ตอนที่ 12 บารมีคู่หมั้น

ระหว่างอยู่บนรถอิทธิพลถามพชิราว่าช่วงนี้พี่ชายของตนอารมณ์เป็นยังไง นับตั้งแต่เขาก่อเรื่องคราวก่อน ก็ถูกอัครภพลอยแพให้ทำงานหนักจนแทบไม่มีเวลาไปพบปะสาวๆ เซ็งจนจะตายอยู่แล้ว พอมีข้อความของพี่เข้ามา จึงกระตือรือร้นอยากทราบอย่างยิ่งว่าน้องชายคนนี้ได้รับการให้อภัยหรือยัง

พชิราเห็นอิทธิพลเป็นแนวร่วมเดียวกัน ได้ยินว่าหลังจากวางยาพี่ชายคืนนั้นเขาก็โดนเล่นงานหนักไม่ใช่น้อย จึงเห็นใจอยู่บ้าง เพราะเขามีส่วนช่วย เธอจึงสามารถขึ้นเตียงกับอัครภพได้ ย่อมต้องเป็นมิตรด้วยอยู่แล้ว

“พี่อัคเขาก็ดูไม่ได้โกรธคุณอิทนะคะ ถ้าไม่พอใจคงไม่เรียกให้คุณอิทมาหรอกค่ะ สบายใจเถอะนะคะ แบบพี่อัคตื๊อหน่อยก็หายงอนแล้ว”

“สาวน้อย เธอมองโลกในแง่ดีเกินไปแล้ว ถ้ามันง่ายขนาดนั้นฉันคงไม่ทุรนทุรายอย่างทุกวันนี้หรอก เธอคงยังไม่เคยเจอมหันตภัยที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความเงียบล่ะสิ ยิ่งพี่อัคไม่พูดยิ่งหมายความว่าเขาจะเล่นงานหนักมาก ง้อง่ายซะเมื่อไหร่”

อิทธิพลเอ่ยอย่างผู้ที่ผ่านประสบการณ์มาก่อน เด็กคนนี้ยังไร้เดียงสาเกินไป ตื๊อหน่อยก็หายงอนเหรอ สำหรับเขาคงได้ตื๊อเป็นชาตินู้นแหละ

พชิราหัวเราะครืน ในหัวปรากฏภาพสีหน้าของอัครภพยามจวนจะหมดความอดทนกับตัวเธอ ทั้งมีตอนที่เขาถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ก็ไล่เธอไปไม่ได้ ชายหนุ่มที่แผ่รังสีอำมหิตข่มขวัญคนรอบข้างจนหวาดกลัวขนหัวลุก ทำไมพอถูกเธอแทะโลมหน่อยก็ไปไม่เป็นแล้ว จากเสือจะกลายเป็นแมวน้อยในอุ้งมือแล้ว อยากเกาคางให้จังเลย

ทั้งสองคุยกันเกี่ยวกับนิสัยของอัครภพจนถึงจุดหมาย เบื้องหน้าเป็นบ้านหรูเปิดให้เช่าถ่ายทำละครตั้งตระหง่าน ทีมงานและนักแสดงที่เกี่ยวข้องกำลังแต่งหน้าแต่งตัวกันอยู่ พอหันไปเห็นรถยนต์บูกัตติสีดำโฉบเฉี่ยวเข้ามาจอดก็มองอย่างสนใจทันที

รถหรูระดับนี้ในประเทศแทบจะสามารถนับคนที่ครอบครองได้ พวกเขาจึงใคร่รู้ว่าเป็นไฮโซท่านไหนและมาส่งใคร

หญิงสาวผิวขาวดุจน้ำนมสดคนหนึ่งเปิดประตูก้าวลงมา ใบหน้ามีแว่นกันแดดแบรนด์ดังบดบังดวงตา เส้นผมดำขลับยาวสยายคละบั้นเอว จมูกปากจิ้มลิ้ม พอยืนอยู่ข้างรถคันงาม ก็ดูเป็นภาพที่โดดเด่นชวนมองราวกับฉากเปิดตัวลูกคุณหนูผู้เย่อหยิ่งในละคร ทำให้รู้สึกตาค้าง

