ตอนที่ 12 กลัวอ้วน

ในตอนเย็นที่นนท์รทีไปรับไอรดากลับจากตึกห้องเสื้อเรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่ก็แวะซุปเปอร์มาร์เก็ต ซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารกินกันในคอนโด

“เมนูวันนี้ขอเสนอ สลัดผักไข่ต้มครับผม”

นนท์รทีเดินออกมาจากในห้องครัวพร้อมชามสลัดใบโตและรอยยิ้มสดใสมอบให้หญิงสาว

“อยู่ดีๆ นึกยังไงถึงอยากกินคลีนล่ะเนี่ย?”

ไอรดามองอย่างมีข้อสงสัย เพราะปกตินนท์รทีไม่ได้กินสลัดบ่อยนัก ที่หุ่นดีก็เพราะออกกำลังกายเยอะเฉยๆ แต่เรื่องอาหารการกิน เขาก็กินเหมือนคนทั่วๆ ไปนั่นแหละ

“ก็เมื่อวันก่อนเห็นพี่ไอบอกว่าเดี๋ยวจะมีงานที่ต้องใส่เสื้อผ้ารัดรูป แล้วก็ไม่กล้ากินอะไรเยอะไม่ใช่เหรอครับ”

พอเขาเท้าความไป เธอก็ถึงพึ่งนึกออก

นั่นมันก็แค่คำที่เธอบ่นไปเรื่อยๆ ไม่นึกว่าเขาจะถึงขั้นเก็บมาใส่ใจแบบนี้...

นั่นทำให้ไอรดายิ้มออกมาน้อยๆ แล้วก็นั่งลงกินสลัดทั้งชาม

“แต่จริงๆน้ำสลัดนี่มันก็ทำให้อ้วนได้ไม่ใช่เหรอ”

“ใช่ครับ แต่ไม่มากหรอก ผมไม่อยากให้พี่ไอต้องนั่งทนกินผักที่ไม่ชอบด้วยความจำใจนี่นา”

ใช่... เพราะในนี้ใส่แต่อะไรที่ปกติไอรดาไม่หยิบมากิน อย่างเช่นมะเขือเทศ มะเขือม่วง และพริกหยวก

“ความจริงก็ไม่ได้ถึงขั้นไม่ชอบหรอก แค่ถ้ามีตัวเลือกที่ดีกว่าก็จะไม่หยิบมากิน”

“ก็ไม่ต่างกันหรอกครับ”

ผู้ชายคนนี้นี่ช่างเอาใจเก่งจริงๆ ทำเอาเธอยิ้มไม่หุบเลยทีเดียว

“หลังจากนี้พี่คงได้กินสลัดบ่อยๆ นะครับ แต่ถ้าเบื่อก็บอกผมนะ ผมจะหาทำเมนูอื่นให้”

“พอนายใช้คำว่าหาทำแล้วฉันรู้สึกไม่ค่อยไว้ใจเลย”

“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมไม่ทำอะไรแปลกๆ ให้กินหรอก ต้องเลือกแต่ของดีอยู่แล้ว”

นนท์รทีเริ่มจะสวมวิญญาณพ่อบ้านหนักขึ้นทุกวัน นี่ขนาดไม่ได้มีสถานะเป็นอะไรกันยังดูแลดีขนาดนี้เลย

แล้วถ้าเป็นแฟนล่ะ....

คำถามนี้ผุดขึ้นในสมองของไอรดา ก่อนที่จะส่ายหน้าให้ตัวเองเบาๆ

เธอก็ยังไม่กล้ามีแฟนอยู่ดี เพราะกลัวว่าถ้าวันหนึ่งความรู้สึกดีๆ แบบนี้มันหายไปแล้ว เธอจะต้องมานั่งเคลียร์ปัญหาที่เกิดจากความผูกพันนี่แหละ

“พี่ไม่ต้องคิดมากนะครับ เห็นอย่างนี้ผมก็พอทำอาหารเป็นอยู่นะ เผลอๆ กินแล้วอาจจะทำให้พุงยุบเลยก็ได้”

คำอวดอ้างนั้นเรียกความสนใจจากไอรดาได้เล็กน้อย เธอหันกลับมาปรายตามองแล้วก็ยิ้มมุมปาก

“ฉันจะรอดูแล้วกันว่าจะทำให้พุงยุบจริงไหม”

“แต่ระยะนี้พี่ก็ต้องห้ามกินของหวานด้วยนะครับ ไม่งั้นต่อให้กินคลีนยังไงก็ยังอ้วนเหมือนเดิม”

อ้วนเหมือนเดิม...?

