“นี่มาร์ช ความรักมันไม่มีเรื่องเพศมาเกี่ยวข้องหรอกนะ คบกับน้องเดย์แล้วทำไม คนหล่อ ๆ แบบนั้นหายากนะ”
โอ๊ยจะบ้าตาย เป็นสาวเป็นนาง ดูคำพูดคำจาของพี่สาวผมสิ พ่อกับแม่หัวเราะเมื่อได้ยินพี่มายด์แซวแกมหยอกผม รู้สึกเหมือนถูกกลั่นแกล้งเลย จะร้องไห้แล้วนะ
“พอ ๆ มายด์ อย่าไปชงมาร์ชมันเยอะ มันเป็นผู้ชายของมัน ดี ๆ จะให้ไปเปลี่ยนอะไรนักหนา”
เมื่อพ่อปรามพี่มายด์ เป็นทีผมบ้างที่แลบลิ้นเอาคืนพี่สาวของตัวเอง
“เลิกหยอกกันได้แล้ว กินข้าวเร็ว แล้วรีบเข้านอน”
บทสนทนาบนโต๊ะอาหารจบลงหลังจากถ้อยคำเฉียบขาดของพ่อ ทุกคนต่างจัดการอาหารที่อยู่บนโต๊ะ แต่สายตาของผมกับพี่มายด์ยังคงฟาดฟันกันอย่างไม่มีใครยอมใคร เพราะต่างคนต่างกวนประสาทกันมาตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เชิงว่าทะเลาะ แต่แกล้งกันเก่งเท่านั้นเอง
ฟุ่บ!
ผมทิ้งตัวลงนอนบนผ้านวมผืนใหญ่ที่กางอยู่บนเตียงกว้างพลางสูดอากาศเย็น ๆ จากเครื่องปรับอากาศเข้าปอดด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย วันนี้ทั้งวันผมเหนื่อยมาก เดินโอเพนเฮ้าส์นี่ไม่ใช่เรื่องสนุกสักเท่าไร ซึ่งผมก็ยังไม่รู้ว่าอยากจะเรียนอะไรจึงตัดสินใจเดินวนไปทุกคณะเพื่อหาสิ่งที่ตัวเองชอบ ถ้าถามว่าเจอไหม บอกตามตรงเลยว่ายังไม่เจอ
“อิ่มจัง ต้มจืดกับไส้กรอกวันนี้พิเศษที่สุดเลย”
ผมพูดคนเดียวให้อากาศฟังแม้ไม่มีอะไรตอบกลับ แต่เป็นความสบายใจ เพราะผมมักชอบพูดอะไรคนเดียวตลอดอยู่แล้ว ผมใช้มือลูบท้องของตัวเองป้อย ๆ เพื่อให้อาหารมันย่อยพอที่จะมีอารมณ์เดินไปอาบน้ำเตรียมเข้านอน แต่ก่อนหน้านั้นขอเล่นโทรศัพท์สักหน่อยละกัน
ตอนนี้ไอจีผมคงโดนถล่มอยู่แน่เลยเพราะรูปคู่ที่ไอ้เดย์ลงล่าสุดที่ผมเห็นมีคนกดไลก์เป็นหมื่น ตามปกติแล้วยอดไลก์จะไม่เยอะขนาดนั้นหรอกถ้าในรูปที่มันลงไม่มีผมอยู่ด้วย
และมันก็เป็นอย่างที่ผมคิด ตอนนี้เข้าสู่ครึ่งแสนเป็นที่เรียบร้อย ตาของผมลุกวาวทันทีที่เห็นยอดไลก์มากมายและคอมเมนต์หลายพันที่จิ้นผมกับไอ้เดย์กันยกใหญ่ เดี๋ยว ๆ นะครับ พวกคุณมาจิ้นอะไรกัน!
