ตอนที่ 17 : กระจายข่าวลือ

‘แฝดอาถรรพ์’

เป็นหัวข้อสนทนาที่กำลังลือเลื่องไปทั่วทั้งเมืองหูโจวในระยะเวลาสั้น ๆ เพียงสามคืน เนื้อหากล่าวถึงพี่น้องฝาแฝดหงส์มังกรบ้านตระกูลซีซึ่งเป็นที่รักใคร่ของภูตผี ดึงดูดสิ่งชั่วร้ายเข้ามาในบ้าน ทั้งยังมีนิสัยร้ายกาจราวกับถูกปีศาจสิงสู่ ฮูหยินผู้เฒ่าผู้ล่วงลับต้องการกำจัดสิ่งอัปมงคลนี้ออกจากตระกูลจึงตั้งใจเอาพวกเขาไปอยู่ด้วย ดังจะเห็นได้ว่าเด็กทั้งคู่หล่นลงไปที่ก้นหลุมฮวงซุ้ยขณะกำลังทำพิธีฝังโลงหัวหมู

มือเรียวบางซีดเผือดวางถ้วยยาสีข้นดัง ‘กิ้ง’ สาวงามขี้โรคคลี่รอยยิ้มพลางซับริมฝีปากด้วยผ้าเช็ดหน้าผืนสวย ขณะฟังสาวใช้คนสนิทบอกเล่าข่าวลือที่เกิดขึ้น

สมน้ำหน้า..

ถ้าเพียงแค่พวกมันเน่าอยู่ที่บ้านนอกนั่นไม่ต้องกลับมาขวางทางรักระหว่างนางและสามีก็ดีอยู่แล้ว ในเมื่อดิ้นรนกลับมาได้ ต่อให้มียายแก่โง่งมนั่นอยู่ นางก็สามารถทำให้พวกมันย่อยยับหายไปตลอดกาลได้เช่นกัน

เฮอะ ถ้าแค่คอหักตาย ๆ ไปที่ก้นหลุมนั่นซะ

อินลู่ปิดเปลือกตาลงซุกซ่อนประกายชั่วร้ายไว้อย่างมิดชิด โยนถุงเงินให้สาวใช้คนสนิท ใช้ใบหน้าขาวเผือดและร่างกายที่เปราะบางหลบอยู่ข้างหลังโรคร้ายที่ไม่มีผู้ใดสามารถรักษาให้หายขาด “ดี ทำหน้าที่ของเจ้าต่อ หากทำได้ดีข้าจะมีรางวัลให้เจ้าอีก”

“บุตรธิดาปีศาจจะกำเนิดจากครรภ์นางเซียนได้อย่างไร เจ้าไม่คิดเช่นข้าหรือ?”

อนุสี่ทอดมองออกไปยังทิศทางของเรือนหลัก ดวงตาดำมืดจมดิ่งยามภาพของหญิงงามและเด็กตัวขาวอวบผุดขึ้นมา ก่อนจะอ่อนลงจนเปลี่ยนเป็นลุ่มหลงยามคำนึงถึงบุรุษผู้องอาจที่สุดในใจของนางอย่างล้ำลึก ท่านพี่หยางของนาง โทษกักบริเวณนี่ไม่ใช่ความรักที่สามีมีให้ต่อภรรยาที่บอบบางหรอกหรือ

ท่านพี่ของน้อง รอน้องสักหน่อย..

ไม่นานนักหรอก ขอแค่นางกำจัดขวากหนามขวางทางรักของเรา เราก็จะได้ครองรักกันตราบนิรันดร์

เรือนลำดับสี่ที่ห่างไกลเกิดสิ่งใดขึ้นมีหรือที่เด็กข้อเท้าบวมเป่งจนออกวิ่งเล่นไม่ได้ ซุกซนไม่ได้ ได้แต่นั่งเฉย ๆ บนเบาะนุ่มเป็นก้อนแป้งคู่แฝดท่ามกลางการดูแลปรนนิบัติมาสามวันถ้วนจะไม่รับรู้ ซีเยว่บอกเลยว่าว่างมาก ว่างจนระหว่างชวนน้องชายพับกระดาษเล่นเป็นรูปร่างต่าง ๆ แก้เบื่อในฐานะคนป่วยเหมือน ๆ กัน ต้องให้ระบบเจ้าแต้มอ่านรายงานบนม้วนไม้ไผ่ของอินลู่ช่วงนี้ให้ฟังไปด้วย

ว่าไงดีล่ะ..?

