บางครั้งเวรกรรมมักมาในรูปแบบดรรชนีทองคำ
ตีดิ้ง!
[ ขอแสดงความยินดี โฮสต์ที่รักปลดล็อกภารกิจหลัก มองทำไมชายคา อยู่ร่วมบ้านกันโลด! ]
[ รายละเอียด ในฐานะพี่สาวและลูกสาวจะปล่อยให้ครอบครัวแยกบ้านอย่างน่าเศร้าไม่ได้ โฮสต์ที่รักจะต้องโน้มน้าวให้เว่ยเฉินลี่พักที่เรือนหลักบ้านตระกูลซีเพื่อประโยชน์สุขของสากลโลก! ]
เจ้าแต้ม..
ไหว้ล่ะ จะออกภารกิจอะไรรบกวนดูหน้าท่านแม่คนงามนิดนึง
ลำพังแค่กลับมาที่บ้านซึ่งฝากฝังความดำมืดไว้ในจิตใจว่าฝืนแล้ว ในวันเดียวกัน ระบบคืนความสุขแก่คู่ยวนยางไร้ศีลธรรมยังปล่อยหลักสูตรเร่งด่วนว่าด้วยการนอนชายคาเดียวกับสามีที่เหม็นขี้หน้าจนอยากจะได้จดหมายหย่าให้หมดสิ้นเวรกรรมกันอีก!
ไหนว่าเป็นระบบมงคล ภารกิจนี้คืออะไรก่อน?
แน่ใจนะว่าไม่ได้เออเร่อ
[ โฮสต์ที่รักระบบสบายดี ]
เจ้าแต้มส่งหน้าต่างดอกไม้บานสะพรั่งกระจุยกระจาย ย้ำเตือนความสำคัญของการทำให้คู่หนุ่มสาวคืนดีกันสีสันสดใส ระบบผู้ทำงานอย่างขยันขันแข็งถูกโฮสต์มองบนเป็นครั้งที่เท่าไหร่ มันเลิกนับไปแล้ว [ โฮสต์ที่รักกรุณาทำภารกิจหลักเพื่อความสงบสุขของแว่นแคว้น ]
[ รางวัล ร่างหงส์มังกรมงคล ดีมาก! ]
ไม่ลืมล่อด้วยของรางวัล
ซีเยว่พรูลมหายใจ ระบบอ้าปากเห็นไปถึงลิ้นไก่ บางทีนะบางที ก่อนจะคิดถึงความสงบสุขของแว่นแคว้นควรจะคิดถึงความสงบสุขในครอบครัวก่อน เด็กหญิงออกตัวออกหน้าขายมารดาให้บิดาหนักขนาดนี้อีกนิดก็จะขึ้นชื่อว่าอกตัญญูแล้ว
บอกมาตามตรงเถอะว่า ที่จริงแล้วระบบคืนความสุขแก่คู่ยวนยางเป็นนามแฝงของระบบแม่สื่อที่ชั่วร้าย!
ระบบร้องไห้ [ โฮสต์ที่รักกรุณาเลิกใส่ร้ายระบบ ]
หงส์น้อยมองเมินเจ้ากรรมนายเวรของตัวเอง อันที่จริงการเกลี้ยกล่อมให้ท่านแม่พำนักพักผ่อนที่นี่ไม่ใช่เรื่องแย่ ความยิ่งใหญ่ของอภิสิทธิ์ในสถานที่ที่อนุภรรยาคนไหนไม่อาจก้าวล่วงได้ดั่งใจ จัดเป็นการประกาศศักดาอีกหนทางหนึ่ง ทั้งยังสะดวกสบายและจำนวนผู้คุ้มกันก็ค่อนข้างปลอดภัยมาก
ใครจะรู้ว่าเมียน้อยอสรพิษจะลงมือทำอะไรเพิ่มอีก
แต่มีข้อดีย่อมมีข้อเสีย การอยู่ในสถานที่ที่มีความทรงจำซึ่งยากจะลืมส่งผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพจิตของหญิงสาวและเด็กวัยกำลังโต ไหนจะบ่าวรับใช้ที่ไม่รู้แน่ชัดว่าผู้ใดหวังดีผู้ใดหวังร้าย เวลาสองปีไม่ใช่น้อย ๆ เกรงว่าซีเฉาหยางคงนึกไม่ถึงด้วยซ้ำว่าอนุเหล่านั้นกัดเซาะขาเก้าอี้ของฮูหยินเอกไปเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่
