ตอนที่ 7 เข้าถ้ำเสือ

ขณะผละจากมานันท์นรีเหมือนจะได้ยินเสียงกระทืบเท้าเร่าๆ อยู่ทางด้านหลัง ช่วยไม่ได้นี่นะ ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ใช่แฟนมีสถานะของคุณานนท์ เธอเองก็ลงสนามแข่งพิชิตใจเขาด้วยเช่นกัน คงไม่ยอมให้คู่แข่งฉวยโอกาสตอนที่คนเมาไม่ได้สติทำมิดีมิร้ายพี่ชายสุดหล่อหรอก

บ้านพักของคุณานนท์อยู่บนเนินห่างจากจุดที่จัดงานเลี้ยงสิบนาที ตัวของเขาหนักไม่ใช่เล่น กว่านันท์นรีจะประคองกึ่งแบกคนมาถึงก็เหนื่อยหอบจนเหงื่อผุดซึมเต็มแผ่นหลัง ไม่มีใครอยู่ข้างในบ้าน เรียกให้มาช่วยก็เงียบกริบ คงจะสนุกสุดเหวี่ยงอยู่ที่ด้านหน้ากันหมด

“ค่อยๆ เดินนะพี่คราม อีกนิดเดียว ฮึบๆ” นันท์นรีเคยมาบ้านหลังนี้บ่อยครั้งเมื่อตอนเป็นเด็ก จึงรู้ว่าห้องนอนของชายหนุ่มอยู่ตรงไหน หญิงสาวร่างผอมบางใช้แรงกายพาคนเมาขึ้นด้านบนสำเร็จ เปิดประตูห้องนอนใหญ่ที่สุดในบ้านแล้วลากชายหนุ่มไปทิ้งลงบนเตียงกว้าง

“เฮ้อ! หนักมาก” มองไปยังชายหนุ่มที่เมามายไม่ได้สติ เวลานี้กลับไร้การป้องกันเสียจนทำให้คนเกิดความคิดชั่วร้าย นันท์นรีพลันหัวเราะคิก กดรีโมทเปิดเครื่องปรับอากาศแล้วนั่งลงข้างๆ เขา

“ถ้าหนูนาไม่ตามมา พี่ครามจะพาผู้หญิงคนนั้นขึ้นห้องหรือเปล่า หนูบอกไว้เลยนะว่าไม่ได้ เข้าใจไหมคะ”

ได้ยินเสียงหวานใส คุณานนท์ยกมือก่ายหน้าผาก เปลือกตาที่ปิดเข้าหากันเปิดออกช้าๆ เหลือบไปทางนันท์นรีแวบหนึ่ง จากนั้นก็ถอนหายใจ “เป็นเด็กเป็นเล็ก อย่ามาสั่งผู้ใหญ่”

“ไม่เด็กแล้วค่ะ หนูโตแล้ว เรียนจบแล้ว พี่ครามจำไม่ได้ใช่ไหมว่าตัวเองเคยบอกว่าจะชอบหนู ยิ่งโตยิ่งชอบ มีแฟนไม่พอยังไม่ยอมคุยกับหนูเลยตั้งหลายปี ตอนนี้โสดแล้วก็ยังทำเหินห่างอีก พี่ชายคนเดิมไปไหน หนูก็งอนเป็นนะ”

ปกติเธอจะเรียบร้อยไม่โวยวาย คงเพราะคุณานนท์เมาแล้วจึงกล้าเปิดใจกับเขา ชายหนุ่มเงียบไป ดวงตากระจ่างกับดวงตาหม่นแสงจดจ้องกันไปมา จากนั้นก็เกิดเสียงหัวเราะหยัน “ฮึ! ผู้หญิงนี่เหมือนกันหมด น่ารำคาญ น่าเบื่อ!”

“เพราะเจอคนไม่ดีเลยตัดสินผู้หญิงทั้งโลกเหรอคะ แฟนเก่าพี่เป็นอย่างนั้นไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะเป็นนะ”

คุณานนท์แววตาหม่นมัว ริมฝีปากยกยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “เหรอ? แล้วเธอเป็นยังไงถึงกล้าเข้ามาในห้องนอนกับผู้ชายสองต่อสอง เป็นคนดีเรียบร้อยไร้เดียงสางั้นสิ ผู้หญิงหน้าซื่ออย่างเธอพี่เจอมาเยอะแล้ว สุดท้ายก็เหมือนกัน”

