ภาณัตไม่ได้ปฏิเสธอะไรหญิงสาวออกไปเพียงแต่ปล่อยให้เธอกอดเขา และร้องไห้จนพอใจ
มือเล็กผละออกจากชายหนุ่ม ใบหน้าของเธอยังคงเต็มไปด้วยคราบน้ำตา คนตัวเล็กสบตากับเขานิ่ง ๆ ชายหนุ่มยื่นมือมาเช็ดน้ำตาให้ หญิงสาวมองหน้าอีกฝ่ายนิดหนึ่งก่อนยืนขึ้นแล้วถอดเสื้อผ้าของตนเองออก แม้จะรู้สึกสมเพชตัวเองที่ต้องทำแบบนี้ แต่เพื่อยื้อเขาเอาไว้ เธอสามารถทำได้ทุกสิ่ง
"ไออย่าทำแบบนี้เลยนะ"
ร่างสูงมองเธอนิ่ง ๆ ก่อนกล่าวออกไป
หญิงสาวไม่สนใจที่เขาพูด เธอถอดเสื้อผ้าออกจนหมดพร้อมเดินเข้าไปนั่งลงบนตักแกร่งของเขา แขนเล็กคล้องไปที่คอของชายหนุ่มแล้วดึงเข้ามาจูบ
ภูยังคงนิ่งในตอนแรกแต่ก็โดนหญิงสาวรุกหนักจนเขาเองก็ทนไม่ไหว ชายหนุ่มจึงอุ้มเธอเข้าไปในห้องนอน ไอญารินทร์ยังคงจูบกับเขาอย่างดูดดื่ม ร่างสูงวางหญิงสาวลงที่เตียงอย่างเบา ๆ พร้อมกับขึ้นคร่อมไปจูบกับเธอ
ไอญารินทร์ผลักให้ภูนอนลงเปลี่ยนเป็นเธอขึ้นคร่อมบนตัวของเขาแทน มือเล็กลูบไล้ไปตามแผงอกของชายหนุ่มพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ด
ไม่นานเสื้อผ้าของเขาก็หลุดลงไปกองที่พื้น ทั้งคู่กอดฟัดนัวเนียกันอยู่บนเตียง โดยฝ่ายชายก็เริ่มมีอารมณ์ร่วมกับเธอ แม้ไอญารินทร์จะรู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีทางเปลี่ยนใจเขาได้ แต่เธอก็ยังคงเลือกที่จะทำเช่นนี้
แววตาเศร้าหมองมองไปยังแผ่นหลังของชายที่คุ้นเคย ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังสวมใส่เสื้อผ้าหลังจากเสร็จภารกิจเรื่องบนเตียง
"ภูไปแล้วนะ ดูแลตัวเองด้วยนะครับ"
ชายหนุ่มก้มลงไปลูบหัวหญิงสาวใต้ผ้าห่ม พร้อมจูบไปที่หน้าผากของเธอเบา ๆ
หญิงสาวคว้าเสื้อเขาไว้เพือยื้อเขาไว้เป็นครั้งสุดท้าย ดวงตาเศร้าที่เต็มไปด้วยน้ำใส ๆ มองหน้าอีกฝ่ายอย่างตัดพ้อ เธอไม่สามารถยื้อเขาไว้ได้อีกต่อไปแล้ว ภาณัตมองเธอด้วยแววตาที่ว่างเปล่า สายตาที่มองเธอในตอนนี้มันคือคำตอบที่ชัดเจนแล้ว
"ภูจะไปจริง ๆ เหรอ"
เธอถามออกไปอีกครั้ง
"ไม่มีภูไอต้องดูแลตัวเองให้ดี ๆ นะ ยิ้มเยอะ ๆ อย่าเศร้านานนะ แล้วก็ไม่ต้องร้องไห้อีกแล้วเข้าใจไหม"
แม้จะจากกันแล้วเขาก็ยังทำให้เธอรักอยู่เหมือนเดิม
ตลอดระยะเวลาที่คบกันมาทั้งคู่ไม่เคยมีเรื่องนอกใจหรือมือที่สามเลย ทั้งสองคนรักกันดีและเป็นพลังบวกให้กันและกันมาตลอด แล้วปัญหามันอยู่ที่ตรงไหนกัน เขาถึงได้หมดรักเธออย่างไร้เยื่อใยเช่นนี้
หลังจากชายหนุ่มกลับไป หญิงสาวต้องกลับมาเริ่มนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง เธอกลับมาเศร้าอีกรอบแต่ครั้งนี้หญิงสาวตั้งใจที่จะปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความเศร้าอย่างถึงที่สุด และจะกลับมาสดใสให้ได้อีกเช่นเคย
ไอญารินทร์ยกเลิกงานทุกอย่างแบบกะทันหัน เธอตัดสินใจที่จะใช้เวลาอยู่กับตัวเองสักพักจนทำให้หญิงสาวเป็นข่าวขึ้นมาอีกรอบ
ดาราสาวซุ่มเลิกอดีตคนรักไฮโซหนุ่มชื่อดัง ปิดฉากรัก 10 ปี ไม่ได้แต่งเสียศูนย์จนเลิกรับงานในวงการไปสักพัก ...
