นันท์นรีที่เดินไปถึงประตูแล้วชะงักฝีเท้า นับหนึ่ง สอง สาม ในใจเพื่อให้ตัวเองอย่าได้หันหลังกลับ เขามีขาย่อมไปชงเองได้ และมันไม่ใช่หน้าที่ของเธอ ในเมื่อพวกเราไม่ได้เป็นอะไรกัน จะมาออกคำสั่งตามใจ ใครจะอยากทำไม่ทราบ
“หนูไม่ใช่เด็กคนงานในไร่พี่ค่ะ”
เงียบไปเล็กน้อย จากนั้นก็มีเสียงเอื่อยเฉื่อยลอยมา “ไม่ชงก็ตามใจ ไม่ใช่ว่าจะมีแค่เธอคนเดียวที่ชงรสชาติถูกปากพี่”
นันท์นรีหันขวับ เดินย่ำเท้าปังๆ มาหน้าโต๊ะทำงาน “หมายความว่าไงคะ จะให้แฟนเก่ามาชงให้เหรอ”
ความคิดของคุณานนท์คือให้พนักงานธุรการหน้าห้องชง เพราะก่อนที่นันท์นรีจะมาเป็นแม่บ้านตัวน้อยคอยวนเวียนทำทุกสิ่งทุกอย่างให้เขา ก็เป็นคนที่ด้านนอกรับอาสาบริการกาแฟให้ ยังไม่เอ่ยถึงแฟนเก่าเลยสักคำ แต่เขาไม่บอกความจริงเธอหรอก ปล่อยให้โมโหจนขนตั้งก็น่าสนุกดี คราวนี้จะได้เลิกไร้สาระไม่ต้องมาเซ้าซี้
“ก็ถ้าเธอไม่ทำ พี่ไม่ง้อนะ เพราะตัวเลือกพี่มีเยอะ กลับบ้านไปได้แล้ว”
โทรศัพท์ในมือนันท์นรีสั่นเตือนขัดจังหวะ พอกดรับสาย สีหน้าแง่งงอนน้อยอกน้อยใจก็ค่อยๆ คลาย หว่างคิ้วเรียวยกขึ้นเป็นเชิงตกใจและสงสัย “มาถึงแล้วเหรอ? เร็วจัง แล้วนี่อยู่ที่รีสอร์ทใช่ไหม อีกเดี๋ยวหนูนาไปหานะ ตอนนี้มาทำธุระ”
หลังวางสายนันท์นรีสุดท้ายก็หยิบแก้วกาแฟไปชงให้คุณานนท์ใหม่ แต่เขากลับแต่งตัวจะออกไปทำงานในไร่เฉย
“อ้าว ไม่ดื่มก่อนเหรอคะ” คนเขาอุตส่าห์ทำ ยังไม่ได้ดื่มสักคำก็จะไปแล้ว
คุณานนท์ที่สวมหมวกคาวบอยปีกกว้างสีน้ำตาลใบโปรดหลุบตามองแก้วกาแฟ รับจากมือเธอมาก็ยกดื่มจนหมดในรวดเดียว “เย็นนี้ไม่ว่างก็ไม่ต้องมา…”
พวกเขามักนัดเจอกันช่วงหลังมื้ออาหารเย็นเพื่อทำเรื่องนั้น วันนี้ดูท่าเธอจะมีแขกคนสำคัญ คุณานนท์จึงบอกไว้ก่อน เขาก็เข้าใจหน้าที่การงานของเด็กสาว แต่เธอกลับหน้างอปากคว่ำไม่พอใจอีกแล้ว
“ไม่ให้มาเพราะกลัวแฟนเก่าเข้าใจผิดเหรอคะ หรือว่า…” นันท์นรีปากสั่นจนพูดไม่ออก
หรือเขาจะรำลึกความหลังกับแม่สาวนั่นกัน พอคิดว่าเมื่อก่อนทั้งสองได้คบหาลึกซึ้ง คุณานนท์ยอมรับทั้งกายและใจว่าเสน่หาผู้หญิงคนนั้น นันท์นรีก็ปวดใจทั้งรู้สึกอิจฉาขุ่นเคือง เธอก็เป็นแบบนี้ ไม่ว่าจะใครก็ตามที่เข้าใกล้คุณานนท์ หากมาด้วยจุดประสงค์ไม่โปร่งใสหรือมีอดีตหวานชื่นกับเขา เหล่านั้นเธอล้วนแล้วแต่ไม่ชอบ
คุณานนท์ราวกับอ่านความคิดเธอได้ ปากของเขามักจะไม่ค่อยดีอยู่แล้วด้วย พอมีเหตุให้ต้องทำร้ายจิตใจคนน่ารำคาญ ก็ไม่พลาดที่จะสมทบ ชายหนุ่มพูดต่อท้ายประโยคที่หายไปของนันท์นรีอย่างคลุมเครือ
