ตอนที่ 6 ตัวต้นเรื่อง

เมื่อเดินทางไปถึงสนามบิน ก็เช็กอินและขึ้นเครื่องบินไปยังจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือ พี่เมได้จัดเตรียมที่พักไว้ให้ทุกคนเรียบร้อยแล้ว ทริปนี้มีทั้งคนที่ไอญารินทร์รู้จักและไม่รู้จัก 

"เลือกห้องพักได้เลยนะ ตอนนี้ทั้งรีสอร์ตมีแค่พวกเรา ตามสบายเลยจ้ะ"

หญิงสาวที่ดูใจดีและเป็นผู้ใหญ่เดินมาต้อนรับพวกเธอที่เพิ่งลงจากรถ พร้อมอุ้มเด็กน้อยวัย 1 ขวบมาด้วย 

"เอมี่ โตเป็นสาวแล้ว"

คะนิ้งเพื่อนของธามเอ่ยทักทายเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของพี่เม 

"ไม่ได้เจอนานโตขึ้นเยอะเลย"

ธามเห็นเด็กเล็กเขาก็มีสีหน้าที่อ่อนโยนลงทันที 

ไอญารินทร์ได้แต่ยืนมองนิ่งด้วยความสงสัย เด็กผู้หญิงคนนี้คือลูกพี่เมสินะ 

"เด็กคนนั้นคือลูกพี่เมหรอ?"

ไอญารินทร์เอ่ยถามขวัญจิรา ในขณะที่ทั้งคู่กำลังขนของออกจากกระเป๋าเดินทาง 

"ใช่ ... ลูกแฟนเก่าของแกน่ะ เลิกกันแล้วพี่เมดันท้อง ก่อนจะมาเจอกับพี่น็อต"

ขวัญจิราตอบออกไป มือก็จัดการเก็บเสื้อผ้าใส่ตู้ให้เรียบร้อย 

"ฮะ!... พี่น็อตแกโอเคเหรอต้องมาเลี้ยงลูกแฟนเก่า"

หญิงสาวแสดงสีหน้าตกใจอีกทั้งยังแอบแปลกใจนิด ๆ ด้วย

"โอเคหรือไม่โอเคก็คบกันจนถึงทุกวันนี้แหละ"

พี่สาวของเธอเอ่ยออกไป 

ไอญารินทร์ได้แต่นั่งเงียบ พลางคิดถึงเรื่องของรุ่นพี่คู่นี้พี่น็อตต้องรักพี่เมมากถึงยอมรับอดีตของฝ่ายหญิงและยอมรับลูกของแฟนเก่าแฟนตัวเองได้แบบนี้ นับถือใจพี่น็อตจริง ๆ 

ในตอนเย็นมีการกินเลี้ยงกันที่ลานกิจกรรม บางส่วนก็มากางเต็นท์นอนกันตรงนี้ อีกส่วนหนึ่งก็นอนในรีสอร์ต ระหว่างทางที่ไอญารินทร์กำลังเดินไปร่วมกิจกรรมก็มีมือเย็น ๆ เข้ามาฉุดแขนเธอให้ตามเขาไป 

"โอ๊ยยย ปล่อย ๆ ๆ"

หญิงสาวพยายามขัดขืนแต่ก็สู้แรงคนตัวสูงไม่ไหว ได้แต่เดินตามเขาไปยังที่แห่งหนึ่งที่ไม่ค่อยมีผู้คน มองเห็นวิวตรงลานกางเต็นท์ชัดเจน 

"อะไรของคุณเนี่ย!"

