ฉากที่ต้องถ่ายในวันนี้คือฉากปะทะคารมกันอย่างรุนแรงระหว่างนางเอกกับนางร้าย โดยมีพื้นหลังเป็นงานแต่งเล็กๆ ซึ่งพระเอกของเรื่องเตรียมไว้เซอร์ไพรส์นางเอก นางเอกถูกนางร้ายขับรถชนจนล้มป่วยเป็นเจ้าหญิงนิทรา พอฟื้นขึ้นมาก็สะสางความเข้าใจผิดทั้งหลายกับพระเอกแล้วแต่งงานกัน บทของพชิราคือมาพังงานแต่ง พูดพล่ามขุดเอาเรื่องความแค้นเก่า ๆ ของตัวละครหลักมาสาธยาย สุดท้ายเธอต้องโดนตบไปหนึ่งทีพร้อมกับโดนแฉจนหน้าชา
บทพูดผ่านไปได้ด้วยดี ต่างคนต่างแสดงอารมณ์ที่บีบคั้นกันอย่างเป็นมืออาชีพ และพอจะถึงฉากตบ ไม่ทราบนางเอกของเรื่องเข้าใจอารมณ์ตัวละครผิดไปหรือเปล่า จึงได้ใช้สายตาอำมหิตมองน้องสาว ใบหน้ามีแต่ความอิจฉาริษยา
“คัต! น้องมะนาว พี่ขออารมณ์ตกใจและเศร้ากว่านี้หน่อย”
มะนาวลดมือที่ง้างอยู่กลางอากาศลง ยกยิ้มบางเบาให้พชิราแล้วหันไปทางช่างที่เข้ามาแต่งหน้าทำผม คุณอิทธิพลกลับไปแล้ว ไม่มีใครอยู่เฝ้าจำเป็นจะต้องกลัวอะไร เธออยากตบก็จะตบ คนในกองถ่ายมีใครปากมากพอจะสู้กับอิทธิพลครอบครัวเธอ
และถ้าเกิดจะสืบสาวราวเรื่อง อย่างมากก็แก้ตัวไปว่าเป็นความผิดพลาด สิ่งเหล่านี้มักเกิดขึ้นในกองถ่ายบ่อยๆ อยู่แล้ว ต่อให้อัครภพจะหลงผิดเข้าข้างพชิรา แต่คงไม่ทำถึงขั้นฆ่าแกงกันหรอกมั้ง
เขาย่อมต้องเห็นแก่หน้าคุณพ่อมากกว่ายัยเด็กใจแตกคนหนึ่ง คอยดูเถอะ วันนี้เธอจะต้องตบคนสักฉาดให้ได้
ทางพชิราสูดลมหายใจลึก ๆ เพื่อให้ตัวเองสงบลง แววตาท่าทางของมะนาวไม่ใช่เธอไม่เห็น หากจวนตัวผู้กำกับไม่สั่งคัตเธอก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าตัวเองจะหลบพ้นฝ่ามือนั่นไหม เหมียว ผู้จัดการส่วนตัวของพชิราหาน้ำมาให้ดื่ม ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพลางก่นด่า
“ยัยมะนาวเมื่อกี้อย่างกับจะเล่นบทนางร้ายเสียเอง ถ้าไม่ถูกสั่งคัตคงตบจริงแน่ น้องพีมเอายังไงดี เหมือนหล่อนจะไม่ยอมเลิกราง่ายๆ นะ ขนาดว่าคุณอิทมาบอกกล่าวเองยังไม่ฟัง”
“ถ้าหล่อนอยากตบก็ให้ตบเลยสิคะ พีมกลัวแต่จะไม่ตบนี่แหละ กลัวแต่มือหล่อนจะหนักไม่พอ”
“น้องพีม…” ผู้จัดการส่วนตัวอุทานตกใจ “หมายความว่ายังไงคะ”
“ไม่ต้องห่วงพีมค่ะ แค่เก็บช็อตสำคัญให้ได้ก็พอ เดี๋ยวหลังจากนี้พีมจัดการเอง”