คลั่งรักจนน่ากลัว

ซีเยว่ไม่รู้จะเอาอะไรมาอธิบายอาการโรคจิตเกินเยียวยาของอนุสี่ผู้นี้อีกแล้ว ขนาดถูกท่านพ่อลงโทษตัดเบี้ยหวัดตลอดปี คาดโทษเตรียมไล่ออกจากบ้าน แถมกักบริเวณให้อยู่แต่ในเรือนของตนเองไม่มีกำหนด ยังเพ้อพกถึงความรักที่ไม่มีอยู่จริงได้ ยังไม่นับข่าวลือไร้สาระนั่นอีก

โถ๊! โถ๊! โถ๊!

อยากสร้างชื่อเสียให้กับครอบครัวคนอื่นจนเนื้อเต้น แต่ประทานโทษ นั่นไม่ได้ทำให้มนุษย์ยุคสองพันผู้ตาฉ่ำกับซีรีส์วังหลังมานับไม่ถ้วนรู้สึกเจ็บ ๆ คัน ๆ สักนิด

เด็กหญิงตัวน้อยเอนซบน้องชายตัวนุ่ม “หยวนเอ๋อร์~”

“โอะ” ซีหยวนรับตัวพี่สาวไว้ด้วยอ้อมแขนเล็ก ๆ เอียงศีรษะกะพริบตาอย่างน่าเอ็นดู

“เจี่ยเจียเบื่อ เจี่ยเจียอยากออกไปข้างนอกบ้างอ่า”

“หงึ แต่เจี่ยเจียขาเจ็บนะขอรับ”

“ก็นั่นน่ะซี่..” ซีเยว่คร่ำครวญงอแงกับน้องชาย ถูไถแก้มย้วยกับแก้มกลมของฝาแฝดนัวเนีย จุดประสงค์หลักคือ น้วยว่าที่หนุ่มหล่อในอนาคตก่อนที่ตอนโตจะทำไม่ได้ เก็บเกี่ยวประสบการณ์อันล้ำค่า อำพรางจุดประสงค์รองเอาไว้อย่างแนบเนียน

“อ๊ะ!” เมื่อซึมซับความนุ่มจนพอใจ ก้อนแป้งคนพี่ก็เด้งตัวขึ้นมาพร้อมกับดวงตาพราวระยับน่ามันเขี้ยวเป็นอย่างยิ่ง “ตี้ตี เจ้าว่าท่านลุงตงแข็งแรงหรือไม่?”

“แข็งแรงสิขอรับ ท่านลุงตงจับนกได้ตั้งมากมาย”

“แล้วเจ้าว่าท่านลุงตงจะอุ้มเราสองคนไหวหรือไม่?”

เด็กหญิงยักคิ้วหลิ่วตา เด็กชายดวงตาสว่างวาบ

ท่านพ่อไปทำงาน ท่านแม่ไปทำครัว ทางสะดวก!

ฝาแฝดหงส์มังกรส่งสัญญาณให้กันทางสายตา เด็กที่คุ้นชินกับการวิ่งเล่นในชนบทซึ่งเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าและลำธารใสจะยอมอยู่นิ่ง ๆ ในห้องหับเกินสามวันได้อย่างไร เพียงเสียงประตูเปิดออกดัง ‘ครืด’ พี่สาวอาเหม่ยเข้ามาพร้อมขนมหวานน่ารับประทาน เด็กซนก็ช่วยกันงัดไม้ตายออกมาออดอ้อน

“พี่สาวอาเหม่ยเจ้าคะ” “พี่สาวอาเหม่ยขอรับ”

“เจ้าคะ?”