น้ำเสียงไม่พอใจตะโกนใส่เขาออกไป 

"แต่งตัวไม่ดูสภาพอากาศ"

เจ้าของร่างสูงเอ่ยกับเธอด้วยน้ำเสียงหาเรื่องพร้อมใช้สายตามองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า 

"ฉันสะดวกแบบนี้ค่ะ"

หญิงสาวตอบกลับเขาพร้อมมองไปทางอื่น วันนี้เธอใส่เดรสสีขาวสั้นมีเพียงเสื้อคลุมผืนบาง ในสภาพอากาศ 15 องศา ณ ตอนนี้

"ยิ่งดึกมันจะยิ่งหนาว ไหนจะน้ำค้างลงอีก เดี๋ยวไม่สบายเอา"

ชายหนุ่มเอ่ยกับเธอด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบพร้อมสีหน้าที่ดูเย็นชายิ่งกว่าอะไร มือหนาหยิบเสื้อคลุมคาร์ดิแกนสวมทับให้เธออีกชั้น 

"เป็นบ้าอะไรของคุณ!"

หญิงสาวคิ้วขมวดแล้วเอ่ยถามเขาออกไปด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว 

"ใส่ไว้ แล้วห้ามถอด ... เข้าใจไหม?"

สายตาดุจ้องเขม็งไปที่ไอญารินทร์

เอาแต่ใจตัวเองจริง ๆ ผู้ชายคนนี้ เหอะ! เธอได้แต่แอบต่อว่าเขาขึ้นในใจ

"ถ้าไม่อยากเป็นข่าวก็ช่วยอยู่ห่าง ๆ ฉันด้วยนะคะ ฉันเหนื่อยที่จะแก้ข่าวให้คุณเต็มที"

ดวงตาคู่สวยจ้องมองเขาไปด้วยสีหน้าที่เบื่อหน่าย พร้อมพูดถึงเรื่องที่ทั้งคู่เป็นข่าวด้วยกัน 

"ทำไมต้องแก้ ... ผมไม่ได้สนใจหรอกนะว่าคนอื่นจะคิดยังไง"

ชายหนุ่มตอบกลับเธอออกไป 

"คุณไม่สนแต่ฉันสนไงคะ คุณก็พูดได้สิเพราะคุณไม่ได้อยู่ในวงการนี้ แต่ฉันยังต้องทำมาหากินกับชื่อเสียงของตัวเอง คุณไม่เข้าใจฉันหรอก เพราะเรื่องนี้มันไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับคุณเลย อย่างมากคนก็แค่พูดถึงและเสาะหาว่าคุณเป็นใคร แต่ฉันนี่สิถูกตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงเลว!"

คนตัวเล็กตะคอกใส่เขาออกไปด้วยโมโหจนดวงตากลมแดงก่ำพร้อมหยาดน้ำสีใสที่เอ่อล้นในดวงตา

ไอญารินทร์หันหลังเดินจากเขาไปด้วยท่าทีที่โมโห ธามได้แต่ยืนมองตามหลังด้วยสีหน้าที่งุนงง ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องโกรธขนาดนี้ ก็แค่เรื่องเป็นข่าว ซึ่งตัวเขาเองก็ยังไม่เห็นข่าวนั้น

คิดแล้วก็ไม่ได้คำตอบร่างสูงจึงเดินตามเธอไปยังบริเวณที่จัดงานวันเกิด ทุกคนต่างจับตามองมาที่ไอญารินทร์ และชายหนุ่มที่เดินตามหลังเธอมาติด ๆ

"ทำไมมาด้วยกันเนี่ย"

ขวัญจิรากระซิบถามน้องสาว 

"แค่บังเอิญเจอกันระหว่างทาง"

ไอญารินทร์ตอบออกไปด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด คนเป็นพี่สาวจึงไม่ได้ถามต่อ 

พี่เมเมื่อเห็นทั้งคู่เดินมาด้วยกันก็จับตามองสองคนนี้ทันที เพราะสิ่งที่สดุดตาเธอคือ เสื้อที่ไอญารินทร์ใส่ตอนนี้มันคือเสื้อที่เมรยาเป็นคนเลือกให้ฝ่ายชายตอนไปเที่ยวยุโรปด้วยกัน

