๊ะเครื่องแป้งโดยไม่ได้สนใจชายหนุ่มที่อยู่ด้านนอก เพราะยังโกรธที่เขาไม่สนใจไยดีเธอเมื่อตอนเย็น 

“จะไปไหน”

ร่างสูงเดินตามเข้ามา ยืนกอดอกพิงประตูถาม

“ไปหาเพื่อนค่ะ”

เธอตอบโดยไม่สบตาอีกฝ่าย หยิบลิปสติกสีแดงสดขึ้นมาทาริมฝีปากรูปกระจับสวยได้ทรง

“ไม่ต้องไป”

เขาเอ่ยปากดักคอเสียงแข็ง 

“ทำไมล่ะคะ แค่ไปเที่ยวกับเพื่อนเอง ทีคุณยังไปได้แต่พอลินจะไปบ้างกลับห้ามตลอด”

หญิงสาวเถียงกลับด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

“ฉันคิดว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะเรื่องนี้ ถ้ายังดื้อรั้นเอาแต่ใจก็แล้วแต่เธอเลย”

ดวงตาดำสนิทสาดประกายเย็นยะเยือกวูบหนึ่ง แล้วจึงหันหลังเดินออกไป วินาทีนั้นลินลดาก็นึกขึ้นได้อย่างฉับพลันว่าไม่ควรทำตัวเหมือนเด็กเช่นนี้ 

หญิงสาวร่างเล็กรีบวิ่งเข้าไปสวมกอดเขาจากทางด้านหลัง

“งั้นคืนนี้คุณก็อยู่กับลินสิคะ...นะคะ...อยู่กับลินนะ”  

เสียงหวานออดอ้อนให้เขาเห็นใจและอยู่กับเธอ ในหนึ่งสัปดาห์เธียร์จะแวะมาอยู่กับเธอที่นี่...คอนโดที่เขาซื้อให้อย่างน้อยก็สามถึงสี่วัน แต่หลัง ๆ มานี้ เธออยากอยู่กับเขาแทบทุกวัน 

“อืม”

ชายหนุ่มตอบสั้น ๆ แต่ทำให้อีกฝ่ายมีความสุขแม้จะได้อยู่กับเขาแค่เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ 

“ลินหิวจังเลยค่ะ วันนี้ยังไม่ได้ทานอะไรเลย...หิวไส้จะขาดแล้ว”

เรือนร่างบอบบางเคลื่อนขยับตัวไปอยู่ด้านหน้าของเธียร์แล้วเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาออดอ้อน โอบแขนเล็ก ๆ ของตนรอบเอวหนาของชายหนุ่ม สีหน้าแล้วแววตาเปิดเผยความรู้สึกที่อยากได้รับความสนใจ

เธียร์ก้มมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่ทำตาปริบ ๆ ใส่เขา ต่อให้เป็นพระอิฐพระปูนเจอแบบนี้ก็คงต้องพ่ายแพ้

เธียร์ตามใจเธอทุกอย่าง เขาสั่งลูกน้องคนสนิทอย่าง สิงหา ให้นำอาหารขึ้นมาส่งที่ห้องของเธอ 

“ลินนึกว่าคุณจะพาไปทานข้างนอกซะอีก แต่ทานที่ห้องก็ดีเหมือนกันค่ะ ขอแค่ได้อยู่กับคุณก็พอ”

ใบหน้าเรียวเล็กยกยิ้มกว้างจนดวงตาหยักโค้งเป็นสระอิ 

“ช่วงนี้ฉันยังไม่อยากเป็นข่าวสักเท่าไหร่”

ชายหนุ่มร่างสูงเอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ ใบหน้าของเขายากจะคาดเดาอารมณ์

รอยยิ้มของหญิงสาวเจื่อนลงทันที

“กลัวคนอื่นรู้เรื่องของเราขนาดนั้นเลยเหรอคะ ? “

คนตัวเล็กเลิกคิ้วขณะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงประชดประชัน  

“แล้วเธอชอบให้เป็นข่าวนักหรือไง”

เขาตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ

“ก็แค่ไปทานข้าวเองนี่คะ ไม่ได้เสียหายอะไรสักหน่อย ทีกับคนอื่นคุณยังไปได้แต่พอกับลินคุณมีข้ออ้างตลอดเลยนะคะ”

คนตัวเล็กเริ่มขึ้นเสียงใส่เขา 

“ก็นั่นลูกค้าของผม”

เขาตอบอย่างใจเย็น ไม่ได้ใส่อารมณ์แต่อย่างใด 

“แล้วลินละคะ ลินเป็นอะไรสำหรับคุณ”

นลินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง แววตาเศร้าหมองขึ้นมาทันที เมื่อรู้สึกว่าตนเองเป็นฝ่ายที่มีใจให้มากกว่า และในความสัมพันธ์นี้ หากจะมีใครสักคนต้องเสียใจ คนนั้นก็คงเป็นเธอ

เพราะเธอคาดหวังมากจนเกินไป

“....”