พชิรา วรวลัญช์ ไม่ใช่คนดีเลิศประเสริฐศรีอะไร แถมยังเจ้าคิดเจ้าแค้น รักใครก็รักหมดใจ เกลียดใครก็เกลียดเข้ากระดูก ในเมื่อมะนาวยังไม่ยอมหยุด จะให้เธอเอาตัวรอดไปวัน ๆ เหมือนเช่นที่ผ่านมาค่อนข้างเสียสุขภาพจิตและน่ารำคาญ จบละครเรื่องนี้อาจจะเจอกันในงานอื่น แถมมะนาวยังชอบสร้างข่าวลือทำลายชื่อเสียงเธอไม่เลิก ย่อมไม่ควรปล่อยไว้
ทุกคนกลับเข้าฉากอีกครั้ง เป็นฉากต่อเนื่องกับที่จะโดนตบ ตัวประกอบยืนวิพากษ์วิจารณ์พชิราอยู่ด้านข้าง นางร้ายทำสีหน้าเยาะหยันหัวเราะในความใสซื่อเกินจะทนของนางเอก แววตาพชิราจิกไปที่มะนาว เล่นใหญ่ใส่อารมณ์ราวกับเกลียดอีกฝ่ายเข้าไส้จริง ๆ มะนาวในคราบงูพิษสีชมพูมีหรือจะไม่รับรู้ แม้สวมหน้ากากนางเอกผู้เสียอกเสียใจกับการกระทำของน้องสาว แต่พชิราไม่ใช่น้องสาวจริง ๆ ของเธอสักหน่อย ความคิดเช่นนี้จึงชักนำให้การแสดงของมะนาวออกนอกอารมณ์ตัวละครหลักยิ่งกว่าเดิม ถึงขั้นไม่ยอมพูดอะไรก็ง้างมือจะตบพชิราอย่างเดียว
“คัต! เอ่อ…ขออีกรอบ น้องมะนาวคะ ต้องเสียใจและตกใจนะคะ” นางเอกแสนดีของเรื่องนี้แทบจะฉีกกระชากนางร้ายเป็นชิ้น ๆ แล้ว มีอย่างที่ไหนกัน จะบ่นมากก็ไม่ได้ คนเขาเป็นลูกคุณหนูคนใหญ่คนโตเสียด้วย พชิราสิที่ทำหน้าที่ไม่บกพร่อง เทคไปสองรอบล้วนมาจากนางเอกที่มีประสบการณ์ในวงการสิบสองปีทั้งนั้น
การถ่ายรอบที่สามเริ่มขึ้น คราวนี้พชิรายิ่งอารมณ์รุนแรง ตะโกนใส่หน้ามะนาวอย่างไม่สนใจอะไร ยิ่งเล่นยิ่งโหดขึ้นเรื่อย ๆ เกือบจะทำให้นางเอกสติแตกหลุดมาดง้างมือตบอีกแล้ว
แน่นอนว่าจะต้องถูกสั่งเทค! รอบที่สามก็ยังไม่ผ่าน มะนาวไม่รู้สึกสักนิดว่าตัวเองทำให้ทุกคนเหนื่อย ยังคงพยายามจะเข้าถึงบทเพื่อตบพชิราต่อไป
ทว่าหลังจากนั้นผลลัพธ์กลับยิ่งเลวร้ายลง เทคไปทั้งสิ้นนับสิบรอบได้ แต่ฉากสำคัญฉากนี้ก็ยังถ่ายไม่จบสักที จนท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี คนในกองแอบบ่นนางเอกอุบอิบ เกรงจะได้มาถ่ายซ่อมพรุ่งนี้อีก
มะนาวที่เหงื่อไหลอาบแผ่นหลังปัดป่ายข้าวของอยู่ในเต็นท์ส่วนตัว สีหน้าอำมหิตเคียดแค้น “นังสารเลวนั่นจงใจยั่วโมโหฉัน มันตะคอกใส่ฉันไม่ใช่เพราะบท แต่มันด่าฉันจริงๆ คงคิดว่ามีคนหนุนหลังแล้วจะจองหองพองขนยังไงก็ได้ใช่ไหม คอยดูสิ วันนี้ถ้าฉันตบแกจริงๆ ใครจะมาช่วยแก ใครจะกล้าสืบสาวราวเรื่องกับฉัน”
