นางมาทำอะไรที่นี่?
ซีเยว่ถามตัวเองขณะยืนโด่เด่รองท้งรองเท้าไม่ได้ใส่บนพื้นหญ้านอกเรือนหลักออกมาไกลโข นิ้วเท้ากลมนุ่มขดชิดเข้าหากันยามสัมผัสกับน้ำค้างเย็นเยียบ มือเล็กกำแบซุกเข้าในแขนเสื้อ จมูกและแก้มแบบบางขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างน่าสงสาร
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า นอกจากนิสัยย่องออกจากห้องคนเดียวตอนกลางคืน ซีเยว่ไม่มีนิสัยเดินละเมอ หรือออกผจญภัยทำตัวเป็นนกฮูกช่างสงสัย
และต่อให้มีนางก็รู้ว่าต้องใส่เสื้อคลุมกับรองเท้า!
ตีดิ้ง!
ตัวการที่จู่ ๆ วาร์ปตัวเด็กผู้หญิงออกมาจากห้องนอนดึกดื่นส่งเสียงแจ้งเตือนแหลมใส หน้าต่างดอกไม้โผล่ขึ้นมาพร้อมกับเครื่องหมายอัศเจรีย์ตัวใหญ่ [ แจ้งเตือนภารกิจเร่งด่วน ห้ามตายนะท่านพ่อ!!! ]
[ รายละเอียด ในฐานะพี่สาวและลูกสาวจะปล่อยให้บุพการีจากโลกก่อนวัยอันควรไม่ได้ กรุณากำจัดต้นตอของภัยร้ายถึงแก่ชีวิตของซีเฉาหยางอย่างรวดเร็ว เป้าหมายอยู่ห่างออกไปห้าเมตร! ]
[ รางวัล พู่กันอักษรกิเลน จำนวนหนึ่งด้าม ]
ก้อนแป้งที่ถูกลักพาตัวออกมาจากห้องหับไปโผล่ข้างนอกโถงตั้งศพคุณหญิงย่าพรั่งพรูลมหายใจ นางจำได้ว่าระหว่างที่ส่องม้วนไม้ไผ่ของซีเฉาหยาง บิดาผู้นี้กำลังสนทนาพาทีอยู่ด้านในพร้อมกับศพฮูหยินผู้เฒ่าตัวปลอม และสหายจากพรรคเซียน ส่วนด้านนอก..
ซีเยว่เดินไปที่หัวมุมสองสามก้าว
“อนุสี่ ยามค่ำคืนดาวดารดาษอากาศเย็นนัก ท่านออกมาเดินเล่นรึ”
อินลู่ สาวงามขี้โรค ต่อให้มีลมหายใจก็ไม่คล้ายมีลมหายใจสะดุ้งตัวโยนจากสัมผัสแผ่วเบาที่สะโพก หมุนร่างกายกลับหลังอย่างตื่นตระหนก เห็นเด็กหญิงก็ก้าวถอยหลังหลายก้าว “คุณหนูใหญ่..”
“อืม ข้าเอง” ซีเยว่เอียงศีรษะ “ร่างกายเจ้าอ่อนแอเดินเล่นดึกดื่นเพียงนี้ไม่หนาวรึ?”
“ทำให้คุณหนูต้องเป็นห่วงแล้ว”
อนุสี่ฝืนยิ้มยอบกายก้มหน้าลงอย่างนอบน้อม ดวงตาที่มีรอยคล้ำอย่างเห็นได้ชัด เหล่มองซ้ายขวาคล้ายต้องการสำรวจ มันเปล่งประกายขึ้นเยอะทีเดียวเมื่อพบว่ามีซีเยว่เพียงคนเดียวบริเวณนี้ “คุณหนูใหญ่เล่า ดึกดื่นค่อนคืนออกมาเดินเล่นนอกเรือน รีบร้อนจนไม่ใส่รองเท้า ไม่ใส่เสื้อคลุมเลยทีเดียว”
“ฮูหยินเอกรู้หรือไม่?”
