ตอนที่ 4 หมดรัก

คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายบนเรือ ทุกคนก็รวมตัวกันล้อมวงนั่งดื่มกันอีกเช่นเคย ทว่าไอญารินทร์ไม่อยากดื่มแอลกอฮอล์อีกแล้ว จึงขอตัวไปนั่งเล่นรับลมชิว ๆ ที่หัวเรือด้านบน ธามเห็นเช่นนั้นจึงแอบเดินตามขึ้นไป 

"มานั่งทำอะไรคนเดียวตรงนี้"

ร่างสูงเอ่ยถามพร้อมกับนั่งลงข้าง ๆ 

หญิงสาวหันไปมองผู้ที่เพิ่งมาใหม่ก่อนจะตอบคำถามเขาออกไป 

"ฉันอยากอยู่คนเดียวค่ะ อยากให้เวลาตัวเองได้คิดอะไรเรื่อยเปื่อย"

น้ำเสียงนิ่งเรียบตอบกลับไป

จากที่ตึงใส่กันทั้งวันจู่ ๆ ก็เดินมาชวนเธอคุยซะงั้น เดาอารมณ์ยากจริงผู้ชายคนนี้ 

"หึ! ... สิบปี … ชีวิตวัยรุ่นเธอทั้งชีวิตเลยนี่"

ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นกับหญิงสาวคนข้าง ๆ 

"ฉันไม่เคยเสียดายเวลาที่ได้ใช้ไปค่ะ เขาคือผู้ชายคนแรกที่ฉันรัก และก็เป็นคนที่ฉันคิดจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันกับเขา"

ไอญารินทร์ตอบกลับไปด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจ ที่เขามาก้าวก่ายเรื่องของเธอมากเกินไปทั้งที่เพิ่งจะรู้จักกันและไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น 

"จำคำที่เธอพูดเอาไว้ก็แล้วกัน ไม่มีสิ่งใดในโลกคงอยู่ตลอดไปหรอกนะ หึ!"

พูดจบเขาก็ลุกขึ้นเดินจากไป ปล่อยให้หญิงสาวตั้งคำถามกับคำพูดของเขา ในตอนนี้ไอญารินทร์ยังคงรักอดีตคนรักอยู่เต็มหัวใจจึงไม่แปลกที่จะรักใครไม่ได้เท่าผู้ชายคนนี้อีกแล้ว เพราะภูคือคนแรกในทุก ๆ เรื่องของเธอ 

เช้าวันรุ่งขึ้นทุกคนก็เก็บของเตรียมตัวกลับบ้าน การมาเที่ยวพักผ่อนในครั้งนี้อาจจะไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมากนัก แต่อย่างน้อยก็ได้รู้จักพี่ ๆ และมิตรภาพดี ๆ จากทุกคนยกเว้นผู้ชายคนนั้น

"ไอว่าจะกลับไปอยู่คอนโดแล้วนะ จะกลับไปทำงานให้หนักจะได้ไม่ต้องมีเวลามาคิดเรื่องพวกนี้"

เมื่อกลับถึงบ้านของขวัญจิรา ไอญารินทร์ก็ได้บอกลาพี่สาวเพื่อที่จะกลับไปอยู่คอนโดของตัวเองเช่นเคย 

"อยู่คนเดียวไหวแน่นะ"

ขวัญจิราแสดงสีหน้าเป็นห่วงน้องสาว ด้วยทั้งคู่ถูกเลี้ยงดูเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ในบรรดาพี่น้องในตระกูลก็มีเพียงขวัญจิราที่อายุไล่เลี่ยกับเธอทำให้ค่อนข้างสนิทกัน เพราะเธอเป็นน้องเล็กของตระกูลทำให้ไม่ค่อยสนิทกับพวกเฮีย ๆ ที่โตกันแล้วสักเท่าไหร่ 

"สบายมาก ไม่ต้องเป็นห่วง"