สาวใช้ในตำแหน่งพี่เลี้ยงจำเป็นยังอ่อนหัดต่อมารยาจิ้งจอกน้อยและหมาป่าเด็กนัก

ใช้เวลาไม่นาน ซีเยว่และซีหยวนก็ได้ท่านลุงนายพรานตัวสูงใหญ่เป็นพาหนะพาเดินเล่นในสวนชั่วคราว ซีหยวนนั่งอยู่บนบ่าขวา ซีเยว่กอดอยู่ที่คอซ้าย มองมุมไหนก็เหมือนพ่อมือใหม่ที่กำลังกระเตงลูกอ่อน

ตงฟางพรูลมหายใจ

ถึงว่าวันนี้รู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ชอบกล

ผิดกับเด็กชายที่เริงร่ามากเมื่อสามารถสัมผัสลมเย็นได้จากมุมสูง เท้าน้อย ๆ เตะไปมาชื่นมื่น “ท่านลุงตงพาหยวนเอ๋อร์ไปจับนกกระทาด้วยได้หรือไม่?”

“ลูกหมาป่า หูโจวไม่มีนกกระทา” ตงฟางเปลี่ยนคำเรียกขานเด็กน้อยที่ตนเองเลี้ยงด้วยเนื้อนกเนื้อกระต่ายมาแต่อ้อนแต่ออก แต่ไม่ได้ลดความสนิทสนมลงเลย บางทีก็น่าคิดว่าอาจจะสนิทมากกว่าบิดาแท้ ๆ ด้วยซ้ำ

“งั้นกระต่าย?”

“ไม่มี”

“แล้ว แล้วกวางล่ะขอรับ?”

“ไม่มีเหมือนกัน”

“งะ” ซีหยวนเศร้าลงนิดหน่อย “คนเมืองน่าสงสาร”

“หืม?” คนคุ้มกันร่างใหญ่เลิกคิ้วถามหมาป่าน้อย อะไรกันที่ทำให้เด็กตัวเล็ก ๆ จากชนบทที่ยากลำบากเกิดความสงสารคนเมืองที่อู้ฟู่

“ก ก็พวกเขาไม่มีกวาง ไม่มีนกกระทา แล้วก็ไม่มีกระต่ายด้วย!” ซีหยวนอธิบายพลางขมวดคิ้ว ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองไปบนท้องฟ้าราวกับผู้เฒ่าคงแก่เรียนในขณะที่มือยังกอดคอท่านลุงกล้ามใหญ่เอาไว้ ช่างน่าขันนัก “เฮ้อ.. คนเมืองแร้นแค้นมาก น่าสงสาร น่าสงสาร”

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ”

คนฟังหัวเราะปากกว้างตาปิด เจ้าหมาป่าหัดเดินพูดไม่ผิดเลย เด็กชายไม่ประสาผู้มีเมตตาธรรมของท่านลุงตงพูดถูกทุกประการ

คนเมืองที่ไม่มีป่าให้ล่าสัตว์ ไม่มีลำธารใสให้ตกปลาช่างน่าสงสารเป็นอย่างยิ่งแล้ว!!

และกำลังจะน่าสงสารขึ้นอีกในไม่ช้า

“ท่านลุงตงเจ้าคะ” ใช้จังหวะที่น้องชายกำลังสนุกสนานตื่นตาตื่นใจกับประสบการณ์ที่ไม่เคยได้สัมผัส ตรงข้ามกับเจ้าหมาป่าไร้เดียงสา เจ้าจิ้งจอกแดงคนพี่เปี่ยมเดียงสาเชียวล่ะ

“แฝดจิ้งจอกไม่ต้องอ้อมค้อม อยากได้อะไร”

ไส้กี่ขดกี่ขดเป็นอย่างไรไม่ใช่ไม่รู้ แต่นายพรานก็ยังคงเต็มใจหาปลาให้

“เยว่เอ๋อร์ได้ยินข่าวลือมาด้วยล่ะ” ซีเยว่ไม่ตอบตรง ๆ นางชอบท่านลุงตงมาก นอกจากจะกล้ามแน่นแล้วมันสมองก็แน่นมากด้วย หากไม่นับมารดาแล้วก็มีคนผู้นี้ที่มีแนวโน้มเป็นตัวเต็งที่จะสามารถอบรมฝาแฝดโดยไม่ตกหลุมพราง

ตงฟางขมวดคิ้ว ทั้งที่บ่าวไพร่ในบ้านปิดปากเงียบ เด็กหญิงยังไปได้ยินอะไรมาอีก “ข่าวลืออะไร?”