“พี่แอนคะ ฉากนี้นาวว่านางเอกซีนจางเกินไป แพลนกล้องเข้าไปใกล้ตัวหลักหน่อยดีไหมคะ ส่วนตัวประกอบรอบๆ ค่อยซูมรีแอคชั่นทีหลัง”

ผู้กำกับหญิงรุ่นอาชื่อแอนพยักหน้ารับฟังความคิดเห็นของนักแสดงหลัก มะนาวเป็นนางเอกของเรื่องนี้ อยู่ในวงการมาเกือบสิบสองปีนับตั้งแต่สมัยเป็นดาราเด็กสิบขวบ จะบอกว่ามีประสบการณ์ก็ต้องยอมรับว่ามี แต่ถ่ายฉากๆ หนึ่งยังไงก็ต้องถ่ายเก็บฟุตเทจไว้ทั้งหมด

ส่วนที่ว่าใครจะซีนจางซีนเข้ม ซูมหรือไม่ซูมหน้าตัวประกอบล้วนเป็นหน้าที่ของมือตัดต่อ ฉากนี้เป็นฉากงานแต่งกลางแจ้ง ให้เน้นไปที่นางเอกคนเดียวไม่เก็บบรรยากาศรอบๆ เลยคงจะไม่ได้

ถึงอย่างนั้นผู้กำกับก็ยังรับคำ มะนาวเป็นนักแสดงชื่อเสียงโด่งดัง บิดารับตำแหน่งนายพลในกองทัพ ส่วนมารดาเป็นคุณหญิงมีหน้ามีตาในวงสังคม ทำงานกับคนใหญ่คนโต หากไม่มีวิธีรับมือจะซวยเอา

“แล้วก็ฉากที่นางเอกกับนางร้ายปะทะฝีปากกัน นาวว่าฉากนี้ควรตบจริงนะคะ จะได้ออกมาดีกว่ารอบที่แล้ว”

“ตบจริง? เอ่อ…ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้ เดี๋ยวจะเกิดอุบัติเหตุเอา น้องพีมอาจจะมีถ่ายงานอื่นต่อ ถ้าหน้ามีรอยฝ่ามือคงไม่ยอมแน่ ฉากนี้เป็นฉากที่นางร้ายสติแตกสารภาพความชั่วที่เคยทำมาทั้งหมด ยังไงตัวละครในเรื่องก็เป็นพี่สาวน้องสาวกัน จะตบแบบโกรธแค้นย่อมไม่ถูก ต้องตบแบบพลั้งมือบันดาลโทสะ และต้องมีความเจ็บปวดผูกพันด้วย”

มะนาวยิ้มอ่อน สื่อว่าไม่สน “น้องพีมจะยอมหรือไม่ย่อมล้วนขึ้นอยู่กับคำขอของผู้กำกับ เพื่อให้งานออกมาดี นาวว่าน้องพีมคงไม่ขัดหรอกมั้งคะ”

ขณะขอให้ผู้กำกับทำตามประสงค์ส่วนตัว มะนาวเห็นว่าคนในกองกำลังสนอกสนใจบางอย่างจึงชะโงกคอมองดู ปรากฏว่าที่หน้าทางเข้ามีหญิงสาวคนหนึ่งเปิดประตูรถยนต์หรูลงมา หล่อนก็คือพชิรา

“อุ๊ย! นางร้ายของเรานี่ไม่ธรรมดาจริงๆ พึ่งจะมีข่าวหมั้นหมายไปเมื่อไม่นานมานี้ ยังไม่พ้นสัปดาห์ก็มีผู้ชายหน้าใหม่มาส่งซะแล้ว จุ๊ ๆ เป็นเพราะคุณอัครภพใจกว้างเกินไป หรือน้องเขาขาดอะไรแบบนี้ไม่ได้กันแน่”

ประโยคคำพูดมีเจตนาสร้างข่าวลือ พอทีมงานในกองได้ยินก็เริ่มหันหน้าไปซุบซิบนินทา พชิราก่อนหมั้นกับคุณหมอหนุ่มผู้ร่ำรวย มีชื่อเสียงเรื่องผู้ชายไม่เว้นแต่ละวัน จึงชวนให้คิดว่าคนที่อยู่ในรถอาจจะเป็นไฮโซสักคนที่เจ้าหล่อนคบซ้อน ถ้าไม่ใช่ทำไมหมอนั่นไม่ปรากฏตัวล่ะ จะต้องอำพรางอยู่หลังกระจกสีทึบนั่นทำไม