“เรื่องนี้ก็เหมือนชงกาแฟนั่นแหละ ไม่ใช่เธอคนเดียวที่ทำได้…”
ไม่รู้ว่าเขาแค่พูดให้เธอรู้สึกหงุดหงิดหรือหมายความตามนั้นจริงๆ ตอนที่จากมาสีหน้าไม่แสดงอารมณ์แต่แววตากลับซับซ้อนยากจะคาดเดาอย่างยิ่ง แฟนเก่าคนนี้มีที่มาที่ไปยังไง ตัวเธอก็ไม่ได้สืบเสาะเพราะตลอดหลายปีคุณานนท์ใช่จะมีแฟนแค่คนเดียว ตกลงพวกเขาจบกันดีหรือไม่ดี เป็นใครที่ขอเลิกก่อน พี่ชายสุดที่รักจะกลับไปกินน้ำพริกถ้วยเก่าหรือเปล่า นี่สิถึงจะเป็นปัญหา ถ้าผู้หญิงคนนั้นเพียงจบกันเพราะหมดรักไม่ได้ทำอะไรร้ายแรง แถมสวยมาก ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นไปไม่ได้นันท์นรีคิดอย่างห่อเหี่ยวใจ ว้าวุ่นไม่สงบจนกลับมาถึงบ้านที่ไร่ส้มฟ้าอุ่น ขณะลงจากรถยังเอาแต่นึกทวนว่าหากเย็นนี้ไม่ไปหาเขา เจ้าตัวจะรำลึกความหลังกับแฟนเก่าใช่ไหม เดินๆ หยุดๆ จนได้ยินเสียงๆหนึ่งลอยมาจึงได้สติเงยหน้ามอง
“หนูนา ไปทำอะไรมาดูเหนื่อยเชียว”
คนที่ทักทายเป็นชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับนันท์นรี บุคลิกก็คล้ายเธอคือมีท่าทางกระตือรือร้นดวงตาสองข้างเปี่ยมไปด้วยพลังงาน เขาสูงชะลูดพอๆ กับคุณานนท์แต่ไม่เจิดจ้ามีสง่าราศีน่าเกรงขามเท่าอีกฝ่าย ภายนอกออกจะให้ความรู้สึกว่าเป็นคุณชายรักสบาย ผิวพรรณก็ไม่หยาบกร้านมีน้ำมีนวล แต่มีนิสัยหนักเอาเบาสู้ สำคัญคือรูปหล่อไม่ใช่ย่อย
“เดินทางตั้งไกลทำไมไม่พักผ่อน”
“เหนือเอาของมาฝากพ่อกำนันกับแม่หวานครับ ได้ยินว่ารีสอร์ทมีลูกค้าไม่ขาดเลย เก่งจริงๆ นะเราตัวแค่นี้” น้ำเหนือวางมือลงบนศีรษะของนันท์นรี เพราะเอ็นดูจึงได้ยีเส้นผมเธอเบาๆ
“อย่ามาเล่นหัว คนกำลังอารมณ์ไม่ดี” นันท์นรีใช้แรงไม่มากปัดมือของอีกฝ่ายออก เพื่อนที่ตัวสูงกว่าเธอคนนี้ชอบนักแหละไอ้ลูบหัวลูบหางเนี่ย ลูบบ่อยเข้าจนตอนเรียนมหาวิทยาลัยมีแต่คนเข้าใจผิดคิดว่าพวกเราเป็นมากกว่าเพื่อนกัน
“กินข้าวหรือยัง เดี๋ยวให้ครัวทำอาหาร” นันท์นรีถึงแม้จะไม่ชอบ แต่นั่นก็เป็นอีกเรื่อง แขกมาบ้านก็ต้องต้อนรับอย่างเต็มที่จึงได้เอ่ยปากถามออกไป
“กินแล้ว อยากไปดูไร่ส้ม หนูนาว่างไหมพาไปหน่อย”
นันท์นรีย่อมว่างพอจะพาไป แต่สำหรับน้ำเหนือมันไม่ใช่ครั้งแรกแล้วน่ะสิ ไร่ส้มฟ้าอุ่นนี้เขาน่าจะรู้จักดีกว่าเธอเสียอีกมั้ง “ทำเหมือนไม่เคยเห็น ก็มาที่นี่ทุกปีไม่ใช่เหรอ ยังเดินดูไม่หนำใจ?”