"ทำไมถึงได้มาช้า ทุกคนรอพวกเธอสองคนเนี่ย"

หญิงสาวเจ้าของวันเกิดเอ่ยแซวทั้งคู่ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม 

"ขอโทษค่ะ พอดีไอเข้าห้องน้ำนานไปหน่อย"

ไอญารินทร์เอ่ยขอโทษทุกคนออกไป 

ส่วนธามได้แต่นั่งเงียบและมองไปที่ไอญารินทร์ด้วยสีหน้าบึ้งตึง ส่งผลให้บรรยากาศเริ่มที่จะตึงเครียดขึ้นมากะทันหันเมื่อทั้งคู่มาถึง

"เรามาชนแก้วให้เจ้าของวันเกิดกันเถอะทุกคน"

ภัทรทำหน้าที่เอ็นเตอร์เทนทุกคน เพื่อไม่ให้งานในวันนี้กร่อย ทุกคนก็กลับมาเฮฮาร่วมสังสรรค์กันตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือเจ้าของงานวันเกิดอย่างเมรยา 

"น็อตเอาลูกไปนอนได้แล้ว น้ำค้างเริ่มลงแล้วเดี๋ยวลูกไม่สบาย"

หญิงสาวหันไปคุยกับแฟนหนุ่มที่นั่งอยู่ข้าง ๆ พี่น็อตเองก็พาลูกกลับไปเข้านอน 

"ธามมาช่วยพี่ยกของทีสิ"

หญิงสาวเอ่ยเรียกชายหนุ่มให้ตามเธอไป ทั้งคู่ลุกขึ้นจากโต๊ะพร้อมเดินกลับไปทางรีสอร์ต 

และตอนนั้นเองที่ไอญารินทร์ก็ลุกขึ้นจะเดินกลับไปเข้าห้องน้ำที่ห้องพักของตน ซึ่งก็ไม่ได้ไกลจากที่นี่มากนัก แต่เมื่อเธอกำลังเดินใกล้จะถึงก็ได้ยินเสียงคนพูดคุยกันทำให้หญิงสาวต้องหยุดเดินเพื่อฟัง เพราะในประโยคสนทนานั้นมันเอ่ยถึงชื่อของเธอ 

"ทำไมเสื้อตัวนั้นถึงไปอยู่กับน้องไอญา นั่นเป็นเสื้อที่เมเลือกเองกับมือให้ธามนะ ทำไมถึงต้องเอาไปให้ผู้หญิงคนอื่นใส่ด้วย"

น้ำเสียงไม่พอใจของหญิงสาวเอ่ยขึ้น ไอญารินทร์ได้ยินเช่นนั้นก็ก้มลงมองที่เสื้อแขนยาวที่เธอกำลังสวมใส่อยู่ พวกเขาคงหมายถึงฉันใช่ไหม 

"ธามบอกแล้วไงอย่าขุดคุ้ยพูดถึงเรื่องราวในอดีต ถ้าไม่สงสารพี่น็อตก็ช่วยสงสารเอมี่ด้วย เมอย่าทำให้ทุกอย่างมันแย่ไปมากกว่านี้เลยนะ ที่เมขอให้ธามอยู่ใกล้ ๆ ธามก็ทำแล้วนี่ไง แต่ถ้ามันมากกว่านี้ธามคงต้องถอยห่างจากเมนะ"

ชายหนุ่มพยายามพูดคุยกับเธอเบา ๆ ทำให้ไอญารินทร์จับใจความประโยคที่เขาพูดไม่ได้ 

"ไม่ได้เมไม่ยอม เมไม่ชอบที่ธามไปยุ่งเกี่ยวกับยัยนั่น ตอนนี้ทุกคนต่างตราหน้าว่านางเล่นชู้กับธาม ธามต้องเลิกยุ่งกับมันนะ เมไม่อยากให้ชื่อเสียงของธามต้องเสียหายเพราะผู้หญิงคนนี้"