“ไม่เหมือนสักหน่อย งั้นหนูนากลับก่อนนะคะ พี่ก็นอนเถอะ เมาแล้วพูดกันไม่รู้เรื่องหรอก” เดิมทีก็อยากอยู่กับเขาต่อ แต่คุณานนท์ดูจะไม่ค่อยพร้อมคุยเท่าไหร่ นันท์นรีจึงเลือกที่จะกลับบ้าน จังหวะลุกขึ้น ท่อนแขนเรียวพลันถูกมือหยาบคว้าหมับ ร่างกายผอมเพรียวโดนฉุดไม่เบาไม่แรงก็ล้มลงบนเตียงนอน คุณานนท์พลิกทับตัวนันท์นรีไว้เบื้องล่าง

“ไม่เหมือนยังไง เธอดีกว่าผู้หญิงที่ผ่านๆ มาของพี่เหรอ” คนตัวใหญ่กำยำล็อกทุกจุดที่คิดจะเคลื่อนไหวไว้อย่างแน่นหนา โน้มใบหน้าหล่อเหลาที่แดงก่ำดวงตาหรี่ปรือมองลงมา ลมหายใจร้อนกรุ่นเป่ารดอยู่บนแก้มเนียนใสของหญิงสาว

นันท์นรีตกใจตื่นตระหนก ขยับไม่ได้มีแค่ปากที่ยังว่าง ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังเชิดหน้าน้อยๆ ตอบโต้คนอคติ ตนก็ไม่เคยทำให้เขาเสียใจนะ มีแต่คุณานนท์นั่นแหละ “ดีกว่าสิคะ ลองแล้วถึงจะรู้”

หมดศรัทธาในความรักเหรอ กับแม่สาวแฟนเก่าต้องจบกันไม่สวยแน่ ได้! เธอจะเป็นคนกอบกู้หัวใจที่แตกร้าวของคุณานนท์เอง นันท์นรีไม่คิดมากก็ฉวยโอกาสตอนที่เขายื่นหน้ามาใกล้ประกบริมฝีปากจูบเสียเลย เอาให้มันรู้กันไปว่าเด็กกว่าแล้วไง ใช่จะไม่กล้า อยากขู่อยากทำเย็นชาใส่แค่ไหนก็ตามสะดวก เธอจะจูบเช้าจูบเย็น ไม่หวั่นไหวบ้างก็ลองดู

คุณานนท์โดนเด็กสาวจู่โจมพลันตัวแข็งไปชั่วขณะ สัมผัสอุ่นนุ่มแนบชิดทว่ายัยเด็กน้อยไม่ขยับเขยื้อนต่อ เห็นได้ชัดเลย คนที่ทำอะไรไม่คิดเก่งแต่ปาก จูบไม่เป็นยังกล้าท้าทายความอดทนของเขา มานอนอยู่บนเตียงในห้องของเขา แบบนี้เรียกว่ารนหาที่ตาย นันท์นรีได้ลองจูบคนที่ตนแอบชอบมาเนิ่นนานแล้วก็หัวใจเต้นระส่ำรู้สึกร้อนเห่อไปทั้งตัว เธอคิดผละออกเพราะเขินอาย แต่กลับถูกคนด้านบนกดจูบลงมาแนบชิดกว่าเดิม ทั้งร่างจึงสะท้านเฮือกราวกับถูกฟ้าผ่า

นันท์นรีตะลึง เทียบกันแล้วนี่สิถึงจะเรียกว่าจูบ ไม่ใช่แค่เอาปากแตะกันเหมือนที่เธอทำ เติบโตจนอายุยี่สิบสามปี ยังไม่เคยใกล้ชิดผู้ชายเช่นนี้สักครั้ง นันท์นรีจึงเริ่มสับสน สองมือน้อยๆ ยกดันไหล่แน่นตึงของคุณานนท์ แต่เพราะช่องปากกำลังถูกแง้มออกรับลิ้นหยาบใหญ่ที่บุกรุกปล้นชิง แขนขาจึงไม่ทำตามคำสั่ง กระทั่งเปล่งเสียงน่าอายออกมาก็ยังไม่รู้ตัว

“อื้อ!” ชุดเดรสน่ารักถูกถลกขึ้นมากองอยู่บนเอวอย่างรวดเร็ว ด้านบนเย็นวาบ ผ้าที่ห่อหุ้มร่างกายร่นลงหมดเผยให้เห็นเนินเนื้ออวบอิ่มขาวผ่องดุจน้ำนม ขณะเดียวกันก็เต่งตึงมีขนาดไซส์เหมาะมือ

