ตอนที่ 11 ทำให้เขาผ่อนคลาย

นางมารร้ายอย่างเธอกับฉากยั่วยวนเป็นของคู่กัน เวลาแสดงออกมาจึงไม่เหนียมอายเก้อเขิน ในละครเพื่อให้ได้หัวใจของพระเอก ตัวร้ายต้องคิดหาสารพัดวิธีมาใช้จนแทบไม่เลือก ที่ฮอตฮิตทุกยุคทุกสมัยคือใช้เรือนร่าง พชิราเคยวิจารณ์ก่อนจะรับเล่นบทพวกนี้ว่ามันจำเจไม่แปลกใหม่ แต่เพราะอำนาจสั่งการอยู่ในมือของผู้กำกับและคนเขียนบท เธอที่พึ่งเข้าสู่สายอาชีพนี้จึงปรับเปลี่ยนตามใจชอบไม่ได้ ไม่คิดว่าวันหนึ่งบทที่ไร้ชั้นเชิงแบบนั้นจะได้นำมาใช้ประโยชน์

อัครภพยอมให้เธอยั่วยวนเขาเสียด้วย

พชิรานำฝ่ามือหนาเย็นเฉียบที่หน้าอกขึ้นมาแตะริมฝีปาก ประทับจูบคลอเคลียผิวหนังดุจน้ำแข็งเบาๆ จากนั้นแลบลิ้นออกมาไล้เลียไปตามโคนและซอกนิ้วของเขาอย่างไม่อาย ทั้งที่เขินจนใจเต้นระส่ำ แต่ยังคงทำเหมือนไม่ตระหนกใดๆ ทั้งสิ้น ยังเลียมือของเขาอย่างเว้าวอนเสน่ห์หา สีหน้าก็เลียนแบบเอาตามอย่างพวกนางเอกหนังเอวีมาใช้

แม้อัครภพจะควบคุมตัวเองได้ดี แต่อย่างไรเขาก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง ไม่ใช้อาวุธร้ายโชกโชนเท่าน้องชาย แต่ก็ไม่ได้ตายด้านไร้ความรู้สึก ยิ่งไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่พอโดนนางมารล่อหลอกแล้วจะเพิกเฉย ลิ้นอ่อนนุ่มของเธอที่กำลังเร้าเลียฝ่ามือเขาอยู่ ให้ความรู้สึกแปลกประหลาดจริงๆ จนบางสิ่งบางอย่างใต้สะดือมีปฏิกิริยาขึ้นมา

“พีม พอได้แล้ว” ในที่สุดเขาก็หาเสียงตัวเองเจอ ทว่าประโยคต่อมาของเด็กสาวกลับเหมือนน้ำเย็นจัดรดลงมาบนศีรษะ ทำให้สติที่แขวนอยู่บนเส้นด้ายเกือบขาด

“พี่อัคอยากให้พอจริงๆ เหรอคะ แต่ว่าตรงนั้น…มันแข็งแล้วนะ”

ดวงตากลมโตหลุบต่ำลงมองระหว่างขาแกร่ง ชุดคุณหมอปลอดเชื้อสวมใส่สบายไม่รัดแน่น แต่บางสิ่งที่นูนแข็งทั้งมีขนาดใหญ่กำลังพองตัวขึ้นมาจึงปกปิดไม่มิด ทีแรกมองไปเห็นก็ตกใจอยู่ หากแต่พอรู้ว่ามันเป็นเพราะเธอ พชิราจึงข่มความเขินอายแล้วเล่นกับเขาต่ออย่างได้ใจ ถึงกับยื่นมือไปลูบคลำ

“ไม่ให้พีมช่วยจริงๆ เหรอคะ เราเป็นคู่หมั้นกันแล้ว คนเดียวที่จะทำเรื่องนี้ให้พี่อัคได้มีแค่พีมเท่านั้น”

อัครภพจับมือเธอไว้ ใบหน้าหล่อเหลาแสดงออกว่าหมดความอดทน เขาก้าวลงไปยืนข้างเตียงทันที ขณะที่พชิราคิดว่าคู่หมั้นหนุ่มจะตำหนิตักเตือนตนเหมือนเคย กลับได้เห็นเขาร่นกางเกงลง สายตาล้ำลึกซึ่งหม่นแสงนานแล้วมองลงมา ฝ่ามือหนาพลันดึงลำคอขาวผ่องของเธอให้ก้มไปหาท่อนลำ

