แสงแดดอ่อน ๆ ในตอนเช้าส่องผ่านม่านสีขาวบางเข้ามาภายในห้องพักหรู ปลุกลินลดาตื่นจากฝันหวาน หญิงสาวร่างบางมีนัดถ่ายแบบกับรุ่นพี่วันนี้ เธอไม่ได้บอกอะไรกับชายหนุ่มเพราะยังไม่มีโอกาส เมื่อคืนทั้งคู่ก็ทะเลาะและยังตึง ๆ ใส่กันอยู่
ลินลดาลุกจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำแต่งตัวรอให้รุ่นพี่มารับไปถ่ายงาน
“จะไปไหน”
เสียงแข็งเอ่ยถามหญิงสาวเมื่อเห็นเธอลุกมาอาบน้ำแต่งตัว
“ไปถ่ายแบบค่ะ” นลินตอบกลับไปด้วยสีหน้านิ่งเฉย
“ถ่ายแบบอะไรของเธอ ที่ไหน กับใคร”
คนตัวสูงอยากรู้ จึงเอ่ยถามออกไปในคราวเดียว
จิ๊ !
ลินลดาจีบปากจีบคอให้กับความอยากรู้อยากเห็นของชายหนุ่ม ดวงตากลมมองหน้าเขาอย่างรำคาญใจ
“ถ่ายแบบบิคินีค่ะ แบรนด์ของรุ่นพี่ ไหน ๆ ลินอยู่นี่ก็ไม่มีอะไรทำ เลยจะไปช่วยถ่ายแบบให้”
เจ้าของร่างบางตอบ
ชายหนุ่มหูผึ่งในทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“เหอะ อยากไปโชว์คนอื่นน่ะสิ”
เธียร์แสดงสีหน้าไม่พอใจขึ้นมาในทันที
“คุณอย่ามาดูถูกงานของลินนะคะ !”
หญิงสาวกล่าวเสียงแข็งใส่เขา เพราะนี่คืออาชีพของเธอ เธอเป็นนางแบบอิสระ การรับงานถ่ายแบบชุดบิคินีก็ไม่ได้ต่างจากการถ่ายแบบอื่น ๆ ไม่มีอะไรเสียหายและที่สำคัญเธอไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน
“ฉันบอกแล้วไงว่าฉันดูแลเลี้ยงดูเธอได้ ไม่เห็นต้องไปรับงานพวกนี้เลย”
ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนลงเพราะไม่อยากจะทะเลาะกับเธอ
“แต่ลินไม่อยากอยู่เฉย ๆ ให้คุณเลี้ยงไงคะ ถ้าวันหนึ่งคุณทิ้งลินไป ลินจะเอาอะไรกินละคะ”
หญิงสาวเถียงเขากลับไปอย่างดื้อรั้น
“แสดงว่าจะไปให้ได้ใช่ไหม ?” ร่างสูงเลิกคิ้วเอ่ยถาม
“ค่ะ !”
ลินลดาตอบกลับไปอย่างหนักแน่น จะให้เธอปฏิเสธงานแบบกะทันหันแบบนี้ก็คงไม่ได้ ในเมื่อรับงานมาแล้วเธอก็ต้องมีความเป็นมืออาชีพและรับผิดชอบต่องานของตน
ร่างสูงของเธียร์หยัดกายลุกจากที่นอนแล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ของเขาที่วางอยู่บนหัวเตียง พร้อมกดโทรศัพท์โทรหาใครคนหนึ่ง ลินลดาได้แต่ยืนมองการกระทำของเขาว่าเขากำลังคิดจะทำอะไร
“ฮัลโหลครับคุณจี วันนี้ผมมีแค่เข้าร่วมประชุมใช่ไหมครับ ? งั้นรบกวนเข้าประชุมแทนผมด้วยนะครับ ผมมีธุระด่วนที่สำคัญมาก ๆ”
เขาเน้นประโยคสุดท้ายแล้วจ้องมองมาที่หญิงสาว นลินขมวดคิ้วเข้าหากันและมีสีหน้างุนงง
ร่างสูงวางสายโทรศัพท์จากเลขา เขาจ้องมองเธอแล้วลุกจากเตียงเดินผ่านหญิงสาวเข้าไปในห้องน้ำ
“รอเดี๋ยว ! จะไปด้วย”
เขาพูดหน้าตาเฉยก่อนเดินเข้าไปอาบน้ำ
“คะ ?”
