ตึ้ง! เสียงแจ้งเตือนเข้ามาเป็นข้อความที่สามสิบแล้ว พอได้รับอนุญาตยายเด็กแก่แดดก็เล่นใหญ่ส่งมารัวๆ ราวกับปล่อยความอัดอั้นระบายในทีเดียว นี่เธอต้องอดทนแค่ไหนถึงมีพลังสรรหาเรื่องมาคุยได้ขนาดนี้ ไม่ใช่เขาบอกไปแล้วเหรอว่าไม่ฉุกเฉินไม่ต้องพร่ำเพรื่อ นี่ดูแล้วเหมือนจะตรงกันข้าม
คุณานนท์นอนอยู่บนเตียง ว่าจะปิดเสียงไม่ให้รบกวนแต่ข้อความสุดท้ายมาเป็นรูปภาพ เขาอยากรู้นิดหน่อยจึงลองกดเปิดดู เนินขาวอวบอิ่ม ร่องลึกเบียดชิดหมายปลิดชีวิตใครก็ตามที่กล้าฝังใบหน้าลงไป เส้นโค้งอันได้สัดส่วนอ่อนช้อย จุดปลายยอดหมิ่นเหม่ซ่อนไว้ในเสื้อกล้ามกระตุ้นจินตนาการ แม้เขาเย็นชาแต่ก็ยังเป็นผู้ชาย หญิงสาวส่งรูปวาบหวิวมาให้ดู แถมยังเป็นของดีหายากเช่นนี้ พ่อเลี้ยงหนุ่มจึงทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย
เขาควรจะปล่อยเบลอหรือตำหนิกลับไปดี คุณานนท์จ้องพื้นที่อวบๆ ขาวๆ เหมือนซาลาเปาเขม็ง เพราะเคยขย้ำมาแล้วจึงรู้ว่ามันนุ่มยุ่นบีบสนุกมือแค่ไหน ต่อให้ฝืนควบคุมทำปากหนักยังไง ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้อารมณ์ของตนถูกกระตุ้นแล้ว แววตาแข็งกร้าวเริ่มซับซ้อน พออีกฝ่ายส่งมาให้ดูอีกสองสามรูป ล้วนแล้วแต่เป็นเต้าอวบอิ่ม กรามคมสันก็กดแน่นเข้าหากันจนนูนเป็นแนว หน้าผากอัดแน่นไปด้วยรอยยับย่นเคร่งเครียดน่ากังวลใจ
นี่เธอคิดจะยั่วยวนกันเพื่อให้เขาเกิดความอยากเหรอ ป่วยจะตายยังมีเรี่ยวแรงมาอ่อยอีก
คุณานนท์ไม่ตอบกลับข้อความเช่นเคย ทว่าเบื้องล่างช่องท้องพลันร้อนระอุอย่างไม่อาจควบคุม เรื่องบางเรื่อง ต่อให้ผละความสนใจลุกไปทำอย่างอื่นก็ไม่ช่วยให้ดีขึ้น จำเป็นจะต้องระบายให้ถูกจุด ฝ่ามือหนาจึงแทรกเข้าไปในกางเกงนอน กุมเอาความร้อนหยาบที่แข็งหนึบไว้ จากนั้นเริ่มบรรเทาความใคร่ที่กำลังลามไล่ไปทั่วร่างช้าๆ
เขาทำคนอื่นรุนแรงแค่ไหนก็ทำกับตัวเองไม่ต่างกัน ยิ่งเดินไปบนเส้นทางชวนวูบไหวยิ่งชักรูดมือดิบเถื่อน ในหัวมีเพียงสีหน้าเว้าวอนแดงซ่านของนันท์นรี และเสียงร้องครางยามถูกเขาทารุณจนร่างอรชรสุขสมอ่อนระทวย
“อ๊า!” ธารขาวขุ่นฉีดพ่นทะลักทะล้น ไม่ได้ปลดปล่อยเลยตั้งแต่เธอไม่มายั่ว ยามเสร็จสมจึงเสียวกระสันรุนแรง
