ตอนที่ 1 จบความสัมพันธ์

"เราเลิกกันดีไหม ภูคิดว่าเรื่องของเรามันไปต่อไม่ได้แล้วจริง ๆ ภูไม่ได้รักไอเหมือนเมื่อก่อนแล้ว"

น้ำเสียงอ่อนของ ภู หรือ ‘ภาณัต เพชรรุ่งโรจน์’ ทายาทบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง คนรักของ ไอญารินทร์ ขจรกุลจิโรจน์’ นางเอกนักแสดงชื่อดัง ที่ตอนนี้เธอกำลังถูกแฟนหนุ่มบอกเลิกท่ามกลางร้านอาหาร

วันนี้ควรเป็นวันที่มีความสุขที่สุด เพราะเป็นวันครบรอบสิบปีของเธอและเขา แต่หญิงสาวกลับถูกผู้ชายที่ตัวเองรักบอกเลิก จะว่าไปปัญหาการไม่เข้าใจกันของพวกเขาที่สะสมมานานก็อาจจะมีส่วนในการตัดสินใจเลิกรากันของภาณัต

ใบหน้าเล็กเปลี่ยนสีไปเมื่อได้ยินในสิ่งที่ชายหนุ่มพูด หญิงสาวช้อนสายตาขึ้นไปมองคนตรงหน้า ตอนนี้แววตาของภาณัตเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ เขาไม่ใช่คนเดิมที่เธอเคยรักเหมือนเมื่อสิบปีที่ผ่านมา

"ภูพูดเหมือนไม่รู้สึกอะไรเลยนะคะ ความรักสิบปีของเรามันจะจบลงง่าย ๆ แบบนี้อย่างงั้นหรือคะ"

น้ำเสียงแว่วหวานกล่าวออกไป พร้อมสีหน้าที่ดูเศร้าโศก ดวงตากลมฉายแววตาหม่นหมองเอ่อล้นไปด้วยหยาดน้ำสีใส 

"แล้วไอจะให้ภูทำยังไงอีก เราลองกันมาทุกวิธีแล้วนะ ไอก็รู้ว่ามันไม่มีอะไรดีขึ้นเลย"

ชายหนุ่มเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา น้ำเสียงฟังดูไม่แคร์ความรู้สึกผู้หญิงตรงหน้าอีกแล้ว

"..."

หญิงสาวนิ่งเงียบพร้อมกับก้มหน้าลงเล็กน้อย เพื่อปิดบังไม่ให้เขาเห็นหยดน้ำตาที่กำลังไหลออกมา แม้จะเผื่อใจมาบ้างแล้ว แต่การที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้มันก็หนักเกินที่จะรับมันไหว บวกกับภาณัตเป็นรักแรกของเธอด้วยมันถึงได้เจ็บปวดถึงเพียงนี้ 

"อยู่ต่อไปเรามีแต่จะทำร้ายกันเปล่า ๆ นะ"

ภาณัตเอ่ยออกไปด้วยเจตนาที่อยากเลิกกับเธอให้ได้ 

"ไอทำพลาดตรงไหน ไอพร้อมปรับปรุงตัวและแก้ไข ภูบอกไอมาสิ ไอยอมภูได้ทุกเรื่องเลยนะ"

น้ำเสียงสั่นเครือปนสะอึกสะอื้นดังออกมาจากริมฝีปากบาง ใบหน้าสวยของหญิงสาวตอนนี้แปดเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา 

"ไอไม่ต้องแก้ไขอะไรอีกแล้ว ไอแค่ใช้ชีวิตต่อไปโดยไม่มีภู ภูเชื่อว่าไอทำมันได้ดีแน่”

มือหนาหยิบทิชชูเอื้อมไปซับน้ำตาให้ไอญารินทร์ แม้จะหมดรักไปแล้วแต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้เลิกกันด้วยปัญหาที่ร้ายแรง เพียงแต่เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สะสมมานานโดยไม่ได้รับการแก้ไข

ไอญารินทร์จุกอยู่ในอกจนพูดไม่ออก มีเพียงน้ำตาที่รินไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ เธอรู้สึกเสียใจและเสียดายเวลา

ช่วงเวลาสิบปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นทั้งรักแรก และเป็นทุก ๆ อย่าง หญิงสาวคาดหวังถึงเรื่องการแต่งงานเป็นอย่างมาก แต่แล้วก็ต้องเจ็บปวดกับความคาดหวังของตัวเอง เมื่อทุกอย่างมันได้จบลงแล้ว เหมือนโลกทั้งใบของเธอได้พังทลายลงมา หัวใจดวงเล็ก ๆ แหลกสลายไปจนไม่มีชิ้นดี

