“จัดการผู้หญิงของแกให้เรียบร้อย โดยเฉพาะยัยเด็กนั่น อย่าคิดว่าจะเก็บมันไว้เพราะฉันนี่แหละที่จะจัดการมันด้วยตัวเอง เคลียร์ตัวเองเรียบร้อยแล้วก็มาแต่งงานกับผู้หญิงที่ฉันเลือกให้ซะ”
ธนา สิงหบดินทร์ ผู้เป็นพ่อเอ่ยกับลูกชาย
“ขอเวลาผมหน่อยครับพ่อ แล้วผมจะจบทุกอย่างด้วยตัวเอง”
ธีรติ สิงหบดินทร์ หรือ เธียร์ ลูกชายคนเล็กของเขาก้มหน้าตกปากรับคำ
“ดี ! ถ้าควบคุมไม่ได้ก็ไม่ควรเก็บมันไว้....ฉันหวังว่าแกคงคิดได้นะ ว่าคนไหนเหมาะจะเอาทำเมีย คนไหนเหมาะจะเป็นแค่คู่นอน”
ผู้เป็นพ่อทิ้งประโยคสุดท้ายให้ชายหนุ่มคิดก่อนจะเดินจากไป
หนึ่งเดือนก่อนหน้า
“วันนี้จะกลับมานอนกับลินไหมคะ”
นลิน หรือ ลินลดา เนตรนรางกุล นางแบบสาวชื่อดังในวงการแฟชั่นเอ่ยถามชายหนุ่มคนสนิทอย่างเธียร์ ทั้งคู่รู้จักกันมาเป็นเวลานานหลายเดือน และมีความสัมพันธ์อย่างที่เรียกว่า ‘คู่นอน’แบบลับ ๆ เพราะต่างก็ตกลงกันว่าจะเป็นเพียงคู่นอนของกันและกัน ทั้งเธอและเขามีค่าต่อกันก็แค่เรื่องบนเตียงเท่านั้น
“ไม่รู้เหมือนกัน ตอนเย็นต้องไปบ้านคุณแม่ ส่วนพรุ่งนี้เช้าฉันต้องไปทำงานต่างจังหวัด คงไม่อยู่สองสามวัน”
ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ ขณะติดกระดุมเสื้อเชิ้ต เรือนร่างอรชรหยัดกายลุกจากที่นอนเผยให้เห็นชุดนอนผ้าซีทรูที่อวดเรือนร่างสุดเซ็กซี่ เธอเดินเข้าไปแนบชิดเรือนกายสูงของอีกฝ่ายพร้อมลูบไล้แผงอกแน่นอย่างเบามือช้า ๆ
“แบบนี้ลินคงคิดถึงคุณแย่เลยสิคะ”
หญิงสาวจ้องมองด้วยสายตาเป็นประกายวาววับสะกดให้เขาตกอยู่ในภวังค์ความงามของเธอ
วิธีนี้ใช้ได้ผลเสมอ !
เธียร์ช้อนตัวหญิงสาวขึ้นมาอยู่ในอ้อมกอด เธอจึงคล้องแขนรอบคอเขาโดยอัตโนมัติ ชายหนุ่มไม่รอช้าอุ้มเธอไปวางลงบนเตียงขนาดคิงไซซ์ จากที่กำลังติดกระดุมกลายเป็นว่าตอนนี้เขากลับต้องปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออก แล้วโยนมันทิ้งข้างเตียง
นลินเองก็รู้งาน เขี่ยสายเดี่ยวของชุดนอนให้หลุดจากไหล่ เผยเนินอกเนียนขาวน่าลูบไล้ เธียร์นวดคลึงฟอนเฟ้นอกคู่งามอย่างสนุกมือพร้อมกับก้มลงไปดูดดื่มยอดปทุมถันด้วยความสนุกปาก
มือเรียวเล็กของนลินไม่อยู่นิ่ง ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของชายหนุ่มก่อนจะเลื่อนกลับมาสัมผัสเม็ดสีน้ำตาลเข้มตรงอกแกร่งเพื่อปลุกเร้าอารมณ์อีกฝ่าย