นานแล้วนับแต่จบมัธยมปลายเลยก็ว่าได้ที่เขาไม่ได้ใช้มือช่วยตัวเอง พอกลับมาทำมันค่อนข้างรู้สึกไม่ชิน แถมคนที่เร้าเขาจนต้องระบายดันกลายเป็นเด็กสาวไร่เพื่อนบ้าน คนที่น่ารำคาญมากๆ คนที่ที่ทำให้เขานึกถึงแฟนเก่าคนนั้น
สองวันต่อมา นันท์นรีหายป่วยแล้ว สิ่งแรกที่เธอทำก็คือเตรียมขนมนมเนยและเข้าครัวทำขนมจีนน้ำเงี้ยวไปฝากคุณานนท์ นี่เป็นเมนูอาหารโปรดของเขา เพราะความสบายใจที่ได้คุยกับชายหนุ่มช่วยให้เธออาการดีขึ้น หญิงสาวจึงอยากตอบแทนกลับบ้าง เหตุผลอาจไม่เกี่ยวกันนักแต่นันท์นรีก็ไม่ใส่ใจ จุดประสงค์แค่ต้องการไปจีบพี่ชายสุดหล่อเท่านั้น
ในห้องทำงานของพ่อเลี้ยงหนุ่มเจ้าของนัยน์ตาลึกล้ำ พอเหลียวซ้ายแลขวาไม่เห็นเงาคน นันท์นรีวางกล่องอาหารไว้แล้วเดินไปด้อมๆ มองๆ ดูว่าคุณานนท์กำลังทำอะไรอยู่ เขาเหมือนไม่เห็นเธอจึงไม่ทักทาย เอาแต่นิ่วหน้าคิ้วขมวดราวกับมีเรื่องเคร่งเครียดหนักหนา
เป็นเด็กดีต้องรู้ความ หญิงสาวจึงไม่รบกวน เพียงวนกลับไปนั่งลงบนโซฟาแล้วแกะห่อเตรียมมื้อเที่ยงรอเขาเงียบๆ
คุณานนท์เหลือบมองคนที่มาทีหนึ่ง จากนั้นสบถด่าตัวเองในใจ เขาเหมือนเจอปัญหาจนต้องเคร่งเครียดกับงาน ทว่าความจริงชายหนุ่มกำลังรวบรวมจุดโฟกัส บังคับให้ตนไม่วอกแวกจนลุกขึ้นไปกระชากยายเด็กตัวดีมาเปลื้องผ้าล่อนจ้อน แล้วเอาให้ดิ้นตายชำระไฟโมโห ความใคร่ที่เกิดขึ้นเมื่อสองวันก่อนมันไม่ปกติเลย ตนไม่คิดพิศวาสยายเด็กคนนี้มากมาย มาอ้าขาให้ก็เอา ไม่อ้าก็ไม่เอา ทว่าคืนนั้นกลับสับสันชั่ววูบ ยับยั้งใจไม่ได้ ถึงขั้นลงมือกับตัวเอง…
“เที่ยงกว่าแล้วนะคะ หนูนาทำขนมจีนน้ำเงี้ยวมาฝาก พักก่อนดีไหม” เสียงของนันท์นรีทำลายความเงียบ
ตั้งแต่เธอมาป้วนเปี้ยนเขาก็ไม่ได้กินข้าวที่โรงอาหารของไร่อีก เป็นนันท์นรีที่เทียวมาใช้ห้องครัวทำนั่นทำนี่ให้กิน รสมือของเธอก็พอได้ วิจารณ์ว่ากินแล้วไม่ตายคงให้คะแนนต่ำไป เอาเป็นว่าอร่อยกว่าที่แม่ครัวไร่เขาทำนิดหน่อยก็แล้วกัน
คุณานนท์วางงานที่ไม่ได้ทำตั้งแต่แรกลงแล้วลุกขึ้นเดินมานั่งโซฟาข้างหญิงสาว แววตาซับซ้อนกวาดมองผ่านร่างของนันท์นรีคล้ายตั้งใจและไม่ตั้งใจ พอใบหน้าน้อยๆ แก้มเนียนใสเงยขึ้นฉับพลัน จังหวะนั้นคุณานนท์เกือบเก็บสายตากลับคืนไม่ทัน ดีว่าเขาไวกว่าเธอจึงไม่เห็นความนัยคลุมเครือที่ซ่อนอยู่ เด็กสาวยิ้มแป้นเห็นฟันขาวเรียงสวย
ยิ้มนี้เจิดจ้าจนแสบพร่านัยน์ตา ยิ่งกระตุ้นให้เกิดภาพซ้อนทับบางอย่างที่ไม่น่าอภิรมย์ “ยิ้มอะไร?”