บางทีสาวใช้ที่ทำก้มหน้าเจียมเนื้อเจียมตัวอาจจะซ่อนมีดคมไว้ใต้แขนเสื้อก็ได้ใครจะรู้
อันตรายทั้งสองทาง มากน้อยต่างกันไป
ซีเยว่ตวงชั่งความคุ้มค่าจนคิ้วขมวดแน่น ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนสอดส่องไปทั่วในขณะที่หูผึ่งฟังคำบิดามารดาสนทนา ตอนนี้มันแย่ลงไปอีกเมื่อวาณิชหนุ่มแจ้งว่าเรือนรับรองไม่ว่าง เทพธิดาเลยตั้งใจจะไปพักโรงเตี๊ยม
เฮอ ๆ
“ท่านแม่ ตี้ตี บ้านหลังนี้ใหญ่มาก!” เสียงใสโพล่งขึ้นกลางบทสนทนา จิ้งจอกแพรวพราวใช้ความเป็นเด็กตื่นตาตื่นใจกับสภาพแวดล้อม ทำเป็นไม่ได้ยินที่พ่อแม่พูดกันก่อนหน้านี้ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ซีหยวนไม่เข้าใจที่ผู้ใหญ่พูดกันเท่าไหร่จึงไม่ให้ความสนใจ แต่โดยพื้นฐานแล้วเขาสนับสนุนพี่สาวอย่างเป็นธรรมชาติ
เป็นกำลังทัพที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง
“อื้อ ใหญ่มาก เจี่ยเจียชอบบ้านหลังใหญ่หรือขอรับ”
“อื้ออือ ไม่ใช่แค่ใหญ่ แต่ต้องสวยด้วย เจี่ยเจียของหยวนเอ๋อร์จะชอบมาก”
“ถ ถ้าเจี่ยเจียชอบ หยวนเอ๋อร์ก็ชอบ”
ฝาแฝดหงส์มังกรพูดคุยอยู่ในโลกส่วนตัวของกันและกันอย่างน่ารักน่าชัง เด็กหญิงตัวน้อยชักชวนเด็กชายตัวเล็กชี้โน้นนี่นั่นชอบไปหมด น้องชายก็ช่างตามใจพี่สาว พี่ว่าอะไรก็พออกพอใจตาม ไม่ต้องเอ่ยปากสักคำเว่ยเฉินลี่ก็กล้ำกลืนคำที่ว่าจะกลับจวนบรรพบุรุษหรือให้จัดเรือนรับรองหลังอื่นลงคอ
“เอาเถอะ หากลูกชอบก็พักที่เรือนนี้”
“ดียิ่ง!” “ท่านแม่ดีที่สุด!”
ซีเยว่และซีหยวนเคลือบน้ำตาลไว้ที่ปากนุ่มนิ่ม
หญิงงามพึงพอใจกับคำชมของเลือดเนื้อเชื้อไข คหบดีหนุ่มก็ดีใจจนยิ้มแก้มปริ พลังใจในการใช้ชีวิตล้นปรี่เพียงแค่มีความหวังว่าจะได้นอนใต้ชายคาเดียวกันกับลูกเมียที่พลัดพรากนานนับสองปีสักหนึ่งถึงสองคืน
และอาจจะได้นอนห้องข้าง ๆ กัน!
พ่อค้ามีความสุขมากกว่าครั้งเจรจาค้าขายพริกไทยหรือรับสัมปทานเกลือ! ซีเฉาหยางยังคงยืนยันว่าลูกสาวและลูกชายคือแสงทองผ่องอำไพในชีวิตของเขาตั้งแต่อดีต ต่อจากนี้ และตลอดไป
หากซีเยว่ได้ยินความคิดนี้ไม่ต้องสงสัยว่านางจะจัดบิดาไปอยู่ในหมวดหมาโง่คลั่งรัก
โครกคราก..
อย่างไรก็ดี เด็กหญิงไม่มีทักษะอ่านใจและตอนนี้ก็เที่ยงแล้ว พวกเขาออกจากบ้านบรรพบุรุษมาตั้งแต่ยามสาย เว่ยเฉินลี่ดูแลหงส์น้อยและมังกรน้อยให้ทานข้าวตรงเวลาสม่ำเสมอ ต่อให้เล่นอยู่ที่ไหนพอถึงเวลาก็จะเห็นฝาแฝดจูงมือกันวิ่งกลับบ้าน
ต่อให้มีเงินไม่มาก แต่หญิงงามเชี่ยวชาญการหาขุมทรัพย์มากมายบนภูเขา
อาหารการกินสมบูรณ์พูนสุขทุกมื้อ!