ขณะที่สัมผัสจากมือหนาซึ่งลูบไล้ไปตามเรือนกายอรชรทำให้เจ้าตัวถึงกับขนลุกซู่ เธียร์เลื่อนริมฝีปากมาประกบริมฝีปากเล็กพร้อมกับสอดลิ้นเข้าไปลิ้มชิมรสหวาน มืออีกข้างก็ไม่อยู่นิ่งลูบไล้ไปตามต้นขาด้านใน ส่งผลให้หญิงสาวซ่านกระสันจนตัวเกร็ง
เขาสอดมือลึกเข้าไปใต้กระโปรงเพื่อสัมผัสกับนลินน้อยที่ตอนนี้เปียกชุ่มเต็มแพนตี้ แล้วใช้นิ้วเขี่ยเบา ๆ บริเวณเม็ดสวาทก่อนจะสอดนิ้วเข้าช่องทางรัก
คนตัวเล็กจิกปลายเท้าลงบนเตียงทันทีด้วยความเสียวซ่านที่แผ่ไปทั่วเรือนร่าง แล้วเริ่มส่งเสียงครางออกมาเบา ๆ
“น้ำเยอะจังเลยนะ”
เสียงแหบพร่ากระซิบหยอกเย้า ทำให้อีกฝ่ายขัดเขินจนหน้าแดงระเรื่อ ชายหนุ่มเริ่มรัวนิ้วเร่งจังหวะจนหญิงสาวมีปฏิกิริยาสนองด้วยการขยับสะโพกไปมาตอบรับนิ้วของเขา ชายหนุ่มนึกสนุกเพิ่มจากหนึ่งนิ้วเป็นสองเพื่อเตรียมความพร้อมให้น้องชายของเขาสอดใส่ได้ง่ายขึ้น
แม้จะเคยร่วมรักกันมาหลายต่อหลายครั้ง แต่เธอก็ยังแน่นเหมือนเดิม หรือเป็นเพราะขนาดของเขาเกินมาตรฐานชายไทยทั่วไป
“ไม่ไหวแล้วค่ะ”
นลินทำตาปรอยออดอ้อน เพราะตอนนี้ข้างล่างแฉะจนเลอะผ้าปูที่นอนไปหมดแล้ว
หากเรือนร่างสูงของชายหนุ่มกลับไม่มีท่าทีว่าหยุด เธอจึงต้องเปลี่ยนมาเป็นคนคุมเกมเสียเอง
นลินผลักให้เขานอนราบไปกับเตียง แล้วเธอก็พลิกตัวขึ้นมาคร่อมร่างเขาทันที หญิงสาวขยับสะโพกถูไถไปมาทักทายเจ้าโลกของเขา ก่อนที่มือเรียวเล็กจะลูบไล้แก่นกายของชายหนุ่มอย่างซุกซน เส้นเลือดปูดนูนโดยรอบให้สัมผัสที่น่าค้นหา เธอไม่รอช้าก้มลงไปแล้วครอบครองดูดกลืนความแข็งขึงตรงหน้า พลางช้อนสายตาขึ้นมองใบหน้าหล่อคมที่กำลังเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสซ่านกระสันจนหลับตาพริ้ม
นลินใช้ลิ้นตวัดตรงปลายหยักช้า ๆ ราวกับว่ากำลังเล็มเลียไอศกรีมหวานละมุนที่เริ่มละลายยามฤดูร้อน คนด้านล่างขยับมือมาลูบผมหญิงสาวเบา ๆ ก่อนจะออกแรงกดศีรษะเธอ จนแท่งไอศกรีมแทงลึกเข้าไปในคอ
“อ๊อก ... อะ”
นลินไม่ทันตั้งตัวจึงสำลักจนน้ำตาคลอ หญิงสาวฟาดมือลงบนแขนของเขาอย่างแรง พร้อมมองค้อนใส่เขาไปหนึ่งที คนตัวสูงยกยิ้มมุมปากและหัวเราะในลำคอเบา ๆ
เขารั้งตัวเธอขึ้นมาแล้วพลิกตัวให้ลงไปนอนหงาย จากนั้นจึงจ่อน้องชายไว้ที่ปากถ้ำก่อนจะแทรกตัวตนเข้าไปในช่องทางคับแคบ
“อื้อออ !”
