มิรายืนหน้ากระจกในห้องพักหลังเลิกงาน เธอเลือกชุดอยู่นาน ลองใส่แล้วถอดหลายชุด สุดท้ายเลือกเดรสสีกรมท่าตัวสั้นที่ดูเรียบง่ายแต่มีรสนิยม จับคู่กับเสื้อคลุมบางๆ และรองเท้าส้นเตี้ย
"ทำไมฉันต้องตื่นเต้นขนาดนี้ด้วย" เธอพูดกับตัวเองในกระจก "ก็แค่ไปกินข้าวเหมือนทุกวันนี่นา"
แต่ลึกๆ เธอรู้ดีว่าคืนนี้ไม่เหมือนทุกคืน มีบางอย่างที่แตกต่างออกไป บางอย่างที่เธอรู้สึกได้จากแววตาของเรียวตะเมื่อวานที่เขาพูดถึงคืนพระจันทร์เต็มดวง
มิราถึงร้านสึคิมิตอนทุ่มโมงครึ่ง ร้านดูแตกต่างจากทุกวัน มีโคมไฟกระดาษแขวนประดับ ดอกไม้สีขาวจัดวางอย่างงดงามบนโต๊ะ และมีเสียงดนตรีญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมคลอเบาๆ
"いらっしゃいませ" เรียวตะทักทายด้วยรอยยิ้ม เขาใส่ชุดเชฟที่ดูเป็นทางการกว่าปกติ "คุณมิระ สวยมากเลยครับคืนนี้"
มิรารู้สึกแก้มร้อนวูบ "ขอบคุณค่ะ ร้านก็ดูพิเศษมากเลยนะคะ"
"ผมตกแต่งเป็นพิเศษสำหรับคืนนี้ครับ" เขาพาเธอไปนั่งที่เคาน์เตอร์ประจำ "วันนี้ผมเตรียมคอร์สพิเศษไว้ให้ ไม่ต้องสั่งนะครับ"
"ตื่นเต้นจังเลยค่ะ"
เรียวตะเริ่มเสิร์ฟอาหารจานแรก ซาชิมิปลาหลากชนิดจัดวางอย่างสวยงามบนจานเซรามิคที่มีลายพระจันทร์ เขาอธิบายที่มาของปลาแต่ละชนิด วิธีการหั่น และซอสที่เข้ากันกับปลาแต่ละชนิด
"อร่อยมากค่ะ" มิราชิมปลาไป พลางฟังเขาเล่า "คุณเรียวตะรักการทำอาหารมากจริงๆ นะคะ"
"ครับ" เขายิ้ม "แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ ผมชอบเห็นคนที่ผมแคร์มีความสุขกับอาหารที่ผมทำครับ"
คำว่า 'คนที่ผมแคร์' ทำให้มิราใจเต้น เธอมองสบตากับเขา แววตาของเรียวตะอ่อนโยนและอบอุ่นจนเธอต้องหลบตามองจานอาหาร
จานต่อๆ มาถูกเสิร์ฟอย่างต่อเนื่อง ซุปใสกับเต้าหู้นุ่ม เทมปุระผักและกุ้งทอดกรอบ ปลาย่างราดซอสมิโสะ ข้าวปั้นหน้าต่างๆ ทุกจานอร่อยและจัดตกแต่งอย่างประณีต
ระหว่างมื้ออาหาร ทั้งสองคุยกันมากขึ้น เรียวตะเล่าถึงความฝันที่อยากเปิดร้านสาขาสอง อยากสอนคนรุ่นใหม่ทำอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม มิราเล่าถึงแผนการในอนาคต ความกังวลเรื่องงาน และความคิดถึงบ้าน
"เหลือเวลาอีกแค่เดือนครึ่งใช่ไหมครับ?" เรียวตะถามเสียงเบา
"ค่ะ" มิราพยักหน้า รู้สึกเศร้าขึ้นมาทันทีเมื่อนึกถึงวันที่ต้องกลับ
"คิดถึงบ้านไหมครับ?"
"คิดถึงค่ะ แต่..." เธอหยุดพูด
"แต่อะไรครับ?"
