นิยามของฤดูหนาวคืออะไร?
ความอ้างว้าง..? ความโดดเดี่ยว..? ทิวทัศน์ที่ขาวโพลน..?
สำหรับฝาแฝดหงส์มังกรแล้วนั่นไม่ถูกและไม่ผิดเสียทีเดียว เป็นความจริงที่ว่าฤดูหนาวนำมาซึ่งความอดอยาก พืชพรรณหลายชนิดไม่สามารถเติบโตท่ามกลางสภาพอากาศอันเลวร้าย ผู้คนต่างปิดหน้าต่างปิดประตูเพื่อหลบสายลมเย็นยะเยือกข้างกองไฟหรือภายใต้ผ้าห่มหนา เฝ้ารอวันแล้ววันเล่าด้วยความหวังว่าแดดฤดูใบไม้ผลิจะสาดส่องลงมาละลายหิมะเร็วกว่าปีก่อนสักหน่อย
ในความคิดของพวกเขา มันยากลำบากอย่างยิ่ง
ทว่าเมื่อลองมองมุมกลับ ไม่ใช่ว่าภายใต้เกล็ดนุ่มนิ่มเย็นเฉียบซุกซ่อนผลไม้รสชาติหวานอร่อย เช่น ลูกพลับ ลูกแพร์ ผูเถา และผิงกั่ว เอาไว้หรอกหรือ ไม่ต้องพูดถึงบุปผางามบนกิ่งไม้ ‘ปัญญาชนแห่งคิมหันต์’ กำลังผลิดอกตูม แม้แต่ ‘ดอกชาแห่งขุนเขา’ และ ‘ราชินีฤดูใบไม้ร่วง’ พวกนางล้วนบานสะพรั่งเผยความงามที่แข็งแกร่งแต่งแต้มสีสันในฤดูหนาว สำหรับทิวทัศน์ที่อ้างว้างและขาวโพลน คุณก็แค่เปิดตาไม่กว้างและไม่ร่ำรวยพอ!
ความโดดเดี่ยว ยังต้องให้พูดอีกหรือ คุณก็แค่หมาโสดตัวหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย
ดังนั้น มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ในบ้านของคหบดีใหญ่ผู้มีเงินเหลือใช้เหลือจ่ายจะมีสวนที่สวยงามแม้แต่ในฤดูทุกข์ยาก ทั้งหมดถูกดูแลเอาใจใส่โดยคนสวนฝีมือดีที่มีความรู้ด้านการจัดวางองค์ประกอบธรรมชาติและฮวงจุ้ย
ซีเยว่บอกตรง ๆ ว่าตื่นตาตื่นใจมาก
“เจี่ยเจีย เจี่ยเจีย ดูสิ มีลูกไม้เต็มไปหมดเลย” เด็กชายตัวขาวที่หล่อเหลายิ้มกว้างจนแก้มนุ่มเป็นก้อนกลม
พี่สาววัยเดียวกันยิ้มตาม “ตี้ตีอยากกินไหม?”
“ม่าย เจี่ยเจียห้ามปีนนะ!”
ซีหยวนกอดเด็กหญิงขนาดตัวเท่ากันดัง ‘หมับ’ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนไหวสั่นระริกชั่วครู่ในขณะเดียวกันก็ตั้งใจเป็นอย่างมาก ปากจุ๋มจิ๋มสีชมพูเรื่อขมุบขมิบบ่นหน้ามู่ทู่ “หยวนเอ๋อร์อยากกินได้ แต่ห้ามปีน เจี่ยเจียห้ามปีนเด็ดขาด หากตกลงมาอีกจะทำอย่างไร”
โธ๊ น้องเอ๊ย บอกเจ้มาคำเดียวว่าอยาก บุกน้ำลุยไฟหัวแตกอีกสักรอบพี่สาวก็จะเก็บให้!
“ไม่ตกหรอก เจี่ยเจียของหยวนเอ๋อร์แข็งแรงมาก”
“ไม่ได้!”