ผมดับฝันทุกคนโดยการคอมเมนต์ไปว่า ‘แค่เพื่อนครับ ผมชอบหญิง’ พร้อมกับแท็กชื่อไอจีของไอ้เดย์ไปด้วย อย่างน้อยก็ให้ทุกคนเห็นว่าผมยังโสดอยู่ โสดมากด้วย อยากมีสาว ๆ เข้ามาจีบจังเลยครับ
ผมหัวเราะร่วนกับสิ่งที่ตัวเองทำ แต่ไม่นานนัก สตอรี่ไอจีของไอ้เดย์ก็แจ้งเตือนขึ้นทันทีหลังจากที่ผมคอมเมนต์เสร็จ ด้วยความอยากรู้และเพราะเป็นเพื่อนกันมานาน เวลาต่างคนต่างลงสตอรี่มักจะเห็นเป็นอันดับแรก ๆ อยู่แล้ว ผมจึงกดเข้าไปดูสักหน่อย
‘หน้าห้องแฟนครับ’
“ดะ เดี๋ยวนะ”
ผมงงกับภาพที่มันลง เป็นภาพชูมือมินิฮาร์ทหน้าประตูสีฟ้าบานหนึ่งที่ผมคุ้นตาพร้อมกับประโยคที่ว่า ‘หน้าห้องแฟน’ มันหมายความว่าไง
แต่ผมไม่โง่นาน พอระลึกได้ว่าสถานที่ในรูปนั้นคือที่ไหน ผมถึงกับสะดุ้งเฮือกหนึ่งก่อนจะรีบวิ่งไปเปิดประตูด่าใครบางคนที่กำลังยืนอยู่หน้าห้องของผมเองด้วยความโมโห
“ไอ้เดย์! มึงมาทำไม?”
ผมด่าคนหน้าหล่อที่ส่งยิ้มติดตลกมาให้ แถมตัวของมันยังหอบกระเป๋าสะพายมาอีก
“กูไม่ให้ค้าง วันนี้จะนอนคนเดียว กูจะคุยกับน้องโบว์”
“ก็มานอนด้วย ตอนเช้าจะได้ไปโรงเรียนพร้อมกัน มึงอย่าลืมสิว่าพรุ่งนี้มีงานต้องส่ง มึงจะไม่ลอกกูเหรอไง”
ดูมันสิ จะด่าผมโง่ว่างั้น
“มึงจะคุยกับน้องโบว์ก็คุยไป กูสัญญาว่าจะไม่แอบฟัง”
“อะไรของมึงเนี่ยไอ้เหี้ย จะมานอนบ้านกูหัดขอบ้างดิวะ” ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทำตาค้อนแยกเขี้ยวใส่มันอย่างไม่พอใจ
“พี่มึงอนุญาต ทักมาบอกกูเองว่ามึงน่าจะเหงา ให้มานอนเป็นเพื่อน”
โอ๊ย ฝีมือพี่สาวผมเหรอเนี่ย ร้ายกาจเกินไปแล้ว
“แล้วกูสงสัยอีกอย่าง เป็นแฟนกับกูแล้วยังจะมาคุยกับน้องโบว์อะไรอีก กูหึงนะ”
“ไอ้สัส ใครแฟนมึงอย่ามาเพ้อเจ้อ”
ผมขมึงตาด่ามันด้วยความหัวร้อน พี่สาวกูทำอะไรกับสมองของมึง คนอื่นจิ้นได้แต่มึงจะมาจิ้นตัวเองกับเพื่อนสนิทตัวเองไม่ได้!