พ่อเลี้ยงหนุ่มขยับริมฝีปากลงมาที่ซอกคอเนียนระหง ขบกัดดูดดึงผิวนวลกลิ่นหอมละไมจนเกิดรอยช้ำ ยังขยำก้อนเนื้อนิ่มบีบบี้ไม่ออมแรง เลือดในร่างกายเดือดพล่านแผดเผาจนเครื่องปรับอากาศก็ไม่สามารถทำให้เย็นได้ ยิ่งไม่อาจควบคุมตนเองขณะตกอยู่ภายใต้ฤทธิ์แอลกอฮอล์ พอมีเนื้อมาป้อนถึงปากจึงหน้ามืดตามัว ฝ่ามือฉีกชั้นในผ้าผืนบ้างทิ้งไม่ไยดี เร่งปลดเข็มขัดหนังของตนเองแล้วแทรกเข้าไปหว่างขาเรียวยาวของหญิงสาว

“พี่คราม พี่จะทำอะไรคะ หนูนา….อ้ายย! อย่าพึ่งค่ะ พี่คราม! อ้ายย!”

ท่อนเนื้อหยาบใหญ่ขนาดน่ากลัวมุดแทรกเล็กน้อย พอถูกช่องก็จ้วงเข้าไปอย่างรุนแรง ทำเอาคนโดนเสียบมิดลำเจ็บจนสะอื้น พื้นที่ที่ไม่เคยมีใครรุกล้ำมาก่อนฉีกขาด นันท์นรีปล่อยโฮร้องไห้เพื่อระบายความเจ็บจนดวงตาแดง คุณานนท์ยกตัวขึ้นตั้งท่า เขากัดฟันซ่านสยิวครัดเคร่งไปทั้งร่างเพราะความคับแน่น โดยไม่มัวลีลามากความก็เสยเข้าไปอีก สอบเอวหนาเริ่มประสานจังหวะ ลมหายใจหนักหน่วงสอดประสานกับเสียงร้องทรมาน เลือดบริสุทธิ์เคลือบแท่งลูกสูบน่าสะพรึงยิ่งขยับครูดถูง่ายขึ้นไปอีก

“อ๊า! หนูเจ็บ เจ็บ” ร้องประท้วงไปก็ไม่สามารถเรียกสติของเขา นันท์นรีไม่คิดว่าวันนี้ตนกับคุณานนท์จะทำเรื่องชิงสุกก่อนห่ามด้วยกัน เธอยังไม่ตั้งตัวเลย พอมาเจอเจ้าสิ่งที่ใหญ่ขนาดนั้นกระแทกกระเทือนร่างกาย จึงรู้สึกเหมือนจะตายแล้ว

“อ้าย! เจ็บค่ะ อ้าย! อ๊า!”

“ครางดังๆ เธอชอบพี่ไม่ใช่เหรอ อุตส่าห์มาอ้าขาให้ถึงที่ พี่ก็จัดให้สมใจแล้วนี่ไง”

“หนูนาไม่ได้ อร้ายย!” เธอหน้ามืดตาเธอลาย ร่างกายถูกแยกเป็นสองท่อน ข้างล่างชาหนึบ ข้างบนร้อนวูบ ปั่นป่วนสับสนแต่ก็ยังไม่หยุดส่งเสียงครางน่าอาย เบาหน่อยได้ไหม อ่อนโยนกับเธอหน่อย นี่เป็นครั้งแรกเจอดิบโหดเช่นนี้ บอกตามตรงว่ารับไม่ไหว

นันท์นรีร้องไห้จนไม่มีเสียง ตอนที่เขาเร่งซอยเอวถี่เข้าใส่ ผมเพ้าที่ลอนไดร์มาอย่างดียุ่งเหยิง เนื้อตัวแดงเถือก ทันใดนั้นก็แทบจะหยุดหายใจเพราะแรงราคะที่กำลังพุ่งสูงทำให้เธอเกิดสั่นกระตุก ร่างทั้งร่างเคร่งเครียด จากนั้นก็ระเบิดห้วงอารมณ์สะท้านสะเทือน ราวกับโยนหินก้อนใหญ่ลงสู่สระน้ำจนเกิดคลื่นเป็นริ้วๆ แผ่กระจาย

ในความฉ่ำแฉะเปียกลื่น ธารอุ่นวาบสายหนึ่งฉีดพ่นเข้าสู่ท้องน้อย ชายหนุ่มผู้ร้อนแรงปลดปล่อยออกมาระลอกใหญ่พร้อมกับส่งเสียงครางต่ำในลำคอ กลิ่นเหล้าผสมกลิ่นหอมหวานจางๆ กลายเป็นความใคร่รัญจวน แม้เจ็บปวดจนไม่อยากทำอีก แต่ก็งดงามเหลือเกินสำหรับนันท์นรี

ผู้ชายที่เธอชอบมานานเป็นคนแรกของเธอ ตกเป็นของเธอเรียบร้อยแล้ว

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