ตอนที่ 9 สร้างความเชื่อใจ

“ผมบอกแล้วไงครับ ว่าจะทำให้พี่รู้สึกดี”

เสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นข้างหู ตอนที่ชายหนุ่มสวมกอดเธอเอาไว้จากทางด้านหลัง

“แต่นายเล่นแรงเกิน”

ดวงตาที่ช้อนมองเหมือนจะดูโมโหอยู่นิดๆ ขณะเดียวกันก็ดูเหมือนอ่อนล้าจนไม่มีแรงจะลุกมาโวยวาย

“ก็ผมกลัวว่าพี่จะไม่หายโกรธนี่ครับ”

นนท์รททีเข้ามาคลอเคลีย ยิ่งส่งลมหายใจอุ่นเป่ารดต้นคอก็ยิ่งทำให้ไอรดาหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอีก จนเธอต้องเอามือดันเขาออกไปเล็กน้อย

“พอเลย พรุ่งนี้ฉันมีงานเยอะ อยู่เล่นด้วยทั้งคืนไม่ได้หรอกนะ”

เธอปรามทั้งที่พยายามเก็บอาการ ซึ่งอีกฝ่ายก็ดูออกอยู่หรอก

แต่นนท์รทีตั้งใจว่าจะเล่นพอหอมปากหอมคอแต่แรกอยู่แล้ว เพราะกลัวว่าถ้าทำให้ไอรดาเสียงานขึ้นมาตัวเองจะยิ่งงานเข้าหนักกว่าเดิม

ถึงเห็นว่าเธอชอบเหวี่ยงวีนแบบนี้ แต่ความจริงไอรดาเป็นผู้หญิงที่เปราะบาง และร่างกายของเธอก็บอบบางมากด้วย

“งั้นเดี๋ยวผมพาพี่ไปล้างตัว แล้วเรามากินข้าวกันนะครับ”

เขาบอก และไม่ต้องรอคำตอบรับใดๆ ชายหนุ่มก็ช้อนร่างนุ่มนิ่มขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนแข็งแรง พาเดินเข้าไปในห้องน้ำเลย

เวลาที่มือใหญ่ลูบไล้ไปตามเรือนร่าง เขาจะทำอย่างทะนุถนอมที่สุด เพราะกลัวว่าจะเกิดรอยช้ำ

เรียกว่าผิดกับการกระทำอันเร่าร้อนก่อนหน้านี้ลิบลับ...

“พี่ไอยังไม่หายหน้าแดงอีกเหรอครับ”

เสียงของนนท์รทีทำให้ไอรดาสะดุ้งตื่นจากภวังค์ ก่อนจะต้องหลบสายตาไป ตอบตะกุกตะกักเล็กน้อย “ใครบอก ฉันหายตั้งนานแล้วต่างหาก”

มือเรียวยกขึ้นมาจับแก้มตัวเอง เหมือนพยายามจะซ่อนสีแดงระเรื่อนั้นไว้ แต่ก็กลับได้รอยยิ้มทะเล้นสายตาล้อเลียนของอีกฝ่ายกลับมาแทน

“ครับๆ ผมเชื่อก็ได้”

ก่อนหน้านี้สายตาของเธอจับจ้องไปที่ร่างกายของชายหนุ่ม ถึงแม้จะพูดไม่ได้ว่ากำยำล่ำสัน แต่กล้ามเนื้อที่ได้รูปสวยและไม่มีพุงย้วยเลยนั่นมันก็ช่างดึงดูดสายตาของเธอเหลือเกิน

มองไปมองมาก็เริ่มทำให้ตื่นเต้น...แล้วแบบนี้ไอรดาจะไม่เขินได้ยังไง

เมื่ออาบน้ำให้เธอเสร็จแล้ว นนท์รทีก็หันมาจัดการตัวเอง รีบอาบรีบเช็ดตัว จากนั้นก็ค่อยอุ้มไอรดาไปใส่เสื้อผ้าข้างนอก ก่อนจะลงมือเช็ดผมที่ชุ่มน้ำให้เธอเบาๆ

“นายเคยดูแลใครอย่างนี้ไหม”

“เคยทำให้แฟนเก่าครับ แต่ไม่บ่อยเท่าพี่”

คำตอบนั้นมาพร้อมรอยยิ้มนิดๆ ก่อนที่เขาจะยื่นหน้ามาขโมยหอมแก้มเธออีกฟอดใหญ่

“แล้วผมก็คิดว่า...อยากจะทำแบบนี้ตลอดไปจังเลยน้า~”

“ชอบโดนใช้หรือไง?”