“น้องมะนาว ใจเย็น ๆ นะคะ ในกองถ่ายไม่ได้มีแค่พวกเรา ถ้าเรื่องหลุดออกไป” ผู้จัดการพยายามเกลี้ยกล่อม อย่างไรมะนาวก็เป็นนักแสดงที่ตนดูแล ภาพลักษณ์ในสังคมล้วนเป็นนางฟ้าผู้แสนดีมาตลอด ถ้าข่าวหลุดคงไม่ดีแน่
“หุบปาก! ใครมันจะแฉฉันก็ให้มันลองดูสิ ฉันจะตบนังนั่นให้ได้”
มะนาวนำความโกรธเกรี้ยวไปลงที่พชิราทั้งหมด พอกลับมาเข้าฉาก ยังไม่รอให้ผู้กำกับส่งสัญญาณก็ง้างมือแล้วตบลงไป ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างคาดไม่ถึงทำให้ทีมงานและนักแสดงคนอื่นอึ้ง นี่มันไม่น่าจะเล่นตามบทแล้ว
“อุ้ย! ขอโทษค่ะพอดีพลั้งมือ น้องพีมเป็นอะไรมากหรือเปล่า” มะนาวฟื้นคืนอารมณ์ แสร้งทำเป็นถามไถ่อย่างห่วงใย
“น้องพีม เฮ้ย!” ผู้กำกับอุทานตกใจเมื่อเห็นรอยเล็บลากเป็นทางสามรอยบนแก้มเนียนใสของพชิรา แถมแผลยังดูลึกมาก มีเลือดไหลออกมาอีกด้วย
ผู้จัดการส่วนตัวของพชิรายิ่งเล่นใหญ่ ถึงกับร้องไห้ปวดใจ “ตายแล้วๆ น้องพีมเจ็บมากไหม รอยเล็บจิกลงมาลึกขนาดนี้เชียว เลือดไหลออกมาเยอะมากเลย ไปโรงพยาบาลกันเถอะ ฉากวันนี้คงถ่ายไม่ได้แล้ว เดี๋ยวพี่จะแจ้งแฟนคลับที่มางานแฟนมีตพรุ่งนี้เองว่าน้องพีมโดนตบจนหน้าเสียโฉม”
ไม่ว่ามะนาวจะชิงชังพชิราแค่ไหน แต่การลอบทำร้ายคนก็น่ารังเกียจเกินกว่าจะแบ่งฝักแบ่งฝ่ายได้ ยิ่งเห็นพชิราร้องไห้น้ำตานองหน้าก็ยิ่งชวนให้สงสาร สายตาโดยรอบจึงมองไปที่มะนาว ซึ่งเวลานี้ไม่มีแววจะเสียใจจริงจังกับการกระทำของตัวเอง
“โดนตบอะไรกัน เขาเรียกว่าอุบัติเหตุระหว่างถ่ายทำต่างหาก” ผู้จัดการของมะนาวมาแก้คำพูดของพี่เหมียว
“อุบัติเหตุจากฉากตบไง ก็ไม่ได้จะว่าอะไรสักหน่อย ผู้กำกับคะ ขอตัวพาน้องพีมไปโรงพยาบาลก่อนนะคะ อาชีพดาราใช้หน้าตาหากิน พรุ่งนี้ยังมีงานแฟนมีตติ้งกับแฟนคลับ ปล่อยไว้คงรักษายากค่ะ”
“ไปเถอะ วันนี้เลิกกอง ไม่ต้องถ่ายแล้ว พอๆ” ผู้กำกับพูดอย่างเสียอารมณ์ มะนาวไม่ไว้หน้าคนอื่นสักนิด ก่อเรื่องเดือนร้อนเข้าจนได้
“สมน้ำหน้า ใครใช้ให้แกกล้ามาลองดีกับฉัน” มะนาวเบ้ปากตามหลัง ไม่สนใจว่าการกระทำของตัวเองควรหรือไม่ควร เธอแค่สะใจที่พชิราโดนตบ วันนี้หรือวันพรุ่งนี้ ต่อให้ใครอยากถือสาหาความ ทางบริษัทต้นสังกัดและครอบครัวของเธอไม่มีทางยอมให้เรื่องลุกลามอยู่แล้ว
ที่โรงพยาบาล
“ซี้ด! เจ็บค่ะ” พชิราร้องครวญเมื่อแอลกอฮอล์ล้างแผลป้ายลงมาบนแก้ม ใช้วิธีเจ็บตัวแบบนี้หวังว่าจะคุ้มนะ
อัครภพหรี่ตาทั้งสอง ใช้ก้านสำลีซับไปตามแนวครูดยาวบนแก้มเนียน “ใครทำ”