นักข่าวต่างเขียนข่าวของเธอกันอย่างสนุกปาก มือหนากำลังไถหน้าจอไอแพดของตนเองขณะที่นั่งอยู่ที่ในห้องทำงาน เขากำลังเลื่อนอ่านข่าวของผู้หญิงคนนั้นอยู่ในขณะนี้
"เสียใจขนาดนั้นเลยกับแค่แฟนคนแรก เหอะ!"
ธามวางไอแพดลงบนโต๊ะเสียงดังจนทำให้ผู้ที่เดินเข้ามาใหม่ตกใจ
"โมโหอะไรเนี่ย!"
ร่างสูงของน้องชายเดินเข้ามาเอ่ยทักทายพี่ชายของเขา
"อ้าว นึกว่าไปภูเก็ตกับป๊ากับแม่ซะอีก"
ชายหนุ่มเอ่ยถามน้องชายที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมลูก และเมีย
"ไม่ได้ไปอะ เจ้าตัวเล็กป่วย"
เธียร์พูดพร้อมหันไปทางลูกชายที่นอนซมอยู่ในรถเข็นที่นลินจับไว้อยู่
"เด็กดื้อของลุงหมดพลังแล้วเหรอเนี่ย"
ธามเปลี่ยนโทนเสียงแล้วลุกจากเก้าอี้เดินไปหาหลานทันที
"น้องวินทร์ยังมีพลังอยู่นะ น้องวินทร์กินนมแล้วมีพลัง ... นี่!"
เสียงแหบพร่าของเด็กที่ป่วยเป็นหวัดเอ่ยคุยกับลุงของเขา พร้อมแสดงทีท่าที่แข็งแรงโชว์พลังออกไป ทำเอาทุกคนต่างอมยิ้มไปตาม ๆ กัน
"อันนี้ลินกับพี่เธียร์แวะซื้อมาฝากค่ะ"
นลินส่งถุงขนมในมือให้กับธาม
"นี่จะพากันไปไหนต่อเหรอ"
ธามเอ่ยถามทั้งคู่ออกไป
"กำลังจะกลับเลยแวะเข้ามาหาแป๊บหนึ่ง"
เธียร์ตอบกลับพี่ชาย ทั้งคู่พูดคุยกันอยู่สักพักก่อนน้องชายจะขอตัวกลับไป เมื่อได้เห็นภาพครอบครัวที่อบอุ่นพ่อแม่ลูก เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉา และอยากสัมผัสกับความรู้สึกเหล่านั้น การได้กลับบ้านไปเจอคนที่เรารักรออยู่มันคงจะเป็นความรู้สึกที่ดีมาก ๆ เลยสินะ
ตอนนี้ไอญารินทร์เริ่มที่จะดีขึ้นแล้ว เธอเริ่มไม่คิดถึงและไม่โหยหาอดีตคนรักอย่างเมื่อก่อนแล้ว หญิงสาวกลับเข้ามารับงานได้อย่างปกติอีกครั้ง
แม้ก่อนหน้านี้เธอจะเป็นข่าวและโดนขุดถึงเรื่องราวของการเลิกรา แต่หญิงสาวก็ไม่ได้ออกมาแก้ข่าวแต่อย่างใด ปล่อยให้ทุกคนเข้าใจในแบบที่พวกเขาคิดก็แล้วกัน เพราะเธอคิดว่ามันเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขา แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะเจอคำถามเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีต
"ขออนุญาตนะคะมีข่าวลือที่ว่ามีมือที่สามคือไฮโซชื่อตัวย่อ ธ ที่ไปล่องเรือด้วยกันเมื่อเดือนก่อนนี่จริงไหมคะ"
นักข่าวคนหนึ่งเปิดประเด็นคำถามที่ทำเอาฮือฮากลางวงสัมภาษณ์ ทุกคนต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ไอญารินทร์ตกใจเหมือนกันที่มีคนรู้เรื่องนี้ หญิงสาวแอบคิดไปถึงเรื่องในคืนนั้น หญิงสาวยังไม่ได้เห็นข่าวนั้น แต่ก็อดคิดไปต่าง ๆ นานาไม่ได้
"สาเหตุที่ปิดฉากรัก 10 ปีเป็นเพราะเหตุผลนี้หรือเปล่าคะ?"