“ข่าวลือข้างนอกของเยว่เอ๋อร์กับตี้ตี”

“ใครมันพูด!”

ปรมาจารย์ผู้บำเพ็ญปลดปล่อยปราณรอบกายพัดต้นไม้ใบหญ้ากระจุยกระจาย ซีเยว่กับซีหยวนคนหนึ่งร้อง ‘ว้าว’ คนหนึ่งร้อง ‘โหว’ ตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็เหมือนกับอารมณ์ส่วนเกินที่พอปลดปล่อยออกไปแล้ว ท่านลุงที่ใจดีก็เป็นปรกติเหมือนเดิม

กำชับซีเยว่ซีหยวนเสียงเข้ม “เจ้าแฝดไม่ต้องไปฟัง รู้หรือไม่”

“ขอรับ?” แฝดคนน้องที่ไม่รับรู้ข่าวลือใด ๆ

เด็กหญิงทุบบ่าที่นางใช้นั่งอยู่ “เบา ๆ สิเจ้าคะ เยว่เอ๋อร์ไม่ได้บอกตี้ตี”

“...”

เดี๋ยวนี้แม้แต่แฝดตัวเองก็ไม่เว้นแล้วรึ?

พาเด็กเล็กเดินเล่นจนแดดเริ่มแรง พี่เลี้ยงอาเหม่ยก็ขอให้ตงฟางพาคุณหนูคุณชายกลับเรือนหลัก ซีเยว่ยังไม่ได้เอ่ยถึงความต้องการของตนเองกับท่านลุงผู้คุ้มกัน แต่ขอให้เขาพานางแยกตัวไปเอาของจำเป็นที่ห้องแทน

“เด็กเจ้าเล่ห์ บอกมาจะเอาอะไร?” ตงฟางถามเด็กหญิงทันทีที่วางนางไว้บนตั่ง ไม่รู้ว่าถามถึงของที่นางขอให้พามาหยิบ หรือถามถึงจุดประสงค์ที่นางเอ่ยถึงข่าวลือที่คนทั้งบ้านพยายามจะปกปิดไม่ให้มากระทบกระเทือนความรู้สึกผู้เยาว์

ซีเยว่ยิ้มหวาน บีบนิ้วชี้กับนิ้วโป้งให้เหลือช่องว่างเท่าเข็ม “ท่านลุงไม่ต้องกังวล ความต้องการของเยว่เอ๋อร์เล็กนิดเดียว”

“เชื่อถือได้รึ!?” ผู้คุ้มกันตัวใหญ่กลอกตา

“ได้สิเจ้าคะ!” คนถูกคุ้มกันพยักหน้ายืนยันอย่างหนักแน่น ชูนิ้วขึ้นมาสองนิ้ว “เยว่เอ๋อร์ต้องการให้ท่านลุงตงช่วยเหลือแค่สองสิ่ง ไม่ลำบากท่านแน่นอน!”

เด็กหญิงตัวน้อยขยันให้ความมั่นใจมาก

ซึ่งส่วนใหญ่แล้วตงฟางลงความเห็นว่าเชื่อถือไม่ได้ “ว่ามา”

“คือว่านะ~” จิ้งจอกน้องปั้นตากลมโตหูลู่หางตก เบียดแก้มกลมกับท่อนแขนของบุรุษร่างสูงใหญ่ เปล่งเสียงออดอ้อนได้น่าสงสารจับใจ “เยว่เอ๋อร์รู้มาว่าผู้บำเพ็ญกว้างขวางม๊าก!! ท่านลุงก็ได้ยินข่าวลือแล้ว เยว่เอ๋อร์ไม่สบายใจเลย”

“อยากให้ลุงเจ้าหยุดข่าวลือ?”

“อื้ออือ” ซีเยว่ส่ายศีรษะจนก้อนซาลาเปาสั่นดุ๊กดิ๊ก ป้องปากเอาไว้ประหนึ่งสิ่งที่นางกำลังจะพูดมีลับลมคมในมาก “เยว่เอ๋อร์ไม่สบายใจที่พวกเขาได้รับข่าวไม่ครบถ้วน เยว่เอ๋อร์น่ะนะ อือ แบบว่า เยว่เอ๋อร์ได้ยินมาว่าฮูหยินผู้เฒ่าไปเข้าฝันอนุสี่!”

