นาฬิกาตั้งโต๊ะข้างหัวเตียงแผดเสียงสนั่น เด็กชายบนที่นอนขยี้เปลือกตาไปพลางพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง รอบด้านยังตกอยู่ในความมืด นอนต่ออีกหน่อยก็ย่อมได้ หากแต่พอปรับสายตามองไปยังมุมทางหน้าต่าง ก็จะพบว่าบริเวณชายผ้าม่านมีแสงสว่างรำไรเล็ดรอดเข้ามา บ่งบอกว่าขณะนี้วันใหม่กำลังมาเยือน มาวินเอื้อมมือไปยังจุดที่นาฬิกาปลุกวางไว้ กดปิดตรงปุ่มเหมือนปกติอย่างเคยชิน ค่อยงัวเงียคลานลงจากเตียงไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟัน
ในห้องพักเงียบสนิท การทำกิจวัตรประจำวันจึงเกิดเสียงชัดเจนเป็นพิเศษ วันนี้เป็นวันหยุด พี่สาวอนุญาตให้เขาไม่ต้องอาบน้ำตอนเช้าก็ได้ หลังเช็ดหน้าเช็ดตาเรียบร้อย มาวินก็ตรงไปยังส่วนของห้องครัว นำหม้อหุงข้าวที่มาเบลล้างไว้ให้ตั้งแต่เมื่อวานมาตวงข้าวหุงใหม่ ทำตามขั้นตอนที่พี่เคยสอน จนแน่ใจว่าจะต้องออกมาดีถึงได้กดปุ่มหุงข้าว
ตั้งแต่ห้าขวบเขาก็เริ่มเรียนรู้ที่จะแบ่งเบาภาระของมาเบล เพราะเห็นมาตลอดว่าพี่สาวเหนื่อยแค่ไหนกว่าจะหาเงินมาได้ ในเมื่อตอนนี้ยังโตไม่พอจะออกไปช่วยเธอทำงานข้างนอก ก็ทำงานในบ้านไปก่อนแล้วกัน ประมาณส่ายหน่อยพอมาเบลกลับจากที่ทำงาน พวกเราจะได้กินข้าวพร้อมหน้าสักที
“อืม ทำการบ้านรอดีกว่า แต่ไม่มีอุปกรณ์โหลดวิดีโอดูเลยแฮะ! จะทำยังไงดีนะ”
คุณครูแจ้งมาให้ไปบอกผู้ปกครองเรื่องอุปกรณ์การเรียน แท็บเล็ตที่แจกฟรีเมื่อช่วงต้นเทอมถูกพ่อเอาไปขายแล้ว จนตอนนี้เขาจึงไม่มีสื่อการเรียนการสอนสำหรับโหลดการบ้านมาทำเหมือนกับเพื่อน คุณครูถามหาอยู่หลายครั้ง จึงบอกไปว่ามันหาย พวกเราไม่ค่อยมีเงินด้วย จะขอให้พี่ซื้อใหม่ให้ก็ไม่กล้า
เมื่อก่อนมีเพื่อนร่วมชั้นอยู่บ้านใกล้กัน วันหยุดจึงไปขอดูด้วยได้ แต่ตอนนี้ย้ายบ้านใหม่ เขาต้องแก้ปัญหาโดยการนั่งรถไปแทน ซึ่งมันน่าจะไกลมากและเขาก็ไม่ค่อยรู้จักเส้นทางอื่น นอกจากหน้าปากซอยถึงโรงเรียน
“ไม่เป็นไร วันจันทร์ไปโรงเรียนแต่เช้าคงจะขอยืมทัน” มาวินไม่คิดจะบอกมาเบล แค่ตอนนี้พวกเราได้อยู่ด้วยกันก็พอแล้ว เขากลัวว่าหากตัวเองกลายเป็นภาระ พี่สาวจะยกเขาให้คนอื่น