น้ำเหนือหัวเราะเล็กน้อย ยังวางมือยีเส้นผมของเธอเหมือนเดิม “ก็ไม่ได้มานานแล้วไหม ครั้งสุดท้ายก็หกเดือนที่แล้ว มีอะไรเปลี่ยนไปยังไงบ้าง ส้มออกดอกออกผลดกไหม แล้วต้นที่เหนือปลูกโตแค่ไหนแล้ว ในฐานะปะป๊าจะไปดูไม่ได้เหรอ”
หลังการโต้เถียงครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ทนต่อข้ออ้างไร้สาระของเพื่อนไม่ไหว นันท์นรีจึงพาน้ำเหนือไปเดินเล่นในไร่ส้มช่วงบ่ายอ่อนๆ ช่วงนี้เป็นปลายฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูร้อนจึงไม่ค่อยมีผลส้มเหลืออยู่บนกิ่งก้านแล้ว ต้นส้มสีเขียวปลูกเป็นแนวยาวอยู่บนร่องยกสูงกินพื้นที่หลายไร่ แทนที่ผลส้มสีสวยก็คือดอกส้มสีขาวแซมประปราย แม้ไม่ค่อยได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเท่าตอนส้มออกผลเต็มที่ แต่ก็มีลูกค้าจากรีสอร์ทเข้ามาถ่ายรูปไม่น้อย
“หื้ม! โตเร็วขนาดนี้เชียว นี่รอถึงสิ้นปีคงออกผลให้ได้กินแล้วมั้ง” น้ำเหนือดีใจที่ต้นส้มของเขาแตกกิ่งก้านสาขาได้น่าทึ่งในระยะเวลาเพียงหกเดือน จึงล้วงโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกพร้อมทั้งดึงนันท์นรีมาถ่ายด้วย
“โอ๊ย! มีแต่รูปตาปรือ ถ่ายยังไงของเหนือเนี่ย!” นันท์นรีจะกดลบหมดแล้วถ่ายใหม่ ทว่าแสงของวันนี้หมดแล้ว และน้ำเหนือก็ฉกโทรศัพท์ไปจากมือเธอก่อนจึงไม่สามารถลบรูปตลกพวกนั้นได้ “เลือกรูปสวยๆ ด้วย อย่าให้เห็นว่าแกล้งกันนะ”
เที่ยวเล่นจนมืดค่ำ กลับมากินข้าวที่บ้านพร้อมหน้าครอบครัวเรียบร้อยทุกคนก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน นันท์นรีเหนื่อยทั้งกายทั้งใจมาตลอดทั้งวันจึงง่วงเร็ว ครั้นพอหลับตารู้สึกว่ามีบางอย่างที่ยังไม่ได้ทำเลยลุกนั่งพิงหัวเตียง เธอกุลีกุจอกดส่งข้อความไปหาคุณานนท์
(หนูนา: นอนหรือยังคะ ทำอะไรอยู่?)
และชายหนุ่มก็อ่านไม่ตอบเช่นเคย นันท์นรีไม่คิดมากอีกกดโทรไปหา รอสายจนเกือบตัดอัตโนมัติในที่สุดก็ได้ยินเสียงเย็นเข้ากระดูกของคุณานนท์ น้ำเสียงนั้นง่วงงุนเจือรำคาญนิดๆ “มีอะไร”
เด็กคนนี้กลางคืนไม่หลับไม่นอน ต้องมากวนคนอื่นให้ได้
“ทำไมเสียงของพี่ดูเหนื่อยๆ คะ ไปทำอะไรมา” เธอก็ไม่ได้อยากงี่เง่าหรอก ทว่าตั้งแต่แฟนเก่าคนนั้นปรากฏตัวแถมหล่อนยังพักอยู่ที่ไร่มั่นรัก จะไม่ให้เธอระแวงระวังสักหน่อยก็คงไม่ใช่ คุณานนท์หล่อเหลาสาวกรี๊ดชวนยั่วน้ำลายเสียด้วย ฟ้ามืดหมอกลง บรรยากาศสงัดพาให้เปล่าเปลี่ยวใจ สาวสวยอยู่ใกล้แค่เอื้อมมือมีหรือจะหักห้ามใจไหว
“เรื่องอะไรพี่ต้องบอกเธอ ไม่มีธุระสำคัญก็แค่นี้ จะนอนแล้ว”
“นอนกับใครคะ ถ่ายรูปเตียงมาให้หนูดูเลยนะ ถ้าไม่ยอมหนูจะขับรถไปหาจริงๆด้วย จะ…จะไปกวนพี่ไม่ให้ได้นอน”
“ตอนนี้ยังกวนไม่พอ?” เขาพูดราวกับเหนื่อยหน่ายใจนักหนา อายุก็ไม่น้อยแล้วแต่กลับต้องมาวุ่นวายเพราะเด็กขี้หึงคนหนึ่ง ตอนบ่ายโดนเขาแกล้งจนงอนหน้าบึ้งกลับบ้าน ยังไม่ทันไรก็ลืมความโกรธมาวอแวเขาอีก ถึงอย่างนั้นพ่อเลี้ยงหนุ่มก็ถ่ายรูปส่งเข้าไปในแชทสนทนา ไม่ทราบทำไปเพราะตัดรำคาญหรืออะไร แต่หญิงสาวปลายสายดีใจจนอุดปาก
“พี่ครามน่ารักจัง ถ่ายมาให้ดูจริงด้วย น่ารัก น่ารัก” แก่แล้วก็ยังน่ารัก
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?