ฟังแล้วไอรดาก้มมองพุงหมาน้อยของตัวเอง รู้สึกเสียเซลฟ์ขึ้นมา

แล้วก็เริ่มจะหงุดหงิดด้วย...

“นี่...ฉันอ้วนงั้นเหรอ?”

“....”

คำถามนี้นนท์รทีไม่กล้าตอบ เขาได้แต่ก้มหน้าแล้วก็ชะงักไป

เอาตามความจริงคือไอรดาไม่ได้อ้วน แต่ถึงบอกว่าไม่ได้อ้วน เธอก็อาจจะไม่เชื่อเพราะปกติผู้หญิงมักจะมองว่าตัวเองอ้วนเสมอ เรื่องนี้นนท์รทีรู้ดี

“วัดจากค่าดัชนีมวลกายแล้วพบว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติครับ”

นั่นคือคำตอบที่ดีที่สุดเท่าที่เขาจะคิดออกแล้ว แต่ดูจากสายตาของไอรดา เธอคงไม่ได้พอใจสักเท่าไหร่

“เมื่อกี้นายยังบอกว่าฉันอ้วนอยู่เลย”

“คือ...ผมหมายถึงว่าถ้าพี่กินของหวานเยอะๆ แล้ว อาหารคลีนของผมอาจจะไม่ช่วยอะไร...”

พอพูดถึงประเด็นนี้ขึ้นมา นนท์รทีก็เกิดปิ๊งไอเดียว่าควรจะลากเธอกลับมาให้คุยเฉพาะเรื่องคุณค่าโภชนาการ

นี่เป็นการเอาตัวรอดที่ดีที่สุดแล้ว

“พูดถึงของหวาน นอกจากเหตุผลว่าถ้ากินเยอะแล้วจะทำให้อ้วน น้ำตาลก็มีส่วนทำให้ผิวเหี่ยวเร็วด้วยนะครับ เพราะงั้น....”

“เพราะงั้นถ้าฉันกินเยอะจนกลายเป็นผู้หญิงที่ทั้งอ้วนและแก่ นายก็จะไม่ชอบใช่ไหม”

ทำไมมันกลายเป็นอย่างนั้นไปได้วะ!?

ในใจนนท์รทีมีคำถามผุดขึ้น ก่อนจะกลายเป็นหน้าเสียกว่าเดิม

“จะเป็นงั้นได้ยังไงล่ะครับพี่ไอ ไม่ว่าพี่จะเป็นยังไงผมก็ชอบอยู่ดีนั่นแหละครับ”

ถ้อยคำหวานหูนี้ นนท์รทีส่งไปพร้อมแววตาจริงใจที่สุด

แต่ดูท่าไอรดาที่โกรธไปแล้วจะไม่เชื่อเขาง่ายๆ

“คืนนี้ไม่ต้องมานอนกับฉัน”

“....”

“นั่งบื้ออะไรอยู่ล่ะ รีบกินแล้วก็รีบกลับบ้านไปได้แล้ว ไม่ต้องมานอนกับผู้หญิงแก่ๆอ้วนๆ อย่างฉันหรอก”

ฉิบหายละครับ...

ไอรดาไม่ได้แค่ว่าเฉยๆ แต่เธอยังลุกจากโต๊ะอาหาร เดินหนีเข้าไปในห้องนอนเลย

ขณะนั้น ชายหนุ่มยังนั่งนิ่งค้างเหมือนสติหลุดออกจากร่างไปแล้ว จนเมื่อได้ยินเสียงล็อคประตูห้องนอนนั่นแหละ เขาถึงได้รีบวิ่งตามไปเคาะเรียก

“พี่ไอครับ ผมขอโทษ เปิดประตูให้ผมเถอะนะ”

“ไม่!”

ไอรดาตะคอกกลับมา นั่นทำให้นนท์รทียิ่งมองตาละห้อย

ทำไมเธอถึงได้หงุดหงิดง่ายขนาดนี้ล่ะ?... ปกติไม่เห็นจะเป็นเลย

หรือว่าเผลอไปพูดอะไรที่สะกิดปมในใจเธอหรือเปล่า?

“พี่ไอครับ ผมจะไม่พูดอย่างนั้นอีกแล้ว เปิดประตูเถอะนะครับ”

“ไม่!”