นักข่าวอีกคนจ่อไมค์ถามเอาคำตอบจากไอญารินทร์
"คะ? เอ่อ ... คือเรื่องนี้ไอคิดว่ามันควรจะจบได้แล้วนะคะ ตอนนี้ไอกับคุณภูก็ตัดสินใจแยกกันไปใช้ชีวิตของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราทั้งคู่จบกันด้วยดีไม่ได้มีมือที่สามอย่างที่เป็นข่าว สาเหตุก็เกิดจากปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ไลฟ์สไตล์ที่ต่างกันมากขึ้นอะไรประมาณนี้ค่ะ และไอก็คิดว่าเรื่องนี้ไม่ควรดึงคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องให้เขาเสียหายนะคะ"
ไอญารินทร์ตอบนักข่าวออกไปอย่างใจเย็น
"แล้วรูปที่นั่งเจ็ทสกีด้วยกันนี่หมายความว่ายังไงคะ? ทั้งคู่สนิทกันมาก่อนเหรอคะ?"
หญิงสาวรู้สึกตกใจเมื่อได้ฟังคำถามนี้ พวกเขารู้เรื่องนี้ได้ยังไงกันและที่สำคัญมีภาพหลุดออกไปได้อย่างไร ไอญารินทร์นิ่งไปชั่วขณะจนผู้จัดการต้องเข้ามาดึงเธอออกไป
"ขอโทษพี่ ๆ สื่อมวลชนทุกท่านด้วยนะคะน้องไอมีงานต่อต้องขอตัวก่อนเดี๋ยวจะไปสายขอโทษพี่ ๆ ทุกคนด้วยนะคะ"
ผู้จัดการสาวรีบเข้ามาดึงแขนและพาเธอไปขึ้นรถตู้แล้วขับออกไป
ไอญารินทร์ไม่นิ่งนอนใจรีบโทรหาขวัญจิราทันที เรื่องนี้เธอต้องหาคำตอบให้ได้ว่าใครคือคนปล่อยข่าวพวกนี้ เธอเชื่อว่าต้องเป็นใครสักคนที่อยู่บนเรือนั่นแน่ ๆ
"ฉันไม่แน่ใจเหมือนกัน ฉันไม่ได้สนใจคนรอบข้างสักเท่าไร ตอนนั้นฉันก็เป็นห่วงแกก็เลยโฟกัสแค่แกไม่ได้สนใจเพื่อนคนอื่น ใครมันจะไปมีอารมณ์ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายวะนาทีนั้น"
พี่สาวของเธอเอ่ยกลับไป
"ดูจากรูปที่เป็นข่าว ต้องเป็นตอนที่ไอขึ้นจากน้ำแล้วกำลังกลับไปที่เรือ ถ้าจะเป็นพนักงานบนเรือเขาคงจะไม่กล้าแอบถ่ายลูกค้าแบบนี้หรอกมั้ง"
ไอญานั่งทำหน้าครุ่นคิดอย่างจริงจัง ใครกันนะที่ต้องการจะทำลายชื่อเสียงของเธอ
"แล้วกับคนบนเรือแกไม่ถูกชะตากับใครมากที่สุดล่ะ"
ขวัญจิราเอ่ยถามเผื่อว่าจะหาเบาะแสผู้ที่กระทำได้บ้าง
"พี่ธาม! ไอเกลียดขี้หน้าเขาที่สุดแล้ว"
ไอญารินทร์ตอบออกไปแบบไม่คิด นอกจากธามก็ไม่มีใครแล้วที่จะมากวนประสาทเธอได้เท่าเขา คนอะไรรู้สึกไม่ถูกชะตาตั้งแต่แรกเจอ
"บ้าหรือเปล่า? แล้วไอ้ธามมันจะปล่อยรูปตัวเองให้เป็นข่าวทำไมวะ และที่สำคัญมันจะเอารูปมาจากใคร"