“...”

ตงฟางมองเด็กอวบด้วยดวงตาว่างเปล่า

“ก็นะ เยว่เอ๋อร์กับตี้ตีน่ารักเกินไป หญิงย่าไม่ได้เจอพวกเรามานานเลยให้อนุสี่ผลักเยว่เอ๋อร์กับหยวนเอ๋อร์น่ะ! ฮึ่ย! เสน่ห์ของเด็กน่ารักช่างเป็นบาป!”

“...”

“...”

“เด็กอวบกำลังพูดถึงอะไร?” ผู้ฝึกยุทธ์หลบดวงตาปิ๊ง ๆ ของเจ้าก้อนแฝดพี่

ซีเยว่บดเบียดแก้มกลมกับท่อนแขนหนาอีกครั้ง “ท่านลุงตง ท่านไม่สงสารพวกเขาหรือที่ได้รับข่าวสาส์นไม่ครบถ้วน เยว่เอ๋อร์ ไม่รบกวนท่านมาก แค่พูดคุยกับสหายของท่านเรื่องนี้สักคนสองคน”

“อ้อ”

ที่แท้เจ้าจิ้งจอกไม่ต้องการแก้ข่าวลือ แต่ต้องการกระโจนเอาตัวเข้าไปละเลงข่าวลือเล่น

คนเมืองน่าสงสารยิ่ง

“เฮ้อ” ตงฟางโยกศีรษะที่เต็มไปด้วยกลุ่มเส้นผมสีดำดกหนา ช่างน่ามันเขี้ยวเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ฉลาดเฉลียวเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน การปิดข่าวลืออาจไม่เป็นผลดี ในทางตรงกันข้ามการชี้นำข่าวลือไปในทางที่ต้องการต่างหากที่อาจเป็นผลดี

ระหว่างหล่นลงไปเองกับถูกผลักโดยอนุภรรยาของบิดา กระแสจะเป็นอย่างไรไม่ต้องสงสัย

“ในหัวของเจ้าใส่อะไรไว้บ้างฮึ๊!”

ซีเยว่วาดมือกว้างขวาง “มีหลายสิ่งมากมาย!”

โดยเฉพาะคอนเทนต์แจ่ม ๆ ช่วยคนสร้างดราม่านี่ มีอีกหลายพล็อตเลยล่ะ

ฝากฝังเรื่องแรกได้อย่างสวยงาม แล้วก็มูฟออนมาเรื่องถัดไป

ตามที่กล่าวไว้ นางมีเรื่องไหว้วานท่านลุงตงสองประการ อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องจัดการคือ ยันต์สีดำเขียนด้วยเลือดเกรอะกรังจนแทบไม่เห็นอักษรที่ส่งกลิ่นเหม็นเน่าที่ซีเยว่ยัดเยียดฝากไว้กับระบบชั่วคราว นางพบมันอยู่ก้นหลุมทว่าถูกดินกลบไปเล็กน้อยจนยากจะสังเกตเห็น ซึ่งมันไม่ใช่อะไรเลยนอกจากสิ่งแปลกปลอมที่ระบบต้องการให้นางกระโดดลงไปเก็บมันขึ้นมา

เคี่ยวเข็ญเอาคำตอบจากระบบคืนความสุขแก่คู่ยวนยางแล้วว่ามันคือ ยันต์คำสาปเน่าเปื่อย

ตามชื่อคือมันไม่ใช่สิ่งที่ดีนัก ยันต์ชนิดนี้พบเฉพาะในหมู่มารเปิดใช้งานโดยการถูกกระตุ้นด้วยน้ำหนักกดทับ อิทธิฤทธิ์น่าพรั่นพรึง เมื่อถูกใช้มันจะทำการย่อยสลายวัตถุใกล้เคียงไม่ว่าจะมีชีวิตหรือไม่จนไม่สามารถจำเค้าโครงได้เพียงเวลาไม่กี่ชั่วยาม

หยุดยั้งไม่ได้จนกว่าปราณที่บรรจุไว้จะหมดไป

ซีเยว่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน

หากไม่เพราะนางอยู่ด้วยกันกับซีหยวนเข้าเงื่อนไขเปิดใช้งานความพิเศษต่อต้านคำสาปของร่างหงส์มังกรมงคล ป่านนี้นางคงได้ตามไปบีบคอหญิงย่าในปรโลกจริง ๆ

ไม่ต้องพูดถึงสหายในโลงของท่านพ่อผู้นั้น หากไม่เจ็บหนักก็คงไม่ได้ขึ้นมาตลอดกาล!