“วันนี้มีถ่ายฉากตบค่ะ นางเอกเขาอินกับบทเกินไปหน่อยก็เลยลืมยั้งแรง จะเป็นแผลเป็นไหมคะ พีมยังต้องใช้หน้าตาหากินนะ”
“ไม่เป็น รอแผลแห้งทายาต่อเนื่องก็หาย แต่อาจต้องใช้เวลาหน่อย ประมาณครึ่งเดือน”
ครึ่งเดือนนี้เป็นช่วงที่พชิราเตรียมพักผ่อนอยู่พอดี ไม่มีงานต้องทำจึงไม่เดือดร้อนมาก
ว่ากันตามจริงเธอเจ็บอยู่บ้าง แต่ไม่ถึงขั้นต้องสำออยร้องไห้กระซิกๆ ก่อนหน้านั้นทำไปเพราะเรียกร้องความสนใจเฉยๆ คุณหนูลูกนายพลอย่างมะนาว หากไม่ลงทุนลงแรงหน่อยมีหรือจะทำให้สะเทือน ยิ่งเมื่อเทียบอำนาจเบื้องหลังกันแล้ว ยิ่งต้องเล่นใหญ่เอาให้สุดทาง บิดาของเธอไม่ได้มีเส้นสายในวงการเมือง ไม่ได้เป็นท่านนายพลผู้ทรงอำนาจเหลือล้นจนพลิกฟ้าพลิกดินได้ มีปัญหาย่อมไม่สามารถลากพวกเขามาเอี่ยว เธอที่ตัดสินใจเดินบนเส้นทางนี้ต้องหาวิธีการเอาตัวรอดเอง
“รอยลึกขนาดนี้ไม่น่าจะเกิดจากความผิดพลาด” อัครภพเป็นหมอย่อมมองออก เขาปิดแผลให้ จากนั้นถอดถุงมือยางทิ้งลงถังขยะ หยิบโทรศัพท์มาต่อสายหาใครบางคน
“จัดการคนที่ทำร้ายคู่หมั้นฉันซะ บอกท่านนายพลว่าทางเราตกลงซื้อขายโดรนสอดแนมที่รัฐเสนอราคามา”
เขากล่าวแค่นั้นก็วางสาย ไม่ทราบว่าคุยกับใครแต่แค่นี้ก็ทำให้พชิราอึ้งไปแล้ว คู่หมั้นเหรอ นี่เขายอมรับกับคนอื่นว่าเธอเป็นคู่หมั้นของเขาแล้วงั้นเหรอ
“พี่อัค…” หยดน้ำตาไหลลงมาอีกรอบ พชิราที่เหนื่อยเต็มทีเอนตัวเข้าไปซบกอดอยู่บนอกของเขา “พี่อัค…ฮือๆ”
อัครภพตัวแข็งทื่อ ไม่ทราบว่าจู่ๆ เธอเป็นอะไรขึ้นมาอีก แต่เพราะเด็กสาวร้องไห้ได้น่าสงสารเกินไป เขาจึงไม่ได้ผลักออก ยอมให้เสื้อเปียกชุ่มไปด้วยคราบน้ำตา จนเธอสงบลงแล้วแต่ก็ยังจะนั่งเล่นอยู่บนตักของเขา
“พี่อัคจะจัดการเรื่องนี้ให้พีมเหรอคะ ไม่ต้องก็ได้ค่ะ พีมมีวิธีของพีม” เธอมีคลิปที่มะนาวโมโหร้ายแล้ว ขอแค่ปล่อยออกไปย่อมถูกมวลชนวิพากษ์วิจารณ์ ทำลายชื่อเสียงนางฟ้าจอมปลอมได้
“เธอเป็นคู่หมั้นของพี่ ยังไม่ได้ยกเลิกการหมั้น คนอื่นไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายเธอ”
“แต่พ่อของพี่มะนาวเป็นถึงนายพลนะคะ”
“จำเป็นต้องกังวลด้วยเหรอ”
เขาพูดเหมือนว่าตำแหน่งนายพลอะไรนั่นเป็นปัญหาหยุมหยิม ตระกูลธาดากีรติมีอำนาจมากกว่าที่เธอคิดแน่นอน
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?