ซีหยวนกุมท้องที่ส่งเสียงร้อง “ท่านแม่ เราจะกลับไปกินซุปกระต่ายที่บ้านหรือไม่ขอรับ”
ซีเยว่ลูบพุงกะทิที่เหมือนจะยุบหายไปนิดหน่อย “ซุปกระต่าย”
บิดามารดารู้โดยสัญชาตญาณว่าถึงเวลาต้องให้อาหารฝาแฝดที่หิวโหย
ด้วยเหตุประการฉะนี้ ถึงแม้ไม่ยินดีแต่ก็ต้องยินยอมร่วมรับสำรับเที่ยงพร้อมหน้าพร้อมตา กรุณางดถามหาบรรยากาศหวานชื่น มีบิดาเพียงคนเดียวที่คลี่ยิ้มราวกับคนบ้าในขณะดูแลฮูหยินและลูกรัก ชายหนุ่มจดจำสิ่งที่ภรรยาและฝาแฝดชอบหรือไม่ชอบได้ขึ้นใจ ตะเกียบขยับคีบปรนนิบัติครอบครัวไม่เคยมีอาหารไม่ชอบให้ระคายลิ้น
“ลี่ลี่เจ้าชอบปลา พี่แกะให้”
“เยว่เอ๋อร์หมูตุ๋นของโปรดของลูก”
“หยวนเอ๋อร์หนังเป็ดไม่เหนียวเลย พ่อให้ในครัวทอดจนกรอบเพื่อลูก”
สารพัดจะเอาใจ
ผลคือ เว่ยเฉินลี่ยังคงมึนตึงกับซีเฉาหยาง ซีหยวนเองแม้จะมีความสุขก็ยังทำใจแข็งไม่สนใจบิดา มีเพียงซีเฉาหยางและซีเยว่เท่านั้นที่พยักหน้าพึงพอใจผลลัพธ์ที่ไม่ดีแต่ก็ไม่แย่จนเกินไปตรงกันโดยไม่ได้นัดหมาย
อย่างน้อยก็ไม่มีทีท่ารังเกียจเดียดฉันท์
ใช้เวลาร่วมโต๊ะอาหารจากเที่ยงลากยาวถึงบ่าย อาหารในเมืองแต่ละจานถึงจะไม่อร่อยเท่าฝีมือมารดาแต่ฝาแฝดชอบลิ้มลองสิ่งใหม่เป็นอย่างยิ่ง ซีเยว่และซีหยวนหนังท้องตึงแล้วอารมณ์ดีที่สุด โดยเฉพาะวิญญาณปากมันแผลบที่มาจากเมืองแห่งการกินสบายกายสบายใจยิ่งนัก
ไหน ๆ แล้วก็เปิดโปรโมชันใจดีไม่รอให้ระบบแจกภารกิจเด้งตัวเองออกไปเดินเล่นย่อยอาหาร เปิดโอกาสให้คู่รักได้พูดคุยตามลำพัง
“ท่านแม่เจ้าคะ เยว่เอ๋อร์พาตี้ตีไปเดินเล่นกับท่านปู่พ่อบ้านนะเจ้าคะ!”
อย่าลืมลากน้องชายไปด้วย
ไม่ทันได้รับคำอนุญาต ร่างเด็กสมบูรณ์ทั้งสองหน่วยก็พากันวิ่งดุ๊กดิ๊กจูงมือหลิวเค่อกันคนละข้าง พ่อบ้านชรารู้สึกรื่นรมย์กับสัมผัสนุ่มนิ่มไม่ทักท้วงหรือเหลียวหลังไปทำหน้าที่บ่าวที่ดีของนายท่านสักเสี้ยวนึกคิดเดียว
“จริง ๆ เชียว” เว่ยเฉินลี่ส่ายศีรษะ ตั้งใจจะเดินตามออกไป
ติดเสียแต่สามีเคยรักรั้งไว้ด้วยเสียงเว้าวอน “ลี่ลี่ คุยกับพี่สักหน่อยได้หรือไม่”
“...”