“ทำสิ เธอชอบไม่ใช่หรือไง” อัครภพเห็นเด็กขี้ยั่วตกใจก็เริ่มสั่ง ทำไมจู่ๆ เธอถึงทำสายตาเหมือนวิตกล่ะ ในเมื่อก่อนหน้ายังทำตัวเหมือนหิวกระหายซะขนาดนั้น เขาจะป้อนให้กิน กลับเปลี่ยนใจไม่เอาแล้วงั้นเหรอ

พชิรามองความปรารถนาลำมหึมาที่ผงาดอยู่เบื้องหน้าตนเอง พลันกลืนน้ำลายไม่รู้ตัวอึกใหญ่ เพราะยังไม่เคยอมให้ใครมาก่อน จึงคิดอย่างวุ่นวายว่าหากลีลาย่ำแย่ เขาต้องรู้แน่ว่าเธอมันเก่งแต่ยั่ว

“อย่าเสียวเกินไปแล้วกันนะคะ”

“ฮึ” เขาเยาะหยันในลำคอ น้ำเสียงเหมือนนึกขันแต่ฟังแล้วชวนให้หวั่นไหว

พชิราจึงโน้มลงไป อ้าปากให้กว้างที่สุดแล้วอม

แผ่นหลังแกร่งพลันหวิวสะท้าน ลมหายใจที่ถูกควบคุมให้สม่ำเสมอเริ่มหนักขึ้น ในโพรงปากของเด็กสาวนุ่มและอุ่น ให้สัมผัสที่ยากจะอธิบายแก่เขา เธอดูดมันช้าๆอย่างละเมียดละไม ราวกับได้ลิ้มลองแท่งไอศกรีมรสโปรดก็ไม่ปาน มือสองข้างยังชักรูดส่วนโคนเสริมให้วาบหวามยิ่งขึ้น

ใบหน้าอัครภพยังคงไม่แสดงอารมณ์ หากแต่ใบหูเริ่มแดง ประกายหม่นมัวในดวงตาค่อยๆ แตกพร่าขึ้นเรื่อยๆ ตามจังหวะการชักรูดริมฝีปากของเด็กสาว ท่าทางของเธอเหมือนทำเก่ง เหมือนทำมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ทว่าความเป็นจริงพชิราอมได้เงอะงะงุ่นง่านทั้งประหม่าจนน่าขัน นัยน์ตาคมกริบจึงมีทั้งความหวามซ่านและเอ็นดูเด็กอวดเก่งปะปนกัน

“สบายไหมคะ” พชิราลองถามขณะชักรูดให้เขา เธออมได้ไม่ลึกพอ จึงพยายามเล้าโลมด้วยมือแทน

เสียงทุ้มแหบต่ำหลุดรอดออกมาจากลำคอของชายหนุ่ม เขากดศีรษะพชิราลงมาอีก ป้อนแก่นกายแข็งคึกที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดเข้าไปในโพรงปากอ่อนนุ่ม จากนั้นชายหนุ่มก็เป็นฝ่ายขยับโยกเอง

“อื้อ! แค่กๆ” พชิราสำลักทันที สิ่งที่แทงลึกเข้ามาเกือบไหลลงไปในลำคอน้อยๆ ของเธอ อัครภพบังคับจับศีรษะเธอเอาไว้ ราวกับไม่ได้ดั่งใจจึงโยกเอวใส่เองอย่างแทบจะบ้าคลั่ง

ในห้องมีเสียงอึกอักสำลักลอยมาเป็นระลอก รวมไปถึงเสียงหอบหายใจทุ้มต่ำขณะขยับตักตวงความเสียวซ่านของชายหนุ่ม เขาโยกเข้าออกเช่นนั้นอยู่นานพอสมควร สุดท้ายก็ทนไม่ไหวกัดฟันปลดปล่อยออกมา ใบหน้าหล่อเหลาแดงระเรื่อมีกลิ่นอายราคะอันคาวคลุ้ง ยามเมื่อสุขสมรับรู้ได้เพียงว่าร่างกายโล่งสบายอย่างยิ่ง