ไอญารินทร์บอกพลางยิ้มให้กับพี่สาว

"ฉันเชื่อว่าแกจะผ่านมันไปได้ ปล่อยให้เวลาทำหน้าที่ของมันสักวันหนึ่งแกจะพบคนที่คู่ควรกับแกจริง ๆ"

มือเล็กบีบไปที่ไหล่ของน้องสาวเบา ๆ เพื่อให้กำลังใจ 

"อย่าชวนซึ้งสิ เดี๋ยวจะร้องไห้อีกรอบนะ"

ดวงตากลมมีหยาดน้ำสีใสกลิ้งไปมาภายในดวงตา พี่สาวเองก็ไม่ต่างกัน 

ไอญารินทร์กลับมาอยู่คนเดียวที่คอนโดฯ เธอก็ให้ผู้จัดการส่วนตัวรับงานอย่างเต็มตารางเพื่อที่จะให้ตัวเองไม่ต้องมีเวลาว่างมานั่งคิดฟุ้งซ่าน 

"ไหวแน่นะ"

พี่หวาน ผู้จัดการส่วนตัวเอ่ยถามเธอด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นว่าไอญารินทร์รับงานทุกวันเต็มสัปดาห์

"ไหวค่ะ"

คนพร้อมทำงานตอบกลับไปด้วยความมั่นใจ 

วันนี้เธอมีงานไปแคสต์บทนักแสดง ในขณะที่กำลังเตรียมตัวอยู่ จู่ ๆ ก็มีสายเรียกเข้าจากโทรศัพท์ดังขึ้น เมื่อก้มลงมองดูหัวใจหญิงสวก็หล่นวูบตกลงไปอยู่ที่พื้นทันที

ชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ทำให้หญิงสาวต้องกลับไปคิดถึงเจ้าของเบอร์นั้นอีกครั้ง เธอชั่งใจอยู่ชั่วขณะก่อนจะกดรับสายโทรศัพท์จากอดีตคนรัก 

"ฮัลโหลครับไอ"

เสียงเอ่ยทักจากปลายสายทำเอาหญิงสาวรู้สึกดีใจที่ได้ยินเสียงเขาอีกครั้งจนไม่สามารถกลั้นน้ำตาเอาไว้อยู่ 

"..."

ไอญารินทร์เอามือปิดปากแน่นกลัวว่าเขาจะได้ยินเสียงเธอร้องไห้

"ไอได้ยินภูไหม ฮัลโหล"

เขาเอ่ยถามเธออีกรอบเมื่อเห็นว่าปลายสายนิ่งเงียบไม่ยอมตอบกลับ 

"ค่ะ ภูมีธุระอะไรหรือเปล่า"

หญิงสาวพยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติที่สุด เพื่อไม่ให้ปลายสายจับได้ว่าตนเองนั้นกำลังร้องไห้อยู่ในขณะนี้ 

"อีกสักพักภูจะเข้าไปเก็บของนะ โทรมาบอกให้ไอรู้เฉย ๆ"

ชายหนุ่มตอบประโยคนี้ออกมาทำเอาหญิงสาวร้องไห้หนักไปกว่าเดิม มันคงจบแล้วจริง ๆ สินะเรื่องของเรา เขากำลังจะไปจากฉันแล้วจริง ๆ สินะ

"โอเคค่ะ"

น้ำเสียงสั่นตอบกลับเขาไป เมื่อวางสายจากภู ไอญารินทร์ก็รีบไปยกเลิกนัดกับผู้จัดการ เธออยากเจอหน้าเขาเป็นครั้งสุดท้ายเผื่อว่ามันจะสามารถเปลี่ยนใจให้ภูไม่ไปจากเธอ 