“หาก หากไม่รบกวน”
บุรุษที่น่าตายเขายังคงเหมือนเดิม “ข้ามีเวลาไม่มาก”
ซีเฉาหยางมองดูคนงามนั่งลงที่เดิมอย่างระมัดระวัง พ่อค้าช่างพูดช่างเจรจามีถ้อยคำมากมายวนเวียนในศีรษะเต็มไปหมดแต่ไม่รู้จะริเริ่มตรงที่ใด ทว่าอย่างน้อยเขาก็รู้ว่าคำพูดที่ดีที่สุดในตอนนี้คืออะไร “ลี่ลี่ พี่ขอโทษ ขอโทษที่ทำผิดต่อเจ้าและลูกอย่างไม่น่าให้อภัย พี่รู้ว่าคำพูดเพียงไม่กี่คำไม่อาจชดเชยความเจ็บปวด แต่ได้โปรดฟังพี่อธิบาย”
เว่ยเฉินลี่สูดลมหายใจ “ข้าฟังอยู่”
“พี่รู้ว่ามันอาจจะน่าเหลือเชื่อ..” ซีเฉาหยางเริ่มเล่าเรียงเรื่องราวประหนึ่งนิทานมหัศจรรย์
ย้อนกลับไปครั้งฮูหยินผู้เฒ่ารังแกบุตรฝาแฝดครั้งแรก ซีเฉาหยางมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะห้ามปรามมารดาและขับไล่นักพรตจอมปลอมออกจากจวน บุรุษร่างสูงใหญ่ไปเยือนที่เรือนไม้ของของหญิงวัยกลางคนกลางดึก ทว่าแทนที่จะได้พบมารดาที่เขารักกลับค้นพบฆาตกร
ซีเฉาหยางมองเห็นมารดาใช้มือควักหัวใจนักพรตเฒ่ากับตา
นางหัวเราะเสียงแหลมสูงเล่าขานความลิงโลดที่นางได้รับยามที่มีฝาแฝดหงส์มังกรสายเลือดเดียวกับนางลืมตาดูโลก พร่ำเพ้อราวกับสตรีวิปลาสถึงความงามนิรันดร์ ลิ้มรสโลหิตในมือแล้วกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่าไม่อร่อยเท่าเลือดของสามีนามซีห่าวของนาง
บิดาผู้จากไปก่อนวัยอันควรของซีเฉาหยาง
ตัวคหบดีหนุ่มในเวลานั้นนิ่งงันหัวใจแทบหยุดเต้น โชคดีที่อันหลันเกือบจะบ้าคลั่งไปแล้วขณะกำลังกลืนกินเลือดเนื้อของศพทีละเล็กทีละน้อยจึงไม่สังเกตเห็นประตูที่ถูกแง้มออกและสายตาหวาดกลัวจากก้นบึ้งหัวใจของลูกชาย
ผู้นำตระกูลซีเสียศูนย์ กว่าจะดึงสติกลับมาก็เป็นเมื่อครั้งที่มารดาลงมือกับฝาแฝดครั้งที่สอง
ซีเฉาหยางกล้ำกลืนความหวาดกลัว วันหนึ่งเขาแอบเข้าไปในเรือนฮูหยินผู้เฒ่าค้นพบตำราโบราณเล่มหนึ่งซุกซ่อนอยู่ในหีบโบราณคร่ำคร่า ภายในนั้นบรรจุขั้นตอนพิธีกรรมความงามอมตะด้วยตัวอักษรจากน้ำหมึกเก่าซีดจาง และร่องรอยขีดฆ่าจากน้ำหมึกที่ใหม่กว่า นอกจากนั้นยังมีกระดาษเนื้อดีลายมืออันหลันที่เขียนเล่าที่มาและความเป็นไปของสิ่งที่นางได้รวบรวม
นางใช้เวลานับสี่สิบปีเพื่อรวบรวมองค์ประกอบเหล่านั้น ก่อนซีเฉาหยางเกิดนั้นขาดเพียงหัวใจของบุรุษผู้รักนางเท่าชีวิต และเลือดเนื้อของฝาแฝดหงส์มังกรเชื้อสายเดียวกัน