หญิงสาวเผลอส่งเสียงออกมาพลางหลับตาแน่น เขาสังเกตเห็นสีหน้าของเธอ จึงผ่อนแรงและเปลี่ยนเป็นดันเข้าไปช้า ๆ
เอวสอบเริ่มขยับเป็นจังหวะเชื่องช้า เข้าสุดออกสุด กระทั่งเธอเริ่มคุ้นชิน จึงเร่งจังหวะเร็วขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายเสียงเนื้อกระทบเนื้อก็ดังลั่นห้องสี่เหลี่ยม
“ละ...ลินเสียว...อื้อ”
เสียงหวานเย้ายวนปลุกอารมณ์เขาได้เป็นอย่างดี เอวสอบจึงยิ่งเร่งจังหวะกระแทกใส่ไม่ยั้ง
อุณหภูมิร่างกายของทั้งคู่สูงขึ้นจนเนื้อตัวเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อแม้จะอยู่ในห้องที่เปิดแอร์เย็นเฉียบ คนตัวเล็กเสียวซ่านไปทั้งร่างจนเผลอจิกเล็บที่หลังของชายหนุ่มจนเกิดเป็นรอยแดง
เอวสอบขยับกระแทกแรงขึ้นเมื่อใกล้จะถึงจุดสุดยอด เขาเลื่อนมือไปตรึงสะโพกเธอไว้ทั้งสองข้างและกระแทกใส่เต็มแรง หญิงสาวได้แต่ส่งเสียงร้องครางและจิกแขนเขาไว้แน่น
“อ่ะส์ ...จะ...จุก อื้มม”
เธอเอ่ยพลางขบริมฝีปากตนเอง
“กะ ใกล้แล้ว”
เสียงแหบพร่าของคนร่างสูงช่างละมุนหูชวนหลงใหลเสียจริง
เขาเปลี่ยนท่าจับเธอนอนคว่ำ นลินแอ่นสะโพกรับอย่างรู้งานเมื่อชายหนุ่มขึ้นคร่อมทางด้านหลัง ลำแขนแข็งแกร่งดันพื้นไว้เพื่อส่งแรงไปสู่ช่วงล่างที่ขยับกระแทกกระทั้นด้วยจังหวะที่แรงขึ้น ๆ
“อ่ะ....โอ๊ะ... อื้ออ...”
หญิงสาวครางเสียงสั่น ขากระตุกสั่นเทาอย่างไม่อาจควบคุมเมื่อเธอเสร็จสมในที่สุด โดยมีเขาตามเธอไปในไม่ช้า
“อื้ออ”
เธอรู้สึกอุ่นวาบภายในกาย
แล้วคนตัวสูงก็ฟุบตัวลงมานอนซบและโอบกอดเธอไว้ ก่อนผ่อนลมหายใจร้อนผ่าวข้างหูของเธอ เขาโอบกอดนลินแบบนี้ทุกครั้งหลังเสร็จกิจ อย่างน้อย ๆ เขาก็ยังมีมุมที่อ่อนโยนกับเธออยู่บ้างสินะ
“มาสายนะครับคุณธีรติ”
คำทักทายและสายตาแกมเหน็บแนมนั้นมาจากเหล่าผู้บริหารทันทีที่เขาไปถึงบริษัท แต่คนอย่างเธียร์ไม่เคยสนใจ
เขาไม่ใส่ใจใครหน้าไหนอยู่แล้ว
“โทษทีครับ พอดีรถติดนิดหน่อย”
พูดจบเขาก็เดินไปนั่งลงข้างพี่ชาย
ธาม หรือ ตรีธารา สิงหบดินทร์ เป็นพี่ชายที่พ่อกับแม่ของเธียร์รับมาอุปถัมภ์เลี้ยงดูตั้งแต่เขายังไม่เกิด
“เริ่มเลยแล้วกัน”
ผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้นเพื่อดึงความสนใจกลับคืนมา
หลังเสร็จสิ้นการประชุม เธียร์กลับไปรับประทานอาหารเย็นกับครอบครัว เพราะนาน ๆ ครั้งเขากับพี่ชายจะกลับบ้านมากันพร้อมหน้า
“ร้านเป็นไงบ้างล่ะธาม บริหารคนเดียวหลายอย่างแบบนี้ไหวแน่นะ ถ้าไม่ไหวก็ให้น้องไปช่วยอีกแรง”
ผู้เป็นพ่อเอ่ยถาม
“อะไรกันป๊า ผมไม่เอาด้วยหรอกนะ”
เธียร์งอแงไม่ต่างจากเด็กสองขวบ หัวคิ้วผูกเข้าหากัน
“สบายมากครับ ร้านกำลังไปได้ดีเลย ส่วนงานที่โรงแรมก็ไม่ได้หนักอะไร ผมทำไหวอยู่ครับ”
ธามตอบคำถามผู้เป็นพ่อ
ครอบครัว ‘สิงหบดินทร์’ ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีโรงแรมในเครืออยู่หลายจังหวัด อีกทั้งยังเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง เมื่อลูกชายทั้งสองคนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ผู้เป็นพ่อจึงให้มาช่วยดูแลกิจการ
“ถ้าไม่ไหวก็บอกป๊านะ เดี๋ยวป๊าจะสั่งให้เจ้านี่ไปช่วยดูแล”