“แต่ว่านะ-”
“หยวนเอ๋อร์จะฟ้องท่านปู่หลิวเค่อ อ้อ ฟ้องท่านแม่ด้วย” ก้อนแป้งหนุบหนับคนน้องข่มขู่เสียงขรึม คำรามฮึมฮัมในลำคอตามประสาลูกหมาป่าเพิ่งหัดเกรี้ยวกราด น่ารักน่ากลัวจนจิ้งจอกยกธงยอมแพ้เจ้าน้องชายตัวน้อยที่กอดเอาไว้ไม่ให้ขยับเขยื้อน ประหนึ่งกลัวพี่สาวจะริอาจซุกซนหนีไปปีนต้นไม้
“อื้อ เจี่ยเจียไม่ปีนแล้ว ๆ”
ชายชราผู้ถูกยกมาข่มขู่หัวเราะเสียงเบา “คุณชายน้อยเช่นนั้นเราให้บ่าวไพร่เก็บให้ไม่ดีหรือ?”
“ท่านปู่ฉลาดมาก!” ซีหยวนตาวาว ปล่อยพี่สาวจากอ้อมกอดแล้วหันไปจับไม้จับมือชมผู้เฒ่าเปาะ
ซีเยว่วิ่งตามไปเกาะแกะพยักหน้าเห็นด้วย “สุดยอดเจ้าค่ะ!”
เขาเรียกว่าอยู่เป็น
ด้วยเหตุประการฉะนี้ เวลาบ่ายคล้อยในสวนสวยของบ้านตระกูลซีจึงมีบ่าวรับใช้จำนวนหนึ่งคอยช่วยคุณหนูคุณชายเก็บผลไม้ตามฤดูกาลจนเต็มตะกร้าใบเล็ก ซีเยว่ยังขอให้พวกเขาเก็บลูกแพร์มากเป็นพิเศษเนื่องจากเมื่อใดที่หิมะโปรยปราย มารดามักจะไอเล็กไอน้อยเป็นประจำ มันน่าจะดีถ้าได้ทานลูกแพร์นึ่งน้ำผึ้งและน้ำขิงร้อน ๆ
อืม อันที่จริงตุ๋นกับซี่โครงหรือนำไปเชื่อมเป็นของหวานสีเหลืองทองก็ดีเหมือนกัน
เสน่ห์แสนเย้ายวนของผลไม้รสเลิศ!
เด็กหญิงลอบซับน้ำลายด้วยแขนเสื้อ นอกจากลูกแพร์แล้วยังมีพุทรากับเก๋ากี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเมนูต้มตุ๋นทุกประเภท ทั้งอร่อยแล้วยังมีสรรพคุณทางยา ดีต่อร่างกายมาก
ซีเยว่รื่นรมย์เป็นอย่างยิ่ง น่าเสียดายที่เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านมาและผ่านไปด้วยสายลมเล็ก ๆ ซึ่งอันที่จริงแล้วไม่สลักสำคัญกับชีวิตผู้คน อาทิเช่น เสียงหวานหยดย้อยของอนุห้าฟางหรูและพลพรรคสาวใช้จากเรือนของนาง
“ตายจริง นึกว่าลูกบ่าวไพร่คนไหนขโมยผลไม้ในสวน ที่แท้ก็เยว่เอ๋อร์กับหยวนเอ๋อร์นี่เอง” สาวงามฐานันดรต่ำ ปิดปากหัวเราะคิกคักเต็มไปด้วยจริตจะก้าน
ผู้หญิงไทป์นางร้ายโง่ ๆ แท้ ๆ
หงส์น้อยเมินเสียงนกเสียงกา ลูบศีรษะน้องชายบอกเป็นนัยว่าไม่ต้องสนใจ
ส่งเสียงบอกบ่าวชาย ชี้ชวนให้ไปต่อกับความภิรมย์ของผลไม้ประจำฤดูกาล “ท่านน้า เยว่เอ๋อร์อยากได้ลูกแพร์เพิ่มอีก”
อนุห้าปล่อยนางบ้าของนางไปคนเดียวเถอะ
อยู่ดีไม่ว่าดีมาหาเรื่องเด็ก ประสาทแท้
“เอ๊ะ! นี่! ผู้ใหญ่พูดด้วยไม่ได้ยินหรือ ไร้มารยาทนัก!!” ฟางหรูส่งเสียงแว๊ด ๆ ริมฝีปากคว่ำเคราะห์ดีที่นางยังเกรงใจพ่อบ้านหลิวเค่ออยู่บ้างจึงไม่ผลีผลามเข้ามาแตะต้องฝาแฝด แต่ก็ยังน่ารำคาญไม่ใช่น้อย
ซีเยว่ปรายหางตา “ได้ยินแล้วอย่างไร ไม่ได้ยินแล้วอย่างไร อนุห้าท่านรู้หรือไม่ว่าที่แห่งนี้คือที่ใด?”
