ตอนที่ 1 คู่นอน

“จัดการผู้หญิงของแกให้เรียบร้อย โดยเฉพาะยัยเด็กนั่น อย่าคิดว่าจะเก็บมันไว้เพราะฉันนี่แหละที่จะจัดการมันด้วยตัวเอง เคลียร์ตัวเองเรียบร้อยแล้วก็มาแต่งงานกับผู้หญิงที่ฉันเลือกให้ซะ”

ธนา สิงหบดินทร์ ผู้เป็นพ่อเอ่ยกับลูกชาย

“ขอเวลาผมหน่อยครับพ่อ แล้วผมจะจบทุกอย่างด้วยตัวเอง”

ธีรติ สิงหบดินทร์ หรือ เธียร์ ลูกชายคนเล็กของเขาก้มหน้าตกปากรับคำ

“ดี ! ถ้าควบคุมไม่ได้ก็ไม่ควรเก็บมันไว้....ฉันหวังว่าแกคงคิดได้นะ ว่าคนไหนเหมาะจะเอาทำเมีย คนไหนเหมาะจะเป็นแค่คู่นอน”

ผู้เป็นพ่อทิ้งประโยคสุดท้ายให้ชายหนุ่มคิดก่อนจะเดินจากไป

หนึ่งเดือนก่อนหน้า

“วันนี้จะกลับมานอนกับลินไหมคะ”

นลิน หรือ ลินลดา เนตรนรางกุล นางแบบสาวชื่อดังในวงการแฟชั่นเอ่ยถามชายหนุ่มคนสนิทอย่างเธียร์ ทั้งคู่รู้จักกันมาเป็นเวลานานหลายเดือน และมีความสัมพันธ์อย่างที่เรียกว่า ‘คู่นอน’แบบลับ ๆ เพราะต่างก็ตกลงกันว่าจะเป็นเพียงคู่นอนของกันและกัน ทั้งเธอและเขามีค่าต่อกันก็แค่เรื่องบนเตียงเท่านั้น

“ไม่รู้เหมือนกัน ตอนเย็นต้องไปบ้านคุณแม่ ส่วนพรุ่งนี้เช้าฉันต้องไปทำงานต่างจังหวัด คงไม่อยู่สองสามวัน”

ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ ขณะติดกระดุมเสื้อเชิ้ต เรือนร่างอรชรหยัดกายลุกจากที่นอนเผยให้เห็นชุดนอนผ้าซีทรูที่อวดเรือนร่างสุดเซ็กซี่ เธอเดินเข้าไปแนบชิดเรือนกายสูงของอีกฝ่ายพร้อมลูบไล้แผงอกแน่นอย่างเบามือช้า ๆ

“แบบนี้ลินคงคิดถึงคุณแย่เลยสิคะ”

หญิงสาวจ้องมองด้วยสายตาเป็นประกายวาววับสะกดให้เขาตกอยู่ในภวังค์ความงามของเธอ

วิธีนี้ใช้ได้ผลเสมอ !

เธียร์ช้อนตัวหญิงสาวขึ้นมาอยู่ในอ้อมกอด เธอจึงคล้องแขนรอบคอเขาโดยอัตโนมัติ ชายหนุ่มไม่รอช้าอุ้มเธอไปวางลงบนเตียงขนาดคิงไซซ์ จากที่กำลังติดกระดุมกลายเป็นว่าตอนนี้เขากลับต้องปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออก แล้วโยนมันทิ้งข้างเตียง

นลินเองก็รู้งาน เขี่ยสายเดี่ยวของชุดนอนให้หลุดจากไหล่ เผยเนินอกเนียนขาวน่าลูบไล้ เธียร์นวดคลึงฟอนเฟ้นอกคู่งามอย่างสนุกมือพร้อมกับก้มลงไปดูดดื่มยอดปทุมถันด้วยความสนุกปาก

มือเรียวเล็กของนลินไม่อยู่นิ่ง ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของชายหนุ่มก่อนจะเลื่อนกลับมาสัมผัสเม็ดสีน้ำตาลเข้มตรงอกแกร่งเพื่อปลุกเร้าอารมณ์อีกฝ่าย

ขณะที่สัมผัสจากมือหนาซึ่งลูบไล้ไปตามเรือนกายอรชรทำให้เจ้าตัวถึงกับขนลุกซู่ เธียร์เลื่อนริมฝีปากมาประกบริมฝีปากเล็กพร้อมกับสอดลิ้นเข้าไปลิ้มชิมรสหวาน มืออีกข้างก็ไม่อยู่นิ่งลูบไล้ไปตามต้นขาด้านใน ส่งผลให้หญิงสาวซ่านกระสันจนตัวเกร็ง