โล่งเสียยิ่งกว่าได้นอนแปดชั่วโมงเสียอีก ดูเหมือนปากเล็กๆ นี่นอกจากพูดจาแทะโลมแล้วยังพอมีประโยชน์อย่างอื่น

“อา!” อัครภพกำลังซึมซับสารแห่งความสุข ฉับพลันก็ต้องตื่นตะลึงเมื่อพชิราประคองแก่นกายของเขาไว้

ริมฝีปากอวบอิ่มของเธออมลงมาอีกครั้ง เริ่มรูดรั้งดูดเอาน้ำรักที่ข้นคาวกลืนลงคอ คล้ายเป็นการทำความสะอาด คล้ายเป็นการยั่วยวน เขามองสิ่งที่เด็กสาวทำอย่างอึ้งๆ ในช่องท้องพลันปั่นป่วน ลมหายใจหนักหน่วงแทบจะดิบเถื่อน

อัครภพพูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง พอเด็กสาวยอมคายมันสักที เขาจึงดึงกางเกงขึ้นมาสวมให้เรียบร้อย

พชิราที่ทำทุกวิถีทางเพื่อเอาใจคู่หมั้นสุดหล่อไม่รู้เลย ว่าความใจกล้าของเธอจะกลายเป็นภาพติดตาชายหนุ่ม เพียงเช็ดปากเช็ดน้ำตาที่ไหลให้ลวกๆ จากนั้นยิ้มยั่วเย้าเขา

“ถ้าพี่อัคชอบ เรียกใช้บริการได้ทุกเมื่อเลยนะคะ พีมพร้อมมาสนอง”

หนุ่มคู่หมั้นมองใบหน้าแดงซ่านของเธอ ถอนหายใจแล้วเดินออกจากห้องนอนไป หลังพายุใหญ่พัดผ่าน คลื่นลมสงบท้องน้ำนิ่งเงียบ อัครภพจึงตระหนักได้ว่าเมื่อสักครู่เขาทำเรื่องผิดพลาดซ้ำเป็นหนที่สอง ยอมให้พชิรามาใกล้ชิดจนเกินเลย

ก่อนหน้านี้ตั้งใจแล้วว่าต่อให้หมั้นหมายก็จะไม่แตะต้องน้องสาวเพื่อนสนิทอีกเด็ดขาด จะหาทางยกเลิกข้อผูกมัดกับเธอ แต่พอถูกเด็กสาวยั่วยวน เขากลับกลายเป็นพวกไม่ยับยั้งตัวเอง กลายเป็นถูกเธอปั่นป่วนจนเสียการควบคุม

“ทำบ้าอะไรของเราวะ พึ่งแตกเนื้อหนุ่มหรือไง อายุไม่ใช่น้อยๆ แล้วทำไมยังเล่นตามเกมยัยเด็กนั่น”

แถมยังชอบความรู้สึกถึงจุดสุดยอดอีก พอไม่มีฤทธิ์ยามาเกี่ยวข้อง เขายิ่งรับรู้ได้ว่ามันสุขซ่านแค่ไหน ตลอดชีวิตเกือบสามสิบปีมานี้ เขาไม่เคยเที่ยวผู้หญิง ไม่เคยคบหาใคร นอกจากตั้งหน้าตั้งตาเรียนและทำงานหนัก ก็แทบไม่มีเวลาให้อย่างอื่น ยิ่งเรื่องเซ็กซ์ยิ่งห่างไกล เหนื่อยก็นอน จนบางครั้งคนรอบข้างคิดว่าเขาตายด้านไร้ความรู้สึกไปแล้ว

กระทั่งมาเจอกับเด็กตัวแสบ จึงได้สัมผัสกับคำว่าถึงจุดสุดยอดอย่างรุนแรงเป็นครั้งแรก อารมณ์ใคร่ที่เขาไม่เคยคาดคิดว่าตนจะมี จู่โจมเข้ามาจนหน้ามืดตามัวไปหมด รู้สึกไม่คุ้นชิน ทว่านี่กลับเป็นธรรมชาติของมนุษย์ เพียงแต่ตนทำตัวเหมือนเครื่องจักรมานานจึงไม่เคยเสพสุขก็เท่านั้น

