มาเบลใจกระตุก ร้องในใจว่าแย่แล้ว อุตส่าห์หลบมุมกลับยังไปสะดุดตาแขกอันตรายเข้าจนได้ ท่ามกลางสายตาของคนนับสิบที่กำลังมองอย่างสนอกสนใจมาทางนี้ เหมือนจะมีสายตาอยู่คู่หนึ่งที่เข้มข้นแหลมคมกว่าใครทิ่มแทงมายังตัวเธอ มาเบลเดินไปยังบริเวณโซฟากลางห้อง ไม่เงยหน้าไม่มีปฏิสัมพันธ์กับใคร ด้วยความเหนียมอายไร้เดียงสาชวนให้อยากกลั่นแกล้ง พอมาหยุดยืนอยู่ใกล้มือ ก็ถูกหนึ่งในกลุ่มแขกเล่นสนุกดึงร่างเพรียวบางเซถลาล้มลงไปนั่งอยู่บนตัก
“เป็นสาวน้อยที่น่ารักจริงๆ ฉันเหมือนจะได้กลิ่นความกลัวจากตัวเธอด้วย หอมจัง”
ผู้ชายหน้าเข้มยื่นหน้าเข้ามาพร้อมสูดหายใจดมเต็มปอด ทำเอาเพื่อนฝูงที่นั่งชมความสนุกอยู่หัวเราะครืน
“คาชา ฉันเห็นเธอก่อน แกจะมาตัดหน้ากันแบบนี้ไม่ได้หรือเปล่า” ยูริชเหลือบมองอย่างไม่ค่อยจะพอใจ แม้จะมีหญิงสาวมืออาชีพคอยปรนนิบัติขนาบข้างซ้ายขวา ก็ยังอยากเชยชมของสวยๆ งามๆ ชิ้นนั้นด้วยเหมือนกัน
“ทำไงดีล่ะ เด็กน้อยคนนี้ฉันก็ถูกใจเหมือนกัน” คาชาว่าพลางจรดปลายจมูกแนบพวงแก้มนวลเนียน
พวกเขาคุยกันเป็นภาษารัสเซีย มาเบลไม่ทราบความหมาย ทว่าพิจารณาจากท่าทีและเสียงหัวเราะ ก็คิดเอาไว้ว่ามันต้องไม่ใช่คำพูดที่ดี หญิงสาวหดคอหลบเลี่ยงริมฝีปากที่ยื่นเข้ามาคลอเคลีย ในมุมที่ไม่มีใครสังเกต นิ้วมือเล็กจิกลงบนไหล่กล้ามเนื้อแข็งตึงของชายหนุ่ม ขยุ้มเสื้อเชิ้ตสีดำจนยับย่น
คาชาหรี่ดวงตาหม่นแสงจดจ้องริมฝีปากซึ่งกำลังพึมพำบางอย่าง อดใจไม่ไหวเกือบจะโน้มลงไปลิ้มลอง พลันถูกเสียงเรียกอ่อนหวานของหญิงสาวที่ด้านข้างขัดขึ้น “เครื่องดื่มได้แล้วค่ะคุณคาชา”
ถ้าเธอไม่เรียกร้องความสนใจ เขาคงจำไม่ได้ว่าที่นั่งด้านข้างมีคนอยู่ เป็นผู้หญิงที่สะสวยหยดย้อยคนหนึ่ง ทรวดทรงเสริมแต่งได้เย้ายวนชวนมอง ผู้จัดการคัดเลือกเธอเข้ามา ดูท่าจะเป็นเบอร์ต้นๆ ของคลับ เสียทีขาดเสน่ห์ไปเพราะการกระทำอิจฉา ไม่เช่นนั้นคืนนี้เขาอาจจะพิจารณาเธอก็ได้
“ปล่อยฉันได้แล้ว” อีกคนบนตักกดเสียงต่ำเคล้าไปกับจังหวะเพลง
ถ้าเขาไม่สังเกตเห็นความผิดปกติล่ะก็ จะบอกให้ว่าตอนนี้สาวๆ ในห้องรวมไปถึงแม่คุณคนสวยเบอร์หนึ่งของคลับ ภายใต้รอยยิ้มพิมพ์ใจสวยงาม ทางด้านหนึ่งส่งสายตาพิฆาตมาราวกับอยากฉีกทึ้งเธอเป็นชิ้นๆ เต็มทีแล้ว ข่าวลือครั้งนั้นพึ่งจะเงียบ เขากลับมาทำแบบนี้ คงสนุกที่ได้แกล้งสินะ ไอ้เจ้าหนี้ตัวปัญหา
“อย่าดิ้นให้มาก ถ้ามันตื่นเธอต้องรับผิดชอบ” คาชากดเอวบางให้อยู่นิ่ง คำพูดของเขาได้ผลทีเดียว ลูกสัตว์พยศในตอนนี้ตกตะลึงจนตัวแข็งทื่อไปหมด ใครใช้ให้อยากเก่งกับเขาก่อน เจอของจริงหน่อยสุดท้ายก็เป็นพวกดีแต่ปาก