ผู้เป็นพ่อพยักเพยิดไปทางลูกชายคนเล็กที่ไม่ค่อยเอาไหน วัน ๆ หาแต่เรื่องให้ปวดหัว ถ้าไม่ใช่เรื่องเมาแล้วไปมีเรื่อง ก็เป็นเรื่องผู้หญิง วนอยู่อย่างนั้น
“ไม่เอาด้วยหรอกครับ ให้พี่ธามทำคนเดียวไปเถอะ”
“แต่พรุ่งนี้แกต้องไปทำงานแทนฉันที่ภูเก็ตนะ”
ผู้เป็นพ่อย้ำคำสั่งกับเขาอีกรอบ
“รู้แล้วค้าบ ย้ำบ่อยอะไรขนาดนั้นผมไม่ได้ความจำสั้นสักหน่อย”
“ขนาดฉันย้ำอย่างนี้แกยังไม่คิดจะสนใจงานการเลย วัน ๆ เอาแต่ติดผู้หญิง ไม่ได้เรื่องจริง ๆ”
ผู้เป็นพ่อบ่นแบบไม่เว้นช่องว่างให้เถียง
“เอาน่า...คุณ ลูกทานข้าวอยู่จะมาบ่นอะไรตอนนี้คะ”
คุณหญิงเนตรนภา ผู้เป็นแม่เอ่ยขึ้นมา ทุกคนต่างก็เกรงกลัวและหยุดเถียงกันทันที โดยเฉพาะคนเป็นพ่อที่รับรู้ถึงรังสีที่แผ่ออกมาจากสายตาของแม่ที่จ้องมอง
ทางด้านนลินนั้น เมื่อเธียร์บอกว่าจะไม่มาหาสองสามวัน เธอคิดถึงเขาจึงวางแผนเรียกร้องความสนใจ ด้วยการแต่งหน้าแต่งตาเพื่อให้ดูซีดโทรมสุดๆ
‘ฉันไม่ปล่อยให้คุณไปคั่วสาวอื่นหรอกค่ะคุณเธียร์’ เธอนึกในใจขณะส่องกระจกดูเงาตนเอง จากนั้นก็...
แชะ !
เสียงถ่ายรูปดังมาจากกล้องโทรศัพท์ แล้วนลินก็ส่งรูปเข้าไลน์ของเธียร์พร้อมกับทิ้งข้อความไว้
‘ปวดหัวจนลุกไม่ขึ้นเลยค่ะ’
นาทีนี้ต้องรู้จักใช้มารยาหญิงให้เป็น
ชายหนุ่มชำเลืองมองการแจ้งเตือนที่ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์ แต่ไม่ได้กดเข้าไปอ่านเพราะกำลังรับประทานอาหารอยู่กับครอบครัว
นลินรอข้อความตอบกลับของเขาอย่างใจจดใจจ่อ
ตื่อดึ่ง !
เสียงแจ้งเตือนดังขึ้น หญิงสาวรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูทันที
“อกหัก คืนนี้เจอกันร้านเดิม กู มึง กี้”
เป็นเสียงไลน์จากเพื่อนสาวของเธอต่างหากล่ะ
“เฮ้ออ !”
เธอเลิกคิ้วสูงพลางเหยียดริมฝีปากพร้อมถอนหายใจด้วยความผิดหวัง เมื่อไม่ใช่การแจ้งเตือนจากคนที่รอคอย เธอดูนาฬิกา...เป็นเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว เขาคงไม่มาหาเธอหรอกวันนี้
นลินครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนตัดสินใจที่จะออกไปปาร์ตี้กับเพื่อน
‘ไม่รอคำตอบจากกูหน่อยเหรอวะ’ นลินตอบกลับข้อความของเพื่อน
‘ไม่ค่ะ มึงไม่มีสิทธิ์พูดอะไรทั้งนั้นนอกจากต้องไป’
‘งั้นเจอกันสี่ทุ่ม’ เธอส่งข้อความทิ้งไว้ในแชตของเพื่อนสาวก่อนจะลุกไปอาบน้ำแต่งตัว
หลังจากที่เธียร์มีโอกาสเปิดไลน์ของนลินอ่านแล้ว เขาคิดจะแวะไปหาเธอที่คอนโดสักครู่ แม้จะรู้อยู่แล้วว่าเธอโกหกแต่เขาก็เลือกที่จะไปเจอเธอ
“คุณแม่ครับวันนี้ผมคงกลับไปค้างที่คอนโดนะครับ พอดีต้องกลับไปเอาของเพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางแต่เช้า”
ภายนอกเธียร์อาจจะแลดูเป็นคนแข็งกระด้าง แต่ใครจะรู้ว่าเวลาอยู่กับแม่หรือผู้หญิงที่เขารัก เขากลายเป็นคนขี้อ้อนเหมือนลูกแมว
“เจอกันแค่แป๊บเดียว จะไปอีกแล้วเหรอลูก แม่อุตส่าห์เตรียมห้องไว้ให้เรียบร้อย”
ผู้เป็นแม่เอ่ยด้วยน้ำเสียงน้อยอกน้อยใจลูกชาย
“วันนี้ก็ค้างอยู่ที่นี่ ให้คนกลับไปเอาให้ก็ได้นี่”
คนเป็นพ่อกล่าวเมื่อเห็นภรรยาของตนทำสีหน้าเศร้าเพราะเจ้าลูกชายตัวดี
“แต่ว่า...”