เขาสอดมือลึกเข้าไปใต้กระโปรงเพื่อสัมผัสกับนลินน้อยที่ตอนนี้เปียกชุ่มเต็มแพนตี้ แล้วใช้นิ้วเขี่ยเบา ๆ บริเวณเม็ดสวาทก่อนจะสอดนิ้วเข้าช่องทางรัก

คนตัวเล็กจิกปลายเท้าลงบนเตียงทันทีด้วยความเสียวซ่านที่แผ่ไปทั่วเรือนร่าง แล้วเริ่มส่งเสียงครางออกมาเบา ๆ

“น้ำเยอะจังเลยนะ”

เสียงแหบพร่ากระซิบหยอกเย้า ทำให้อีกฝ่ายขัดเขินจนหน้าแดงระเรื่อ ชายหนุ่มเริ่มรัวนิ้วเร่งจังหวะจนหญิงสาวมีปฏิกิริยาสนองด้วยการขยับสะโพกไปมาตอบรับนิ้วของเขา ชายหนุ่มนึกสนุกเพิ่มจากหนึ่งนิ้วเป็นสองเพื่อเตรียมความพร้อมให้น้องชายของเขาสอดใส่ได้ง่ายขึ้น

แม้จะเคยร่วมรักกันมาหลายต่อหลายครั้ง แต่เธอก็ยังแน่นเหมือนเดิม หรือเป็นเพราะขนาดของเขาเกินมาตรฐานชายไทยทั่วไป

“ไม่ไหวแล้วค่ะ”

นลินทำตาปรอยออดอ้อน เพราะตอนนี้ข้างล่างแฉะจนเลอะผ้าปูที่นอนไปหมดแล้ว 

หากเรือนร่างสูงของชายหนุ่มกลับไม่มีท่าทีว่าหยุด เธอจึงต้องเปลี่ยนมาเป็นคนคุมเกมเสียเอง

นลินผลักให้เขานอนราบไปกับเตียง แล้วเธอก็พลิกตัวขึ้นมาคร่อมร่างเขาทันที หญิงสาวขยับสะโพกถูไถไปมาทักทายเจ้าโลกของเขา ก่อนที่มือเรียวเล็กจะลูบไล้แก่นกายของชายหนุ่มอย่างซุกซน เส้นเลือดปูดนูนโดยรอบให้สัมผัสที่น่าค้นหา เธอไม่รอช้าก้มลงไปแล้วครอบครองดูดกลืนความแข็งขึงตรงหน้า พลางช้อนสายตาขึ้นมองใบหน้าหล่อคมที่กำลังเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสซ่านกระสันจนหลับตาพริ้ม

นลินใช้ลิ้นตวัดตรงปลายหยักช้า ๆ ราวกับว่ากำลังเล็มเลียไอศกรีมหวานละมุนที่เริ่มละลายยามฤดูร้อน คนด้านล่างขยับมือมาลูบผมหญิงสาวเบา ๆ ก่อนจะออกแรงกดศีรษะเธอ จนแท่งไอศกรีมแทงลึกเข้าไปในคอ

“อ๊อก ... อะ”

นลินไม่ทันตั้งตัวจึงสำลักจนน้ำตาคลอ หญิงสาวฟาดมือลงบนแขนของเขาอย่างแรง พร้อมมองค้อนใส่เขาไปหนึ่งที คนตัวสูงยกยิ้มมุมปากและหัวเราะในลำคอเบา ๆ

เขารั้งตัวเธอขึ้นมาแล้วพลิกตัวให้ลงไปนอนหงาย จากนั้นจึงจ่อน้องชายไว้ที่ปากถ้ำก่อนจะแทรกตัวตนเข้าไปในช่องทางคับแคบ

“อื้อออ !”

หญิงสาวเผลอส่งเสียงออกมาพลางหลับตาแน่น เขาสังเกตเห็นสีหน้าของเธอ จึงผ่อนแรงและเปลี่ยนเป็นดันเข้าไปช้า ๆ

เอวสอบเริ่มขยับเป็นจังหวะเชื่องช้า เข้าสุดออกสุด กระทั่งเธอเริ่มคุ้นชิน จึงเร่งจังหวะเร็วขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายเสียงเนื้อกระทบเนื้อก็ดังลั่นห้องสี่เหลี่ยม

“ละ...ลินเสียว...อื้อ”

เสียงหวานเย้ายวนปลุกอารมณ์เขาได้เป็นอย่างดี เอวสอบจึงยิ่งเร่งจังหวะกระแทกใส่ไม่ยั้ง