เมรยาพูดด้วยน้ำเสียงสีหน้าเอาแต่ใจ

ความสัมพันธ์ของทั้งคู่คืออดีตคนรักที่เลิกรากันไปแต่ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอยู่ หญิงสาวอายุมากกว่าธาม 1 ปี พวกเขาเคยไปเรียนที่ต่างประเทศด้วยกัน ทั้งคู่เป็นทั้งแฟน เพื่อน พี่ ให้กันและกัน

เมรยาและธามสนิทกับกลุ่มเพื่อเดียวกัน ทำให้ทั้งคู่ยังวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ กันมาตลอด หลาย ๆ ครั้งเธอก็มักจะหึงหวงผู้หญิงที่มายุ่งเกี่ยวกับธาม และจะหาวิธีทำให้ผู้หญิงคนนั้นตีตัวออกหากเขาไป ความสัมพันธ์ของทั้งคู่มีเพียงแค่สองคนเท่านั้นที่รู้ คนอื่นไม่เคยรู้มาก่อนว่าทั้งสองคนเคยเป็นแฟนกัน 

"เล่นชู้อะไรกัน?"

ชายหนุ่มเอ่ยถามออกไปด้วยสีหน้าที่งุนงง และเขาเองก็ได้นึกถึงคำพูดของไอญารินทร์เมื่อก่อนหน้านี้ 

หญิงสาวเปิดโทรศัพท์มือถือ และเลื่อนไปมาครู่หนึ่งก่อนจะยื่นให้เขาดู

ภาพข่าวที่เห็นทำให้ตรีธาราเข้าใจคำพูดของคนในข่าวขึ้นมา เห็นแล้วก็อดเป็นห่วงความรู้สึกของหญิงสาวไม่ได้ เธอคงจะเจอคอมเมนต์ในแง่ลบเยอะมาก เมื่อเลื่อนไปเห็นรูปภาพที่เป็นข่าวเขาก็เกิดคำถามขึ้นมาทันทีว่ารูปภาพนั้นใครเป็นคนถ่าย 

"รูปนี้หลุดออกไปได้ยังไง? ถ่ายจากคนบนเรือ คนบนเรือก็มีแค่กลุ่มเรา"

สีหน้าสงสัยและดูโกรธเกรี้ยวจ้องเขม็งมองหญิงสาว เมรยามีท่าทีเลิ่กลั่กทันทีเมื่อถูกสายตาคมจ้องจับผิด 

"ธามจ้องหน้าเมทำไมคะ เมไม่ได้เป็นคนทำค่ะ"

หญิงสาวเบือนหน้าหลบสายตาอีกฝ่าย แค่นี้ธามก็พอจะเดาออกแล้วว่าใครเป็นคนทำ 

"ธามรู้จักเมมาตั้งกี่ปี คิดว่าจะโกหกธามได้หรือไง เมทำแบบนี้ไปทำไม ... ตอบธามมาสิ!"

ร่างสูงคาดคั้นเอาคำตอบ 

ไอญารินทร์ที่ยืนอยู่ตรงนั้นได้ยินทุกประโยคที่พวกเขาพูดคุยกัน เธอตกใจเป็นอย่างมากเมื่อรู้ว่าใครเป็นคนปล่อยรูปภาพทำลายชื่อเสียงตัวเอง

ไม่คิดว่าคนที่ดีกับเธอ คอยดูแลคอยเป็นห่วงจะทำกับเธอเช่นนี้ มือเล็กปิดปากตัวเองไว้แน่นพร้อมเดินถอยหลังจะเดินหนีจากตรงนั้น แต่ก็ดันเหยียบเข้ากับกิ่งไม้จนเกิดเสียง 

แกร๊ก!