ประตูห้องนอนเปิด พชิราเปลี่ยนชุดกลับไปเป็นชุดเดิมเหมือนตอนมา เธอต้องไปทำงานแล้ว พอเห็นว่าอัครภพยังไม่ได้ไปตรวจคนไข้ก็มีเรื่องหนึ่งอยากรบกวนเขา

“กองถ่ายพีมอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมาก ขับรถประมาณสามสิบนาทีก็ถึง พี่อัคไปส่งพีมหน่อยได้ไหมคะ”

เธอไม่อยากรบกวนเวลางานของเขา แต่ดูเหมือนชายหนุ่มไม่รีบร้อนไปทำอย่างอื่น จึงลองเอ่ยปากถามดู ไม่ไปก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าใจดีไปส่ง นั่นเท่ากับว่าสามารถช่วยให้เธอตัดปัญหาน่ารำคาญได้ ตั้งแต่พวกเราหมั้นกันล้วนต่างคนต่างอยู่ นี่จึงเป็นสาเหตุให้พวกแมลงพวกนั้นหลงตัวเองคอยจ้องจะหาเรื่องเธอไม่เว้นวัน ลองได้เห็นก่อนว่าอัครภพถึงขั้นไปส่งที่กอง ยังจะพูดมากปากเปื่อยกันอยู่ไหม

แน่นอนว่าคำขออันแสนธรรมดานี้ถูกปัดตก ชายหนุ่มก้มลงมองหน้าจอโทรศัพท์ กดพิมพ์บางอย่างเหมือนไม่ได้ใส่ใจสักนิด หญิงสาวเกาแก้มแก้เก้อ สัญญาณนี้หมายความว่าไม่ไปส่ง

“พี่อัคยุ่งก็ไม่เป็นไรค่ะ งั้นพีมไปก่อนนะคะ ไว้วันหลังพีมมาหาใหม่”

อัครภพมองตามหลังเด็กสาว จวบจนเธอจะเปิดประตูห้องออกไปแล้วจึงยอมเอ่ยปากพูด “อีกสิบนาทีรถจะมารับ”

“อะไรนะคะ?”

เขาพูดครั้งเดียวแล้วกลับไปสนใจงานตนเองเหมือนเดิม ทำเหมือนกลัวดอกพิกุลจะร่วงออกจากปาก พชิราไม่ทราบว่าคู่หมั้นหนุ่มหมายความว่ายังไง แต่เขาคงเรียกรถไปส่งเธอให้ล่ะมั้ง

สิบนาทีหลังจากนั้น ใต้ตึกโรงพยาบาลใหญ่ก็มีรถหรูบูกัตติสีดำราคาสูงลิ่วคันหนึ่งมาจอดรอรับผู้โดยสาร คนขับแต่งชุดสูทดูดีตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เส้นผมเซ็ทเป็นทรงเงาวับ ทั่วทั้งร่างสะท้อนคำว่ารักอิสระและเสเพล

“คุณอิท ทำไมเป็นคุณล่ะคะ”

อิทธิพลชี้ไปยังตึกข้างบน สีหน้าเหมือนผู้น้อยได้รับคำสั่งมา “จะไปกองถ่ายใช่ไหมครับพี่สะใภ้ เชิญครับ”

เขาหล่อเหลาสูงส่งเกินไปที่จะมาเป็นสารถีให้เธอ พชิราผู้ถูกเชื้อเชิญราวกับเจ้าหญิงน้อยจึงกระดากอาย ไม่คาดคิดจริงๆ ว่าอัครภพจะให้อิทธิพลไปส่งเธอ

“สงสัยเหรอว่าทำไมพี่ถึงให้ผมไปส่ง”

“ค่ะ เขาไม่น่าจะให้คุณอิทมาทำอะไรแบบนี้”

“ผมไม่รู้ว่าพี่อัคคิดยังไง แต่เรื่องที่คุณถูกรุ่นพี่ร่วมวงการบอยคอตผมเล่าให้พี่อัคฟังแล้ว ที่ให้ไปส่งคงอยากยืมมือผมช่วยคุณล่ะมั้ง เอาเถอะน่า ครั้งนี้เป็นผม ครั้งหน้าพี่อัคอาจจะไปเองก็ได้ ชื่อเสียงผมก็ไม่ได้น่ากลัวน้อยกว่าเขาสักหน่อย ให้พี่สะใภ้ยืมมีดฆ่าคนได้ตามใจชอบ”

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