“เขาเรียกว่าดูแลต่างหากล่ะครับ”

ไอรดาก็แค่แกล้งพูดขัดไปอย่างนั้นเอง เพราะที่จริงเธอเขินจนไปไม่เป็นแล้วต่างหาก

นับวันนนท์รทีก็ยิ่งรู้ใจเธอมากขึ้นเรื่อยๆ

และเพราะเข้าใจว่าเธอคิดอะไร เขาก็เลยรู้วิธีรับมือกันมันเป็นอย่างดี

เหมือนอย่างตอนนี้ ที่เขาเดาออกว่าไอรดาต้องเริ่มหิวแล้วแน่ๆ ถึงได้ไปแกะกับข้าวใส่จานแล้วเอามาป้อนถึงเตียง

“ความจริงฉันเดินไปกินที่โต๊ะเองได้นะ”

“แต่ถ้าผมทำแบบนี้ พี่จะชอบมากกว่าใช่ไหมล่ะครับ”

เมื่อส่งคำถามไปอย่างนั้น ไอรดาก็ต้องเผลอยิ้มออกมาจนได้... เธอคงซ่อนอาการไม่มิดอีกต่อไป

“ไม่ต้องมาทำเป็นรู้มากน่ะ”

ทั้งที่ว่าอย่างนั้น เธอก็ยังอ้าปากรับสปาเก็ตตี้ที่เขาป้อน เคี้ยวแก้มตุ่ยให้คนมองยิ่งมีสายตาเอ็นดู

เห็นไหม...เขารู้ทันเธอหมดนั่นแหละ

“จริงสิ พรุ่งนี้ผมหยุดแล้วก็ว่างมากๆ เลย”

“แต่ฉันทำงาน ไม่มีเวลาไปเที่ยวเล่นกับนายหรอกนะ”

เธอก็บอกไปแล้วว่ายังต้องทำงานที่ค้างมืออยู่ ที่สำคัญคือมันเยอะด้วย เพราะวันนี้ตั้งแต่กลับจากร้านอาหารญี่ปุ่น ไอรดาก็อารมณ์บูดจนไม่มีสมาธิจะทำอะไรทั้งนั้น สุดท้ายก็เลยกลายเป็นนั่งปวดหัวเพราะคิดฟุ้งซ่านทั้งวันแต่มือแทบไม่ขยับเลย

“ผมไม่ได้จะชวนไปเที่ยวสักหน่อย แค่อยากใช้เวลาอยู่กับพี่ไอเยอะๆ เท่านั้นเองครับ”

พอนนท์รทีบอก ไอรดาก็ปรายตามอง ขมวดคิ้วนิดๆถาม “นายจะมานั่งเฝ้าฉันทำงาน?”

“ก็...ถ้าพี่ไออนุญาตนะครับ”

“เรื่องอะไรล่ะ ถ้านายมา ฉันคงไม่ได้ทำงานกันพอดี”

เธอปฏิเสธฉับพลัน เรียกว่าไม่เสียเวลาคิดเลยสักนาที นั่นทำให้ชายหนุ่มเริ่มมีสีหน้าหงอยๆ ว่าเสียงอ่อยเบ้ปากให้พอดูน่าหยิก “ทำไมล่ะครับ”

“เพราะนายจะทำให้ฉันเสียสมาธิ”

“ผมไม่ทำอะไรหรอกครับ สัญญาเลยว่าจะแค่นั่งดูเวลาพี่ไอทำงานเฉยๆ”

ว่าพลางช้อนสายตาขึ้นมองอย่างกับกำลังขอความเห็นใจ นั่นทำให้ไอรดารู้สึกว่าการปฏิเสธรอบสองนั้นยากกว่ารอบแรกนิดหน่อย

“นายจะอยากมาทำอะไรที่ออฟฟิศฉันล่ะ มันไม่สนุกหรอกนะ”

“รู้ครับว่าไม่สนุก แต่แค่อยากเห็นคนสวยเดินไปเดินมา นั่งอยู่ใกล้ๆ ในระยะสายตาทั้งวันแค่นั้นเอง”

“เฮอะ! มีหวังโดนแซวจนบ้าตายพอดี”

ไอรดาพอจะเดาออกเลยว่าถ้านนท์รทีไปนั่งเฝ้าเธอ ทั้งนุนีและมินตราต้องหาโอกาสล้อไม่หยุดแน่ๆ