ทั้งคู่ตกใจเมื่อได้ยินเสียงดังขึ้นใกล้ ๆ ชายหนุ่มจึงหันไปและเดินออกมาดู ไอญารินทร์และตรีธาราประจันหน้าสบตากันในทันที ด้วยความตกใจเธอจึงรีบวิ่งไปที่ห้องพักของตัวเอง

"ไอญา ไอญา!"

ชายหนุ่มตะโกนตามหลังพร้อมกับวิ่งตามเธอไปด้วย 

"ธาม หยุดเดี๋ยวนี้นะ! ธาม!"

เมรยาตะโกนเรียกตามหลังชายหนุ่มไป เธอกำลังจะตามพวกเขาทั้งสองคนไปแต่น็อตเดินกลับมาพอดี ทำให้ต้องเดินกลับไปหาเขาแทน

"ไอญาหยุดนะ!"

ธามเข้าไปกระชากแขนเธอที่วิ่งมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องพักของตน 

"ปล่อยค่ะ ..."

หญิงสาวกดเสียงต่ำออกไปด้วยสีหน้าที่โกรธเคือง 

"ใจเย็น ๆ แล้วคุยกันก่อนได้ไหม?"

น้ำเสียงนุ่มทุ้มเอ่ยออกมา พร้อมสีหน้าเหน็ดเหนื่อยจากการวิ่งตาม เขาก้มมองเธอเล็กน้อย 

ไอญารินทร์หลบสายตาเขาก่อนจะตอบออกไป

"ไม่ต้องมายุ่งค่ะ!"

คนตัวเล็กตวาดใส่ชายหนุ่มออกไปพร้อมสะบัดมือเขาทิ้งแล้วไขกุญแจเดินเข้าห้อง หญิงสาวกำลังจะดันประตูปิด แต่ธามแทรกตัวเข้าไปในห้องของเธอก่อนพร้อมปิดประตูแล้วล็อกทันที

"ออกไปค่ะ!"

ไอญารินทร์ไล่เขาด้วยน้ำเสียงโทนต่ำเย็นยะเยือก แม้ตอนนี้เธอจะรู้ตัวคนทำแต่ก็อดไม่ได้ที่จะพาลโกรธตัวต้นเรื่องอย่างเขา 

"นี่คุณโกรธอะไรผมกันแน่เนี่ย คนที่ปล่อยรูปทำลายชื่อเสียงคุณ คุณก็รู้แล้วนี่ว่าเป็นใคร แล้วจะมาโมโหใส่ผมทำไมอีก"

ร่างสูงเอ่ยถามเธอด้วยสีหน้าที่ยากจะเข้าใจ เพราะตั้งแต่เจอหน้ากันวันนี้ หญิงสาวก็เอาแต่ทำท่าทีหงุดหงิดใส่เขาแบบไม่ทราบสาเหตุ

"ถ้าคุณไม่มายุ่งกับฉันมันจะมีรูปพวกนั้นมั้ยคะ!"

หญิงสาวเถียงกลับเขาไปด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยโทสะ

"ถ้าผมไม่ยุ่งกับคุณป่านนี้คงเป็นผีเฝ้าทะเลไปแล้วมั้ง คงไม่ได้มายืนเถียงฉอด ๆ อยู่แบบนี้หรอก"

ชายหนุ่มจ้องหน้าเธอหัวคิ้วก็ขมวดมุ่น

เมื่อได้ยินที่เขาพูดก็ทำให้อีกฝ่ายเถียงไม่ออกทันที มันก็จริงอย่างที่เขาพูด แต่ก็ไม่รู้แหละ แค่ตอนนี้เธอรู้สึกเหม็นขี้หน้าและหมั่นไส้เขาสุด ๆ จนไม่อยากจะมองหน้า หลัง ๆ มานี้เธอรู้ตัวเองดีว่าเป็นคนที่อารมณ์อ่อนไหวง่าย และโมโหง่ายมากจริง ๆ โดยเฉพาะเวลาที่เจอหน้าเขา

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