คำพูดของขวัญจิราก็น่าคิดเช่นกันแต่ใครจะไปรู้ล่ะ ไม่แน่เขาอาจจะอยากกลั่นแกล้งเธอ อีตานี่ยิ่งอารมณ์ผีเข้าผีออก
"ไม่รู้สิ นอกจากเขาไอก็ไม่คิดว่าจะมีปัญหากับใครแล้วล่ะ พี่ก็เห็นว่าไอไม่ค่อยไปสุงสิงกับใครสักหน่อย"
ไอญารินทร์ตอบเขาออกไป
"ก็จริงของแก เอ่อ ... ลืมบอก อาทิตย์หน้าวันเกิดพี่เม พี่เมให้มาชวนแกไปด้วย รอบนี้ขึ้นเหนือไปจัดที่รีสอร์ตของแก เคลียร์ตารางงานไว้ด้วยล่ะ สักสามสี่วัน"
พี่สาวของเธอเอ่ยชวนไอญารินทร์
"ไอยังไม่ทันตอบเลยว่าจะไปด้วยหรือเปล่า"
ไอญารินทร์ยังไม่แน่ใจว่าจะไปดีไหม เพราะเธอเองก็ไม่อยากจะเจอหน้าธามสักเท่าไร
"แกไม่อยากรู้เหรอว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวแก นี่ไง ... ใช้โอกาสนี้แหละไปสืบหาตัวคนทำ"
เมื่อได้ฟังที่ขวัญจิราพูดก็ทำให้คิดได้ขึ้นมาทันที ก็จริงอย่างที่พี่สาวบอก เธอเองก็อยากจะรู้ว่าใครเป็นคนทำและทำไปทำไม ทั้ง ๆ ที่เธอเองก็ไม่ได้ไปทำอะไรให้ใครไม่พอใจเลยสักนิด
"โอเคงั้นไอไป พี่ต้องช่วยไอด้วยนะ"
หญิงสาวตอบตกลงออกไป
เมื่อถึงวันที่จะต้องเดินทางไอญารินทร์บอกให้ขวัญจิรามารับเธอไปยังสนามบิน แต่เมื่อลงมาด้านล่างของคอนโด คนที่มารับเธอกลับไม่ใช่ผู้เป็นพี่สาวแต่ดันเป็นคนที่เธอไม่อยากเจอมากที่สุด
"ขวัญสั่งให้ฉันมารับเธอ เร็ว ๆ รีบเดินสิ มัวแต่ลีลาอยู่นั่นเดี๋ยวก็ตกเครื่องเอาหรอก"
น้ำเสียงแข็งกระด้างเอ่ยขึ้น เจอหน้าปุ๊บเขาก็พูดจาหาเรื่องเธอทันที
"รีบทำไมไม่ไปก่อนละคะ ไอไปเองได้ค่ะ"
หญิงสาวตอบกลับชายหนุ่มไปด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจ
"เถียงคำไม่ตกฟาก"
คนตัวสูงดุเธอออกไปพร้อมแย่งกระเป๋าเดินทางในมือเล็กนั้นมาถือเอาไว้เอง
"หึ!"
เจอหน้าเขาทีไรเธอมักจะรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที เพราะชายหนุ่มเอาแต่พูดจากวนประสาทเธออยู่นั่น
"ขนอะไรไปเยอะแยะเนี่ย จะย้ายบ้านหรือไง?"
ร่างสูงยกกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของเธอขึ้นหลังรถยนต์ และไม่วายที่จะหันมาบ่น ทำเอาหญิงสาวมองแรงใส่เขาและเดินหนีไปขึ้นรถไปเพื่อออกเดินทางไปยังสนามบิน
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?