คุณานนท์ตอนนี้นิสัยดุมากและปากร้ายสุดๆ แค่คำถามทั่วไปแต่พอเป็นเขาพูดกลับสื่อสารในทางที่ไม่ทำให้รู้สึกดีนัก ตั้งแต่เกิดมานันท์นรียังไม่เคยเจอใครถ่อยเถื่อนได้เท่าพี่ชายไร่ข้างเคียงคนนี้ กลับมาพบกันอีกครั้งราวโชคชะตาฟ้าลิขิต ทว่าพี่ชายที่กลายเป็นคนเย็นชา มันแทบจะลบล้างความทรงจำงดงามทุ่งลาเวนเดอร์ของเธอไปหมด แม้ตกใจทั้งไม่คุ้นชิน แต่ก็จะพยายามปรับตัวเพื่อเข้ากับเขาให้ได้ ใครใช้ให้ตกหลุมรักคนๆ นี้กันเล่า
“ยิ้มไม่ได้เหรอคะ หรือต้องทำหน้าบึ้งเหมือนโกรธตลอดเวลาเหมือนพี่คราม ไม่เอาหรอกค่ะ เดี๋ยวแก่เร็ว”
คุณานนท์ที่อายุมากกว่าเธอสิบสามปีบีบหว่างคิ้วแน่นยิ่งขึ้นไปอีก “ไม่ชอบแก่ๆ? พี่เองก็ไม่ชอบเด็กน่ารำคาญ”
แล้วไหงเข้าใจไปแบบนั้นได้ล่ะเนี่ย! นันท์นรีถึงกับเพลีย จู่ๆ คุณานนท์ก็อารมณ์ไม่ดี มันมาจากที่เธอพูดคำว่าแก่เหรอ
“แต่เด็กเอาใจเก่งนะคะ ยิ่งหนูนาแล้วยิ่งเลี้ยงง่าย กินน้อย เรียบร้อย อ่อนหวาน ให้ทำอะไรก็ทำได้ แถมสู้แดดสู้ฝน”
ยิ่งกว่าบรรยายสรรพคุณสินค้า โฆษณาเหลือเชื่อเกินจริงจนคุณานนท์ฟังแล้วมุมปากกระตุกไปเลย โดยเฉพาะที่เธอบอกว่าเรียบร้อยและสู้แดดสู้ฝน ถ้าไม่รู้จักกันมาก่อน หากเมื่อเร็วๆ นี้เธอไม่ได้ป่วยจนหมดแรง เขาคงเชื่อโดยไม่คลางแคลงสงสัย ส่วนเรื่องความเรียบร้อย คิดถึงข้อนี้ชายหนุ่มก็เยาะหยันในใจ เรียบร้อยยังไงมาเซ้าซี้ผู้ชายไม่เลิก
เด็กสาวประเภทที่ภายนอกรูปลักษณ์อ่อนหวานบอบบางเช่นนันท์นรี เอาอกเอาใจเก่งแถมยอมทนลำบาก สามารถหลอกเขาได้แค่ตอนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยเท่านั้นแหละ หลังผ่านประสบการณ์อันแสนสาหัสจากรักครั้งล่าสุด พวกที่หน้าสวยๆ ปากหวานๆ ต่อแต่นี้เอาไว้แค่เล่นสนุกผิวเผินก็พอ หากจะจริงจังใจแลกใจย่อมไม่มีทาง
นิ้วเล็กๆ ยื่นมาสะกิดแขนเขา “คิดอะไรอยู่คะ กินข้าวกันดีกว่า”
คนหนึ่งคิดไม่ดีมุ่งแต่มีอคติ แต่อีกคนกลับวางตัวสนิทสนมคุ้นเคย บรรยากาศแยกเป็นสองขั้วแต่คุณานนท์กลับยั้งคำพูดมากกว่าเมื่อช่วงแรกที่พบกัน หลังหายป่วยหญิงสาวก็ลงมือทำอาหารมาส่งให้เขา ตอนอาการไม่ค่อยดีเกรงว่าเขาจะติดเชื้อจึงไม่ได้มาหา แม้แต่ส่งข้อความมาบอกกล่าวก็ไม่กล้าเสียดื้อๆ เป็นเพราะไร่มั่นรักขณะนั้นยุ่งอยู่กับการปรับปรุงสนามขี่ม้า จะบอกว่าทั้งหมดเป็นความซื่อที่น่าเอ็นดูชวนให้ใจอ่อนก็ได้ แต่เขาผ่อนปรนให้ครั้งนี้ครั้งเดียว ไม่มีซ้ำสองแน่
คนสองคนรับประทานอาหารด้วยกัน ถึงยามบ่ายคุณานนท์จะออกไปไร่องุ่นสักหน่อย เขาเบาฝีเท้าแล้วทว่านันท์นรีที่งีบหลับอยู่บนโซฟาดันส่งเสียงเรียกไว้ “พี่คราม ไปไหนคะ”
“ไปทำงานสิ จะว่างมานอนกลางวันเหมือนเธอเหรอ”
“หนูแค่พักสายตาเอง ไปไร่องุ่นเหรอคะ หนูไปด้วย”
“ไม่ต้อง”
นันท์นรีลุกขึ้นแต่งตัว เขาห้ามก็ไม่ฟัง ขณะนั้นโทรศัพท์ของพ่อเลี้ยงหนุ่มพลันสั่นเตือน เป็นสายที่มาจากส่วนกลางของไร่มั่นรักซึ่งเป็นส่วนสำหรับติดต่องาน ทางนั้นบอกว่ามีคนๆ หนึ่งมาถามหาเขา อยากพบเขา ถามดูจนทราบว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิง คุณานนท์จึงอดแปลกใจไม่ได้
ถ้าเป็นคู่ค้าทางธุรกิจ ไม่มีทางที่จะไม่รู้เบอร์ส่วนตัวของเขา และไม่มีทางมาขอพบด่วนหากไม่นัดล่วงหน้าก่อน
“พี่คราม ตกลงไปกันไหมคะ” นันท์นรีถามขึ้นอย่างง่วงงุน
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?