ตอนที่ 5 ความรำคาญที่ถึงขีดจำกัด(2)

“ทำไมครับ งอนเหรอคร้าบ”

ไอ้เดย์เอื้อมมือลูบหัวป้อย ๆ เหมือนปลอบ แต่ไหงผมกลับรู้สึกว่ามันกำลังตลกกับสิ่งที่ผมเป็นในตอนนี้

“ตลกมากไหมไอ้สัส!”

ผมปัดมือมันออกอย่างแรงก่อนจัดการเก็บสมุดกับปากกาเข้ากระเป๋าเป้ของตนเอง พอผมทำแบบนั้นจากเดิมที่ไอ้เดย์กำลังหัวเราะอยู่กลับหน้าเสียขึ้นมาทันที

“ที่คนเขายังไม่เลิกจิ้นอะ เพราะมึงติดเล่นไง ไปตอบเมนต์แฟนคลับ ไปกดไลก์ แถมยังชอบเอากูไปลงสตอรี่” 

“แล้วทำไมมึงต้องโมโหวะ กูก็แค่เห็นว่าน่ารักดี”

มันยืนมองหน้าผมด้วยความไม่เข้าใจ แววตาแดงก่ำของผมเวลานี้บ่งบอกชัดว่ากำลังโกรธ ซึ่งดูเหมือนไอ้เดย์ที่สนิทกับผมมานานก็น่าจะเข้าใจได้ดี

“แต่กูไม่เคยเห็นว่ามันน่ารักไง ที่กูโกรธเพราะมึงชอบเล่นแต่เรื่องพวกนี้ มึงน่าจะรู้ว่ากูรำคาญ”

ผมพูดความอัดอั้นที่เก็บไว้มานานออกไป

“มึงไม่ชอบเรื่องพวกนี้ เอาง่าย ๆ ก็เหมือนกับว่ามึงไม่ชอบกูด้วย”

แต่ทันทีที่ไอ้เดย์พูดประโยคนั้นออกมา มันกลับมีน้ำหนักพอที่จะทำให้ผมเงียบไปพักหนึ่ง ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเช่นกันว่าทำไมถึงเป็นอย่างนี้ได้

ผมจับจ้องไปยังใบหน้าที่เหมือนคนกำลังผิดหวังนั้น แล้วรู้สึกสะท้อนใจแปลกอย่างประหลาด หรือว่าตอนนี้ผมกำลังรู้สึกแย่เพราะทำให้คนขี้เล่นอย่างมันต้องมารู้สึกไม่ดีกับคำพูดของผม แต่ช่างเถอะหวังว่ามันคงจะเข้าใจ 

“เปล่า กูไม่ได้ไม่ชอบมึง กูแค่ไม่อยากให้ใครมาเข้าใจผิดว่ากูเป็น...”

“เป็นเกย์”

ไอ้เดย์ตัดบทพูดต่อจากประโยคเดิมของผมที่ยังพูดยังไม่จบ

“แล้วมึงเกลียดเกย์หรือไง?”

มันเริ่มมีน้ำเสียงเล็กน้อย

“ปะ...เปล่าไม่ชอบก็คือไม่ชอบไง ทำไมมึงต้องมาโมโหกูกลับวะ” 

“ถ้ามึงไม่ชอบแล้วมึงทำไมต้องไม่ชอบเฉพาะคลิปกูกับมึง หรือตอนที่กูถ่ายรูปกับมึงด้วย”

น้ำเสียงไอ้เดย์แหบพร่าเหมือนจะร้องไห้ จนผมเงียบไป ทั้งที่มันเข้มแข็งมากแท้ ๆ แต่แววตาขลุกขลิกนั่นเหมือนกำลังเก็บอะไรบางอย่างไว้จนผมรู้สึก อึดอัด 

“ไอ้เดย์ มึงเป็นอะไรวะ มึงอย่าถามอะไรที่กูไม่ได้เตรียมคำพูดไว้แบบ นั้นสิ”

ผมตอบกลับมันเสียงสั่น ใจจริงแล้วผมก็เพียงอยากให้มันรู้ว่าผมไม่ได้เกลียดเกย์และอีกอย่างก็ไม่ได้รู้สึกแบบที่มันคิดเกินเลยด้วย ผมไม่อยากให้เราสองคนถูกคนอื่นมองให้เหมือนเป็นแฟนกัน หวังแค่ให้มองเป็นเพื่อนกันแบบปกติก็เท่านั้นเอง 

“ถ้ากูไม่ถ่ายรูปกับมึงอีก มึงถึงจะพอใจใช่ไหม?”

ไอ้เหี้ยเดย์ยังคงเถียงไม่หยุด เล่นเอาผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ คล้ายว่ายิ่งทะเลาะกับมันก็รังแต่จะหนักขึ้นไปใหญ่ 

“กูไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนั้นมึงยังไม่เข้าใจอีกเหรอวะ โธ่เว้ย!”

ผมเริ่มขึ้นเสียงให้กับคำพูดเมื่อครู่ของคนตรงหน้า ซึ่งดูเหมือนทำเอาซะผมดูแย่ในสายตามันไปเลย ก่อนกำหมัดยืนนิ่งงันจับจ้องไปยังเจ้าของใบหน้าได้รูปอย่างคนหมดคำจะเอ่ย

ผมถึงกับต้องกลับมาขบคิดทบทวนใหม่ ให้ตายเถอะหรือว่ามันไม่เคยรู้สึกแบบนั้นกับผมเลย ทั้งหมดทั้งมวลเป็นผมต่างหากล่ะที่คิดไปเอง เมื่อก่อนถึงมันจะโกรธผม แต่มันก็ไม่เคยเป็นแบบนี้สักครั้ง แบบที่ต้องมายืนเถียงกับผมด้วยน้ำเสียงจริงจัง 

“ทีมึงถ่ายรูปกับผู้หญิงไม่เห็นต้องมาบ่นแบบนี้เลย” ประโยคสุดท้ายที่ ไอ้เดย์พูดให้กับผมเป็นประโยคที่เพ้อเจ้อมากจนผมไม่อาจทนฟังโดยไม่คิดจะโต้เถียงได้ มันหยิบกระเป๋าของตัวเองเพื่อที่จะเดินหนีไป

หมับ!

แต่ผมคว้าแขนมันเอาไว้เพราะไม่อยากให้เราสองคนต้องมาผิดใจกันไปมากกว่านี้

“มึงเป็นเหี้ยอะไรไอ้เดย์ แซะกูเก่งนะมึงอะ”

ผมมองตามแผ่นหลังของคนตัวสูง แม้ท่อนแขนขาว ๆ ของมันจะถูกมือผมจับไว้แน่น แต่เจ้าตัวก็ยังไม่มีทีท่าจะหันหน้ากลับมาเถียงผมแบบเมื่อกี้แม้แต่น้อย ไอ้เดย์พยายามสะบัดแขนออก เพื่อจะเดินออกไปจากห้องเรียนให้พ้น ๆ แต่มีหรือที่ผมจะยอมง่าย ๆ

“มาเคลียร์กับกูให้รู้เรื่อง ว่ามึงเป็นปัญญาอ่อนอะไร มึงเอ๋ออยู่เหรอไง?”

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