สุดท้ายเรื่องจบด้วยดี คืนนั้นทั้งคู่เลยนั่งดูทีวีด้วยกัน โดยที่นนท์รทีคอยตักมัฟฟินข้าวโอ๊ตป้อนเธอ
“อร่อยไหมครับ”
“อืม”
ไอรดาตอบเป็นเสียงในลำคอ แต่แค่นั้นก็ทำให้เขาดีใจมากแล้ว
และเพราะดีใจ นนท์รทีเลยยื่นหน้าเข้ามาหอมแก้มเบาๆ
ก่อนจะลามไปเลียที่ริมฝีปากนุ่ม...
“เป็นหมาหรือไง?”
เธอว่าก่อนดันหน้าเขาออกไป ซึ่งนั่นก็กลับทำให้นนท์รทียิ่งอ้อนหนักเข้าไปอีก
“ถ้าเป็นหมาแล้วพี่ไอชอบ ผมก็อยากเป็นครับ”
“ฉันชอบแมว”
“งั้นผมเป็นแมวก็ได้ครับ”
ว่าจบก็เอาหัวมาถูไถซบไหล่ กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีก
ดูเขาช่างขยันหยอดกันเก่งจริงๆ ทำเอาไอรดาเหนื่อยจนต้องถอนหายใจส่ายหน้า
“เพ้อเจ้อ”
แต่ไอ้การที่เธอว่าเขาแบบนี้น่ะ มันก็เป็นเพราะเขินนั่นแหละ
มือขาวเรียวยกขึ้นมาลูบหัวเขาเบาๆ ลูบไปลูบมาก็คงเริ่มรู้สึกมันเขี้ยวถึงได้กลายเป็นจิกกลุ่มผมสีน้ำตาล? นั้นแบบไม่แรงมาก แค่พอให้อีกฝ่ายสะดุ้งนิดๆ
“พี่ไอทำผมทำไมครับ?”
“เอาคืนที่นายว่าฉัน”
เธอก็ช่างเจ้าคิดเจ้าแค้นเสียเหลือเกิน นี่ทำขนมมาง้อแล้วยังไม่พอใจอีกเหรอ?
ถึงคิดอย่างนั้นก็เถอะ แต่นนท์รทีไม่ได้รู้สึกโกรธอะไรหรอก แค่น้อยใจนิดๆ แล้วก็เบ้หน้าแบบให้พอดูน่ารัก
“ขอโทษครับ สัญญาว่าจะไม่พูดจาแย่ๆ อีก”
“ที่พูดซ้ำนี่กลัวจำบทไม่ได้หรือไง?”
เธอแซว เพราะวันนี้ได้ฟังประโยคนั้นมาเกินสี่รอบแล้ว
“ก็ผมอยากบอกให้พี่รู้ไว้ อีกอย่าง ถึงอ้วนหรือแก่ยังไงผมก็ชอบพี่อยู่ดี ผมบอกแล้วไง”
“ฉันไม่เชื่อ”
“งั้นเดี๋ยวผมพิสูจน์ให้ดู ผมจะขุนพี่ให้กลิ้งได้ในสองเดือนเลยดีไหมครับ”
“นายคิดว่าฉันกะยอมปล่อยตัวเองขนาดนั้นหรือไง?”
ไอรดามีสายตาเย็นชาเล็กน้อยส่งมา นั่นทำเอารอยยิ้มของนนท์รทีเจื่อนไปทันที แล้วก็กลายเป็นไม่รู้จะพูดอะไรอีก เพราะกลัวว่าถ้าเผลอหลุดปากอะไรออกไปจะได้เป็นการโยนตัวเองลงหลุมใหม่
ตอนนี้ชายหนุ่มคงได้แต่ใช้ลูกอ้อนเพื่อเอาตัวรอด โดยการเปลี่ยนตำแหน่งที่ศีรษะอิงซบอยู่ จากหัวไหล่มาเป็นบนอกนุ่ม
แล้วก็ซุกหน้าสูดกลิ่นหอมจางๆ ที่เขาชอบ หลับตาพริ้มเคลิบเคลิ้ม
แต่หญิงสาวไม่ได้มีอารมณ์ร่วมกับเขาเลย เธอแค่ปรายตามองเล็กน้อย ส่งมือลูบศีรษะเขาเหมือนเดิม
“นี่”
“ครับผม”
เสียงตอบรับที่ดูคล้ายกำลังละเมออยู่นั้น บ่งบอกว่านนท์รทีชอบสัมผัสนุ่มนิ่มนี้ขนาดไหน
แต่แล้วก็ต้องชะงักไปเมื่อไอรดาส่งคำถาม
“นายเคยมีความคิดอยากให้ฉันไปทำศัลยกรรมไหม”
หา...?