“จะว่าไปพวกแก๊งค์มาโคว์มันพึ่งเปลี่ยนหัวหน้าคนใหม่ ไอ้ละอ่อนนั่นไม่รู้นึกอยากปลุกความฮึกเหิมของคนในแก๊งค์หรืออยากรนหาที่ตาย จู่ๆ ก็ประกาศว่าจะเด็ดหัวคาชา ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเลยมั้ง”
ยูริชกลั้วหัวเราะ สูบซิการ์ที่สาวข้างกายถือให้ไปพลางหยิบยกเอาเรื่องที่กำลังเป็นประเด็นในช่วงนี้มาพูด ได้ยินดังนั้นชายหนุ่มอีกสามคนในห้องทยอยสมทบ บอริสเจ้าของลายสักเต็มลำคอเยาะหยันไม่ต่างกัน
“แก๊งค์มาโคว์ประกาศจะเด็ดหัวคาชามาตั้งแต่ผู้นำรุ่นที่แล้ว จนเปลี่ยนผ่านอำนาจก็ยังทำไม่สำเร็จ แถมหัวหน้าเก่าพวกมันยังโดนคาชาเด็ดหัวทิ้งแทน อ่อนปวกเปียกเหมือนผ้าขี้ริ้ว จะเอาปัญญาจากไหนกันวะ”
โดมินิกส่ายหน้าไปพลางกระดกวอดก้าลงคอ “พวกแกอย่าพึ่งสบประมาทไอ้อีวาน เป็นเพราะมันกับพรรคพวกแก๊งค์สวะของมัน อาวุธที่เราต้องส่งต่อไปที่ตะวันออกกลางถึงได้โดนขัดขาครั้งแล้วครั้งเล่า คาชา แกดูแลพื้นที่นี้ ถ้าไม่จัดการให้เหี้ยนคงน่ารำคาญแย่ มัวแต่ใจดีปล่อยผ่าน สักวันมันจะเกิดปัญหาใหญ่เอา”
“ฉันเห็นด้วยกับไอ้โดมินิก แก๊งค์มาโคว์มาทีหลังแต่กลับกร่างล้ำเส้นแก๊งค์บอสโควิกที่อยู่มาก่อนตั้งนาน กรุงเทพเล็กเกินไปที่เสือสองตัวจะอยู่ด้วยกัน จัดการพวกมันไปให้จบๆเถอะ” รูริคที่นั่งใกล้คาชาที่สุดร่วมออกความเห็น
มาเบลสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไป ก่อนหน้านั้นยังหัวเราะครืนสนุกสนาน เวลานี้เห็นได้ชัดว่าอุณหภูมิเย็นลง
สีหน้าด้านข้างของคาชาเองก็ค่อยๆ เคร่งขรึมขึ้น น่าจะเป็นกงการของพวกมาเฟีย พวกเขากล้าพูดมันออกมาต่อหน้าคนนอก คงจะมั่นใจมากว่าไม่มีใครในนี้สามารถเอาไปแพร่งพรายได้ พี่สาวแต่ละคนบ้างก็ชงเครื่องดื่ม บ้างก็นัวเนียคลอเคลียกับผู้ชายอันตราย ราวกับโฟกัสแค่วิธีทำอย่างไรให้แขกพึงพอใจเท่านั้น ไม่รู้สักนิดว่าหัวข้อการสนทนาที่กำลังดำเนินไป อาจจะนำหายนะมาถึงตัวเข้าสักวัน
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น ฉันจะจัดการที่ทางก่อนขนส่งสินค้าครั้งใหม่ คราวนี้ถ้าหมามันรนหาที่ไม่เลิก ฉันจะกวาดล้างพวกมันเอง” คาชารับปากด้วยท่าทีกึ่งจริงจัง แก๊งค์มาโคว์ก่อกวนธุรกิจของแก๊งค์บอสโควิกมาหลายปี
นับวันพวกมันยิ่งขยายกลุ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จากความร่วมมือกับนักการเมืองและแก๊งค์ท้องถิ่น ทั้งสองฝั่งปะทะกันยิบย่อยอยู่หลายครั้ง มีครั้งหนักสุดที่คาชาเป็นคนลงมือจัดการหัวหน้าคนก่อนของแก๊งค์มาโคว์ด้วยตัวเอง ความแค้นระหว่างเสือสองตัวจึงไม่ใช่แค่กระทบกระทั่งทั่วไป แต่เป็นรอยฝังลึก เป็นแผลเป็นที่ไม่มีวันจางหาย เลือดต้องล้างด้วยเลือดเท่านั้น