ภรรยาน้อยลำดับสุดท้ายตอบอย่างภาคภูมิใจ “เรือนหลักของนายท่านอย่างไรล่ะ!”
“อ้อ รู้นี่”
“ร-”
“งั้นคงรู้สิ ว่าเรือนหลักไม่ต้อนรับอนุภรรยา” เด็กหญิงเลิกคิ้วสูง เน้นชื่อและตำแหน่งของนางในประโยคหลังทีละคำ “ขวัญกล้าดีนะ อนุห้าฟางหรู”
“เด็กนี่!!!” สาวงามที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ไม่ต่างไปจากระเบิดมือที่รอถูกกระตุกสลัก ฟางหรูนางถูกไถ่ตัวแต่งเข้ามาเป็นอนุแต่ไม่ชอบการเป็นอนุอย่างยิ่ง การย้ำเตือนฐานะและสิทธิ์ของนางไม่ต่างจากการแตะรอยแผล
ความยำเกรงที่มีต่อพ่อบ้านชราหายไปสิ้น ฟางหรูใบหน้าบิดเบี้ยว ปะทะคารมได้ไม่กี่คำก็เปลี่ยนกลยุทธ์เป็นการใช้กำลัง ขยับตัวใช้มือสวยที่ไว้เล็บแหลมเอื้อมฉกออกมาหมายคว้าแขนเล็กนุ่มนิ่ม
เพี๊ยะ!
อย่างไรก็ดี ก่อนที่จะถึงตัวซีเยว่ได้ มันกลับถูกปัดออกอย่างแรง ซีหยวนใบหน้าบึ้งตึง ซ่อนพี่สาวไว้ข้างหลัง ไม่พอใจเป็นอย่างมาก “ผู้หญิงไม่ดี! ออกไปห่าง ๆ!!”
“ว้าย!” อนุห้าร้องอุทานเสียงดัง กุมมือของนางที่มีรอยแดงเพียงเล็กน้อยราวกับแผลเหวอะใหญ่โต
นี่.. ค่อนข้างจะเหนือความคาดหมาย
ซีเยว่ไม่ได้หมายถึงอารมณ์ร้ายของฟางหรู ซ้ำร้ายนางรู้อยู่เต็มอกจึงจงใจกระตุ้น ฝาแฝดคนพี่ค่อนข้างมั่นใจในตัวของพ่อบ้านหลิวเค่อผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้บำเพ็ญอันดับต้นในยุทธภพ แม้เขาจะไร้พื้นฐานบ่มเพาะไปแล้วแต่ไม่ใช่ว่าจะหลงลืมวรยุทธ์ไปด้วย ผู้เฒ่าย่อมไม่ปล่อยให้ก้อนแป้งน้อย ๆ ได้รับบาดเจ็บ และนางก็จะสามารถหาเรื่องเอาผิดกับอนุผู้นี้ได้อย่างง่ายดาย
ทว่าสิ่งที่ซีเยว่ไม่ได้คาดการณ์คือ ซีหยวนน้องชายที่เคยขี้อายของนาง
เด็กชายแก้มอวบรู้จักการก้าวออกมาปกป้องครอบครัวมากขึ้นในทุกวัน! มีน้องชายดีเป็นลาภอันประเสริฐ
ฮรุก ปลื้มปริ่มจะขาดใจ
“นี่ นี่ พวกเจ้าไม่ได้รับการอบรมหรืออย่างไร ตอนนี้ตัวเท่านี้ยังหัดใช้ความรุนแรงกับสตรี โตขึ้นไปจะใช้ได้ที่ใด!” แย่หน่อยที่ความปลื้มปริ่มต้องเก็บกักเอาไว้ไปหวีดทีหลัง อนุห้าฟางหรูช่างปั้นเรื่องแสดงละครพร่ำเพ้อเสียงดัง สาวใช้ที่ตามมาด้วยก็เป็นประเภทนายว่าขี้ข้าตาม โอบโอ๋เจ้านายที่แสนแบบบางของตัวเอง ร้องหาความเป็นธรรมเสียงขรม