ชายหนุ่มต้องเลื่อนสายตาขึ้นมอง ขมวดคิ้วน้อยๆ แบบไม่ค่อยเข้าใจ “ผมเฉยๆครับ แต่ถ้าพี่อยากทำก็ทำได้ครับ มันเป็นหน้าของพี่ ร่างกายของพี่”
“แล้วเรื่องลดความอ้วนล่ะ นายเคยอยากให้ฉันมีหุ่นเหมือนพวกนางแบบไหม”
“ผมยังยืนยันคำตอบเดิมครับ ถ้าพี่อยากทำอะไรผมไม่ห้าม”
เขาตอบแบบนั้น เพราะรู้สึกว่าร่างกายและใบหน้าของเธอมันเป็นสิทธิ์ที่เธอจะทำอะไรก็ได้ตามใจ และเขาไม่มีสิทธิ์จะไปบังคับ
“ผมอยากให้พี่ไอมีความสุข ถ้าทำอะไรแล้วมีความสุขผมก็สนับสนุนเต็มที่ครับ แต่ถ้าฝืนใจก็ไม่อยากให้ทำครับ”
ฟังเขาพูดแบบนี้แล้ว ไอรดาก็มีรอยยิ้มเผยออกมานิดๆ
“พวกแฟนเก่าของฉันน่ะ มีแต่คนที่บอกว่าอยากให้ฉันสวยขึ้นทั้งนั้นเลย”
จู่ๆ ไอรดาก็เริ่มเล่าเรื่องของอดีตคนรัก ซึ่งนนท์รทีไม่เคยได้ฟังมาก่อน
แบบนี้...หมายความว่าเธอไว้ใจเขามากขึ้นหรือเปล่า?
“สมัยมหาลัยฉันอ้วนกว่านี้ แฟนของฉันบอกว่าให้ลดน้ำหนัก ฉันก็เลยไม่ค่อยกล้ากินอะไร พอเลิกกันไป แฟนคนต่อมาก็บอกให้ฉันเก็บเงินไปทำศัลยกรรมอีก เพราะเขาไม่ชอบหน้าฉัน”
“ถ้าไม่ชอบแล้วมันมาจีบพี่ทำไมตั้งแต่แรกล่ะครับ”
ฟังแล้วเป็นใครจะไม่ของขึ้นบ้าง ขนาดนนท์รทีไม่ใช่คนโดนเองยังหงุดหงิดเลย
“พี่อย่าไปเก็บคำพูดของพวกเห็นแก่ตัวแบบนั้นมาคิดมากเลยครับ พวกนั้นน่ะมันแค่อยากควงคนสวยๆ ไว้อวดชาวบ้าน ไม่ได้คิดจะจริงจังอะไรหรอก”
“ฉันรู้...แต่ย้อนกลับไปเมื่อสมัยนั้น เพราะฉันรักแฟนมากก็เลยทำทุกอย่างตามที่บอกเลย ยกเว้นเรื่องทำศัลยกรรมเพราะตอนนั้นฉันไม่ได้มีเงินเหมือนตอนนี้”
ฟังว่าเธอผ่านเรื่องราวแย่ๆ แบบนั้นมา นนท์รทีก็พอเข้าใจแล้วว่าทำไมไอรดาถึงไม่กล้ามีพันธะผูกพันกับใคร
มันไม่ใช่แค่เรื่องการทำให้ภายนอกดูดี แต่มันยังเกี่ยวไปถึงเรื่องสภาวะจิตใจ เพราะเธอกลัวการแบกรับความคาดหวังจากคนอื่น แต่ในขณะเดียวกันก็กลัวว่าจะไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ต้องการ เพียงเพราะว่าเธอทำไม่ได้ตามที่คนอื่นบอก
สุดท้ายแล้ว เธอคงกลับมาคิด และตกตะกอนได้ว่าถ้าเธอเลือกที่จะทำเมินไม่สนใจใครทั้งสิ้น ก็คงไม่ต้องเจ็บปวดเพราะเรื่องเล็กน้อยอย่างเช่นการทำให้ตัวเองตรงกับ beauty standard ของใคร
“อย่างไปนึกถึงคำพูดของผู้ชายเฮงซวยพวกนั้นเลยครับพี่”
นนท์รทีไม่เข้าใจว่าผู้ชายคนที่ผ่านๆมาของเธอตาบอดหรือยังไง ก็ไอรดาออกจะเพอร์เฟกต์ขนาดนี้แท้ๆ
แต่มันเป็นความเพอร์เฟกต์สำหรับเขาคนเดียวน่ะ สำหรับคนอื่นอาจจะไม่ใช่แบบนั้น ที่ผ่านมาถึงได้มีแต่คนทุ่มความคาดหวังมาที่เธอ
ถึงยังไงก็เถอะ มันก็ไม่ควรอยู่ดีน่ะแหละ...