ดูท่าไอรดาคิดแต่จะปฏิเสธท่าเดียว นนท์รทีก็ยิ่งอ่อนใจ

สุดท้ายเขาก็กลับมานั่งที่โซฟา คิดทบทวนว่าตัวเองพูดอะไรผิดไป

อืม...ก็ดูเหมือนจะผิดทุกตรงเลยนี่นา

คิดแล้วก็รู้สึกอยากตบปากตัวเองจริงๆ เพราะประเด็นที่พูดถึงมันเป็นเรื่อง sensitive ของผู้หญิงทั้งนั้น ยิ่งปกติไอรดาชอบกินของหวานมาก เรียกว่าบางมื้อก็กินแทนข้าวได้อย่างนั้น ไม่แปลกเลยที่เธอจะโกรธ

นนท์รทีได้แต่ถอนหายใจให้ตัวเอง แล้วก็ล้มตัวนอนบนโซฟา

ถึงจะโดนเธอไล่กลับบ้านก็เถอะ แต่เขาจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ต้องง้อให้สำเร็จก่อนถึงจะค่อยเบาใจได้

พูดถึงการง้อสิ่งที่ทำให้ไอรดารู้สึกดีขึ้นได้ ตอนนี้ก็คงมีแต่ขนมเท่านั้นแหละ

นึกอะไรดีๆ ได้แล้วนนท์รทีก็เดินเข้าไปในครัว พร้อมกับเสิร์ชหาเมนูขนมจากไมโครเวฟไปด้วย

จนสุดท้ายก็ได้มัฟฟินข้าวโอ๊ตรสกล้วยหอมช็อกโกแลต มีท็อปปิ้งพิเศษเป็นสตรอว์เบอร์รีวางอยู่ด้านบน

“พี่ไอครับ ออกมาเถอะ ผมทำมัฟฟินข้าวโอ๊ตมาให้ครับ”

“ไม่กิน!”

“จริงหรือครับ แต่มันหอมมากเลยนะ ผมใส่ช็อกโกแลตลงไปด้วย แล้วก็มีสตรอว์เบอร์รีโปะข้างบนอีก”

“....”

“จะไม่กินจริงๆ เหรอครับ?”

น้ำเสียงของนนท์รทีฟังดูรู้ว่าตั้งใจหลอกล่อเต็มที่ และที่ไอรดาเงียบไปก็เพราะเธอเริ่มจะลังเลขึ้นมา

“ถ้ากินแล้วนายก็จะมาว่าฉันอ้วนอีก”

“ผมขอโทษครับ ไม่ได้ตั้งใจจะว่าพี่ไอเลย คราวหลังจะไม่พูดจาแย่ๆ อีกแล้วครับ”

เขาจะไม่อ้างว่าเพราะเป็นห่วงเรื่องสุขภาพหรืออะไรทั้งนั้น เพราะส่วนใหญ่แล้วคำพูดแบบนี้ก็มักจะเป็นข้ออ้างของผู้ชายที่อยากให้แฟนตัวเองผอมลง

ในที่สุดไอรดาก็เปิดประตูออกมา แล้วก็เดินกลับไปนั่งกินสลัดที่ยังวางอยู่บนโต๊ะอาหารต่อ

เธอก็ทำเป็นมีฟอร์มไปอย่างนั้นแหละ แต่ความจริงคงหายโกรธเขาแล้วล่ะ

นนท์รทีรู้เลยว่าในใจเธอรู้สึกยังไง แล้วเขาก็ยิ่งยิ้มกว้างตอนเดินตามมาง้อต่อ

“กินสลัดจานนั้นแล้ว ต้องกินมัฟฟินข้าวโอ๊ตที่ผมทำด้วยนะครับ”

พอเขากำชับ ไอรดาก็ปรายตามองนิ่งๆ “แน่ใจว่าไม่กลัวฉันอ้วนแล้ว”

“แน่ใจสิครับ”

ว่าพลางชายหนุ่มก็เข้ามาหอมหัวเบาๆ ก่อนจะคุกเข่าลงไปเอาหน้าหนุนตัก ช้อนสายตาหวานๆขึ้นมอง

“ไม่ต้องมาอ้อนฉัน”

“ก็พี่ทำตัวน่ารัก ไม่ให้ผมอ้อนได้ไง”

ดูคนปากหวานช่างเข้าใจพูด ทำเอาไอรดาเถียงต่อไม่ออกเลย

แล้วยังกลายเป็นมีรอยยิ้มที่เก็บซ่อนไม่มิดอีกต่างหาก...

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