ไอญารินทร์แต่งหน้าแต่งตัวฉีดน้ำหอมเพื่อให้ตนเองดูดีในสายตาอดีตคนรัก ก่อนมานั่งรอเขาอยู่ที่โซฟาตัวยาวในห้องรับแขก มือเล็กกุมกันเอาไว้แน่นจนเหงื่อออกเต็มมือ เวลานี้หญิงสาวรู้สึกตื่นเต้นเหมือนครั้งแรกที่ได้เจอกับเขา 

เมื่อ 10 ปีก่อน

ณ ร้านกาแฟแห่งหนึ่งแถวมหาวิทยาลัยที่เธอเรียนอยู่ หญิงสาวกำลังนั่งรอชายหนุ่มที่เธอจะมาเดทด้วยวันนี้ ทั้งคู่ยังไม่เคยเจอหน้ากันเพียงแต่รู้จักกันผ่านเพื่อนของตนเอง

สาเหตุที่ภูต้องมาเดทกับไอญารินทร์นั้น เนื่องมาจากเขาแพ้พนันกับเพื่อนจึงถูกบังคับให้มาเดทกับเธอในวันนี้ ชายหนุ่มเองเป็นถึงหนุ่มฮ็อตในมหาวิทยาลัยก็ว่าได้ เพราะเขาเป็นถึงเดือนคณะวิศวะ เป็นที่หมายปองของสาว ๆ หลายคน

ทว่าภูก็ไม่ได้สนใจใครเป็นพิเศษ และเมื่อถูกบังคับให้มาเดทกับไอญารินทร์เขาก็ต้องมาอย่างจำใจโดยไม่ได้คาดหวังอะไร

ไอญารินทร์เองก็ไม่ได้น้อยหน้า เพราะเธอเองก็เป็นถึงดาวคณะนิเทศศาสตร์ ขวัญใจหนุ่ม ๆ ในมหาวิทยาลัยเช่นกัน มีหนุ่ม ๆ มาขายขนมจีบอย่างไม่ขาดสาย แต่เธอก็ไม่ได้สนใจและไม่เคยมีความรักมาก่อน จนเมื่อขึ้นปีสามหญิงสาวจึงลองตัดสินใจไปเดทกับคนที่เพื่อนเธอคะยั้นคะยอและพูดกรอกหูอยู่ทุกวัน

ไอญารินทร์ตื่นเต้นที่จะได้เดทกับผู้ชายคนแรกในชีวิต เธอนั่งรอเขาอย่างใจจดใจจ่อ มือเล็กบีบกันไปมาจนเริ่มมีเหงื่อออก เวลาผ่านไปนานเกือบครึ่งชั่วโมง หญิงสาวผ่อนลมหายใจยาวออกมาเพราะคิดว่าคงจะโดนเขาเทแล้ว

ทว่าจู่ ๆ ชายร่างสูงก็วิ่งเปิดประตูเข้ามาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยืนค้ำประตูด้วยความเหนื่อยหอบ ทุกคนภายในร้านต่างพากันมองไปที่เขา รวมถึงตัวหญิงสาวด้วย แวบแรกที่ได้เห็นหน้าเขา คนที่นั่งรออยู่ก่อนรู้ได้ทันทีว่า นี่คือภู ภาณัต คู่เดทของเธอในวันนี้

ภาณัตมองหน้าหญิงสาวสาวที่นั่งติดกับกระจกนิดหนึ่ง ก่อนจะได้เดินเข้าไปหา คนตัวเล็กหัวใจเต้นแรงอย่างไม่เป็นจังหวะด้วยความรู้สึกตื่นเต้นเมื่อเห็นชายหนุ่มกำลังเดินตรงเข้ามาหา

"ไอญาใช่ไหมครับ"

น้ำเสียงเหนื่อยหอบเอ่ยถามเธอออกไป

"ใช่ค่ะ ภูใช่ไหมคะ?"

เธอถามเขากลับไปเพื่อความแน่ใจ ชายหนุ่มก็พยักหน้ายิ้มให้พร้อมนั่งลงตรงหน้าหญิงสาว 

"ทำไมถึงมาสภาพนี้ละคะ?"