ชายหนุ่มนิ่งเงียบไม่พูดอะไร แต่สายตาของเขาก็ดูคิดหนักอยู่เช่นกัน 

“ขอโทษที่ลินคาดหวังว่าคุณจะให้ความสำคัญกับลินมากเกินไป จนลืมไปว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน ลินก็แค่คู่นอนที่คุณมีไว้แก้เหงาก็เท่านั้น หึ ... ดูไร้ค่าดีเหมือนกันนะคะ ถ้าไม่อยากให้ลินคาดหวัง ได้โปรดอย่ามาให้ความหวังลินค่ะ อย่าทำเหมือนว่าคุณมีใจให้ลิน ทั้ง ๆ ที่คุณไม่เคยมีเลยสักครั้ง”

หญิงสาวพูดจบก็หยัดกายลุกขึ้นจากโซฟาหรูในห้องรับแขก ชายหนุ่มเอื้อมไปจะจับมือเธอ แต่เธอเดินเข้าห้องนอนเสียก่อน 

ปล่อยให้เธียร์นั่งจมกับความคิดของตัวเองอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมสีขาวที่ได้รับการตกแต่งเป็นอย่างดี ตอนนี้เขาสับสนไม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว หัวใจของเขานั้นต้องการอะไรกันแน่ หรือเพียงแค่สบายใจเมื่ออยู่กับเธอ

เขาใช้เวลาอยู่กับตัวเองนานแค่ไหนไม่รู้ พอเดินเข้าไปหาเธอในห้อง หญิงสาวก็หลับไปเสียแล้ว 

ชายหนุ่มเดินทอดน่องเข้าไปยืนใกล้ ๆ คนตัวเล็กที่นอนขดอยู่บนที่นอน พลางก้มลงมองใบหน้าของเธอที่มีคราบเลอะเปรอะเปื้อนจากเครื่องสำอางและน้ำตา

“ฉันพูดได้แค่ว่าตอนนี้ฉันมีแค่เธอ และไม่คิดจะมีใครคนอื่นเลยจริง ๆ”

น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยเบา ๆ กับหญิงสาวที่กำลังหลับใหล เอื้อมไปดึงผ้ามาห่มให้พร้อมลูบหัวเธอเบา ๆ ก่อนจะกลับออกไปในกลางดึก

 

“ฉันไม่อยู่ก็ฝากดูแลเธอด้วยนะ และที่สำคัญอย่าให้เธอรู้เด็ดขาดว่าครั้งนี้ฉันไปกับใคร”

หากลินนลินได้ยินประโยคนี้ คงโกรธจนควันออกหูเป็นแน่ แต่ที่เขาทำแบบนี้ไม่ใช่เพราะจะนอกใจเธอไปหาคนอื่น แต่การไปทำงานครั้งนี้ผู้เป็นพ่อบังคับให้เขาพาลูกสาวของเพื่อนไปดูงานด้วย ทั้งสองคนรู้จักกันบ้างแล้ว

“ครับนาย”

สิงหาตอบรับคำสั่งของเธียร์ก่อนจะพาเขาไปรับ น้ำฟ้า ตามคำสั่งของบิดาและพาทั้งสองไปส่งยังสนามบินยามเช้าตรู่ 

“ตื่นเช้าง่วงแย่เลยสิ”

ชายหนุ่มร่างสูงเอ่ยถามหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ 

“นิดหน่อยค่ะ พี่เธียร์ดูเพลีย ๆ นะคะ เมื่อคืนนอนหลับไหมคะ”

น้ำฟ้า หรือ หยาดพิรุณ เกียรติสิริกุล หันไปจ้องมองใบหน้าคมชัดเข้ารูป ไม่ว่าจะมองมุมไหนเขาก็ดูดีอยู่เสมอ เมื่อรวมกับสไตล์การแต่งตัวที่ภูมิฐาน เรียกได้ว่าตกสาวได้สบาย

“พี่นอนไม่ค่อยหลับน่ะ ไม่ได้เจอคุณลุงนพนานแล้ว ท่านสบายดีใช่ไหม”

ชายหนุ่มตอบส่ง ๆ พลางเอ่ยถามสารทุกข์พ่อของหญิงสาวหรือเพื่อนของพ่อเขานั่นเอง 

“สบายดีค่ะ คุณพ่ออยากเจอพี่เธียร์มากเลยค่ะ เห็นพูดถึงอยู่บ่อย ๆ”

หญิงสาวตอบกลับเขาไปพร้อมใบหน้ายิ้มแย้มสดใส หวังจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกประทับใจและไม่อึดอัดเวลาอยู่กับเธอ 

“ไว้มีโอกาสจะชวนท่านมาทานข้าวด้วยกัน”

ชายหนุ่มตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบแววตาของเขาดูเป็นกังวลและคิดหนัก แต่หญิงสาวก็ไม่ได้ถามอะไรเขาต่อ 