ก็วันนี้เธอยังโกรธนนท์รทีเป็นฟืนเป็นไฟอยู่เลย หนำซ้ำยังทำเป็นเย็นชา บอกเพื่อนว่าเธอไม่รู้สึกอะไร แต่ถ้าพรุ่งนี้ดันโผล่ไปพร้อมผู้ชายคนนี้...คิดว่ามันจะดูแปลกๆ ไหมล่ะ

“ไม่เห็นต้องสนเลยว่าจะโดนแซวไหม”

คราวนี้นนท์รทีวางจานสปาเก็ตตี้ในมือลง ก่อนจะจับมือไอรดาให้แนบกับแก้มของเขา ถูไถออดอ้อนเบาๆ

“นะครับพี่ไอ ให้ผมอยู่ด้วยนะ ผมอยากใช้เวลากับพี่จริงๆ ช่วงนี้นอกจากตอนกลางคืนแล้วเราแทบไม่ได้อยู่ด้วยกันเลย”

ดูเขาสิ... จะช่างอ้อนอะไรขนาดนี้

แล้วไอรดาจะไปทนไหวได้ยังไงล่ะ

“ก็ได้ๆ เลิกหว่านเสน่ห์ใส่ฉันสักที” เธอว่าก่อนชักมือหนี แล้วหยิบจานสปาเก็ตตี้มากินต่อเอง

นนท์รทีก็ยิ้มบางๆ ออกมา แซวเล่นอีกนิด “เพราะพี่ใจละลายแล้วใช่ไหมครับ”

“เปล่า ฉันจะอ้วกต่างหาก”

ดูผู้หญิงปากแข็งคนนี้สิ...จะน่ารักอะไรขนาดนี้ก็ไม่รู้

นนท์รทีชอบในความปากแข็งของไอรดา เพราะมันทำให้เขาแกล้งเธอได้สนุกขึ้น...ถึงเวลาเอาไปเล่าให้เพื่อนฟังแล้วเพื่อนจะทำหน้าแหยงๆ ก็เถอะ แต่ถ้าเขาชอบแบบนี้แล้วใครจะทำไมล่ะ

ส่วนเหตุผลว่าทำไมเขาถึงอยากไปอยู่กับเธอน่ะเหรอ... นั่นก็เพื่อเป็นการชดเชยความผิดของวันนี้ไง

วันนี้เขาทำให้ไอรดานั่งกังวลอยู่ทั้งวัน และคิดว่าเธอคงทำงานไม่ได้แน่ถ้าหากเป็นอย่างนั้น เขาเลยอยากทำให้เธอเชื่อใจว่าระหว่างเขากับแพรเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ ไม่มีอย่างอื่นแอบแฝง

และจากนี้ ตราบใดที่เขายังอยู่กับเธอต่อไป รับรองได้ว่าจะไม่มีผู้หญิงคนไหนเข้ามาแทรกกลางได้แน่นอน

“พี่ไอครับ ป้อนผมด้วยสิ”

“จานของนายก็มีไม่ใช่หรือไง?”

“แต่ผมอยากให้พี่ไอป้อนนี่ครับ”

นนท์รทีแกล้งทำหน้ามุ่ยเหมือนเด็กโดนขัดใจ ทำให้ไอรดาต้องส่ายหน้าก่อนจะยอมตักสปาเก็ตตี้จากส้อมของตัวเองป้อนใส่ปากเขา

แต่ตอนที่เธอทำอย่างนั้น จะสังเกตว่าเผลอมีรอยยิ้มเผยออกมานิดหน่อยด้วย

นนท์รทีเป็นคนช่างสังเกต และเขาก็รอดูรอยยิ้มสวยๆ นี่อยู่ เพราะมันเป็นการแสดงออกว่าเธอยอมใจอ่อนให้เขาแล้ว

“น่ารักที่สุดเลยครับ”

“ไม่ต้องมาชมฉัน”

“แต่ผมอดไม่ได้นี่ ก็พี่น่ารักจริงๆ”

ในสายตานนท์รที ไม่มีใครจะน่ารักได้เท่านี้อีกแล้ว

ถึงได้บอกว่าไม่ว่าผู้หญิงคนไหนจะผ่านเข้ามาในชีวิต เขาก็คงไม่มีทางสนใจไปมากกว่าเธอคนนี้ได้หรอก

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