“อ๊ะ! คุณอิท” นางรองของเรื่องอุทานเสียงสูง หล่อนปัดมือช่างแต่งหน้าออกไป จากนั้นวิ่งปรู๊ดไปหาผู้ชายที่ก้าวลงมาจากรถบูกัตติอย่างตื่นเต้น ตนก็รอดูเรื่องสนุกเหมือนกับคนอื่นๆ ไม่คาดว่าผู้ที่มาส่งพชิราจะเป็นอิทธิพล แถมเขายังช่วยถือกระเป๋าใบหนึ่งให้ยัยตัวดีด้วย

จู่ ๆ ก็มีคนเรียกชื่อ พร้อมกับหญิงสาวในชุดสีขาวน่ารัก อิทธิพลตกใจกะทันหันจึงขยับไปยืนหลบหลังพชิราราวกับเด็ก สาวสวยคือสิ่งเจริญหูเจริญตาสำหรับเขา แต่ช่วงนี้มักสร้างปัญหาให้ด้วยเช่นกันจึงต้องดูให้ดีก่อนว่าเป็นอดีตคู่นอนที่ถูกเขาทิ้งหรือเปล่า

“คุณอิทขา มาหาแพมเหรอคะ” นางรองของเรื่องมองพชิรา เป็นสัญญาณให้หล่อนหลีกไป

“ขอโทษทีครับ ผมมาส่งพี่สะใภ้” อิทธิพลดันหลังพชิราไปข้างหน้า ราวกับว่าร่างเล็ก ๆ นี้คือเกราะป้องกันยามเผชิญอันตรายของเขา นักแสดงสาวชื่อแพมเห็นท่าทีเหินห่างนั่นแล้วก็น้อยใจจนหน้าเขียว ได้แต่มองพชิราด้วยสายตาเคืองแค้น

“คุณอิทคะ คุณกำลังหาเรื่องให้พีมหรือไง ไหนบอกว่าพี่ชายคุณให้คุณมาช่วยพีม แต่ตอนนี้เหมือนพีมจะกลายเป็นเกราะให้คุณแล้วนะคะ”

“สาวน้อยเธอไม่รู้ซะแล้ว ผู้หญิงคนเมื่อกี้หลงผมจนหัวปักหัวปำ ทั้งที่ผมไม่เคยแตะต้องเธอแม้แต่ปลายเส้นผม กลับไปบอกคนนั้นคนนี้ว่าผมมีใจให้ ไม่คิดว่ามันน่ากลัวเหรอ ถึงจะเสเพลแต่ก็ไม่ชอบความวุ่นวายนะ”

เสเพลย่อมพ่วงมาด้วยความวุ่นวายอยู่แล้ว ทำไมเขาถึงคิดว่าจีบสาวไปทั่วแบบนั้นจะได้อยู่อย่างสงบสุขล่ะ ผู้ชายนี่เข้าใจโลกน้อยไปจริงๆ ลองผู้หญิงได้คลั่งไคล้หลงใหลจนหัวปักหัวปำ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ทำออกมาได้ เขาจะต้องเจอของจริงเข้าสักวันแน่

พชิราเดินไปยังเต็นท์แต่งตัว เธอมาถึงตรงตามเวลา จึงทักทายทีมงานแล้วนั่งลงให้ช่างเริ่มแต่งหน้า อิทธิพลยังไม่กลับ พอผู้กำกับเดินมาทักทาย เขาก็ใช้คารมคมคายเฉพาะตัวหยอกสาวใหญ่จนเขิน ไม่สนใจรองนางเอกที่ทั้งสาวทั้งเต่งตึงกว่าแม้แต่น้อย

“ฝากพี่สะใภ้ผมด้วยนะครับผู้กำกับคนสวย พี่ชายผมวันนี้ยุ่งมากจึงฝากผมมาส่งน้องพีม ถ้ามีเรื่องเกิดขึ้นกับเธอ ผมกลัวว่าจะถูกพี่ชายจัดการ”