ไม่ได้ดูหน้าพ่อบ้านหลิวเค่อที่มืดครึ้มลงไปจนแทบจะดำทะมึนเลย
อยากถูกไล่ออกมากก็ไม่บอก
ชายชราไม่เก่งเรื่องพูดคุยเจรจาเท่าซีเฉาหยาง แต่เก่งยิ่งนักเรื่องลงมือปฏิบัติเฉกเช่นเหล่ายอดยุทธ์
ฟางหรูลอบแย้มรอยยิ้มร้ายภายใต้ผ้าเช็ดหน้าบาง “พวกเจ้าอย่าว่ากล่าวเยว่เอ๋อร์หยวนเอ๋อร์ ข้าเองก็เป็นมารดาผู้หนึ่ง ผิดเองที่ไม่สั่งสอนให้ดี เห็นทีครั้งนี้ข้าต้องอบรมบุตรสาวและบุตรชายแทนท่านพี่-”
“คุกเข่าลง” เสียงทุ้มติดแหบพร่าเอ่ยขึ้นมาขัดคำพร่ำพรรณนาของนาง
หญิงงามไร้เส้นหยักในสมองไม่ตระหนักถึงเงาหัวสักน้อย นางยกหน้าอกหน้าใจขึ้นจนแทบจะกระเพื่อมหลุดออกมานอกอาภรณ์ “พ่อบ้านหลิว ท่านเห็นด้-”
“...” ชายชราไม่พูดซ้ำ ผู้เฒ่าคนจริงเน้นปฏิบัติจริง พยักหน้าครั้งเดียวบ่าวหญิงร่างกายกำยำของเรือนหลักโดยเฉพาะราวกับเสือดาวที่ได้รับการปลดปล่อย ย่างสามขุมกดตัวขบวนนายบ่าวจากเรือนลำดับห้าคุกเข่าลงกับพื้น
“ท่าน-” ฟางหรูพูดไม่ออกมากกว่าสองครั้ง
นางอาศัยอยู่ที่นี่มาเกือบห้าปีเป็นธรรมดาที่จะรับรู้ลำดับขั้นภายในเป็นอย่างดี เมื่อไม่มีฮูหยินผู้เฒ่าแล้วนอกจากนายท่านซี หลิวเค่อไม่ต่างไปจากเจ้าบ้านผู้หนึ่ง มีสิทธิ์มีเสียงมากกว่าอนุภรรยาแต่ในนามที่ไม่ได้รับความโปรดปรานอย่างสิ้นเชิง เพราะหลายปีมานี้วางตัวเป็นน้ำบ่อไม่ยุ่งน้ำคลอง ไม่เคยเข้าข้างผู้ใดเป็นพิเศษ เหล่าอนุจึงไม่หวาดกลัวมากนัก แต่ก็ยังต้องระมัดระวัง..
ฟางหรูกัดริมฝีปาก อ้างเสือข่มวัวจนเคยตัว “พ่อบ้านหลิว! ท่านทำอย่างนี้ไม่ได้ หากข้านำเรื่องนี้บอกกล่าว ฮูหยินผู้เฒ่าต้องไม่พอใจท่านมาก!!”
บางคนก็ไม่ฉลาดนักในเรื่องที่สมควรฉลาด
ฮูหยินผู้เฒ่าของนางแม้แต่ร่างจริง ๆ ยังไม่มีนอนในโลง แล้วนางจะไปฟ้องผู้ใด?
พ่อบ้านหลิวเค่อคลี่รอยยิ้ม “อนุห้าต้องการพูดคุยกับฮูหยินผู้เฒ่า?”