เมียน้อยของพ่อแต่ละคนล้วนเชี่ยวชาญในการรังแกผู้เยาว์
“อ้อ จะฟ้องท่านแม่ข้า” เด็กหญิงหนีออกจากบ้านป้องริมฝีปากหัวเราะคิกคัก “เอาสิ เมื่อกลางวันข้าเห็นเจ้าไอโขลกราวกับจะสำรอกไส้ออกมาจากปาก ยามนี้ไม่ไอสักคำ ทั้งออกมาเดินลับ ๆ ล่อ ๆ ได้ ดีขึ้นแล้วรึ?”
“แค่ก!” ราวกับเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าตนเองป่วยหนัก อินลู่ป้องปากไอค่อกแค่ก “คุณหนูล้อเล่นแล้ว โรคภัยใช่จะหายในวันเดียว แค่ก!”
“จริงของเจ้า โรคภัย ใช่จะหายในวันเดียว”
อินลู่ฟังเด็กตัวน้อยจับผิดตนเองอย่างตรงจุดพลางกำผ้าเช็ดหน้าใต้แขนเสื้อจนแทบฉีก ชั่งน้ำหนักดูแล้วนางมีภาษีน้อยกว่าซีเยว่ ระหว่างเด็กตาใสที่ออกมาเดินกลางค่ำกลางคืนกับผู้ใหญ่ที่ด้อม ๆ มอง ๆ ในที่ที่ไม่มีคนเขามากันพูดออกไปก็มีแต่นางที่จะถูกสงสัย
ถอยเสียดีกว่า..
อนุสี่ถอนสายบัว “ลมกลางคืนเย็นนัก ข้าคงต้องขอตัวก่อน คุณหนูใหญ่โปรดรักษาสุขภาพ”
“ไปเถอะ ป่วยหนักอย่าลืมใส่เสื้อผ้าให้หนาขึ้นเล่า”
จิ้งจอกตัวจ้อยมองคนงามแบบบางเร้นกายห่างออกไปท่ามกลางความมืดจนลับตา ตั้งใจอย่างมาดมั่นว่าจะกลับไปอ่านประวัติของอนุสี่เป็นอันดับแรกทว่าก่อนจะทำสิ่งใด จิ้งจอกตัวอ้วนก้มลงเก็บหยกพกของอนุสี่ที่ทำตกเอาไว้ก่อนจะก้าวฉับเปิดประตูโถงตั้งศพสถานที่ซึ่งยอดยุทธ์ทั้งสามเงียบเสียงแสร้งทำเป็นไม่มีตัวตน
ครืด..!
ภายในโถงใหญ่ไร้ผู้คนวังเวงอย่างยิ่ง ใช่ว่าจะหายไปที่ใด คนที่ต้องเป็นศพก็นอนเป็นศพ ส่วนคนที่เป็นวรยุทธ์ก็หลบซ่อนบนขื่อคานบ้าง หลังเสาต้นใหญ่บ้าง
เท้าสะเอวบริภาษหน้าเบ้ “พวกท่านผู้เยี่ยมยุทธ์ไยไม่ระวังเนื้อระวังตัว!”
“...”
“...”
ไร้เสียงตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก
เงียบได้เงียบไป ยิ่งเงียบยิ่งน่าหงุดหงิดอย่างยิ่ง หากไม่มีระบบบีบบังคับนางมา วันพรุ่งก็ไม่ต้องฝังร่างฮูหยินผู้เฒ่าลงดินกันแล้ว ข่าวที่ว่าอันหลันยังไม่ตายแต่เป็นนางมารผู้หนึ่งซึ่งถูกพรรคเซียนจับตัวไปสำเร็จโทษคงแพร่สะพัดออกไปทั้งเมือง เผื่อไม่รู้ว่าอนุสี่เป็นสตรีปากเปราะมากที่สุดผู้หนึ่ง นางเปรียบเสมือนโทรโข่งสีดำที่เอาแต่พ่นสิ่งร้าย ๆ ออกมาจากปาก
แล้วยังไงต่อ?