การกระทำของเขาทำเอาลินลดารู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก เพราะจู่ ๆ เขาก็จะตามเธอไปทำงาน ทั้งที่ก่อนหน้านี้แค่จะออกไปทานข้าวด้วยกันเขายังกลัวที่จะถูกจับตามอง แต่วันนี้ดันจะตามหญิงสาวไปถ่ายงานด้วยเนี่ยนะ แปลกคนจริง ๆ
ชายหนุ่มแต่งตัวธรรมดาด้วยเสื้อเชิ้ตคอจีนสีขาวกับกางเกงขาสั้น เซตผมให้เป็นทรงพร้อมสวมแว่นกันแดดสีดำ ขนาดแต่งแค่นี้ก็หล่อจนสาว ๆ หันมองกันคอแทบเคล็ด เธียร์ไม่ได้มีดีแค่ฐานะและหน้าที่การงาน แต่หน้าตาของเขาก็หล่ออย่างกับดาราเลยก็ว่าได้ หุ่นกำลังดีตามแบบฉบับชายไทยไม่บางไม่หนาจนเกินไป
ทั้งคู่เดินลงมาที่ล็อบบีของโรงแรมก็พบกับรุ่นพี่อย่างพี่แนนที่มารอรับอยู่แล้ว
“พี่แนนสวัสดีค่ะ”
นลินเอ่ยทักรุ่นพี่พร้อมยกมือไหว้ รุ่นพี่ของเธอหันมาเห็นชายหนุ่มก็ทำหน้าแปลกใจนิด ๆ
“หวัดดีจ้ะ เอ่อ...” เธอมองไปที่ชายหนุ่มที่อยู่ข้างหลังหญิงสาว
“อ้อ..นี่คุณเธียร์ค่ะ จะไปกับพวกเราด้วยวันนี้”
นลินบอกกับพี่แนน
“อ้อ..สวัสดีค่ะคุณเธียร์...แต่ว่าเราจะทำยังไงกันดีล่ะ พอดีว่ารถมันน่าจะเต็มน่ะค่ะ ทีมงานที่มาด้วยกันก็สองคนแล้ว”
หญิงสาวเอ่ยออกไปด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล
“ผมมีรถส่วนตัวครับ รบกวนส่งโลเคชันให้นลินด้วยนะครับ...ขอตัว”
ร่างสูงยืนยันที่จะไปให้ได้ เพราะเขาเห็นทีมงานที่มาพร้อมกับพี่แนนแล้วมีแต่ผู้ชายทั้งสองคน ชายหนุ่มดึงแขนนลินให้เดินตามเขาไปที่รถทันที สีหน้าของเขาไม่รับแขกสุด ๆ
“เหอะ ! ถ่ายแบบบิคินีอะไรทีมงานมีแต่ผู้ชาย” เขาบ่นพึมพำด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“ก็เรื่องปกติมั้ยคะ ช่างภาพส่วนใหญ่ก็มีแต่ผู้ชายนี่คะ”
นลินเอ่ยกับเขา
“ผู้หญิงก็มีเยอะแยะไป !”
ร่างสูงมองตาขวางและพูดเสียงแข็งกับเธอ
“เฮ้อออ”
หญิงสาวได้แต่ถอนหายใจออกไปเพราะเธอเหนื่อยที่จะเถียงกับคนที่ไม่มีเหตุผลแบบเขาแล้ว
ระหว่างที่ถ่ายงานอยู่ที่ชายหาด ชายหนุ่มร่างสูงยิ่งหัวเสียเข้าไปใหญ่ เพราะบริเวณนี้มีนักท่องเที่ยวอยู่ค่อนข้างเยอะ
“คุณเลือกสถานที่ในการทำงานได้แย่มากเลยนะครับ ไม่มีความเป็นส่วนตัวให้นางแบบเลยสักนิด”
เธียร์ถือเป็นผู้ชายที่ปากแซ่บคนหนึ่งโดยเฉพาะเวลาที่เขาไม่พอใจอะไร เขาไม่สนด้วยซ้ำว่าคนคนนั้นจะเป็นใคร และไม่ได้แคร์ว่าคนอื่นจะมองเขายังไง
ยิ่งเขาเห็นนลินต้องมาถ่ายรูปตากแดดกลางแจ้งแบบนี้ เจ้าตัวยิ่งหงุดหงิดใจที่การทำงานในวันนี้ไม่มีความเป็นมืออาชีพเลยสักนิด นางแบบต้องเปลี่ยนชุดในรถแถมยังไม่มีที่ให้หญิงสาวได้นั่งพัก
