หลังจากทั้งสองคนยืนเถียงกันไปมา จนไอญารินทร์เถียงสู้ไม่ได้หญิงสาวจึงเลือกที่จะเดินหนีไป คนตัวเล็กเดินไปเก็บของใช้ของตนเองอย่างรีบร้อน
"ทำอะไรของเธอ"
น้ำเสียงเข้มเอ่ยถามขึ้น พร้อมจ้องมองด้วยสายตาดุดัน
"..."
คนตัวเล็กไม่ได้ตอบอะไรเขา หญิงสาวกำลังวุ่นอยู่กับการเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า เธอรู้แค่ว่าเธอไม่สามารถอยู่ที่นี่ต่อไปได้อีก ไอญารินทร์รู้สึกเหมือนโดนหักหลังจากคนที่เธอเคารพและไว้ใจ แม้จะรู้จักกับเมรยาเป็นเวลาสั้น ๆ แต่อีกฝ่ายก็ดีกับเธอเป็นอย่างมาก จนไม่คิดเอะใจว่าเมรยาจะทำกับเธอเช่นนี้
"ผมถามว่าจะไปไหน!"
ชายหนุ่มถามออกไปอีกครั้ง น้ำเสียงแข็งกร้าว คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจน ก่อนสาวเท้าเดินเข้าไปกระชากแขนเล็กนั้นเอาไว้
"ฉันจะไปไหนมันก็เรื่องของฉันค่ะ"
หญิงสาวพยายามสะบัดแขนออกจากมือเขา
"นี่มันดึกแล้วนะ คิดว่าจะมีรถเข้าเมืองหรือไง แล้วที่สำคัญระหว่างทางทั้งมืดทั้งเปลี่ยว ไม่แน่อาจจะเจออะไรที่เธอไม่คาดคิด"
ตรีธาราทำเสียงให้ฟังดูหลอน ๆ ไอญารินทร์นิ่งฟังที่เขาพูดพร้อมจ้องหน้าเขาตาไม่กะพริบ
"เธอคงไม่รู้ประวัติแถวนี้สินะ หึ!"
ชายหนุ่มกวาดสายตามองไปรอบ ๆ หญิงสาวเห็นท่าทีของเขาก็รู้สึกกลัวขึ้นมา เท้าเล็กค่อย ๆ ขยับเข้าหาเขาช้า ๆ สายตาคู่สวยก็มองไปรอบ ๆ ตามอีกฝ่ายด้วย
"ก่อนจะกลายมาเป็นรีสอร์ตน่ะ ที่นี่เคยเป็นป่ารกร้างที่มักจะมีเหตุการณ์ฆาตกรรมกันอยู่บ่อย ๆ เฮ้ยยย!"
กรี๊ดดด!! หญิงสาวเผลอเข้าไปกระโดดกอดเขาพร้อมซบหน้าลงบนไหล่กว้างนั้นด้วยความตกใจ
"ฮ่า ๆ ๆ"
เสียงหัวเราะของเจ้าของร่างสูงดังขึ้นพร้อมอุ้มคนตัวเล็กเอาไว้
"เสียงอะไรวะ"
ภัทรเอ่ยทักท้วงขึ้นมากลางวงเหล้าที่กำลังนั่งดื่มกัน
"เสียงเหมือนไอญาเลย เดี๋ยวกูไปดูน้องก่อน"
ขวัญจิราหันไปตอบชายหนุ่ม พร้อมลุกจากเก้าอี้เดินไปทางรีสอร์ต
"กูไปด้วย!"
ภัทรตะโกนตามหลังแล้ววิ่งตามเธอไป
"ไม่ต้องมาหัวเราะเลยนะ คุณแกล้งฉันใช่ไหม!"
ใบหน้าเล็กเผือดสีด้วยความตกใจ ตอนนี้หญิงสาวกำลังกอดคอเขาพร้อมเอาขาล็อกเอวชายหนุ่มไว้
"ผมเปล่า แค่ตกใจจิ้งจกเฉย ๆ"
เจ้าของร่างสูงยิ้มชอบใจ เขายังรู้สึกตลกท่าทีตกใจของหญิงสาวยังไม่หาย
"จิ้งจกงั้นเหรอ? อยู่ไหนอะ พาฉันออกไปจากที่นี่ เร็ว ๆ"
หญิงสาวรีบบอกสีหน้าแสดงออกถึงความหวาดกลัวและรังเกียจออกมาชัดเจน เธอบังคับให้ชายหนุ่มอุ้มเธอเดินออกจากห้องพัก ธามทั้งยิ้มและหัวเราะพาเธอเดินเปิดประตูออกไปจากห้อง ทันทีที่ทั้งคู่เดินออกมานอกห้องก็หันไปเจอกับเจ้าของสายตาคม ที่จ้องมองมาที่คนทั้งคู่
ตรีธาราและไอญารินทร์หยุดนิ่งไปความตกใจ เมื่อออกมาเจอภัทรกับขวัญจิรา และเมื่อตั้งสติได้หญิงสาวก็รีบกระโดดลงจากเอวเขาทันที
"นี่มันเรื่องอะไรกัน?"