"แต่ตอนนี้ก็มีบางอย่างที่ทำให้อยากอยู่ที่นี่นานอีกหน่อย" เธอมองตาเขา
เรียวตะยิ้ม มือของเขาเอื้อมมาแตะมือของเธอเบาๆ "ผมก็มีบางอย่างที่ทำให้อยากให้คุณอยู่นานกว่านี้เหมือนกันครับ"
มิรารู้สึกไฟฟ้าวิ่งผ่านตัวเมื่อมือของเขาสัมผัสมือเธอ ความอบอุ่นจากมือหนาใหญ่ที่กุมมือเล็กของเธอทำให้หัวใจเต้นแรงจนแทบหายใจไม่ออก
"มาดูพระจันทร์กันไหมครับ?" เรียวตะชวน "มีระเบียงเล็กๆ ข้างบนร้าน"
มิราตามเขาขึ้นบันไดไม้แคบๆ ไปยังระเบียงชั้นสอง พื้นที่ไม่กว้างนัก มีเก้าอี้ยาวตัวเล็กและโต๊ะไม้ แต่วิวที่เห็นงดงามมาก พระจันทร์เต็มดวงส่องสว่างอยู่กลางท้องฟ้า ล้อมรอบด้วยดวงดาวนับไม่ถ้วน
"สวยมากเลยค่ะ" มิรามองท้องฟ้าด้วยความตื่นตาตื่นใจ
"ครับ สวยมาก" เรียวตะพูด แต่สายตาของเขามองมาที่เธอ
มิราหันไปเจอสายตาของเขา บรรยากาศรอบตัวเงียบสงบ มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งสองและเสียงรถไฟไกลๆ เรียวตะยกมือขึ้นลูบแก้มของเธอเบาๆ
"มิระ" เขาเรียกชื่อเธอแผ่วเบา "ผม..."
"ค่ะ?" เธอกระซิบตอบ
"ผมไม่อยากให้คุณกลับไปครับ" เขาสารภาพ "รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ผมอดคิดไม่ได้"
มิรายกมือขึ้นแตะมือที่วางอยู่บนแก้มเธอ "ฉันก็ไม่อยากกลับเหมือนกันค่ะ"
เรียวตะค่อยๆ โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ มิราหลับตาลงเมื่อรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ ของเขา ริมฝีปากของทั้งสองแตะกันเบาๆ นุ่มนวลและอ่อนโยน ราวกับกลีบดอกซากุระที่ร่วงหล่นมาจูบผิวน้ำ
จูบแรกสั้นและเบาหวิว แต่เมื่อทั้งสองแยกออกมาสบตากัน ประกายไฟในดวงตาของแต่ละคนลุกโชนขึ้น เรียวตะดึงเธอเข้ามาใกล้อีกครั้ง คราวนี้จูบได้ลึกซึ้งและเร่าร้อนกว่า มือของเขาโอบรอบเอวเธอ มือของเธอวางอยู่บนอกกว้างของเขา
เมื่อแยกจากกัน ทั้งสองหอบหายใจ หน้าผากชนกัน
"ผมชอบคุณมากครับ มิระ" เรียวตะสารภาพ "ตั้งแต่วันแรกที่คุณเดินเข้ามาในร้าน"
"ฉันก็ชอบคุณค่ะ เรียวตะ" มิรายิ้มด้วยความสุข "ชอบมาก ๆ"
เขาจูบหน้าผากเธออย่างทะนุถนอม "ถึงจะเหลือเวลาแค่เดือนครึ่ง แต่เราจะใช้เวลาที่มีอยู่ให้คุ้มค่าที่สุดนะครับ"
"ค่ะ" มิราพยักหน้า "ให้คุ้มค่าที่สุด"
ทั้งสองนั่งลงบนเก้าอี้ยาว มิราซุกตัวในอ้อมแขนของเรียวตะ มองพระจันทร์เต็มดวงที่ส่องสว่างอยู่บนฟ้า ความอบอุ่นจากตัวเขาทำให้เธอไม่รู้สึกหนาวแม้ลมจะพัดแรง
"ขอบคุณที่มาหาผมนะครับ" เรียวตะกระซิบข้างหูเธอ
"ขอบคุณที่รอฉันค่ะ" มิรากระซิบตอบ
พวกเขานั่งกอดกันอยู่บนระเบียงนานจนดึก ไม่ต้องการให้คืนนี้จบลง พระจันทร์เป็นพยานให้กับความรักที่เพิ่งเริ่มต้น ความรักที่แม้จะมีเวลาจำกัด แต่ทั้งสองคนตั้งใจจะทำให้มันงดงามที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้