เฮ้อ...ในที่สุด เช้าวันธรรมดาของผมก็ผ่านไป แต่วันนี้เป็นวันที่ผมพูดได้เลยว่าค่อนข้างเหนื่อยกับการตื่นเช้าไปโรงเรียน ทานข้าวกับครอบครัวน่ะไม่เท่าไร แต่การที่แม่คุยกับพี่สาวอย่างออกรสออกชาติเกี่ยวกับนิยายวายเล่มนั้นที่เพิ่งอ่าน ทำเอาผมมองหน้าไอ้เดย์ด้วยความฉงนว่าสองแม่ลูกฉบับผู้หญิงนั้นเป็นอะไรกันอยู่ ซ้ำร้ายเช้านี้ผมยังต้องมานั่งปั่นงานของอาจารย์นิภายกใหญ่จนไอ้เดย์นั่งหัวเราะคิกคักอยู่ข้าง ๆ
“มึงช่วยเขียนตรงนี้หน่อย ทำไม่ทัน”
ผมยื่นสมุดอีกฝั่งให้ไอ้เดย์ช่วยเขียน ซึ่งมันเป็นเพื่อนที่ดีครับ ช่วยทำแต่โดยดีแต่ก็ไม่วายนั่งขำไม่หยุด
“โอเคครับ”
ดีมาก เชื่อฟังว่าง่ายสอนง่าย
“คนเป็นแฟนกัน มาร์ชอยากให้ช่วยอะไร ผมช่วยได้หมดแหละ”
“…” กวนตีน
“แหม ๆ จีบกันแต่เช้าเลยนะพวกมึง เกรงใจคนไม่มีแฟนบ้าง”
เป็นไอ้โบ้เพื่อนในห้องเรียนของผมเอ่ยแซวขึ้น จนผมเงยหน้าเตรียมจะ ยิงคำด่าใส่มันเต็มที่หากมีคนใดคนหนึ่งในที่นี้ไม่เห็นด้วย แต่นี่ไอ้พวกเพื่อนเวร ทุกคนกลับพร้อมใจกันเงียบหมดเลย ให้ตายเถอะไม่มีเสียงหมาตัวไหนพูดทัดทานช่วยผมสักแอะ
“ไอ้สัส กูเป็นผู้ชาย”
“ผู้ชายแล้วไง ผู้ชายแล้วจำเป็นต้องคบแต่ผู้หญิงเหรอวะไอ้มาร์ช”
สิ้นเสียงน่ารำคาญของไอ้โบ้ ผมได้แต่หน้ามุ่ยไม่สบอารมณ์แล้วทำหูดับใส่ก่อนก้มลอกการบ้านต่อ แต่ทว่า...
“ไม่ต้องละ กูทำเอง”
ผมกระชากสมุดจากไอ้เดย์มาทำเองคนเดียว
“มึงเขินเหรอวะที่ยังรับตัวเองไม่ได้ ทั้งที่มึงเองก็ชอบกู”
ไอ้เดย์ยังเล่นไม่เลิกทำเอาผมรู้สึกหงุดหงิดซ้ำแล้วซ้ำอีก เฮ้อ...เวรกรรมอะไรวะเนี่ยเช้านี้มีแต่ความรู้สึกในแง่ลบมากเกินไปแล้วนะ
“บ้าเหรอกูไม่ได้ชอบมึง อย่ามาพูดเองเออเอง ไอ้เหี้ย”
“เดี๋ยวมึงก็ชอบ”
“….”
ทำไมผมต้องไปชอบเพื่อนสนิทอย่างมันวะ ถามจริง ต้องสิ้นไร้ไม้ตอกขนาดไหน แม่งพูดเข้าข้างตัวเองอยู่ได้
“เออ จะรอละกัน”
ผมตอบกลับไปแบบส่ง ๆ ก่อนตั้งใจเขียนงานต่อเพราะใกล้จะเสร็จแล้ว แต่พอนั่งอยู่นิ่ง ๆ ไหงรู้สึกเขินตงิด ๆ วะ
“มึงจะมองหน้ากูทำไมไอ้เดย์?”