อ้อมกอดที่กระชับแน่นนี้ ไม่เพียงเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายของเธอเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังทำให้หัวใจของไอรดาเบาสบายมากขึ้นด้วย
ถ้าหากว่านนท์รทีทำตัวน่ารักสม่ำเสมอแบบนี้ตลอดไปก็คงดี...
ในตอนที่เวลาผ่านไปอย่างเอื่อยเฉื่อย ไอรดาก็ค่อยๆ ปล่อยให้ตัวเองจมลงในห้วงความคิด
ถึงต่อให้เธอจะไม่ได้อยากมีความสัมพันธ์กับใครจริงจัง แต่เนื้อแท้ก็ยังเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องการใครสักคนมารัก มาเอาใจใส่อยู่ดี
แต่เพราะที่ผ่านมาเจอความรักที่ไม่ดี ทำให้ต้องผิดหวังเสียใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนสุดท้ายมันเลยกลายเป็นความกลัว
แม้แต่กับนนท์รทีเอง ระหว่างที่เธอเปิดใจยอมรับความรักจากเขาทีละน้อย เสี้ยวหนึ่งในใจเธอก็ยังคอยรั้งไว้ เพราะระแวงว่าหากปล่อยตัวเองถลำลึกเกินไปแล้วอาจพบกับความเสียใจอีก
เพราะโดยมากแล้ว เมื่อกาลเวลาเปลี่ยน คนเราก็เปลี่ยนตาม ไม่มีใครเหมือนเดิมได้ตลอดไป
ตอนนี้มันพึ่งจะเข้าเดือนที่สามที่ได้ใกล้ชิดกัน แต่ใครจะรู้...ถ้าหากผ่านไปสักปีหรือสองปี ไม่แน่ว่าความรักที่มีอาจจะจืดจางจนกลายเป็นไม่เหลืออะไรเลยก็ได้
สุดท้ายแล้ว ไอรดาก็ทิ้งให้ตัวเองเข้านอนไปพร้อมกับคำถามว่า....เธอควรจะเอายังไงกับความสัมพันธ์แปลกๆ แบบนี้ดี
ในตอนที่หญิงสาวหลับใหลไปในอ้อมกอดของชายหนุ่มแล้ว ดวงตาของเขาผู้มอบความอบอุ่นให้เธอยังคงเปิดอยู่
และมันจ้องมองมาทางนี้เพียงแค่ทางเดียว เหมือนดอกทานตะวันที่เลือกเพียงที่จะหันไปทางทิศที่พระอาทิตย์เคลื่อนไป
สำหรับนนท์รที ตัวตนของไอรดาสว่างเจิดจ้าดุจแสงอาทิตย์...
เพราะอย่างนั้น เขาเลยมั่นใจว่าตัวเองจะไม่มีทางรักเธอน้อยลง และไม่มีทางทิ้งเธอไปไหน
“ฝันดีนะครับ”
น้ำเสียงที่แสนนุ่มนวลนั้นส่งผ่านมาพร้อมถ้อยคำกระซิบ ในตอนที่เขาช้อนกายเธอขึ้นมาอย่างแผ่วเบาและอุ้มไปนอนที่เตียงดีๆ
ก่อนจะซุกกายเข้าในผ้าห่มผืนเดียวกัน กอดรั้งเธอเอาไว้เหมือนที่ผ่านมา
เปลือกตาของเขาปิดลงช้าๆ โดยภาพสุดท้ายที่เห็นก็ยังเป็นใบหน้าของหญิงสาวที่เขารัก
ก็มันคนมันรักจริงๆ...แล้วจะให้ไปมองอย่างอื่นได้ยังไงล่ะ
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?