ลินลดาตื่นช่วงสาย หญิงสาวหยัดกายลุกขึ้นจากเตียงนอนเดินไปเปิดผ้าม่านสีทึบออก แสงแดดยามสายสาดส่องเข้ามาผ่านกระจกบานใหญ่ คนตัวเล็กงัวเงียเมาขี้ตาเดินออกมาจากห้องนอนมองซ้ายขวาไม่เจอใคร 

“ไปก็ไม่ลาสักคำ หึ”

ใบหน้าบึ้งตึงแสดงความน้อยใจ ริมฝีปากคว่ำลงโดยอัตโนมัติ  

กริ๊ง ! กริ๊ง !

เสียงกดกริ่งดังขึ้นที่หน้าประตู หญิงสาวแปลกใจและมีสีหน้างุนงง ใครกันที่มาหาแต่เช้าขนาดนี้ คนตัวเล็กเดินทอดน่องไปหยิบเสื้อคลุมมาสวมทับ เพราะชุดนอนของเธอดูจะโป๊เกินไปสำหรับการต้อนรับแขก ปรากฏว่าคนที่ยืนรออยู่ที่หน้าประตูคือ สิงหา ลูกน้องของเธียร์นั่นเอง 

“อาหารเช้าที่คุณเธียร์สั่งให้ผมนำมาให้ครับ ถ้ามีอะไรเรียกใช้ผมได้ตลอดเลยนะครับ” 

“คุณเธียร์ไปตั้งแต่ตอนไหนเหรอ ?”

หญิงสาวเอ่ยถามออกไปด้วยสีหน้าที่นิ่งเรียบ

“ผมไปส่งคุณเธียร์ที่สนามบินตอนตี 5 ครับ” 

“อืม.. ขอบใจจ้ะ”

นลินถอยกลับเดินเข้าห้องพร้อมปิดประตู

เธอกลับเข้ามาในห้องนั่งเล่นเปิดโทรศัพท์ดู ปรากฏว่าเธอโดนเพื่อนสาปเต็มช่องแชตเพราะเทเพื่อนไปเมื่อคืน 

‘ถ้ามึงอกหักเมื่อไหร่กูจะซ้ำเติมมึงจนจมดินเลย คอยดู’

‘ให้เวลาอีกสามสิบนาทีไม่เห็นหน้ากูตัดเพื่อน’

‘จะให้กูไปขออนุญาตผัวให้มึงมั้ย ? ’ มิ้ง เพื่อนสาวของเธอพิมพ์ด่ารัวเต็มช่องแชต หญิงสาวนั่งยิ้มปนหัวเราะเมื่อได้อ่านข้อความที่เพื่อนส่งมา 

ติ๊ง !

‘@caa_cha ได้ส่งข้อความถึงคุณ’

เสียงแชตของเพื่อนสาวคนหนึ่งเด้งขึ้นมา 

ไปเที่ยวไหนจ๊ะนางแบบสาว ว่าจะทักหาตั้งแต่เมื่อเช้าแต่พึ่งลงเครื่อง

ชาดาเพื่อนนางแบบส่งข้อความมาหา นลินอ่านแล้วก็สงสัยว่าเพื่อนส่งผิดแชตหรือเปล่า 

‘เที่ยวไหนอะไร กูนอนอยู่คอนโดเนี่ย’ หญิงสาวตอบกลับเพื่อนไป 

‘อ้าวเหรอ สงสัยกูจำผิดคน แต่ผู้ชายหน้าเหมือนพี่เธียร์มึงมากเลยนะ’

เพื่อนสนิทและคนใกล้ตัวของเธอต่างรู้เรื่องราวของนลินเพราะเธอไม่ค่อยจะปิดบังเรื่องผู้ชายกับเพื่อนเท่าไหร่ ป้องกันการแอบกินซ้ำกัน

‘เห็นที่ไหนเหรอ ? ’ แม้ในใจไม่อยากจะอ่านในสิ่งที่เธอคิดแต่ก็หลีกหนีความจริงไม่ได้

‘เมื่อเช้าที่สนามบิน’ 

ประโยคที่ส่งมาทำเอาหัวใจของหญิงสาวหล่นวูบ เกิดคำถามขึ้นมากมายในใจ เขาบอกกับเธอว่าต้องบินไปทำงานที่ต่างจังหวัด แต่เหตุใดถึงมีผู้หญิงไปกับเขาเล่า

เธอต้องรู้คำตอบที่แท้จริงจากปากของเขา !

ลินลดาเตรียมจะกดโทรศัพท์โทรหาฝ่ายชาย แต่ทว่าถามเขาแบบนี้ก็คงไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนเท่ากับไปดูด้วยตาตัวเอง

คิดดังนั้นเธอก็ลุกไปเก็บกระเป๋าพร้อมเดินทางไปยังสนามบินโดยทันที  

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