ชายหนุ่มรู้สึกว่านลินกำลังถูกเอาเปรียบ อาจจะเป็นเพราะงานของเธอและเขานั้นต่างกัน ชายหนุ่มจึงคุ้นชินกับการที่ต้องทำงานอย่างเป็นระบบแบบแผนเสียมากกว่า
“พอดีว่ามันกะทันหันน่ะค่ะ เห็นน้องลินมาที่นี่พอดีเลยอยากได้ตัวน้องมาเป็นแบบให้”
รุ่นพี่อย่างแนนอธิบายออกไป
“ถ้ารู้ว่าไม่พร้อมก็ไม่ควรจะมาจ้างงานแบบนี้นะครับ ที่นลินมาถ่ายให้คุณนี่เพราะเห็นว่าคุณเป็นรุ่นพี่ของเธอหรอกนะ ปกติแล้วเธอไม่รับงานง่อย ๆ แบบนี้หรอกนะครับ”
ร่างสูงเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบสุขุมแต่แรงทุกประโยคทำเอารุ่นพี่อย่างแนนรู้สึกหน้าชาเหมือนโดนตบแรง ๆ สิบที
เธียร์เดินถือร่มเข้าไปรับเธอเมื่อเห็นว่าถ่ายเสร็จอีกคอลเลกชันแล้ว สีหน้านลินตอนนี้ดูไม่ค่อยดีนัก เพราะเธอถ่ายไปเกือบร่วมชั่วโมงได้แล้ว ชายหนุ่มกลัวว่านลินจะไม่สบายแต่ก็ห้ามอะไรเธอไม่ได้
“ไม่ต้องถ่ายแม่งละ กลับเถอะ !”
คนตัวสูงเอ่ยกับหญิงสาวแต่เขาก็ถูกเธอมองตาขวางใส่ทันที
“อย่าทำตัวไม่มีเหตุผลได้ไหมคะ”
ลินลดาพูดเสียงดุและมีสีหน้าที่ไม่พอใจเขา
“ไม่มีเหตุผลตรงไหน แล้วทำไมต้องเอาร่างกายตัวเองมาทรมานตากแดดเป็นชั่วโมง ๆ เพื่อแลกกับเศษเงินแค่นี้ด้วย”
ทั้งคู่เริ่มทะเลาะกันเสียงดังขึ้นจนคนอื่น ๆ หันมามอง
“สำหรับคุณมันก็เป็นแค่เศษเงินแหละค่ะ แต่สำหรับคนอื่นมันมีค่ามากกว่าคำว่าเงินค่ะ คนอย่างคุณไม่มีวันเข้าใจหรอก เพราะคุณไม่เคยมอบความรักให้กับใคร”
ลินลดารู้สึกโกรธเขาเป็นอย่างมากที่โดนชายหนุ่มดูถูกการทำงานของเธอเช่นนี้
แม้มันจะไม่ได้เงินมากมายมหาศาลอย่างที่เขาทำธุรกิจ แต่นี่มันก็คือสิ่งที่เธอรักและถนัด เธอเต็มใจที่จะทำ เธออยากที่จะช่วยคนที่เคยดีกับเธอในช่วงเวลาหนึ่ง นลินไม่ได้มองเพียงแค่เป็นการรับจ้างถ่ายแบบรับเงินแล้วจบ แต่มันมีผลต่อจิตใจเธอมากกว่านั้น
ย้อนกลับไปเมื่อตอนหญิงสาวเรียนมหาลัย เธอเป็นผู้หญิงที่หน้าตาดีคนหนึ่งแต่ตอนนั้นนลินยังไม่สนใจงานในวงการสักเท่าไหร่ จึงไม่รู้วิธีการทำมาหากินจากความสวยของตัวเอง
กระทั่งพี่แนนซึ่งทำแบรนด์เสื้อผ้า เห็นว่านลินมีแววทางด้านนี้ จึงชักชวนเธอให้ทำงาน เริ่มจากถ่ายแบบรับรีวิวเสื้อผ้าและถ่ายโฆษณาต่าง ๆ จนเป็นที่รู้จักแก่คนอื่น ๆ ในวงการแฟชั่น ด้วยหน้าตาและหุ่นของหญิงสาวที่เหมาะแก่การเป็นนางแบบ ก็มีแมวมองมาชักชวนให้ไปเดินแบบ เรียกได้ว่า...พี่แนนก็มีส่วนในการทำให้เธอมีทุกวันนี้ และเธอก็ไม่เคยลืมว่าใครที่ดีกับเธอบ้าง