สายโด่งท้องเริ่มร้องจ้อกๆ ด้านนอกสว่างจ้า ข้าวที่หุงสุกตั้งนานเย็นลง แต่พี่สาวไฉนยังไม่กลับมา ก่อนเวลาที่เขาจะออกไปโรงเรียน มาเบลมักมาถึงห้องพร้อมของกินเสมอ หรือจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับเธอ ตั้งแต่วันนั้นที่พวกเราโดนคนน่ากลัวจับตัว คุณลุงหน้าโหดคนนั้นก็มักจะมาที่นี่เพื่อคุยบางอย่างกับพี่ แม้จะยังเป็นเด็ก ดูเหมือนไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของผู้ใหญ่ ทว่าเขาเคยแอบฟังและได้ยินทั้งหมด รู้ว่าพ่อเป็นหนี้ ส่วนลุงคนนั้นคือเจ้าหนี้
คุณลุงพูดไม่ค่อยดีกับพี่นัก แถมตัวใหญ่ยักษ์เหมือนวายร้ายในการ์ตูน เช่นนี้เขาจึงอดไม่ได้ที่จะเป็นกังวล
เวลาเดียวกันที่ห้องเพรชซิเดนเชิลสวีทในโรงแรมมารีน่า เพราะว่าเมื่อคืนเปิดม่านกระทำกิจบางอย่างไปพร้อมกับชมวิวเมือง หลังจากอิ่มหนำไม่มีใครเลื่อนปิดดังเดิม พอฟ้าสว่างแสงแรกของวันมาถึง แดดอุ่นร้อนจึงส่องแยงเข้ามายังปลายเตียงนอน รบกวนคนที่กำลังหลับจนรู้สึกตัว มาเบลคลึงขมับซึ่งปวดร้าวแทบตายไปพลางร้องโอดครวญเสียงแหบแห้งในลำคอ ครั้นรวบรวมสติได้ก็พบว่าที่หน้าท้องมีแขนขาหนักอึ้งก่ายทับตัวเธออยู่
แย่แล้วสิ นี่มันกี่โมงกี่ยาม จนป่านนี้เธอยังไม่กลับห้อง เจ้าวินต้องเป็นห่วงแน่! มาเบลพยายามยกแขนขาของคาชาออกไป เธอไม่มีเวลาสนใจเขา แต่ชายหนุ่มด้านข้างกับซุกศีรษะเข้ามา ท่อนแขนหนากอดรอบเอวเธอไม่ปล่อย
“วันนี้วันหยุด นอนต่ออีกหน่อยสิ” คาชาเกลี้ยกล่อมเสียงนุ่มทุ้ม เมื่อคืนทำกันไปตั้งหลายยกเธอไม่อ่อนเพลียหรือไง ยังมีแรงเหลือจะลงจากเตียงในสภาพนั้นหลังมีเซ็กซ์กับเขาอีกเหรอ
“ปล่อยฉันได้แล้ว ฉันจะรีบกลับไปหาน้อง” มาเบลแกะมือคาชาออกไป ตอนกัดฟันก้าวขาลงไปยืนข้างเตียง หญิงสาวพลันหน้าซีดเผือดทันใด แทบจะวินาทีนั้นความเจ็บแปลบรวดร้าวจากก้นกบถึงกระดูกสันหลังพุ่งเข้ามาจู่โจม ศีรษะจรดปลายเท้าราวกับถูกยัดเข้าไปในเครื่องบดเนื้อ เดี๋ยวไร้ความรู้สึกเดี๋ยวปวดหนึบ เรียกได้ว่าสภาพน่าสังเวชกว่าที่คิดมาก
“ไหวเหรอนั่น เด็กคนนั้นอยู่คนเดียวจนชินแล้วมั้ง ไม่รีบกลับน้องเธอจะอยู่ไม่ได้เลยหรือไง?”
