ตอนที่ 7 ปรับความเข้าใจ

“ถ้าตัดเรื่องเพศออกไป แกว่าเดย์เป็นแฟนแกได้ไหม?” คำถามของพ่อทำให้ผมแปลกใจจนต้องเงยหน้ามองพ่อที่กำลังส่งยิ้มตลกมาให้ แต่ผมไม่ตลกเลย คนกำลังเสียใจอยู่นะ 

“คนดี ๆ แบบนั้นใคร ๆ ก็อยากได้เป็นแฟน ดีจะตาย”

ผมตอบตามความจริง เดย์นิสัยดี ใคร ๆ ก็ชอบ หน้าตาก็ดี เรียนก็เก่ง กีฬาก็ที่หนึ่ง แถมเล่นดนตรีเป็นอีกด้วย

“ความรักมันไม่มีเพศหรอกนะลูก” 

“จริงเหรอพ่อ ถ้าผมคบกับเดย์ แล้วผมจะมีหลานได้ไหมล่ะ”

ผมถามอย่างไม่เข้าใจ ผมไม่รู้ว่าพ่อกำลังคิดอะไร แต่พ่อทำให้ผมรู้สึกงงไปหมด 

“เรื่องนั้นมันไม่สำคัญหรอก ถ้าลูกรักใครมันก็เป็นความสุขนี่ ชีวิตเราต้องการแค่หลานเหรอไง อย่าโง่สิลูก ชีวิตของเราต้องการความสุข”

พ่อตอบผมด้วยรอยยิ้มที่เจือด้วยความเอ็นดูกับการร้องไห้ของผม แต่สิ่งที่พ่อพูดทำให้ผมคิดตาม ซึ่งมันก็จริง สมองของผมคงคิดแต่เรื่องแย่จนทำร้ายคนอื่นไป ผมมันนิสัยเสียที่สุดเลย

“ถ้าผมชอบผู้ชาย พ่อโอเคจริง ๆ เหรอ ไม่สิถ้าผมชอบไอ้เดย์”

ผมยิงคำถามไปตรง ๆ อีกครั้งเพราะไม่อยากปิดบังความรู้สึกของตนเอง ผมไม่ได้อยากรู้สึกแย่แบบนี้อีกแล้ว มันทรมาน

“ตอนแรกพ่อคิดว่าลูกของตัวเองคงชอบผู้หญิง ก็ไม่ได้อยากจะตามพี่สาวของแกหรอกนะ แต่ถ้าลูกชอบผู้ชายพ่อก็ไม่ห้ามอะไร แต่ขอหล่อ ๆ นะ อย่างเดย์เนี่ยพ่อโอเคเลย”

พ่อพูดจริงหรือพูดเล่นกันแน่ จากที่ผมกำลังร้องไห้อยู่ผมกลับยิ้มขึ้นมาได้ ผมลุกขึ้นเดินเข้าไปหาพ่อแล้วสวมกอดเขาสักทีให้รู้สึกอบอุ่น

“ถ้าทะเลาะอะไรกัน รีบไปง้อ คนนั้นน่ะเคยโกรธลูกด้วยเหรอ”

“ไม่อะ เดย์ไม่เคยโกรธผม แต่วันนี้อะ โกรธสุด ๆ เลย” 

“งั้นไปง้อซะ ทำตามหัวใจของตัวเองเถอะ พ่อจะตามแม่ขึ้นไปนอนละ แล้วข้าวอะ กินให้หมดด้วยนะ” พ่อกล่าวทิ้งท้าย ก่อนลุกขึ้นแล้วเดินไปบนบ้าน เมื่อไม่เหลือใครแล้วนอกจากผมคนเดียวที่นั่งอยู่ท่ามกลางความเงียบในเวลานี้ มันจึงทำให้ผมคิดอะไรได้อย่างชัดเจน ผมมองพ่อเดินขึ้นไปบนบ้านด้วยความรู้สึกดี 

“ครับพ่อ ผมจะไปง้อมัน” 

พอเอาเข้าจริง ๆ เมื่อมายืนอยู่หน้าบ้านของมัน ความรู้สึกตื่นเต้นก็ถาโถมเข้ามาตั้งแต่เริ่มเลย ทั้งที่บ้านหลังนี้เป็นที่ที่ผมคุ้นเคยและมาบ่อย ๆ วันนี้ทำไมถึงรู้สึกเหมือนเป็นคนแปลกหน้าก็ไม่รู้ 

ผมยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง มองประตูรั้วบ้านหลังใหญ่ของเจ้าคุณชายเดย์อย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ในมือกระชับถุงไก่ทอดจากที่บ้านไว้แน่นเพราะตั้งใจเอามาฝากมัน จะมาง้อเพื่อนทั้งทีไม่มีอะไรมาปลอบไม่ได้ พอทำใจได้แล้ว ผมจึงกดกริ่งประตูบ้านทันที หวังว่าแม่บ้านที่นี่จะยังไม่นอนนะ คงจะออกมาหาผมอย่างทุกที

จริงอย่างที่คิดไม่นานนักก็มีคนเดินมาเปิดประตู ซึ่งคนที่เดินมาเปิดกลับไม่ใช่แม่บ้านอย่างทุกที แต่เป็นไอ้เดย์ที่ยังอยู่ในเสื้อนักเรียน มันเดินมาเปิดประตูด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับสักเท่าไร 

“ไอ้เดย์ กูขอคุยด้วยหน่อย”

ผมทำเสียงอ้อนวอนใส่คนร่างสูงก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน เพราะกลัวมันจะปิดรั้วหนีผมเสียก่อน

“กูเอาไก่ทอดมาฝากมึงด้วย ของโปรดมึงไง” 

“อืม แล้วมีอะไร”

ดูมันตอบผมสิ แม่งกวนตีนชะมัด

“กูแค่อยากจะมาขอโทษเรื่องวันนี้ จริง ๆ กูไม่ได้ไม่ชอบที่มีคนจิ้นกูกับมึง กูแค่อาย กูยังไม่เข้าใจว่าการรักเพศเดียวกันมันเป็นยังไง ให้เวลากูหน่อย กูจะพยายามเข้าใจเรื่อย ๆ”

แต่ผมว่าตอนนี้ผมเริ่มเข้าใจบ้างแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่เยอะ แต่ก็มากพอให้เดย์กลับมาคุยกับผม

“กูเข้าใจ เข้าใจมึงทุกอย่างมาร์ช กูขอร้องแฟนคลับให้ลบคลิปไปละ แล้วรูปกูกับมึงในไอจีกูก็ลบให้แล้ว มึงสบายใจได้เลยนะ”

ทำไมพอไอ้เดย์พูดแบบนั้นถึงทำให้ผมรู้สึกแย่ล่ะ ทั้งที่ผมอยากให้สิ่งเหล่านั้นไม่อยู่บนโลกโซเชียลแล้ว แต่ครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อน ผมอยากจะบอกมันว่าเก็บไว้ก็ได้ แต่คงสายไป

“เดย์ กูขอโทษ”

ผมพูดขอโทษแต่ดูเหมือนคำพูดนั้นจะไม่ทะลุเข้าหูมันเพราะมันกำลังเดินเข้าไปในบ้าน ผมเดินตามหลังของมันแล้วทำสิ่งที่แม้แต่ตัวเองก็ไม่คาดคิดมาก่อน ผมอ้อนวอนให้มันหายโกรธผม

“กูรู้ว่ากูผิด แต่วันนี้กูแค่หงุดหงิด เมื่อก่อนกูก็หงุดหงิดเรื่องนี้ ทำไมครั้งนี้มึงถึงโกรธกูมากถึงขนาดนั้นวะ” 

ผมเดินตามจนมันเดินเข้ามาในห้องของตัวเอง ห้องที่ผมมาเล่นด้วยเป็นประจำ ถึงผมจะรู้ว่าคืนนี้คงไม่ได้นอนที่นี่ แต่ก็อยากเคลียร์กับไอ้คนตัวสูงให้จบ 

“ถ้าไม่พอใจขนาดนั้น กูเก็บเสื้อผ้าของกูกลับไปเลยก็ได้ แต่กูไม่อยากทำไง อยากเป็นเพื่อนมึงเหมือนเดิม อยากนอนเล่น อยากลอกการบ้านมึง อยากไปเที่ยวด้วยกันจริง ๆ นะมึง”

ผมพูดด้วยน้ำเสียงเว้าวอนจนน้ำตาคลอแต่มันก็ยังคงเงียบอยู่ดี

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