ทั้งห้าหนุ่มมีเรื่องให้คุยกันเรื่อยเปื่อยจนถึงเที่ยงคืนก็แยกย้าย มาเบลที่นั่งตัวแข็งอยู่บนตักคาชาตั้งสี่ชั่วโมงถูกชายหนุ่มกึ่งสั่งกึ่งบังคับให้ดื่มแอลกอฮอล์จนเวียนหัวไปหมด คาชายังไม่กลับในทันที พองานพบปะเลิกราก็อุ้มสาวน้อยตัวบางออกมาจากคลับ พาคนแก้มแดงแจ๋ขึ้นลิฟต์ไปต่อยังห้องส่วนตัวชั้นสูงสุดของโรงแรม
คลับและคาสิโนบาคารอสอยู่ชั้นใต้ดินของโรงแรมที่มีชื่อว่ามารีน่า ทั้งสามกิจการดำเนินงานภายใต้แก๊งค์บอสโควิก ห้องเพรซซิเดนเชิลสวีทชั้นสูงสุดจึงเป็นของเจ้านายใหญ่อย่างคาชาโดยไม่ต้องสงสัย
“อื้อ! ที่นี่ที่ไหน ฉันจะกลับ ฉันจะกลับห้อง” มาเบลงัวเงียลุกขึ้นมาจากเตียงนอน เธอเมาแต่ก็ไม่ถึงกับขาดสติ ครั้นพบว่าสภาพแวดล้อมตอนนี้แตกต่างจากก่อนหน้า หญิงสาวพลันหุนหันจะคลานลงจากเตียงให้ได้
คาชาพึ่งจะเข้าห้องน้ำมาเห็นเธอเริ่มกระวนกระวายก็ไม่ได้รีบร้อน เขาถอดเสื้อโยนทิ้งส่งๆ ไว้บนเก้าอี้ จากนั้นค่อยตามมาอุ้มคนขาอ่อนแรงกลับไปนอนลงบนเตียงอีกครั้ง
“เธอเมาแล้ว จะไปไหนไม่ทราบ อยากโดนคนชั่วลากไปปู้ยี้ปู้ยำหรือไง”
มาเบลหรี่ตาสองข้างลง มองประเมินเจ้าของคำพูดที่เหมือนจะสื่อถึงตัวเอง “ตอนนี้ฉันก็กำลังอยู่กับคนชั่ว”
“โอ๊ะ! คนชั่วเหรอ อุตส่าห์หิ้วมานอนพักดีๆ ดันกลายเป็นคนชั่วซะได้ เธอนี่สำนึกบุญคุณไม่เป็นยังยั่วโมโหเก่งด้วยแฮะ ลองคิดดูว่าหากไอ้ยูริชมันพาตัวเธอไป สภาพหลังจากนั้นจะเป็นยังไง”
ยูริช หนึ่งในเพื่อนร่วมธุรกิจของเขาเป็นไอ้โรคจิตชอบของน่ารักนุ่มนิ่ม คนที่ตกเป็นเป้าหมายของมัน สภาพหลังจากถูกเล่นสนุกทั้งคืนแทบเอาชีวิตไม่รอด เขาอุตส่าห์มีเมตตายื่นมือไปช่วยเหลือ อนุญาตให้เธอนั่งบนตักเพื่อตราความเป็นเจ้าของอยู่ตั้งหลายชั่วโมง กลับแลกมาได้เพียงคำว่า คนชั่ว
มาเบลขมวดคิ้วมุ่นนึกถึงผู้ชายที่พูดภาษาไทยได้คนนั้น เขาชื่อว่ายูริชสินะ ว่ากันตามตรงเจ้าหมอนั่นดูน่ากลัวกว่าคาชาหลายเท่า ตลอดเวลาที่อยู่ในห้องวีไอพี ยูริชเทียวมองเทียวจ้องเธอด้วยสายตาโลมเลีย ทั้งเหมือนอยากจะแย่งไปจากคาชาเต็มที ติดที่อีกฝ่ายไม่กล้า ในเรื่องนี้ก็ควรจะขอบคุณอยู่หรอก แต่ใครกันล่ะที่ออกคำสั่งให้เธอขึ้นไปบริการ
“ฉันไม่ขอบคุณหรอกนะ คุณเป็นคนสั่งให้ฉันขึ้นไปเสี่ยงอันตรายเอง”
“ว่าไงนะ!”
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?