ขวัญจิราทำหน้านิ่งเอ่ยถามทั้งคู่ออกไป
ก่อนที่ธามจะพาเพื่อนรักทั้งสองคนเข้าไปนั่งคุยกันในห้อง เมื่อเห็นว่าขวัญกำลังซักไซ้เอ่ยถามถึงความสัมพันธ์ของพวกเธอ
"ฮะ!"
ขวัญจิราอุทานเสียงดังขึ้น เมื่อได้ยินเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่วันที่อยู่บนเรือก่อนหันหน้าไปมองชายหนุ่มข้างกาย ภัทรพยักหน้าให้เธอเล็กน้อยเพื่อเป็นการให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขารู้เรื่องนี้มาก่อนแล้ว
"ทำไมถึงไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้พี่ฟัง แกกลัวมันเหรอ เดี๋ยวพี่จะจัดการให้เอง!"
ขวัญหันไปทางธามพร้อมเอาหมอนฟาดใส่เขาหนึ่งทีโทษฐานล่วงเกินน้องสาวของเธอ
"พี่ขวัญอย่า"
ไอญารินทร์เองก็ช่วยเข้าไปห้าม
"เฮ้ย! ก่อนมึงจะมาตีกูมึงถามก่อนไหมว่าใครเป็นคนเริ่ม!"
ธามสวนกลับเพื่อนสาวออกไป
ขวัญจิราจึงหันขวับไปมองหน้าไอญารินทร์ คนตัวเล็กหลบสายตาพี่สาว ก่อนจะหันไปมองตรีธาราด้วยสายตาแอบคาดโทษ
"แล้วที่พี่ยังไม่เห็นอธิบายเรื่องพี่กับพี่ภัทรเลย!"
ไอญารินทร์จ้องมองทั้งคู่สลับกัน เพราะเธอเองก็กุมความลับของพวกเขาสองคนเช่นกัน สีหน้าของคนเป็นพี่เลิ่กลั่กในทันทีเมื่อตัวเองเป็นฝ่ายโดนไต่สวนบ้าง
"พี่แค่แบกมันเข้าไปส่งในห้องแล้วเผลอหลับแค่นั้นเอง ไม่มีอะไร"
ภัทรตอบกลับน้องสาวด้วยสีหน้าที่นิ่งเรียบ
"เหรอ!!"
ทั้งไอญารินทร์และตรีธาราตะโกนสวนกลับทันทีด้วยสีหน้าไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูด
ตอนนี้ทั้งสี่คนต่างรู้ความลับซึ่งกันและกัน
เช้าวันรุ่งขึ้น ไอญารินทร์ ตรีธาราและขวัญจิราพากันเดินทางกลับก่อน จากเรื่องที่รับรู้เมื่อคืนทำให้ไม่สะดวกใจที่จะอยู่ต่อ
และไม่วายที่จะมีคนจับตามองเรื่องของเธอและเขา พร้อมกับมีภาพหลุดออกไปที่เห็นชายหนุ่ม และหญิงสาวอยู่ด้วยกันที่สนามบิน
ไอญารินทร์ไม่ค่อยชอบที่มีข่าวเธอกับผู้ชายคนนี้ ด้วยยังแอบกลัวว่าข่าวจะถึงหูอดีตคนรักเก่าที่แต่ตอนนี้เขาคงจะไม่ได้สนใจเธอแล้ว แม้จะรู้อยู่เต็มอกแต่เธอก็ยังแคร์ความรู้สึกของเขาอยู่ ซึ่งก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัว่า ทำไมถึงยังต้องให้ความสำคัญ ทั้ง ๆ ที่ก็เลิกรากันไปแล้ว
หญิงสาวเบื่อที่จะตอบคำถามพวกนี้กับสื่อ เธอถึงเลือกที่จะไม่รับงานอีเวนท์และใช้ชีวิตอยู่แต่คอนโดอีกครั้ง เพราะรู้สึกว่าสุขภาพตัวเองในตอนนี้ก็ไม่ค่อยจะดีด้วย
แหวะ!! อ้วกก!!