"เดี๋ยวภูไปส่งไอที่คอนโดนะ"

คำพูดเขาทำให้ไอญารินทร์สะเทือนใจไม่น้อย เพราะตอนมาทั้งคู่ยังคงใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่คอนโด ทว่าหลังจากนี้จะมีเพียงเธอคนเดียวที่ต้องอยู่ในสถานที่ที่เคยเขาอยู่ด้วย หญิงสาวจะอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมนั้นได้อย่างไรกัน

"ภูใจร้ายกับไอจัง แค่กอดไอเป็นคืนสุดท้ายก็ไม่ได้เลยเหรอ"

หลังจากที่มาถึงคอนโดฯ หญิงสาวก็หันกลับไปพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือขึ้นจมูก พร้อมกับพยายามส่งยิ้มให้กับชายหนุ่มทั้งที่สองข้างแก้มเต็มไปด้วยคราบน้ำตา

"อย่าเลย ให้เรื่องของเรามันจบลงที่วันนี้เถอะ"

เขากล่าวออกมาน้ำเสียงเย็นชา เมื่อมาส่งเธอถึงหน้าห้อง ชายหนุ่มเอื้อมมือไปลูบศีรษะเธอเบา ๆ

"ส่วนของ ของภู เดี๋ยวภูจะหาเวลาเข้ามาเก็บ ภูไปก่อนนะ ดูแลตัวเองดี ๆ ด้วย"

ภาณัตทิ้งประโยคสุดท้ายไว้ ก่อนหันหลังเดินจากไปโดยที่ไม่หันกลับมามองอีกเลย ไอญารินทร์ถึงกับเข่าอ่อนทรุดตัวลงนั่งกับพื้นมองร่างใหญ่ที่เดินจากไป

"ฮึกก ฮืออออ"

ทิ้งไว้เพียงเสียงร้องไห้ที่ดังออกมา ด้วยความรู้สึกเจ็บปวดในหัวใจดวงน้อย

ไอญารินทร์เดินกลับเข้าไปในห้องที่เต็มไปด้วยความทรงจำของทั้งคู่ ยิ่งทำให้หญิงสาวร้องไห้หนักขึ้นไปอีก ร่างเล็กนอนร้องไห้จนเผลอหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า ความเสียใจให้เธอถึงกับนำไปฝัน และละเมอสะอื้นไห้ออกมา

ช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้เธอไม่สามารถเผชิญมันต่อไปได้คนเดียว หญิงสาวจึงเก็บกระเป๋าและเดินทางไปอาศัยอยู่กับ ขวัญจิรา ขจรกุลจิโรจน์ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอ

เซเลบสาวสวยออกมารอรับน้องสาวด้วยความเป็นห่วง เมื่อทราบข่าวว่าเธอเลิกกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาสิบปีคนนั้นแล้ว 

ทันทีที่รถของเธอมาจอดอยู่หน้าบ้าน ขวัญจิราก็รีบเข้าไปรับน้องและช่วยขนของเข้าบ้าน 

"ไม่เป็นไรนะ แกยังต้องเจอคนอีกเยอะ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนสุดท้ายที่แกจะรักแน่นอนเชื่อฉันสิ"

คนเป็นพี่โอบกอดน้องสาว พร้อมพูดปลอบใจมือพลางลูบหลังร่างเล็กนั้นเบา ๆ ไปด้วย

แม้ตอนนี้จะเลิกร้องไห้ฟูมฟายแล้ว แต่หญิงสาวยังคงซึม ๆ เวลาที่อยู่คนเดียวก็ยังรู้สึกเคว้งคว้างและคิดมากอยู่ทุกครั้ง

"ไม่ได้ ฉันจะปล่อยให้แกอยู่คนเดียวไม่ได้ กระเป๋าไม่ต้องจัดเข้าตู้นะ พรุ่งนี้พี่จะพาไปล่องเรือสามวันสองคืน"

ขวัญจิราบอกกับน้องสาวขึ้น เธอมีนัดกับเพื่อน ๆ เรื่องไปออกทริปล่องเรือกัน ทริปนี้คนไปเยอะน่าจะสนุก และทำให้ไอญารินทร์ไม่ต้องจมอยู่กับความรู้สึกแย่ ๆ พวกนั้น 

"หนูไม่อยากไปเลยอะ"

ใบหน้าจิ้มลิ้มมองหน้าพี่สาวแววตาเศร้าหมอง 

"ไม่ได้ พี่ไม่ไว้ใจให้เราอยู่คนเดียว ดังนั้นเราต้องไปกับพี่"

