“คุณธีมีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าครับ?” เด่นชัยถามขึ้นหลังจากที่สังเกตอีกฝ่ายมาพักใหญ่แล้วพบว่าแม้จะมีสีหน้าเรียบนิ่งตามปกติ แต่มันก็แอบดูคล้ายจะเซ็งหรือไม่ก็หนักใจอยู่หน่อย ๆ
“ไม่ได้ไม่สบายใจ ก็แค่รำคาญ” กันต์ธีตอบ
“รำคาญ? มีเรื่องอะไรเหรอครับ? พอจะเล่าให้ผมฟังได้ไหม? เผื่อผมจะช่วยอะไรได้บ้าง”
สำหรับกันต์ธีเด่นชัยเป็นมากกว่าเลขา เขาเชื่อใจ ไว้ใจ และสนิทใจกับเด่นชัยมาก ดังนั้นพอหาทางออกด้วยตัวเองไม่ได้เขาจึงตัดสินใจปรึกษากับเด่นชัย เพราะอยากรีบจัดการปัญหานี้ให้จบ ๆ ไป
เรื่องของแม่กับซินดี้เขาไม่ต้องอธิบายอะไรกับเด่นชัยมากนัก เพราะอีกฝ่ายก็รู้อยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องหลักที่เขาเล่าไปจึงเป็นคำแนะนำของคีตะวัน เขาบอกว่าเขารู้ว่าวิธีนี้จะสามารถจบปัญหาได้เลย แต่เขาก็ไม่ได้อยากมีแฟนเลยสักนิด
“อย่างนี้นี่เองสินะครับ การมีแฟนจะจบทุกปัญหาได้ แต่คุณธียังไม่อยากมีแฟน...”
ด้วยทำหน้าที่เป็นทั้งเลขาและที่ปรึกษา หลังฟังเรื่องมาเด่นชัยก็เริ่มคิดว่าเขาจะพอช่วยอะไรกันต์ธีได้บ้าง และพอคิดมาคิดไปเขาก็นึกถึงเรื่องงานไร้สาระที่ลูกชายพึ่งจะมาเล่าให้ฟัง
“จริงด้วยสิครับ ถ้างั้นเอาแบบนี้เป็นไง?”
“แบบไหน?” กันต์ธีถาม
“ผมพึ่งรู้จากลูกมาว่าสมัยนี้มันมีอาชีพแปลก ๆ อยู่น่ะครับ มันคืออาชีพรับจ้างแกล้งเป็นแฟน”
“ผมว่าถ้าใช้วิธีนี้น่าจะพอช่วยได้นะครับ ถ้าคุณธียังไม่อยากมีแฟนจริง ๆ แต่จำเป็นต้องมี การหาใครสักคนมาแกล้งเป็นแฟนแบบนี้น่าจะดีที่สุดแล้ว”
“หาคนมาแกล้งเป็นแฟนงั้นเหรอ...”
คำแนะนำนี้กันต์ธีคาดไม่ถึงมาก่อน มันเป็นวิธีที่ดีมากจนกันต์ธีแอบเผลอดีใจ เขาตัดสินใจที่จะใช้วิธีนี้แล้ว แต่พอมาคิดอีกทีเขาก็ดีใจได้ไม่สุด เพราะมันมีปัญหาใหญ่ขัดขวางอยู่
“ทำไมเหรอครับ? มีอะไรหรือเปล่า?” เห็นทั้งตอนกันต์ธีดีใจ ทั้งตอนที่อยู่ ๆ หน้าก็บึ้งตึงขึ้นมาเด่นชัยจึงสงสัยว่ากันต์ธีกำลังคิดอะไรอยู่
“ที่เสนอมาเป็นวิธีที่ดีเลยนะครับ แต่แม่ผมไม่ได้โง่นี่สิ... ถ้าอยู่ ๆ บอกว่าใครที่ไหนก็ไม่รู้เป็นแฟนท่านต้องไม่เชื่อแน่” กันต์ธีกล่าว ก่อนจะอธิบายเพิ่มว่า
ถ้าเขาอยากโกหกแม่ด้วยวิธีนี้จริงล่ะก็ มันต้องแนบเนียน คนที่จะมาแสร้งเป็นแฟนเขาต้องเป็นคนใกล้ตัว เพราะด้วยนิสัยเขาคงไม่ไปทำความรู้จักกับใครสุ่มสี่สุ่มห้า และคนนั้นก็ต้องไว้ใจได้ว่าจะไม่หลุดปากไปถ้าแม่เขาเล่นบทร้ายแสร้ง ๆ ยื่นเงินเพื่อแลกกับความจริง
และข้อสุดท้าย ข้อนี้สำคัญสุดเลยก็คือว่า คนที่เขาจะแกล้งเป็นแฟนด้วยต้องเข้ากันกับเขาได้ เพราะมันอาจจะต้องมีการไปทำกิจกรรมฉันคนรักทั่วไป