อุณหภูมิร่างกายของทั้งคู่สูงขึ้นจนเนื้อตัวเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อแม้จะอยู่ในห้องที่เปิดแอร์เย็นเฉียบ คนตัวเล็กเสียวซ่านไปทั้งร่างจนเผลอจิกเล็บที่หลังของชายหนุ่มจนเกิดเป็นรอยแดง

เอวสอบขยับกระแทกแรงขึ้นเมื่อใกล้จะถึงจุดสุดยอด เขาเลื่อนมือไปตรึงสะโพกเธอไว้ทั้งสองข้างและกระแทกใส่เต็มแรง หญิงสาวได้แต่ส่งเสียงร้องครางและจิกแขนเขาไว้แน่น

“อ่ะส์ ...จะ...จุก อื้มม”

เธอเอ่ยพลางขบริมฝีปากตนเอง

“กะ ใกล้แล้ว”

เสียงแหบพร่าของคนร่างสูงช่างละมุนหูชวนหลงใหลเสียจริง

เขาเปลี่ยนท่าจับเธอนอนคว่ำ นลินแอ่นสะโพกรับอย่างรู้งานเมื่อชายหนุ่มขึ้นคร่อมทางด้านหลัง ลำแขนแข็งแกร่งดันพื้นไว้เพื่อส่งแรงไปสู่ช่วงล่างที่ขยับกระแทกกระทั้นด้วยจังหวะที่แรงขึ้น ๆ

“อ่ะ....โอ๊ะ... อื้ออ...”

หญิงสาวครางเสียงสั่น ขากระตุกสั่นเทาอย่างไม่อาจควบคุมเมื่อเธอเสร็จสมในที่สุด โดยมีเขาตามเธอไปในไม่ช้า

“อื้ออ”

เธอรู้สึกอุ่นวาบภายในกาย

แล้วคนตัวสูงก็ฟุบตัวลงมานอนซบและโอบกอดเธอไว้ ก่อนผ่อนลมหายใจร้อนผ่าวข้างหูของเธอ เขาโอบกอดนลินแบบนี้ทุกครั้งหลังเสร็จกิจ อย่างน้อย ๆ เขาก็ยังมีมุมที่อ่อนโยนกับเธออยู่บ้างสินะ 

“มาสายนะครับคุณธีรติ”

คำทักทายและสายตาแกมเหน็บแนมนั้นมาจากเหล่าผู้บริหารทันทีที่เขาไปถึงบริษัท แต่คนอย่างเธียร์ไม่เคยสนใจ

เขาไม่ใส่ใจใครหน้าไหนอยู่แล้ว 

“โทษทีครับ พอดีรถติดนิดหน่อย”

พูดจบเขาก็เดินไปนั่งลงข้างพี่ชาย

ธาม หรือ ตรีธารา สิงหบดินทร์ เป็นพี่ชายที่พ่อกับแม่ของเธียร์รับมาอุปถัมภ์เลี้ยงดูตั้งแต่เขายังไม่เกิด

“เริ่มเลยแล้วกัน”

ผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้นเพื่อดึงความสนใจกลับคืนมา 

หลังเสร็จสิ้นการประชุม เธียร์กลับไปรับประทานอาหารเย็นกับครอบครัว เพราะนาน ๆ ครั้งเขากับพี่ชายจะกลับบ้านมากันพร้อมหน้า

“ร้านเป็นไงบ้างล่ะธาม บริหารคนเดียวหลายอย่างแบบนี้ไหวแน่นะ ถ้าไม่ไหวก็ให้น้องไปช่วยอีกแรง”

ผู้เป็นพ่อเอ่ยถาม

“อะไรกันป๊า ผมไม่เอาด้วยหรอกนะ”

เธียร์งอแงไม่ต่างจากเด็กสองขวบ หัวคิ้วผูกเข้าหากัน

“สบายมากครับ ร้านกำลังไปได้ดีเลย ส่วนงานที่โรงแรมก็ไม่ได้หนักอะไร ผมทำไหวอยู่ครับ”

ธามตอบคำถามผู้เป็นพ่อ

ครอบครัว ‘สิงหบดินทร์’ ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีโรงแรมในเครืออยู่หลายจังหวัด อีกทั้งยังเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง เมื่อลูกชายทั้งสองคนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ผู้เป็นพ่อจึงให้มาช่วยดูแลกิจการ

“ถ้าไม่ไหวก็บอกป๊านะ เดี๋ยวป๊าจะสั่งให้เจ้านี่ไปช่วยดูแล”