เธียร์กำลังจะเอ่ยปากพูด
“เอาเถอะ แม่ไม่สำคัญเท่าผู้หญิงของแกนี่”
คุณหญิงเนตรนภากอดอกพลางทำหน้ามุ่ยน้อยใจลูกชาย
“โธ่ ! คุณแม่ค้าบบ”
ชายหนุ่มลากเสียงยาวอย่างออดอ้อน พลางเดินเข้าไปโอบกอดแม่แล้วจึงหอมแก้ม มองเผินๆ คล้ายเด็กสามขวบกำลังอ้อนแม่
“ผมกลับไปเอาของจริง ๆ ครับ งั้นผมขอไถ่โทษให้เป็นสำหรับเงินช็อปปิงแทนดีไหมครับ”
ลูกชายบอกพลางทำตาปริบ ๆ อ้อนแม่
ธามมองภาพสองแม่ลูกออดอ้อนกันแล้วสะท้อนใจ เขารู้ตัวเสมอว่าเป็นเพียงแค่เด็กที่พวกท่านรับมาอุปการะ ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ
ยิ่งอายุมากขึ้นก็ยิ่งไม่สนิทสนมเหมือนก่อน เกิดเป็นระยะห่างที่ทำให้ความสัมพันธ์ของเขากับครอบครัวไม่เหมือนเดิม
ทุกครั้งที่เห็นภาพการหยอกล้อระหว่างพ่อแม่ลูก เขารู้สึกว่าตนเองกลายเป็นคนนอก
เมื่อหันไปมองผู้เป็นพ่อก็เห็นว่านั่งยิ้มพลางทอดตามองสองคนนั้น
“ป๊าครับ แม่ครับ ธามขอตัวกลับก่อนนะครับ พอดีต้องเข้าไปดูงานที่บาร์อีก เห็นลูกน้องบอกบัญชีมีปัญหา เลยว่าจะเข้าไปดูสักหน่อยน่ะครับ”
ธามเอ่ยขึ้นมา จึงกลายเป็นจุดสนใจของทุกคน
“นี่ก็จะทิ้งแม่ไปอีกคนเหรอเนี่ย ลูกชายบ้านนี้มันเป็นยังไงกันฮึ”
ผู้เป็นแม่ตัดพ้อ
“เอาเลยลูก ดีแล้วที่เข้าไปดู เรื่องแบบนี้ไว้ใจคนอื่นทำ ก็ไม่สู้เราทำเองหรอก”
คนเป็นพ่อเห็นดีเห็นงาม
“ครับ ไว้ผมจะแวะมาหาบ่อย ๆ นะครับ”
ชายหนุ่มเดินเข้าไปสวมกอดผู้เป็นแม่
“ขับรถดี ๆ นะลูก”
คุณหญิงเนตรนภาตบหลังลูกชายเบา ๆ
ธามเดินออกมาจากบ้านด้วยความรู้สึกน้อยใจเมื่อหันกลับไปเห็นพวกเขาสามคนพ่อแม่ลูกพูดคุยกันสนุกสนาน ‘ป๊ากับแม่ดูมีความสุขจังเลยนะครับเวลาอยู่กับเจ้าเธียร์’
ความรู้สึกเช่นนี้เกิดขึ้นและสั่งสมมาเป็นเวลานานนับตั้งแต่มีเธียร์เข้ามา ความสนใจของคนในบ้านก็ไปอยู่ที่เจ้าเธียร์หมด นอกจากจะเป็นลูกคนเล็กของบ้านแล้ว เธียร์ยังเป็นลูกแท้ ๆ เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของป๊ากับแม่จริง ๆ
ไม่มีพ่อแม่ที่ไหนไม่รักลูกตัวเองหรอกนะ
ใช่ !
พ่อแม่ทุกคนต่างรักลูกตัวเอง !
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?