มาเบลที่สีหน้าย่ำแย่ลอบกลอกตา “เขาอายุแค่เจ็ดขวบ ทุกวันเสาร์เป็นวันหยุดเดียวของฉันที่จะได้ใช้เวลาอยู่กับเขา”
คนป่าเถื่อนพรรค์นี้จะไปเข้าใจหัวอกเด็กน้อยที่บ้านแตกสาแหรกขาดได้ยังไง เกรงว่าเกิดมาก็มีแต่ผู้ใหญ่รายล้อมให้ความรัก เสวยสุขอยู่บนกองเงินกองทอง มาเบลมองหาเสื้อผ้าที่กระจายไปคนละทิศของตนเอง รวบรวมมันมาได้ก็ลากสังขารเข้าไปในห้องน้ำ เปิดน้ำเย็นชำระล้างคราบเหงื่อและคราบอะไรต่อมิอะไรเงียบเชียบคนเดียว
ทำกันครั้งแรกยังไม่ทรมานจนเดินแทบไม่ไหวเช่นนี้ ถ้าไม่สลบไปกลางคันล่ะก็ คงได้รับรู้ความบ้าคลั่งของเขาจนตอนสุดท้ายแน่ ใบหน้าสะสวยแหงนขึ้นรับน้ำจากฝักบัวที่ตกลงมา พอถอยหลังก้าวหนึ่งก็ชนเข้ากับแผ่นอกแน่นตึง
“อ๊ะ! คุณเข้ามาทำไม” หญิงสาวร้องท้วงเสียงแหบโหยก่อนจะขยับหนี
คาชาที่ตัวสูงกว่าหลุบตามองลงมายังใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือ เขาเอนตัวลงไปใกล้ ข่มขวัญเสียจนสาวน้อยหลับตาปี๋
เสียงกดปุ่มเครื่องทำน้ำอุ่นดังขึ้นสองสามครั้ง มาเบลที่ตัวแข็งทื่อรับรู้ได้ว่าเขาถอยออกไปแล้วจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้น มาเฟียหนุ่มยิ้มเย้าเธอ พลางเสยผมเปียกที่ตกลงมาปรกหน้าผากออก เผยให้เห็นใบหน้าคมคาย
“เมื่อคืนก็ได้ทำในห้องน้ำกันแล้ว จะอายทำไม รออะไรอยู่ล่ะ อาบน้ำให้ฉันเร็วๆ สิ รีบๆ ให้เหมือนตอนที่เธออยากให้ฉันกระแทกเข้าไปในตัวเธอหน่อย”
แก้มขาวนวลแดงปลั่งขึ้นมาเดี๋ยวนั้น มาเบลร้อนผ่าวไปทั้งใบหน้าเมื่อคาชาหยิบยกเหตุการณ์เมื่อคืนมาพูด ไม่ทราบว่าเป็นรอบที่เท่าไหร่ แต่ในความทรงจำตอนนั้นชายหนุ่มปลุกเร้าเธอ พอจะถึงจุดหมายกลับหยุดเสียดื้อๆคล้ายอยากแกล้ง เขาบอกว่าถ้าอ้อนวอนจะยอมทำให้เสร็จสม ชั่วขณะสมองของเธอมันพร่าเลือนไปหมด ร่างกายก็ทรมานเจียนตาย สุดท้ายจึงได้ทำเรื่องน่าอายลงไป เขาคงถือว่ามันเป็นชัยชนะ โตจนป่านนี้ยังนิสัยเสียไม่เลิกอีก ภูมิใจมากเลยสิ
“ถูดีๆ ถ้าไม่อยากโดนซ้ำ” คาชาตักเตือนเมื่อมาเบลเริ่มถูสบู่ไปพลางจิกเล็บลงบนกล้ามหน้าท้องของเขา ยัยเด็กคนนี้ขอแค่ได้เอาคืนนิดๆ หน่อยๆ เป็นต้องไม่พลาด คิดว่าแค่เล็บมือจะข่วนเขาจนตายได้หรือไง
“ถูข้างล่างด้วยสิ เธอใช้งานมันทั้งคืน ช่วยดูแลให้ดีหน่อย”
“ฉันไม่ได้อยากใช้สักนิด” มาเบลว่าพลางหันคอไปทางอื่น แต่ไม่มองก็ใช่จะสบายใจขึ้น คิดเพียงว่าทำให้มันเสร็จๆ ไปจะได้หนีไปจากตรงนี้สักที
“อืม ทำไมตรงนี้ถูเบาจังล่ะ กลัวมันตื่น?”
“คุณ…คุณช่วยหยุดพูดสักที ฉันไม่อยากฟัง” มาเบลรีบชักมือที่ลื่นไปด้วยฟองสบู่กลับ พอเงยหน้าขึ้นก็ถูกประกบจูบไม่ให้ตั้งตัว หญิงสาวร้องอย่างอดสูว่าแย่แล้วสิ! เสียรู้จนได้ ไอ้สิ่งนั้นเริ่มแข็งแล้ว
“อย่าดิ้น เดี๋ยวก็ลื่นหัวแตก ทีนี้ก็หันหลังซะ อย่าให้ต้องพูดมาก”
ไม่ไหว เธอทำอีกไม่ไหวแล้ว ข้างล่างมันแสบจนแทบจะหุบขาลงไม่ได้ เขาเป็นสุนัขฤดูผสมพันธุ์หรือไง เมื่อคืนก็ปลดปล่อยไปตั้งเท่าไหร่ เหตุใดยังแข็งขึ้นมาได้อีก
“คุณคาชา ฉันไม่เอา อย่าเข้ามานะ!! โอ๊ย!”
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?