ผู้เป็นพี่สาวบอกน้ำเสียงแกมบังคับอีกฝ่าย สุดท้ายเธอก็ไม่สามารถปฏิเสธพี่สาวได้

เช้าวันรุ่งขึ้นสองพี่น้องก็ได้เดินทางไปยังสนามบิน ซึ่งผู้เข้าร่วมทริปนี้ต่างก็เป็นเพื่อน ๆ ของขวัญจิรา ส่วนใหญ่จะควงแฟนกันมาด้วย เมื่อมากันครบก็เริ่มพูดคุยแนะนำตัวกัน

"นี่น้องสาวฉัน ไอญา ทุกคนน่าจะรู้จักหรือผ่าน ๆ ตากันบ้าง"

ขวัญจิราแนะนำน้องสาวให้เพื่อนรู้จัก

"ส่วนคนนี้พี่เม พี่น็อต เป็นแฟนกัน คะนิ้งกับมาร์คก็เป็นแฟนกัน ชลกับเอมก็เป็นแฟนกัน ส่วนนี่ไอ้ภัทรไม่มีใครเอา"

ขวัญจิราพูดหยอกเพื่อนคนสุดท้ายที่เป็นหนุ่มโสดของทริปนี้ 

"อ้าว ทำไมพูดงี้วะ กูไม่เอาใครต่างหากเว้ยนอกจากมึง"

ชายหนุ่มแซวหญิงสาวกลับสีหน้าเจ้าเล่ห์ ทำเอาเพื่อน ๆ ทุกคนต่างมองบนให้สองคนนี้ 

"สาธุ! กูขอให้ผีผลักพวกมึงสองคนสักทีเถอะ"

เอมพนมมือยกขึ้นเหนือหัว และอวยพรให้ทั้งคู่แบบประชดประชัน 

"เหอะ! กูไม่นิยมของหลวงเท่าไร"

ขวัญจิราเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด เพื่อนชายของเขามีดีกรีเป็นถึงพันตำรวจเอก

"ไม่อยากอมของหลวงหน่อยเหรอวะ"

ชายหนุ่มพูดจาอย่างทะลึ่งแม้จะดูหยอกล้อแต่บางทีก็เหมือนจะคิดจริง 

"หยุดเลยไอ้ภัทร!"

หญิงสาวตะโกนในหน้าเพื่อนชาย ด้วยสีหน้าเหวี่ยงวีนเพื่อน ๆ ในกลุ่มต่างหัวเราะทั้งคู่ เพราะสองคนมักจะทะเลาะกันตลอดเวลาที่เจอหน้ากัน 

"มีใครติดต่อธามได้ไหม ยังไม่เห็นหน้ามันเลยเนี่ย"

พี่น็อตซึ่งเป็นรุ่นพี่ของทุกคนในกลุ่มถามหาชายหนุ่มอีกคนที่ยังมาไม่ถึง 

"นู่นไงพี่ มันมาแล้ว"

มาร์คบุ้ยปากไปทางชายหนุ่มกำลังเดินมา ทำให้ทุกคนต้องหันไปมองพร้อมกัน รวมถึงไอญารินทร์ด้วย

เมื่อเธอหันหลังกลับไปก็พบกับชายหนุ่มร่างสูงแต่งตัวดูดีทันสมัย สวมแว่นตาสีดำกำลังเดินลากกระเป๋าเดินทางมาสมทบเพื่อนที่นั่งกันอยู่ก่อน 

"มาสายนะจ๊ะสุดหล่อ"

ขวัญจิราเอ่ยแซวเพื่อนชายออกไป 

"รถติดนิดหน่อย ขอโทษที่ทำให้ทุกคนรอครับ"

ธามถอดแว่นตาออกมองทุกคน แล้วก้มาสะดุดตากับดาราสาวสวย เขาพอจะเคยเห็นเธอผ่าน ๆ ตาอยู่บ้าง ชายหนุ่มจ้องมองจนหญิงสาวทำตัวไม่ถูก 

"นี่น้องสาวกูเอง ไอญา ส่วนนี่ไอ้ธามเพื่อนพี่"

ขวัญจิราหันไปแนะนำธามให้หญิงสาวรู้จัก 

"หวัดดีครับ"

ชายหนุ่มเอ่ยทักทายน้องสาวเพื่อนออกไปด้วยสีหน้าที่เป็นมิตร 

แต่อีกฝ่ายกลับมองเขากลับไปด้วยสายตาที่เย็นชา และดูนิ่งขรึม จึงทำให้ธามรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ดูน่าสนใจดีเหมือนกันนะ 

เมื่อทุกคนมาครบก็ทำการเช็คอิน และเดินทางไปยังจังหวัดหนึ่งทางตอนใต้ของประเทศ ที่มีน้ำทะเลสวยสะอาดน่าเที่ยวสุด ๆ