ผู้เป็นพ่อพยักเพยิดไปทางลูกชายคนเล็กที่ไม่ค่อยเอาไหน วัน ๆ หาแต่เรื่องให้ปวดหัว ถ้าไม่ใช่เรื่องเมาแล้วไปมีเรื่อง ก็เป็นเรื่องผู้หญิง วนอยู่อย่างนั้น

“ไม่เอาด้วยหรอกครับ ให้พี่ธามทำคนเดียวไปเถอะ” 

“แต่พรุ่งนี้แกต้องไปทำงานแทนฉันที่ภูเก็ตนะ”

ผู้เป็นพ่อย้ำคำสั่งกับเขาอีกรอบ 

“รู้แล้วค้าบ ย้ำบ่อยอะไรขนาดนั้นผมไม่ได้ความจำสั้นสักหน่อย”

“ขนาดฉันย้ำอย่างนี้แกยังไม่คิดจะสนใจงานการเลย วัน ๆ เอาแต่ติดผู้หญิง ไม่ได้เรื่องจริง ๆ”

ผู้เป็นพ่อบ่นแบบไม่เว้นช่องว่างให้เถียง

“เอาน่า...คุณ ลูกทานข้าวอยู่จะมาบ่นอะไรตอนนี้คะ”

คุณหญิงเนตรนภา ผู้เป็นแม่เอ่ยขึ้นมา ทุกคนต่างก็เกรงกลัวและหยุดเถียงกันทันที โดยเฉพาะคนเป็นพ่อที่รับรู้ถึงรังสีที่แผ่ออกมาจากสายตาของแม่ที่จ้องมอง

ทางด้านนลินนั้น เมื่อเธียร์บอกว่าจะไม่มาหาสองสามวัน เธอคิดถึงเขาจึงวางแผนเรียกร้องความสนใจ ด้วยการแต่งหน้าแต่งตาเพื่อให้ดูซีดโทรมสุดๆ

‘ฉันไม่ปล่อยให้คุณไปคั่วสาวอื่นหรอกค่ะคุณเธียร์’ เธอนึกในใจขณะส่องกระจกดูเงาตนเอง จากนั้นก็...

แชะ ! 

เสียงถ่ายรูปดังมาจากกล้องโทรศัพท์ แล้วนลินก็ส่งรูปเข้าไลน์ของเธียร์พร้อมกับทิ้งข้อความไว้ 

‘ปวดหัวจนลุกไม่ขึ้นเลยค่ะ’

นาทีนี้ต้องรู้จักใช้มารยาหญิงให้เป็น

ชายหนุ่มชำเลืองมองการแจ้งเตือนที่ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์ แต่ไม่ได้กดเข้าไปอ่านเพราะกำลังรับประทานอาหารอยู่กับครอบครัว

นลินรอข้อความตอบกลับของเขาอย่างใจจดใจจ่อ 

ตื่อดึ่ง !

เสียงแจ้งเตือนดังขึ้น หญิงสาวรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูทันที 

“อกหัก คืนนี้เจอกันร้านเดิม กู มึง กี้”

เป็นเสียงไลน์จากเพื่อนสาวของเธอต่างหากล่ะ 

“เฮ้ออ !”

เธอเลิกคิ้วสูงพลางเหยียดริมฝีปากพร้อมถอนหายใจด้วยความผิดหวัง เมื่อไม่ใช่การแจ้งเตือนจากคนที่รอคอย เธอดูนาฬิกา...เป็นเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว เขาคงไม่มาหาเธอหรอกวันนี้

นลินครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนตัดสินใจที่จะออกไปปาร์ตี้กับเพื่อน

‘ไม่รอคำตอบจากกูหน่อยเหรอวะ’ นลินตอบกลับข้อความของเพื่อน

‘ไม่ค่ะ มึงไม่มีสิทธิ์พูดอะไรทั้งนั้นนอกจากต้องไป’

‘งั้นเจอกันสี่ทุ่ม’ เธอส่งข้อความทิ้งไว้ในแชตของเพื่อนสาวก่อนจะลุกไปอาบน้ำแต่งตัว 

หลังจากที่เธียร์มีโอกาสเปิดไลน์ของนลินอ่านแล้ว เขาคิดจะแวะไปหาเธอที่คอนโดสักครู่ แม้จะรู้อยู่แล้วว่าเธอโกหกแต่เขาก็เลือกที่จะไปเจอเธอ

“คุณแม่ครับวันนี้ผมคงกลับไปค้างที่คอนโดนะครับ พอดีต้องกลับไปเอาของเพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางแต่เช้า”