นลินเดินหนีเขาไปเปลี่ยนชุดเพื่อถ่ายต่อจนเสร็จ ทั้งคู่ไม่พูดคุยอะไรกันจนถึงโรงแรม ลินลดาก็เงียบไม่พูดไม่จาอะไรกับเขา เธียร์เองก็นั่งทำงานคนเดียวเงียบ ๆ ในมุมห้องนั่งเล่น
บรรยากาศภายในห้องมีเพียงเสียงแอร์คลอเบา ๆ และเสียงจากโทรทัศน์ที่หญิงสาวเปิดดูซีรีส์อยู่คนเดียว ร่างสูงละสายตาจากหน้าจอโน้ตบุ๊กแล้วมองไปที่เธอก็เห็นว่าหญิงสาวหลับไปแล้ว เขาจึงลุกขึ้นเดินมาปิดทีวีให้
ธีรติยืนมองเธอด้วยสีหน้าที่ดูเป็นกังวล เขารู้สึกผิดกับคำพูดของตัวเองแต่ที่พูดออกไปก็เพราะเป็นห่วง แต่เขาอาจจะคิดน้อยไปหน่อยคำพูดจึงไปกระทบกับจิตใจเธอ
เช้าวันต่อมาเป็นวันที่ต้องเดินทางกลับแล้ว เธียร์เก็บกระเป๋าเตรียมที่จะเดินทางกลับ บรรยากาศระหว่างเขากับนลินก็ยังคงตึง ๆ ใส่กันอยู่
“หยิบเสื้อให้หน่อยสิ”
เธียร์พยายามหาเรื่องที่จะคุยกับนลิน ถึงตอนนี้ต่อให้ต้องทะเลาะกันเขาก็ยอมอย่างน้อยก็ดีกว่าที่เธอเงียบไม่พูดไม่จากับเขาแบบนี้
นลินถอนหายใจและมีสีหน้าที่ดูเอือมระอาเขานิด ๆ แต่ก็ยอมหยิบเสื้อของเขาที่วางอยู่ใกล้ ๆ ให้ วันเดินทางกลับมีเพียงแค่นลินกับเธียร์และคุณจี เลขาของเขา
ส่วนน้ำฟ้ากลับไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องอารมณ์เสียไปมากกว่านี้ เพราะนลินเองก็ไม่รู้ว่าถ้าเจอหน้าผู้หญิงคนนั้นอีกเธอจะควบคุมตัวเองไม่ให้ตบหล่อนได้หรือไม่ นึกแล้วก็หงุดหงิดขึ้นมาทันที หญิงสาวจึงฟาดไปที่แขนของร่างสูงเข้าอย่างแรง
“โอ๊ย ! ตีผมทำไมเนี่ย ?”
ชายหนุ่มทำหน้างง เมื่อจู่ ๆ เขาก็โดนเธอทุบอย่างไร้สาเหตุ ส่วนหญิงสาวก็ทำหน้ามึนแกล้งหลับใส่เขาไปเลย
ทันทีที่กลับมาถึงคอนโด ลินลดาก็สลบไปอีกรอบด้วยความเหนื่อยล้า ชายหนุ่มก็ปล่อยให้เธอนอนพัก ในระหว่างที่เขานั่งเล่นอยู่นั้นเสียงโทรศัพท์ของเธียร์ก็ได้ดังขึ้น ผู้เป็นพ่อของเขานั่นเองที่โทรมา
'ครับคุณพ่อ' ชายหนุ่มเอ่ยกับปลายสาย
'กลับมาหรือยัง ? ' เสียงแข็งเอ่ยถามกลับมา
'มาถึงตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วครับ' ร่างสูงตอบออกไป
'วันนี้ตอนเย็นพ่อนัดทานข้าวกับลุงมานพที่ร้าน... ตอนหนึ่งทุ่ม อย่ามาสายล่ะ' ผู้เป็นพ่อบอกกล่าวถึงการนัดรับประทานข้าวกับครอบครัวของน้ำฟ้า
'แต่...' ชายหนุ่มพูดไม่ทันจบ ผู้เป็นพ่อก็รีบเอ่ยแทรกเขาขึ้นมาทันที
'ไม่มีแต่ ! ฉันหวังว่าแกจะไม่ทำให้ฉันขายหน้านะ' ชายวัยกลางคนทิ้งประโยคที่ยากจะปฏิเสธให้ชายหนุ่ม
'ครับ' เจ้าของร่างสูงได้เพียงตอบตกลงไปด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูสลด
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?