เด็กหญิงไม่รู้ว่าใครทำและไม่รู้จะจับปลายเหตุเพื่อสืบสาวหาต้นเหตุได้จากที่ไหน มันอาจจะดีกว่าถ้าให้กลุ่มคนที่รู้ลึกรู้จริงจัดการ

อาทิเช่น ผู้บ่มเพาะฝ่ายพรรคเซียน

ยิ้มกว้างให้ปรมาจารย์ยังหนุ่ม “ท่านลุงตง เยว่เอ๋อร์รบกวนท่านช่วยหยิบกล่องหยกกับกระดาษรูปแปลก ๆ ตรงนู้นให้เยว่เอ๋อร์หน่อย”

“เป็นคำขอที่สองหรือไม่?”

“ม่าย~ แต่ก็ใกล้เคียงเจ้าค่ะ”

แม้ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนแต่ตงฟางก็ทำตามคำขอของเด็กหญิงโดยไม่ได้ตะขิดตะขวงใจ ก้าวขายาว ๆ ไม่กี่ก้าวก็ได้สิ่งของที่จิ้งจอกแดงต้องการครบถ้วน “ของเจ้า”

“ขอบคุณเจ้าค่ะ” ซีเยว่ค้อมศีรษะกล่าวขอบคุณด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนน้อม นางวางสิ่งอื่นไว้ข้าง ๆ เว้นแต่กล่องหยกสีเขียวเนื้อเนียนซึ่งถูกแกะสลักคล้ายกล่องเครื่องประดับ หยิบยันต์อัปมงคลออกมาจากช่องว่างระบบแล้วยัดลงกล่องหยกเย็นหมื่นปีอย่างเกรี้ยวกราด

ปิดฝากล่องดัง ‘ปั่บ!’ ปิดกั้นกลิ่นอายชั่วร้ายไว้ภายในอย่างมิดชิด ใช้เวลาเพียงเสี้ยวอึดใจ

ซึ่งเพียงพอที่จะทำให้ตงฟางมีสีหน้าไม่สู้ดี

“นั่นมัน” ไอมาร ผู้คุ้มกันเว้นคำสุดท้ายเอาไว้ในลำคอ กวาดตามองโดยรอบแล้วไม่พูดออกไป

“เยว่เอ๋อร์พบมันที่ก้นหลุมเจ้าค่ะ ท่านอาจารย์บอกว่าเป็นสิ่งไม่ดี”

“อาจารย์เจ้าบอกอะไรอีกบ้าง”

“ท่านอาจารย์บอกให้เยว่เอ๋อร์ส่งให้ท่านพ่อ แล้วก็ เอ..” จิ้งจอกน้อยลากเสียงยาว ทำท่าทีครุ่นคิดพลางโยกตัวพลาง คลี่รอยยิ้มเผล่ขณะยัดกล่องหยกและเครื่องบินกระดาษส่งรักให้ท่านลุงตงฟาง

“อ่อ ห้ามลืมคืนกล่องหยกกับเครื่องบินกระดาษเด็ดขาดเลยเจ้าค่ะ!!”

...

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยโดยระบบที่น่ารัก

กล่องหยกเย็นหมื่นปี สร้างขึ้นโดยเซียนแกะสลักนิรนามเพื่อเก็บรักษาและซ่อนเครื่องประดับเทพชิ้นหนึ่ง รูปลักษณ์ภายนอกสวยงามดูไม่ต่างจากกล่องหยกซึ่งถูกแกะสลักอย่างประณีตชิ้นอื่น สามารถกดข่มเก็บงำและยับยั้งพลังอำนาจของสิ่งของซึ่งบรรจุอยู่ภายใน

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