“ไม่…ไม่ต้องห่วงค่ะ พวกเราจะดูแลน้องพีมอย่างดี ไม่จำเป็นต้องกังวลสักนิด” อย่าให้อัครภพมาเองเลย ถ้าถูกเขาคนนั้นฝากฝังล่ะก็ คงวิตกกังวลกลัวแม้กระทั่งมดตัวเล็กๆ จะกัดพชิราแน่ ก็รู้ๆ กันอยู่ว่าเขาลึกลับมีอำนาจแค่ไหน แม้แต่ครอบครัวของมะนาวยังต้องเกรงใจ นับประสาอะไรกับคนในกองถ่ายเล็กๆ นี้

“คุณอิท สวัสดีค่ะ วันนี้นึกยังไงถึงมาที่กองถ่ายล่ะคะ หรือว่าคุณหญิงท่านอยากปรึกษาเรื่องจัดงานการกุศล ถ้าเป็นอย่างนั้นคุณอิทส่งข้อความมาบอกนาวก็ได้ค่ะ ไม่เห็นต้องขับรถให้เหนื่อยเลย”

มะนาวคู่ปรับในกองถ่ายของพชิราเดินมาร่วมวงสนทนา ถามไถ่ราวกับรู้จักมักคุ้นอิทธิพลอย่างดีต่อหน้าทุกคน

“เปล่าครับ ผมมาส่งพี่สะใภ้ ได้ยินแว่ว ๆ ว่าช่วงนี้มีคนชอบหาเรื่องเธอ พี่ผมก็เลยฝากให้มาช่วยดูหน่อยว่าเป็นใคร”

พชิราที่นั่งเงียบเชียบทบทวนบทอยู่เงยหน้าขึ้น “พี่มะนาว”

น้ำเสียงที่จู่ ๆ ก็โพล่งชื่อตนออกมา ทำให้มะนาวหน้ากระตุก พชิราพอได้คนหนุนหลังก็เอาใหญ่เลยนะ ถึงขั้นกล้าฟ้องว่าเป็นเธอต่อหน้าอิทธิพล “น้องพีมเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า พี่เคยไปหาเรื่องน้องพีมตอนไหนเหรอ”

“พีมแค่ทักทายเอง ไม่ได้บอกว่าพี่หาเรื่องพีมสักหน่อย”

พชิราแววตาลุ่มลึก เธอยิ้มอ่อนให้อีกฝ่ายแล้วหันไปสนใจบทในมือต่อ

มะนาวคือตัวการกลั่นแกล้งในกองเลยแหละ ชอบฉวยโอกาสหาช่องโหว่ทุกครั้งเพื่อเล่นงานเธอ ไม่พูดจาสร้างข่าวลือก็ทำเป็นแสดงฉากที่ต้องตบตีกันผิดพลาด แรก ๆ พชิราตามไม่ทัน แต่เดี๋ยวนี้หรือ ต่อให้รุมกันเข้ามาสี่ห้าคนก็ทำอะไรเธอไม่ได้ มีแต่จะเสแสร้งกลับ แล้วจัดการพวกหล่อนคืนเท่านั้น

มะนาวถูกปั่นประสาทก็ฝืนใจยิ้มแปลกๆ ออกมา แผนร้ายที่วางไว้วันนี้คงต้องคิดดี ๆ ก่อน หากฉากนั้นตนตบพชิราจริงๆ ก็ไม่ทราบว่าหล่อนจะเอาไปใส่สีตีไข่ฟ้องอัครภพยังไง ก่อนหน้าเพราะได้ข่าวจากวงในมา บอกว่าที่อัครภพหมั้นหมายสายฟ้าแลบกับยัยนางร้ายต๊อกต๋อยคนนี้ล้วนเกิดขึ้นจากการบังคับ เขาไม่ได้เต็มใจสักนิด เพื่อช่วยกำจัดปลิงดูดเลือดให้พ้นจากชายหนุ่ม เธอจึงหาทางกลั่นแกล้งให้พชิราอยู่ไม่สุข

ไม่คาดว่าคุณอัครภพจะให้น้องชายมาส่งยัยเด็กนี่ที่กองถ่าย แถมยังมาเพื่อหาตัวการที่เป็นอริกับพชิราโดยเฉพาะ

แล้วเธอจะยังกลั่นแกล้งอีกฝ่ายอย่างโจ่งแจ้งเหมือนที่ผ่าน ๆ มาให้จับได้เหรอ

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