“ไม่ ไม่ ข้าเปล่า..” อดีตสาวงามหอศิลป์ส่ายศีรษะหวือ หากนางต้องการพูดคุยเจรจากับฮูหยินผู้เฒ่า ไม่เท่ากับว่านางต้องตามลงไปคุยที่น้ำพุเหลืองหรอกหรือ นั่นเป็นไปไม่ได้แน่นอน นางยังสาว ยังสวย ยังต้องการปรนนิบัติสามี!
“รู้ความผิดหรือไม่?” ชายชราถามต่อ
“ท่านพูดอันใด!? ข้าย่อมไม่มีความผิด เป็นธรรมดาที่มารดาจะสั่งสอนบุตร! ข้าก็เมียของนายท่านซีผู้หนึ่ง!!!” แม้จะหวาดกลัวแต่หญิงสาวที่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่ไม่เคยเป็นของนาง ยังคงยืนยันในการรุกรานเด็กน้อยทั้งสองคน
อดีตจอมยุทธ์ไม่พูดซ้ำและไม่ถามซ้ำเสียด้วย “ตบปากนาง”
เพี๊ยะ!!
สาวใช้เรือนหลักเองก็ปฏิบัติหน้าที่ตาไม่กะพริบเช่นเดียวกัน
บอกตรงนี้เลยว่าสะใจ!
น่าเสียดายที่ซีเยว่จะปล่อยให้น้องชายที่มีสิทธิ์เป็นจอมมารในอนาคตซึมซับความรุนแรงมากไม่ได้ เด็กหญิงจูงมือน้องชายไว้ข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งกระตุกแขนเสื้อพ่อบ้านชราที่ใจดีต่อพวกนางเบา ๆ “ท่านปู่พ่อบ้านหลิว”
“...” คุณปู่ใจอ่อนกับหลาน ยกมือสั่งหยุดฉับพลัน
ซีเยว่แอบเห็นนะว่าพี่สาวสาวใช้เสียดาย
บับเอาไว้คราวหน้านะคะซิส ไว้ไม่มีน้องชายตัวน้อยของนางอยู่ด้วย สัญญาเลยว่าจะไม่ห้ามสักคำ
ร่างอวตารจิ้งจอกคลี่รอยยิ้มขอโทษขอโพย พาหมาป่าหัดคำรามเดินเข้าไปใกล้ผู้หญิงท่าดีทีเหลวที่คุกเข่าอยู่บนพื้นทั้งเสียงร่ำไห้ ส่งเสียงหวานใสถาม
“ข้าและน้องชายเป็นถึงบุตรธิดาฮูหยินใหญ่ อนุห้าเอาความกล้าจากที่ใดยกตนเป็นมารดาข้ารึ?”
“ข้าเป็นเมี-”
“บิดาข้าเคยจัดงานมงคลกับเจ้าหรือ คำนับฟ้าดิน หรือดื่มสุราร่วมหอเล่า?”
“...”
“รู้จักเจียมตนหน่อยเถอะ” ซีเยว่เชิดหน้าขึ้นมองอนุภรรยาคนสุดท้ายที่หญิงย่าสรรหาเข้ามาในบ้านพลางเอ่ยวาจาเชือดเฉือน “ก้มศีรษะของเจ้าลงไปหน่อย ใช้เสียงไพเราะช่างจำนรรจาของเจ้าเรียกข้าและน้องชายให้ถูกต้อง”
ฟางหรูเจ็บปวดทั้งกายใจ ไม่ยอมได้หรือ “คะ คุณหนูใหญ่ คุณชายใหญ่”
“ดี” เจ้านายวัยเยาว์แห่งจวนตระกูลซีรับชัยชนะของนางไว้อย่างยินดี ลูกแพร์และผลไม้มากพอแล้ว นางจะขอให้พ่อบ้านหลิวพาไปที่โรงครัวเสียหน่อย
จริงสิ
“อ่า เจ้านำน้ำแกงปลากลับไปเสียเถอะ เกรงว่าจะเหม็นคาวเกินกว่าท่านพ่อจะดื่มลง”
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?