ไอญารินทร์ยิ้มและเอ่ยถามเขาออกไป 

"เอ่อ...พอดีรถมันติดหนักมากเลยแถวนี้ ภูเลยวิ่งมากลัวว่าไอญารินทร์จะรอนาน"

ชายหนุ่มตอบกลับหญิงสาวด้วยท่าทีที่เคอะเขินพร้อมยกแขนขึ้นเกาศีรษะตัวเองเบา ๆ แก้เขิน

หญิงสาวรู้สึกประทับใจเขาในครั้งแรกที่เจอกันเป็นอย่างมาก เธอนึกถึงเรื่องราวในอดีตทีไรก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงความน่ารักของเขาในตอนนั้น 

ติ๊ด ๆ ๆ ๆ แกร๊ก!

เสียงกดรหัสผ่านพร้อมกับประตูบานใหญ่ที่ถูกเปิดเข้ามา หญิงสาวจึงรีบหันไปมองอย่างโดยเร็ว 

"อ้าว ... ภูนึกว่าไอไม่อยู่ซะอีก"

ชายหนุ่มเอ่ยทักคนที่อยู่ในห้องด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม 

"ไออยากเจอภูค่ะ"

หญิงสาวตอบกลับไปตรง ๆ ตามความรู้สึก 

คนที่เพิ่งมาปิดประตูแล้วเปลี่ยนใส่สลิปเปอร์ เขาสังเกตเห็นว่ารองเท้าของเขายังคงวางไว้อยู่ที่เดิม 

"ไม่ได้ไปทำงานเหรอครับ"

ร่างสูงเดินตรงเข้ามาในห้องรับแขก 

"ไอบอกแล้วไงคะ ว่าไออยากเจอหน้าภู ไอถึงอยู่รอเพื่อเจอภูไงคะ"

น้ำเสียงสั่นตอบออกไป แววตามีน้ำใส ๆ เอ่อล้น

จากคำตอบของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มรู้สึกลำบากใจ ทว่าสีหน้าและแววตาที่มองเธอนั้นยังคงเย็นชาไร้ความรู้สึก สร้างความรู้สึกเจ็บปวดให้กับคนรอที่จะพบเจอเป็นอย่างมาก 

"เดี๋ยวภูขอตัวไปเก็บของก่อนนะ"

ร่างสูงเปลี่ยนประเด็นพร้อมตอบกลับเธอด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบเช่นเดิมแล้วเดินเข้าไปในห้องนอน หญิงสาวมองเขาจากทางด้านหลังพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ 

เธอนั่งร้องไห้อยู่ที่ห้องรับแขกเพียงลำพัง ด้วยความรู้สึกเสียใจ เหตุใดเขาถึงได้เย็นชากับเธออย่างกับคนไม่เคยรักกัน เขาหมดรักฉันแล้วจริง ๆ เหรอ? สิบปีไม่มีความหมายเลยหรือยังไง? เธอคิดหาวิธีที่จะยื้อเขาไว้ให้อยู่กับเธอให้นานที่สุด

เวลาผ่านไปไม่นานชายหนุ่มก็เดินออกมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ เขามองไอญารินทร์จากทางด้านหลังก็พอจะรู้ว่าตอนนี้หญิงสาวกำลังนั่งร้องไห้อยู่ 

"ส่วนที่เหลือแล้วแต่ไอเลยนะว่าจะเก็บเอาไว้ไหม หรือถ้าจะทิ้งก็ไม่เป็นไร"

ชายหนุ่มเอ่ยบอกน้ำเสียงอ่อนลง

"ไอขอคุยด้วยได้ไหม"