“คุณธีคิดได้ละเอียดดีนะครับ คุณพูดเหมือนมีคนในใจอยู่แล้วเลย”
กันต์ธีรู้ว่าเด่นชัยกำลังแซวเขา แต่เขาก็ไม่ได้ถือสาอะไร เพราะเขาไม่ได้มีใครในใจ แบบที่อีกฝ่ายแซว เขาก็แค่คิดตามความเป็นจริง
กันต์ธีนั่งเงียบหลังจากนั้น เพราะในหัวกำลังคิดอยู่ว่าจะไปหาคนแบบนั้นมากจากไหน แต่อยู่ ๆ ประตูห้องก็ถูกเคาะ เสียงของมันขัดความคิดเขา กันต์ธีจึงบอกให้อีกฝ่ายเข้ามา และเมื่อเห็นหน้าว่าคนที่มาคือใครกันต์ธีก็เหมือนจะรู้แล้วว่าเขาจะไปหาคนแบบนั้นมาจากไหน
“คุณเด่นชัย ผมไม่ได้มีคนในใจหรอกนะครับ”
“แต่ผมก็พอรู้แล้วล่ะว่าจะหาคนแบบนั้นได้จากไหน”
“คือ ท่านประธานจะทำแบบนี้จริงเหรอคะ?”
คนที่เข้ามาในตอนนั้นคือที่รัก เธอเดินเข้ามาเสิร์ฟกาแฟตามปกติเมื่อถึงเวลา แต่อยู่ ๆ เธอก็โดนกันต์ธีเรียกให้นั่งลงคุย แล้วกันต์ธีก็เล่าทุกอย่างให้เธอเข้าใจ ว่าตอนนี้เขาต้องการให้เธอมาแกล้งเป็นแฟนปลอม ๆ
“ใช่ คุณอยากได้อะไรแลกเปลี่ยนบอกผมมาได้เลย ขอแค่คุณยินดีจะช่วยผมจะให้ทุกอย่าง”
ที่รักก็ยังคงได้แต่เงียบและหนักใจอยู่แบบนั้น เพราะเธอไม่รู้จะเอายังไงต่อดี ตามปกติการไหว้วานงานจากประธานแน่นอนว่ามันไม่มีทางหลีกเลี่ยง แต่ในเรื่องหนนี้เธอมีสิทธิ์เลือก แต่ก็ไม่รู้ทำไมพอได้สิทธิ์นี้มามันกลับยิ่งน่าหนักใจ
“ว่ายังไง? คุณจะตกลงไหม?”
“คือ... ฉันไม่กล้าโกหกคุณหญิงหรอกค่ะ”
นี่คือเรื่องที่ที่รักหนักใจที่สุด ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องข้อแลกเปลี่ยนอะไรเลย แค่พูดว่าตัวเองจะต้องโกหกคนใหญ่คนโตเธอก็กลัวจนเสียวสันหลังวาบแล้ว
“ถ้าคุณไม่พูด ผมไม่พูด ก็จะไม่มีใครรู้”
“แต่ถ้าเกิดโดนจับได้จริง ๆ ล่ะก็ ผมจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง คุณไม่ต้องกังวลหรอก”
น้ำเสียงที่กันต์ธีใช้ได้เปลี่ยนไป มันดูนุ่มนวลกว่าทุกครั้งที่เคยเป็นมา ที่รักค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าหล่อคมนั้นช้า ๆ และเธอก็เห็นได้ถึงความหนักใจที่กันต์ธีมี ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าคนดีได้ไหม แต่พอเห็นแบบนี้ที่รักก็เกิดอยากช่วยขึ้นมา
และพอเกิดความคิดแบบนั้นที่รักก็เริ่มคิดถึงผลได้ผลเสีย เธอคิดว่าการที่ได้ช่วยในตอนที่ประธานมีความทุกข์ใจน่าจะเป็นผลดีต่อเธอในอนาคตไม่มากก็น้อย
“ก็ได้ค่ะ ฉันตกลงจะช่วยท่านประธาน”
หลังจากที่เจรจากันอยู่นานร่วมชั่วโมงแล้วทุกอย่างให้ผลลัพธ์ออกมาน่าประทับใจ กันต์ธีก็คลี่ยิ้มส่งมาให้คู่สนทนา แต่เขากลับไม่รู้เลยว่ารอยยิ้มนั้นที่ไม่ได้แฝงอะไรนอกจากความดีใจ มันทำให้จิตใจของที่รักกระวนกระวายแค่ไหน
“ขอบคุณนะ”
“มะ ไม่เป็นไรเลยค่ะ!” ที่รักยกมือไม้ขึ้นมาปฏิเสธ เธอไม่ควรได้รับคำขอบคุณนี้ด้วยซ้ำ เพราะเธอเองก็จะได้ประโยชน์ในอนาคต