หลังจากนั้น บ้านตระกูลซีก็จะเป็นเป้าของพรรคมารน่ะสิ จากที่สืบความการตายของมารหญิงเงียบ ๆ อาจจะเป็นการฆ่าล้างครัวภายในคืนเดียว
อันตรายถึงแก่ชีวิตที่แท้ทรู
แยกเขี้ยว “ท่านพ่อ ท่านคิดว่าเยว่เอ๋อร์ไม่กล้าพาหยวนเอ๋อร์กับท่านแม่ขึ้นเขาหรือ”
ปลอดภัยกว่าอยู่กับท่านมาก!
“ไม่ ไม่ พ่อไม่คิดเช่นนั้นแม้แต่น้อย!” ผู้ถูกข่มขู่รีบหย่อนตัวลงมาจากขื่อคานเร็วรี่ ไม่กล้าชักช้าให้ธิดาโกรธเคือง ยามสังเกตเห็นเท้าที่เปลือยเปล่าของธิดาตัวเล็กรีบปรี่เข้าไปโอบอุ้ม “รองเท้าลูกหายไปไหนเยว่เอ๋อร์ ทำไมถึงไม่ใส่เสื้อคลุม หนาวมากหรือไม่”
“รีบมากเพราะท่านพ่อ”
ซีเยว่อมลมแก้มป่อง ซุกเข้าหาไออุ่นจากอกแน่น ๆ ของบิดา มันสบายมากยามมือใหญ่ ๆ นวดฝ่าเท้านางอย่างทะนุถนอม
ซีเฉาหยางอบอุ่นทั้งใจโดยไร้สาเหตุ “เยว่เอ๋อร์ ลูกออกมาตามหาพ่อหรือ?”
ออหอ มนุษย์แมงมุม
พูดแล้วมันจี๊ด
“ถ้าไม่ใช่เพราะท่านพ่อ เยว่เอ๋อร์ก็ไม่ต้องออกมากลางดึก!” ก้อนแป้งอวบอ้วนกระฟัดกระเฟียดเป็นอย่างมาก เท้าเล็ก ๆ ของนางแทบแข็ง ร่างกายที่แบบบางตะโกนบอกกับนางว่าไม่ชอบความชื้นแฉะเย็นยะเยือกสักนิด!
“เพราะพ่อเอง พ่อขอโทษเจ้า” คหบดีหนุ่มทั้งกอดทั้งหอมหัวลูกสาว
แม้ใบหน้าจะเกรี้ยวกราดแต่กลับน่าเอ็นดูยิ่งนัก
“ท่านพ่อ ท่านคุยกับเพื่อนทำไมไม่ระมัดระวังตัว” ซีเยว่ขมวดคิ้วเป็นปม นิ้วสั้นชี้ไปทางโลงหลังสวยบุไหม “กลัวคนไม่รู้หรือว่าคนผู้นั้นไม่ตาย”
“เยว่เอ๋อร์ลูก นี่ไม่ใช่ย่าของเจ้า เจ้า-”
“เยว่เอ๋อร์รู้ หญิงใจร้ายผู้นั้นมีแผลเป็นเล็ก ๆ ที่หางตาขวาเพราะเยว่เอ๋อร์ข่วนนาง แต่นางไม่มี” ลูกเสือลูกตะเข้จะไร้เขี้ยวเล็บได้อย่างไร ซีเยว่แต่ก่อนเก่าเพื่อปกป้องน้องชายก็ไม่ยอมถอยเหมือนกัน “ท่านบอกท่านแม่หรือยังว่าศพที่นางคำนับเมื่อกลางวัน คือ สิ่งมีชีวิตผู้นี้”
ซีเฉาหยางน้ำตาตกใน พะเน้าพะนอบุตรสาวตัวน้อย “ลูกพ่อฉลาดมาก”
“ท่านพ่ออย่าเฉไฉ ท่านไม่ตอบคำถามเยว่เอ๋อร์”