ไอญารินทร์ลุกมาอาเจียนตั้งแต่เริ่มเช้าวันใหม่
หลังกลับจากต่างจังหวัดหญิงสาวก็รู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังป่วย เธอจึงกินยาและนอนพักเผื่อว่ามันจะดีขึ้น แต่ก็ช่วยได้ไม่มากเพราะเธอมีอาการเช่นนี้ทุกเช้า สีหน้าเคร่งเครียดจ้องมองใบหน้าตัวเองผ่านกระจก พร้อมมองต่ำลงไปบริเวณท้องตัวเอง
"ไม่สิ มันต้องไม่เป็นแบบนี้สิ"
เพราะเธอรู้ว่าแม่ของเธอนั้นมีลูกยากจึงคิดว่าตัวเองก็คงจะเป็นเหมือนแม่ บวกกับกินยาคุมกำเนิดมาเป็นเวลานาน แค่ปล่อยครั้งเดียวมันคงจะไม่ท้องหรอก ก่อนหน้านี้จึงไม่ได้กังวลเรื่องนี้มากนัก
คนตัวเล็กรู้สึกเครียดหนัก เพราะเธอไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร ตอนนี้เธอรู้สึกกังวลเป็นอย่างมากถ้าเกิดว่าเธอท้องขึ้นมาจริง ๆ เธอจะทำยังไงต่อไป ทั้งชื่อเสียงในวงการ ทั้งครอบครัวของเธอ รวมถึงพ่อของลูกที่เธอเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นใคร
หญิงสาวกลัดกลุ้มคิดหนักจนสุดท้ายก็ร้องไห้ออกมา เธอไม่กล้าแม้แต่จะตรวจดูว่าตนเองนั้นตั้งครรภ์หรือไม่
ก๊อก ๆ ๆ
ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกหลุดออกจากภวังค์ เธอมองไปที่ประตูบานใหญ่พร้อมเดินไปส่องตาแมวดูบุคคลภายนอก ปรากฏว่าเป็นขวัญจิรา ไอญารินทร์รู้สึกโล่งใจเมื่อมีเธออยู่ข้าง ๆ
ทันทีที่ประตูบานใหญ่เปิดออก หญิงสาวตัวเล็กก็โผเข้าไปกอดผู้เป็นพี่สาวทันที พร้อมกับหยดน้ำตาที่รินไหลออกมา จากความรู้สึกที่สับสนวุ่นวายภายในใจ
"เฮ้ย เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม ใครทำอะไรแก!"
ขวัญจิราทำหน้าตกใจเมื่อเห็นน้องสาวร้องไห้สะอึกสะอื้นก่อนพุ่งเข้ามากอด
เมื่อมานั่งคุยกันภายในห้องนั่งเล่นก็ใช้เวลานานกว่าไอญารินทร์จะหยุดร้องไห้และเปิดใจพูดความจริง
"แกลองตรวจดูหรือยัง?"