เพื่อเก็บองค์ประกอบให้ครบ อันหลันจึงแต่งงานกับซีห่าว หลังจากนั้นจึงสังหารสามีผู้เปี่ยมรักเพื่อควักหัวใจเขาไปอย่างเงียบ ๆ กลายเป็นแม่หม้ายเลี้ยงเดี่ยวผู้เฝ้ารอให้มีฝาแฝดหงส์มังกรกำเนิดขึ้นในวงศ์ตระกูล วันที่ซีเยว่และซีหยวนลืมตาดูโลกเป็นวันที่นางยินดีที่สุดในชีวิต เพราะนั่นหมายถึงความฝันของนางใกล้จะสำเร็จเต็มที น่าเสียดายที่ข้อกำหนดในพิธีกรรมระบุไว้อย่างชัดเจนว่าฝาแฝดจะต้องสิ้นใจด้วยอุบัติเหตุหรือวิธีทางธรรมชาติ ห้ามมิให้มีการวางยาหรือจงใจสังหารด้วยตนเอง
ในหน้านั้นเต็มไปด้วยลายมือบิดเบี้ยวที่ก่นด่าสวรรค์ที่ลำเอียงมอบพรมากมายให้กับเด็กทั้งสอง
นั่นคือความจริงภายใต้ความอ่อนเยาว์ของนางมารผู้หนึ่ง
ซีเฉาหยางทั้งเสียใจทั้งสมเพชตนเอง
ทว่าบนแผ่นดินผานกู่ ผู้บำเพ็ญเซียนและมารอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร ลำพังมนุษย์ธรรมดาไม่สามารถสู้รบปรบมือกับผู้ฝึกยุทธ์ได้ เปลือกนอกจำใจจะต้องโอนอ่อนให้แก่มารดาเพื่อความปลอดภัยของครอบครัว ลับหลังลอบส่งยอดฝีมือของตนออกไปเพื่อปกป้องภรรยาและลูกน้อยเต็มกำลัง แต่ไม่ว่าเท่าไหร่ก็ไม่เคยเพียงพอ เจ็บปวดทุกครั้งยามเว่ยเฉินลี่มองด้วยความผิดหวังและตัดพ้อ ยามนั้นสบโอกาสจึงส่งพวกเขาไปอยู่ในที่ปลอดภัยก่อนชั่วคราว
คนเล่ายอมรับความขี้ขลาดและโง่เขลาที่ไม่กล้าบอกภรรยาโดยดุษฎี
เว่ยเฉินลี่ทอดสายตาอ่อนมองชายที่นางรักเต็มดวงใจครู่หนึ่ง
“ข้าเสียใจกับท่าน”
แต่ต่อให้คายทั้งหมดออกมาแล้วอย่างไร ใช่ นางสงสารและเห็นใจเขา แต่พวกมันไม่ได้ทำให้นางเจ็บปวดน้อยลงหรือหันกลับไปรักเขาดังเดิม เว่ยเฉินลี่เพียงรับฟังเหตุผลอย่างผู้มีปัญญา หญิงสาวถามกลับด้วยน้ำเสียงชืดชาไม่ใส่ใจว่าเขาจะเล่าให้นางฟังทำไม
“ข้าต้องขอบคุณท่านหรือไม่ ท่านปกป้องเราแม่ลูกให้เจ็บช้ำถึงเพียงนี้”
ซีเฉาหยางกำมือแน่นบนตัก “ไม่ ลี่ลี่ เป็นพี่ที่ผิดเองทั้งหมด พี่..”
เทพธิดาของเขาถูกแล้ว
นางไม่จำเป็นเลยต้องรับฟังหรือยกโทษให้เขาที่ทำร้ายใจนางและลูกฝาแฝดเพราะเหตุผลเหล่านี้
“เจ้าไม่ต้องยกโทษให้พี่ แค่ แค่..”
“...”
พ่อค้าผู้มั่งคั่งสั่นเทาทั้งร่างกาย ความกลัวเกาะกุมจิตใจมากกว่าครั้งไหน กลายเป็นเพียงบุรุษธรรมดาผู้หนึ่งซึ่งละทิ้งทุกสิ่งอย่างคุกเข่าลงต่อหน้าหญิงที่ตนเองรักเพื่อร้องขอความเมตตาอย่างหมดหนทาง “ลี่ลี่ ได้โปรดอยู่ที่นี่ ให้คนโง่ผู้นี้ได้ชดใช้”
“...”
“ลี่ลี่..”
สตรีผู้ถูกขอร้องดวงตาแดงเรื่อ คลี่รอยยิ้มซึ่งบาดลึกลงไปในความทรงจำผู้มอง “ยามผลักไสเราแม่ลูก ท่านเอ่ยเพียงหนึ่งคำ ยามนี้คิดจะนำกลับมาท่านเอ่ยอีกหนึ่งคำ”
“...”
“ท่านพี่ ที่แท้ท่านคิดว่าเรื่องราวง่ายดายถึงเพียงนั้น?”
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?