ผู้ถูกเรียกว่าสิ่งมีชีวิตผู้นี้ฟังการพูดคุยระหว่างพ่อลูกหัวเราะตัวโยกโลงสั่น คนผู้นี้ปาดน้ำตาพลางยันตัวขึ้นมาจากโลง มันแปลกประหลาดมากที่นางใช้ใบหน้าของหญิงย่าหน้าตึงหัวเราะร่าเริงกว้างขวาง ในขณะที่สหายพรรคเซียนผู้มีใบหน้าดุดันขมวดคิ้วผูกปม คาดว่าน่าจะเป็นบุรุษผู้นี้ที่เป็นแขกซึ่งพำนักอยู่ที่เรือนรับรอง
หน้าโหด ตัวใหญ่ เต็มไปด้วยมัดกล้าม เปล่งออร่าความน่าเกรงขามอยู่ตลอดเวลา
ชายที่เอาตัวเองออกมาจากหลังเสาต้นใหญ่ ถามซีเยว่ด้วยท่าทางที่การันตีได้ว่าจะทำให้เด็กร้อยทั้งร้อยร้องไห้จ้าเก็บไปฝันร้าย “เจ้าออกจากเรือนทำไมดึกดื่น”
ซีเยว่ช้อนดวงตาใสแจ๋วสบกับดวงตาชี้คมดุดัน ส่งเสียงหวานโป้ปด ตาไม่กะพริบ
“มาตามท่านพ่อเจ้าค่ะ ท่านอาจารย์บอกว่าท่านพ่อตกอยู่ในอันตราย”
“ที่นี่ห่างจากเรือนหลักของเจ้ามาก” ยักษ์ใหญ่คิ้วเข้มใช้เสียงเข้มขึ้นอีกระดับโดยไม่รู้ตัว ใบหน้าเคร่งเครียดราวกับจะสร้างภาพลวงตา ทิ้งไอทะมึนขมุกขมัวไว้ข้างหลัง ยิ่งผูกหัวคิ้วยิ่งคล้ายมัจจุราชทั้งที่ภายในใจคำรามเป็นห่วงน่องขาเล็ก ๆ ของเด็กที่พลัดหลงไกลจากเรือนเพียงนี้
หากเขาเป็นอาจารย์ของเจ้าตัวน้อย เขาจะไม่ปล่อยให้เท้านุ่มแตะพื้นเลยทีเดียว
“อื้อ” แฝดคนพี่เอียงศีรษะมองเพื่อนพ่อด้วยดวงตาซับซ้อน
ด้วยความสัตย์จริงคนคนนี้ดูดุดันมาก ทั้งดูแข็งกระด้าง และทรงอำนาจอย่างยิ่ง เป็นคนประเภทที่เด็กอ่อนไม่กล้าเข้าใกล้เป็นอันดับหนึ่ง อย่างไรก็ดีอดีตไลฟ์โค้ชผู้พบปะผู้คนซับซ้อนมาหลายรูปแบบ รับรู้โดยสัญชาตญาณว่าชายฉกรรจ์นายนี้ให้ความรู้สึกห่วงใยเป็นพิเศษ
จัดว่าหว่านเสน่ห์ได้
ซีเยว่มุ่ยหน้า ยื่นมือออกไปจับเสื้อท่านลุงผู้นั้น “เยว่เอ๋อร์เดินไกลมาก ๆ เยว่เอ๋อร์เลยปวดขามากเลย ท่านลุงจะอุ้มเยว่เอ๋อร์ไปส่งไหม”
“ได้สิ” สหายบิดาตอบรับรวดเร็ว
เร็วแบบไม่ต้องคิด ซ้ำยังมีทีท่าจะแย่งเด็กน้อยออกจากอ้อมกอดบิดาด้วย
ซีเฉาหยางรวบตัวลูกสาวสุดที่รักแน่นขึ้น “ไม่ได้ พ่ออุ้มเจ้าเอง!”