“ถือว่าเบื้องต้นคุณตกลงแล้ว ทีนี้ก็ถึงตาของคุณแล้ว คุณอยากได้อะไรตอบแทนล่ะ? บอกมาได้เลยไม่ต้องเกรงใจ จะเป็นเงินหรืออะไรก็ได้”
“ฉันไม่ต้องการอะไรค่ะ”
“ไม่ คุณต้องเลือกมา”
การได้รับอะไรบางอย่างแต่ไม่ต้องตอบแทนไปนั้นไม่ใช่นิสัยของกันต์ธี ดังนั้นถึงอีกฝ่ายจะตอบมาแบบนี้แต่เขาก็คะยั้นคะยอให้เธอนึกให้ออก
และด้วยถ้าไม่ตอบอะไรไปสักอย่างตัวเองก็คงจะได้เอาแต่นั่งอยู่ในห้องนี้ ที่รักจึงจำต้องนั่งใช้สมองว่าเธอจะเรียกร้องอะไรดี เธอควรจะเรียกร้องอะไรให้ดูไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป และไม่ทำให้กันต์ธีมองไม่ดี
“ถะ ถ้างั้น... ถ้างั้นฉันขอเป็นเงินก็ได้ค่ะ”
“คุณอยากได้เท่าไหร่?” พออีกฝ่ายคิดได้กันต์ธีก็ยิ่งโล่ง เขาหยิบสมุดเช็คขึ้นมาและเตรียมจะเขียนจำนวนเงินลงไป แต่คำพูดต่อมาของที่รักก็ทำให้เขาต้องหยุดมือ
“ฉันก็ไม่รู้ค่ะ...”
“หมายความว่าไง?” กันต์ธีทำหน้าสงสัยเล็กน้อยมองมาที่เธอ
“คือจริง ๆ ฉันไม่ได้อยากได้เงิน... ฉันแค่อยากรีโนเวทร้านให้ที่บ้านใหม่ ฉันเลยไม่รู้ว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่...”
คำพูดของที่รักกันต์ธีเข้าใจได้ในทันที เพราะหลังจากที่ไปบ้านเธอวันนั้นเขาก็ได้รู้ว่าบ้านของเธอทำอาชีพเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวอยู่แถวเยาวราช ซึ่งเปิดมานานกว่าสามสิบปี
“งั้นเหรอ เข้าใจแล้ว ถ้างั้นเอาแบบนี้ก็แล้วกัน”
“ผมจะจัดหาคนมาคุยรายละเอียดเรื่องนี้ให้ คุณอยากได้แบบไหนก็บอกเขาไป ไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน ตกลงไหม?”
“เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ”
ถือว่าเป็นอันตกลงกันเรียบร้อย ทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย แค่เริ่มขั้นตอนการตกลงกันเท่านั้น แต่มันก็ทำให้กันต์ธีสบายใจอย่างถึงที่สุด เขาไม่ลืมที่จะยิ้มและกล่าวขอบคุณเป็นครั้งสุดท้าย แต่ก็ไม่รู้ทำไม ที่รักจึงไม่มองเขาเลยแล้วรีบขอตัวออกจากห้องไป
“อะไรของเขากัน” กันต์ธีที่ไม่เข้าใจบ่นพึมพำ
ในห้องตอนนี้มีเด่นชัยอยู่ด้วย เขารู้ว่าทำไมอยู่ ๆ ที่รักจึงรีบหนีออกไป เพราะเขาเห็นใบหน้าจิ้มลิ้มนั้นมันขึ้นสีแดงระเรื่อ แต่เขาก็เลือกที่จะอยู่เงียบ ๆ ไม่ได้ไขข้อสงสัยให้เจ้านาย
เพราะเขาอยากรู้ว่าความสัมพันธ์นี้ การตกลงนี้จะพาทั้งสองให้ไปเจอกับเรื่องอะไรบ้าง และมันจะจบลงแบบไหน แต่ถึงจะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรหรือจบยังไง เด่นชัยก็มั่นใจว่ามันต้องน่าสนใจแน่...
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?