เสียงแหบขึ้นจมูกเอ่ยถามออกไป เมื่อหันหน้าไปมองชายหนุ่ม ก็เผยให้เห็นสีหน้าของคนตัวเล็กที่ร้องไห้จนตาแดงจมูกแดงไปหมด ภาณัตจึงเดินเข้าไปนั่งลงข้าง ๆ หญิงสาวพร้อมกับยื่นมือไปกุมมือเธอเอาไว้เพื่อปลอบ

"ไม่ร้องไห้สิคะ ... เดี๋ยวจะไม่สวยเอานะ"

ชายหนุ่มพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมกับยื่นมือไปเช็ดน้ำตา คนกำลังร้องไห้มองหน้าเขาการกระทำของอีกฝ่ายในตอนนี้ยิ่งทำให้น้ำตาหลั่งไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ 

"อยู่กับไอได้ไหม ภูไม่ทิ้งไอไปได้ไหมไออยู่ไม่ไหวจริง ๆ ไอต้องการภู"

น้ำเสียงสั่น ดวงตาที่ฉายแววความเจ็บปวดแสดงออกมาให้อีกฝ่ายเห็นชัดเจน

"ภูไม่ได้ไปไหน ภูยังอยู่ตรงนี้เสมอ อยู่ข้าง ๆ ไอ เมื่อไหร่ที่ไอต้องการความช่วยเหลือ ภูก็พร้อมเสมอ ภูไม่ได้ทิ้งไอไปไหนเพียงแต่เราเปลี่ยนสถานะจากคำว่าแฟน มาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เข้าใจที่ภูพูดใช่ไหม"

มือใหญ่ลูบศีรษะหญิงสาวที่กำลังร้องไห้อย่างน่าสงสาร เขาเองก็รู้สึกเจ็บปวดไม่ต่างจากเธอเมื่อต้องเห็นไอญารินทร์กำลังจมอยู่กับความทุกข์ทรมานเช่นนี้ 

"ไออยากมีภูอยู่ข้าง ๆ เราจะมีเบบี๋ด้วยกันไงคะ ผู้หญิงหนึ่งคนผู้ชายหนึ่งคน ... ให้ลูกเรียกไอว่ามะม้า เรียกภูว่าปะป๊า ภูเคยบอกอยากเป็นพ่อที่ดีของลูกเราไงคะ"

หญิงสาวร้องไห้สะอึกสะอื้นพร้อมเอ่ยถึงเรื่องนี้ที่เธอคิดว่าเป็นสาเหตุของการที่ชายหนุ่มตัดสินใจบอกเลิกเธอ เพราะก่อนหน้านี้ไอญารินทร์มักจะบอกว่ายังไม่พร้อมจะมีลูกในตอนนี้เพราะอยากทำงานอีกสักพัก 

"ภูเชื่อนะ ว่าไอจะเจอพ่อที่ดีของลูกไอแน่ ๆ คนที่รักไอมากกว่าภู ดีกับไอมากกว่าภู เชื่อภูนะคนเก่ง"

ชายหนุ่มลูบศีรษะหญิงสาวพร้อมเอ่ยปลอบใจเธอ 

"แต่เขาไม่ใช่คนที่ไอรักไงคะ ไอรักภู ภูเข้าใจไหมว่าไอรักภู!"

หญิงสาวร้องไห้อย่างเอาแต่ใจ อีกฝ่ายจึงได้แต่นิ่งเงียบไม่ได้ตอบโต้อะไรเธอ 

"ภูหมดรักไอจริง ๆ เหรอคะ ... ไอทำใจไม่ได้จริง ๆ ที่ต้องเห็นภูไปรักคนอื่น ... ไอรับความรู้สึกพวกนี้ไม่ไหวแล้วจริง ๆ"

น้ำเสียงอ่อนเอ่ยออกไปด้วยความเหนื่อยล้าจากการร้องไห้ที่แสนหนักหน่วง หญิงสาวเข้าไปสวมกอดและซบไปที่อกแน่นของอดีตคนรัก

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