ท่ามกลางสายตาพิฆาตราวกับต้องการจะสร้างคมกระบี่เพียงการจ้องมอง ศพปลอมผู้อยู่นอกเหนือวงสนทนากลั้นขำหน้าดำหน้าแดงตบโลงเสียงดัง
‘ปั่ก!’ ‘ปั่ก!’ ใช้ใบหน้าคุณหญิงย่าแสยะรอยยิ้มราวผีสาง “เยว่เอ๋อร์ตัวน้อย”
“เจ้าคะ”
“เจ้าอยากเป็นศิษย์ข้าหรือไม่”
เพียงคำเชิญชวนเดียวระงับการต่อสู้ทางสายตาของซีเฉาหยางและสหายพรรคเซียนเสียสิ้น สองหนุ่มสองมุมหันขวับ กระทั่งมือของชายหน้าเหี้ยมคว้าไหล่บอบบางภายใต้เสื้อผ้าหนาไว้แล้วด้วยซ้ำ เคราะห์ดีเด็กน้อยผู้ถูกอุ้มเกาะไหล่บิดาเอ่ยปฏิเสธคำชวนเสียงใส
ซีเยว่ “ขอรับไว้เพียงน้ำใจเจ้าค่ะ”
“เหตุใดเล่า เป็นผู้ฝึกยุทธ์ดีมากนะหนูน้อย” หญิงสาวหลบมือผู้คุมหน้าระรื่น ไม่ละความพยายามหว่านล้อม เท้าคางลงกับขอบโลงด้วยกิริยาน่ามอง
หากถอดหน้าอันหลันออก คงไม่แคล้วเป็นสตรีงามล่มบ้านล่มเมืองผู้หนึ่ง
“อืออึ” แฝดหงส์ส่ายศีรษะหวือ “ข้ากำลังพิจารณาความประพฤติท่านพ่อ หากไม่ตบไม่ตีไม่ดีขึ้นข้าจะพาท่านแม่กับหยวนเอ๋อร์ขึ้นเขาไปอยู่กับอาจารย์ลึกลับ”
ซีเฉาหยางน้ำตาร่วงพราว คนในโลงหัวเราะลั่น
เนื่องจากเหตุสุดวิสัยระหว่างปรึกษาหารือซึ่งสรรสร้างโดยอนุสี่อินลู่ทำให้การประชุมระหว่างสหายผู้บำเพ็ญทั้งสามต้องหยุดชะงัก แม้จะสงบลงแล้วแต่มีเด็กหญิงตัวน้อยอยู่ด้วยจะโต้ตอบเรื่องราวไม่น่าฟังต่อหน้าผู้เยาว์ก็กระไร ต่อให้เจ้าตัวยืนยันว่ากลับเรือนเองได้ก็เถอะ
ผู้ใหญ่ดี ๆ ที่ไหนเล่าจะกล้าให้เด็กน้อยเดินกลับแต่เพียงผู้เดียว!
คนตัวใหญ่พูด “ไว้พรุ่งนี้เถอะ”
“เห็นด้วย ข้าต้องการเตียงนุ่ม! ในโลงมันคับแคบ!”
“เจ้าอาสาเอง”
“ความผิดพลาดชั่วชีวิต! เป็นคนตายไม่ง่ายเลย!”
สองหนุ่มสาวโต้วาจากันตะงุ้งตะงิ้ง ต่อให้ไม่พูดดีต่อกันแต่ก็มีออร่าสีชมพูฟุ้งอบอวล โดยเฉพาะการคล้องคออุ้มท่าเจ้าหญิงออกมาจากที่คับแคบเพราะหญิงสาวขาชาดิกร้องโอดร้องโอย คนหนุ่มต่อให้ทื่อเป็นขอนไม้แถมพูดจาเป็นมะนาวมีน้ำไปหน่อย แต่ก็ค่อนข้างอ่อนโยน
เทศกาลแจกอาหารหมาไม่อั้น ไม่ต้องเดาความสัมพันธ์เลย
แล้วหันมาดูสายตาอิจฉาริษยาของซีเฉาหยาง
“ทำตัวเองนะเจ้าคะ”
ซีเฉาหยางน้ำตาไหลถึงหัวเข่าอีกแล้ว
ตีดิ้ง!
[ ขอแสดงความยินดี โฮสต์ที่รักปฏิบัติภารกิจเร่งด่วน ห้ามตายนะท่านพ่อ!!! สำเร็จอย่างสวยงาม ]
[ ได้รับรางวัล พู่กันอักษรกิเลน จำนวนหนึ่งด้าม ]
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?