ผมทำหน้าบึ้งไม่สบอารมณ์ก่อนที่จะปล่อยมือออกจากประตูให้คนตัวสูงกว่าเดินเข้ามาในห้องประหนึ่งบ้านของตัวเองอย่างทุกที
อาจจะเป็นเพราะว่าเวลาผมไปนอนบ้านของมัน ก็ทำตัวสบายเหมือนอยู่บ้านของตัวเองเช่นกัน ผมกับไอ้เดย์จึงไม่ได้คิดอะไรมาก
“ทำตัวดี ๆ แล้วกัน อย่าทำอะไรเลอะเทอะ”
ผมบ่นอุบอิบก่อนจะหมุนหน้าเดินตามร่างของมันที่กระโดดขึ้นไปบนเตียงของผมอย่างไร้ความเกรงใจ มิหนำซ้ำมันยังคว้าถุงมันฝรั่งทอดกรอบจากกระเป๋าเป้ของตัวเอง แล้วเอาขึ้นมาเคี้ยวหยับ ๆ ปล่อยให้ผมได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ มองภาพเบื้องหน้าแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างปลงสังเวช ขณะจัดแจงหยิบผ้าขนหนูในตู้เสื้อผ้าเข้าไปอาบน้ำ ยอมให้พ่อดาราใหญ่เขานอนสบายใจเฉิบบนเตียงกว้างคนเดียวอย่างเคย
สองทุ่มสี่สิบผมกับไอ้เดย์ยังคงใช้ชีวิตช่วงก่อนนอนแบบวัยรุ่นกันอยู่ตามปกติ ผมกำลังแชทคุยกับน้องโบว์ รุ่นน้องที่โรงเรียนที่ผมตามจีบมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว แต่ช่วงหลัง ๆ ผมไม่ค่อยโอเคสักเท่าไร เพราะน้องชอบแคปรูปผมกับไอ้เดย์มาให้ดู สรุปชอบผมหรือไอ้เดย์กันแน่
“ไอ้เดย์ เบาเสียงเกมหน่อยได้ไหมวะ”
พอนึกแล้วก็อารมณ์เสีย จึงหันไปโบ้ยใส่ไอ้คนต้นเหตุจนเจ้าตัวขมวดคิ้วงงพร้อมกับใช้แววตาดำขลับจ้องหน้าผมอย่างไม่เข้าใจ
“เสียงเกมกูครึ่งหลอดแล้วนะ มันดังเหรอวะ”
“ก็เออไง กูคุยกับน้องโบว์ไม่มีสมาธิเลย จนกูบอกฝันดีน้องไปล่ะ น่าเบื่อ”
ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดพลางคลานขึ้นไปบนเตียง แล้วเอื้อมมือคว้าผ้าห่มของผมที่มันกำลังเอาไปห่มอยู่กลับมา
“กูจะนอนละ เงียบๆ”
“ทำไมวะ น้องโบว์ไม่โอเคเหรอ ระบายได้นะ”
ไอ้เดย์ละทิ้งความสนใจจากเกมในโทรศัพท์ทันทีที่เสียงเตือนดังขึ้นว่าชนะแล้ว มันขมวดคิ้วมองหน้าผมอย่างสนใจใคร่รู้คำตอบก่อนทิ้งตัวเข้ามานอนข้าง ๆ
“เพราะมึงเลยไอ้สัส”
ผมใช้ข้อศอกถองแขนไอ้เดย์ไปทีหนึ่งจนมันตกใจและดูเหมือนสงสัยด้วยว่าทำอะไรผิด
“คนอื่นเขาจิ้นกูกับมึงไปหมด กูจะจีบใครเขาก็บอกกูว่าไม่อยากแย่งกูไปจากมึง แถมมึงยังเล่นไม่หยุด โหมไฟอยู่นั่นแหละ พี่มายด์ก็เหมือนกัน บ้าไปกันใหญ่แล้ว”
“หึ แค่นี้ทำบ่นเป็นเด็กไปได้”
ไอ้เหี้ยเดย์ยิ้มอ่อนแล้วเอื้อมตัวไปปิดไฟบนหัวเตียง ซึ่งดูเหมือนกับว่าไอ้บ้านี่จะไม่เข้าใจผมเอาเสียเลย
“แค่นี้สำหรับกูมันเรื่องใหญ่มาก มึงเข้าใจไหม”
“เข้าใจคร้าบ นอน ๆ เถอะนะเด็กน้อย”
“มึงอะไม่เข้าใจกูเลยเหรอวะที่กูบ่นเนี่ย ไหนบอกระบายได้ไง”
ผมตบแขนมันไปหลายทีเพราะความหมั่นไส้ คนเป็นเดือดเป็นร้อนยังจะมาขำอีก
“มึงไม่ชอบกูบ้างเหรออย่างที่ใครต่อใครเขาจิ้นกัน”
ไอ้เดย์หันมามองหน้าผมในความมืด สายตาของมันกำลังมองผม ผมรู้ แต่ทำไมมันถึงถามแบบนั้นวะ ต้องการอะไร
“ไม่อะไอ้สัส บอกแล้วไงอย่าเพ้อ”
“แต่กูชอบมึงนะ ชอบมากด้วยไอ้มาร์ช”
“หุบปากไปเลย กูง่วง”
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ เบื่อหน่ายที่มันยังคงเล่นไม่หยุด ก่อนตะแคงตัวหนีไปอีกฝั่งแล้วหยิบหมอนข้างขึ้นมากอดนอนอย่างสงบ
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?