สีหน้าตึงเครียดของพี่สาวจ้องมองไปที่น้องสาว
คนตัวเล็กส่ายหัวแทนคำตอบ พร้อมกับใบหน้าที่แปดเปื้อนคราบน้ำตาจนแพขนตาเปียกชุ่มอย่างเห็นได้ชัด
"แล้วแกตีโพยตีพายไปเองเนี่ยนะ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสรุปท้องหรือไม่ท้อง"
พี่สาวเอ่ยกับเธอด้วยน้ำเสียงดุ
"ไอกลัว ไอไม่กล้า"
น้ำเสียงอ่อนกล่าวออกไป แววตาของหญิงสาวดูกังวลจนน่าเป็นห่วง
"ซื้อมาตรวจเลยตอนนี้"
พี่สาวกดโทรศัพท์จะสั่งที่ตรวจครรภ์ผ่านแอปพลิเคชันสั่งของออนไลน์
"ไม่เอา"
มือเล็กยื่นไปจับมือพี่สาวพร้อมส่ายหัวเบา ๆ
"ไม่ตรวจวันนี้วันข้างหน้าก็ต้องตรวจ หนีความจริงไม่ได้หรอกนะไอญา เพราะฉะนั้นต้องตรวจถ้าเกิดท้องขึ้นมาจริง ๆ จะได้รีบหาวิธีเตรียมตัวรับมือ”
คนตัวเล็กจ้องหน้าพี่สาวด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล
หลังจากที่ได้ที่ตรวจครรภ์มา ไอญารินทร์ก็เข้าไปตรวจและวางทิ้งไว้ในห้องน้ำ เธอเดินออกมารอข้างนอกกับพี่สาวทั้งคู่ต่างรู้สึกวิตกกังวลกับเหตุการณ์ที่น่าตึงเครียดนี้
"ถ้าไอท้องขึ้นมาจริง ๆ จะทำยังไง ป๊ากับม้าคงผิดหวังในตัวไอมากแน่ ๆ ไหนจะงานในวงการอีก ไอคงจะถูกสังคมตราหน้าอีกแน่ ๆ"
น้ำเสียงสั่นเครือกล่าวขึ้นมาท่ามกลางความตึงเครียด
"ถ้าเกิดท้องขึ้นมาจริง ๆ แกมั่นใจกับคนไหนมากที่สุด"
ขวัญจิราเอ่ยถามด้วยสีหน้าจริงจัง แววตาของเธอจ้องมองไปที่ดวงหน้าเรียวเล็ก
"ไอไม่รู้ ... ไอไม่อยากให้เป็นลูกของใครทั้งนั้น ไอไม่อยากเก็บเขาเอาไว้เลยพี่ขวัญ!"
หญิงสาวก้มหน้าเล็กน้อยเอ่ยกับเธอพร้อมกับส่ายหัวเบา ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาพี่สาวอีกครั้งพร้อมกับน้ำตาที่นองใบหน้า
"ไม่ได้นะ! แกจะทำแบบนั้นไม่ได้นะไอญา ถ้าไม่มีคนรับผิดชอบ พี่จะช่วยเลี้ยงหลานพี่เอง ฉันไม่อยากให้แกมาเจ็บปวดทีหลังนะ อย่าใช้อารมณ์ชั่ววูบเด็ดขาด"
คนเป็นพี่เอ่ยเตือนสติไอญารินทร์ออกไป เมื่อเห็นน้องสาวพูดจาเช่นนั้น
พอได้เวลาทั้งคู่จึงเข้าห้องน้ำพร้อมกัน สองพี่น้องจับมือกันเอาไว้แน่น ทันทีที่หยิบที่ตรวจครรภ์ขึ้นมาดูไอญารินทร์แทบลมจับเมื่อเห็นว่ามันขึ้นสองขีด
หญิงสาวมองหน้าขวัญจิราด้วยสีหน้าสลด
เธอท้องจริง ๆ งั้นเหรอ?
หยาดน้ำสีใสที่เพิ่งจะหยุดค่อย ๆ ไหลออกจากดวงตาคู่สวยนั้นอีกครั้ง
จากที่นึกหาวิธีเตรียมรับมือเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ทว่าเวลานี้ในหัวเธอกลับว่างเปล่า มืดแปดด้าน มือเล็กหยิบที่ตรวจครรภ์อันที่สองขึ้นมาดูอีกครั้งซึ่งก็ขึ้นสองขีดเช่นกัน ขวัญจิราจึงดึงน้องสาวเข้ามาโอบกอดเอาไว้
"ไม่ต้องกลัวนะ ฉันจะไม่ปล่อยให้แกเผชิญมันคนเดียว เราจะผ่านมันไปให้ได้ ทุกปัญหาล้วนมีทางออกอยู่เสมอนะ"
ขวัญจิราเองก็แอบน้ำตาซึมเพราะรู้สึกสงสารน้องสาวของเธอที่ต้องเจอกับเรื่องราวมากมายขนาดนี้ เพิ่งจะผ่านมรสุมมาได้ไม่นานตอนนี้ก็ต้องมาเจอกับอีกหนึ่งปัญหาใหญ่
ไอญารินทร์อยากใช้เวลาอยู่เพียงลำพังจึงขอให้พี่สาวกลับไปก่อน เธอรู้สึกฟุ้งซ่านจนต้องหาวิธีเรียกสติของตัวเองกลับมา ขวัญจิราเองก็แอบเป็นห่วงกลัวว่าน้องสาวจะคิดทำอะไรไม่ดี แต่สุดท้ายก็ต้องยอมกลับไป
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?