เมื่อถึงท่าเรือธามเห็นไอญารินทร์เป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เดินถือกระเป๋าหนัก ๆ คนเดียว ด้วยความมีน้ำใจเขาก็คิดจะเดินเข้าไปช่วย เพราะคนอื่น ๆ ต่างก็มีแฟนช่วยถือให้

"มาพี่ช่วยถือ"

ตรีธารากำลังจะแย่งกระเป๋าจากมือเธอ 

"ไม่ต้องค่ะ ฉันถือเองได้"

น้ำเสียงแข็งปฏิเสธการช่วยเหลือนั้น ทำเอาคนตัวสูงถึงกับหน้าชาไปเลยทีเดียว แล้วจู่ ๆ ก็ให้นึกถึงผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นมา เพราะกิริยาท่าทางแบบนี้นอกจากนลินก็มีเธอนี่แหละ ที่ปฏิเสธความช่วยเหลือจากเขาเช่นนี้  

ตรีธาราได้แต่ยืนมองหญิงสาวในชุดกระโปรงสีขาวพลิ้วเดินจากเขาไป เมื่อขึ้นมาบนเรือยอชต์ลำใหญ่ทุกคนต่างก็จับจองห้องนอนกัน แต่ทว่าห้องนอนนั้นมีเพียงแค่ 5 ห้องเท่านั้น ภัทรและธามจึงต้องนอนด้วยกัน ส่วนขวัญและไอญารินทร์ก็นอนห้องเดียวกัน ที่เหลือก็นอนกับคู่ของตัวเอง  

"ทำไมกูต้องได้นอนกับมึงเนี่ย"

ธามเดินเข้ามาเก็บของในห้องพร้อมกับภัทรเพื่อนสนิทของเขา 

"หรือมึงจะนอนกับน้องไอญากูจะได้ไปนอนกับขวัญ"

ชายหนุ่มตอบกลับแบบไม่คิดอะไร 

"พูดไปเรื่อยไอ้นี่!"

ร่างสูงเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุเมื่อเพื่อนของตัวเองพูดจาไร้สาระ 

"มึงบอกไม่อยากนอนกับกู กูก็มีทางเลือกให้มึงนี่ไง"

ชายหนุ่มยกมุมปากขึ้นยิ้มให้อีกฝ่าย ตรีธาราจึงหยิบหมอที่ปลายเตียงปาใส่คนพูด อีกฝ่ายได้แต่หัวเราะชอบใจพร้อมกับรับหมอนที่เพื่อนรักเพิ่งส่งมาให้เมื่อครู่ด้วย

เมื่อเก็บของเสร็จ ทุกคนก็พักผ่อนตามอัธยาศัยนั่งชมวิวน้ำทะเลที่กว้างขวางสุดลูกหูลูกตา ไอญารินทร์เองก็มานั่งรับลมชิว ๆ เพียงลำพัง แววตาเศร้าหมองถูกปกปิดอยู่ภายใต้แว่นกันแดดสีดำ

แม้จะอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่ก็ไม่ได้ทำให้หญิงสาวอดคิดถึงแต่ผู้ชายคนนั้นได้เลย เวลานี้เธอเหมือนคนกำลังหลงอยู่ในทางอันมืดสนิท เขาบอกให้เธอเดินหน้าต่อไปแต่ไม่ได้บอกว่าต้องเดินต่อไปทางไหน ถ้ามีใครสักคนมรช่วยจับมือเธอเดินออกไปจากความมืดมิดนี้ได้มันคงจะเป็นเรื่องที่ดี 

"น้องเธอดูเศร้า ๆ นะ"

ตรีธาราเอ่ยขึ้นกับขวัญจิราในขณะที่สายตาก็มองไปยังบุคคลที่เอ่ยถึงซึ่งนั่งอยู่ไกลออกไปเพียงลำพัง 

"มันพึ่งเลิกกับแฟน แผลยังสดใหม่คงจะเจ็บหนักน่าดู กูสงสารน้องกูเหมือนกันแต่ไม่รู้จะทำยังไงให้มันรู้สึกดีขึ้น เลยลากมันมาด้วยนี่แหละ"

ขวัญจิราหันไปตอบเพื่อนชายที่นั่งอยู่ข้าง ๆ

เมื่อธามได้ยินดังนั้นก็ยิ่งรู้สึกสนใจผู้หญิงคนนี้ขึ้นไปอีก ไม่ใช่เพราะความสงสาร แต่อยากเห็นใบหน้าสวยของเธอมีรอยยิ้มมากกว่าคราบน้ำตาแบบนี้

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