“มึงตลกดีนะตอนเขินเนี่ย”
โหยรุกขนาดนี้จีบกูเลยสิ นั่งโง่ ๆ มองหน้าอยู่ได้
“ไอ้ควาย”
“เอ้า ด่ากูทำไม”
ไอ้เดย์ทำหน้ามุ่ยทันทีที่ผมด่ามัน จนผมหัวเราะร่า เหอะ ไอ้ควายเผือกเอ๊ย
“ก็มึงมันน่าหมั่นไส้”
ผมพูดพร้อมชูนิ้วกลางใส่คนตรงหน้า ก่อนขะมักเขม้นกับงานต่อไม่งั้นไม่มีส่งอาจารย์นิภาแน่นอน
การเรียนในวันนี้ปกติอย่างทุกวัน ซึ่งที่ว่าปกติคือน่าเบื่อนั่นแหละครับ ตลอดแปดชั่วโมงทั้งวันผมต้องก้ม ๆ เงย ๆ อดทนฟังอาจารย์พูดในคาบ แต่ไอ้คนข้าง ๆ เนี่ยสิ คงไม่รู้สึกอะไร เพราะแม่งหลับทุกคาบจนอาจารย์ต้องเดินมาสับมะเหงก สมน้ำหน้า มีเวลานอนแล้วเสือกไม่นอน ไอ้ควายเอ๊ย
แต่ถึงอย่างนั้นเห็นมันหลับทุกคาบแบบนี้ มันยังเรียนเก่งกว่าผมอยู่ดีไม่รู้เป็นเพราะอะไร แต่เอาเถอะ มีเพื่อนอย่างมัน ดีอยู่อย่างคือมีคนให้ลอกการบ้านเนี่ยแหละ เพื่อนผมเป็นต้นฉบับนะเว้ย ยืดอกภูมิใจ
“ไอ้มาร์ช ๆ”
ไอ้เดย์สะกิดแขนผมเหมือนกำลังดีใจอะไรบางอย่าง จนผมที่กำลังตั้งอกตั้งใจแก้โจทย์ฟิสิกส์อยู่บนโต๊ะเรียนหันขวับไปมองหน้ามันด้วยความรู้สึกไม่สบอารมณ์นัก
“เชี่ยไรของมึงเนี่ย ดีใจห่าไร”
ผมแยกเขี้ยวใส่คนตัวสูงที่ยื่นโทรศัพท์มาให้
ภาพที่ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์เป็นคลิปวีดีโอที่ผมถูกแอบถ่ายในงานโอเพนเฮ้าส์ เป็นภาพของผมและมันที่กำลังนั่งทะเลาะกันในโรงอาหาร แต่วีดิโอถูกตัดออกมาให้ดูน่ารักแถมยังมีการใส่เสียงเพลงเกาหลี โมเมนท์คล้ายแฟนกันอีก โธ่เว้ย อะไรกันครับเนี่ย
“ลบ”
ผมยื่นคำขาดให้ไอ้เดย์ลบเพราะถ้าน้องโบว์มาเห็นเดี๋ยวน้องเขาก็ส่งคลิปนี้มาอีก
“ลบอะไรมึง เห็นเขาเอาไปลงในต๊อกแต๊ก กูไม่ได้เป็นคนลง แล้วอีกอย่างมีแต่คนชอบ”
ไอ้เดย์มองหน้าผมคล้ายไม่เข้าใจ แต่ไม่วายยิ้มร่าหน้าบานเป็นกระด้ง
ใช่สิ เพราะมันไม่ได้เป็นผมนี่ ผมไม่ได้อยากถูกจับคู่จิ้นกับมันสักหน่อย
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?