ภายนอกเธียร์อาจจะแลดูเป็นคนแข็งกระด้าง แต่ใครจะรู้ว่าเวลาอยู่กับแม่หรือผู้หญิงที่เขารัก เขากลายเป็นคนขี้อ้อนเหมือนลูกแมว 

“เจอกันแค่แป๊บเดียว จะไปอีกแล้วเหรอลูก แม่อุตส่าห์เตรียมห้องไว้ให้เรียบร้อย”

ผู้เป็นแม่เอ่ยด้วยน้ำเสียงน้อยอกน้อยใจลูกชาย 

“วันนี้ก็ค้างอยู่ที่นี่ ให้คนกลับไปเอาให้ก็ได้นี่”

คนเป็นพ่อกล่าวเมื่อเห็นภรรยาของตนทำสีหน้าเศร้าเพราะเจ้าลูกชายตัวดี 

“แต่ว่า...”

เธียร์กำลังจะเอ่ยปากพูด 

“เอาเถอะ แม่ไม่สำคัญเท่าผู้หญิงของแกนี่”

คุณหญิงเนตรนภากอดอกพลางทำหน้ามุ่ยน้อยใจลูกชาย 

“โธ่ ! คุณแม่ค้าบบ”

ชายหนุ่มลากเสียงยาวอย่างออดอ้อน พลางเดินเข้าไปโอบกอดแม่แล้วจึงหอมแก้ม มองเผินๆ คล้ายเด็กสามขวบกำลังอ้อนแม่

“ผมกลับไปเอาของจริง ๆ ครับ งั้นผมขอไถ่โทษให้เป็นสำหรับเงินช็อปปิงแทนดีไหมครับ”

ลูกชายบอกพลางทำตาปริบ ๆ อ้อนแม่

ธามมองภาพสองแม่ลูกออดอ้อนกันแล้วสะท้อนใจ เขารู้ตัวเสมอว่าเป็นเพียงแค่เด็กที่พวกท่านรับมาอุปการะ ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ

ยิ่งอายุมากขึ้นก็ยิ่งไม่สนิทสนมเหมือนก่อน เกิดเป็นระยะห่างที่ทำให้ความสัมพันธ์ของเขากับครอบครัวไม่เหมือนเดิม

ทุกครั้งที่เห็นภาพการหยอกล้อระหว่างพ่อแม่ลูก เขารู้สึกว่าตนเองกลายเป็นคนนอก

เมื่อหันไปมองผู้เป็นพ่อก็เห็นว่านั่งยิ้มพลางทอดตามองสองคนนั้น

“ป๊าครับ แม่ครับ ธามขอตัวกลับก่อนนะครับ พอดีต้องเข้าไปดูงานที่บาร์อีก เห็นลูกน้องบอกบัญชีมีปัญหา เลยว่าจะเข้าไปดูสักหน่อยน่ะครับ”

ธามเอ่ยขึ้นมา จึงกลายเป็นจุดสนใจของทุกคน

“นี่ก็จะทิ้งแม่ไปอีกคนเหรอเนี่ย ลูกชายบ้านนี้มันเป็นยังไงกันฮึ”

ผู้เป็นแม่ตัดพ้อ

“เอาเลยลูก ดีแล้วที่เข้าไปดู เรื่องแบบนี้ไว้ใจคนอื่นทำ ก็ไม่สู้เราทำเองหรอก”

คนเป็นพ่อเห็นดีเห็นงาม 

“ครับ ไว้ผมจะแวะมาหาบ่อย ๆ นะครับ”

ชายหนุ่มเดินเข้าไปสวมกอดผู้เป็นแม่ 

“ขับรถดี ๆ นะลูก”

คุณหญิงเนตรนภาตบหลังลูกชายเบา ๆ 

ธามเดินออกมาจากบ้านด้วยความรู้สึกน้อยใจเมื่อหันกลับไปเห็นพวกเขาสามคนพ่อแม่ลูกพูดคุยกันสนุกสนาน ‘ป๊ากับแม่ดูมีความสุขจังเลยนะครับเวลาอยู่กับเจ้าเธียร์’

ความรู้สึกเช่นนี้เกิดขึ้นและสั่งสมมาเป็นเวลานานนับตั้งแต่มีเธียร์เข้ามา ความสนใจของคนในบ้านก็ไปอยู่ที่เจ้าเธียร์หมด นอกจากจะเป็นลูกคนเล็กของบ้านแล้ว เธียร์ยังเป็นลูกแท้ ๆ เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของป๊ากับแม่จริง ๆ

ไม่มีพ่อแม่ที่ไหนไม่รักลูกตัวเองหรอกนะ

ใช่ !

พ่อแม่ทุกคนต่างรักลูกตัวเอง !

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