ตอนที่ 2 รักใหม่

สโรชาตกอยู่ในสภาวะซึมเศร้า เธอแทบกินไม่ได้นอนไม่หลับ ช่วงสองวันแรกร้องไห้จนตาบวมจนเธอนั้นจำต้องขอพักการทำงานชั่วคราว หญิงสาวใช้เวลาที่ว่างไปกับการนอนอยู่บนเตียง ดวงตาคู่สวยเหม่อมองเพดานนิ่ง หัวสมองขาวโพลน ในขณะที่ร่างกายนั้นไร้เรี่ยวแรง

สโรชากินข้าวไปได้แค่สองคำก็วางช้อนลง สองวันมานี้เธอกินอะไรไม่ได้เลย ถึงกินเข้าไปยังไงก็อาเจียนออกหมด หญิงสาวรู้ดีว่าเธอน่าจะเครียดลงกระเพาะ เนื่องจากว่าเรื่องนี้ค่อนข้างที่จะส่งผลกระทบต่อจิตใจ

สโรชาทิ้งตัวนอนลงบนเตียง เธอไม่อยากทำอะไรเลย โทรศัพท์วางไว้ข้างกาย มีเสียงข้อความแจ้งเตือนตลอดเวลาจนเธอรำคาญ

ผู้คนต่างสงสัยในความสัมพันธ์ของเธอและวีรภัทร จนป่านนี้ข่าวลือเรื่องการเลิกลาคงจะแพร่กระจายไปทั่วแล้ว แม้เธอจะยังไม่ได้บอกใคร แต่ทุกคนก็อาจจะสังเกตเห็นถึงความสัมพันธ์ที่ห่างเหินของเธอและอดีตคนรัก

หญิงสาวยังทำใจไม่ได้ด้วยซ้ำ เธอไม่คิดว่าจะต้องเลิกลากับแฟนหนุ่มกะทันหันแบบนี้ แต่จะทำอย่างไรได้ ให้ถอยกลับไปตอนนี้เธอคงไม่ยอมแน่

วีรภัทรตั้งใจเมินเธอเพราะผู้หญิงคนอื่น เหตุผลแค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะเลิกลากับเขา

อีกอย่างเธอรับไม่ได้หากต้องใช้ผู้ชายร่วมกับใคร โดยเฉพาะผู้หญิงอย่างมนชนก ที่พยายามใช้ความเป็นเพื่อนแทรกซึมแทรกกลางความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับอดีตคนรักตลอดเวลา

ในฐานะผู้หญิงด้วยกันเธอดูออกว่าอีกฝ่ายนั้นคิดอะไรอยู่ เธอพยายามเตือนอดีตคนรักเรื่องนี้หลายครั้ง ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้สนใจคำพูดของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว

เขายังคงเห็นเพื่อนดีกว่าเธอเสมอ ที่เป็นเหตุผลที่เธอตัดสินใจคืนอิสระให้กับเขา

สโรชาคิดมาก ความเครียดทำให้ร่างกายของเธอทรุดโทรมลง หญิงสาวอาเจียนจนหมดไส้หมดพุงก่อนจะนอนหมดสภาพอยู่ในห้องน้ำ

ซึ่งขณะนั้นวันวิสาก็เดินทางมาเยี่ยมพอดี เมื่อเห็นว่าสโรชานอนสลบอยู่ที่พื้นก็ตกใจเป็นอย่างมาก เธอรีบประคองเพื่อน ก่อนจะลากอีกฝ่ายมานอนที่โซฟาอย่างทุลักทุเล

ขณะนั้นหญิงสาวก็ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยท่าทางอ่อนเพลีย เมื่อเห็นว่าวันวิสากำลังยืนมองเธออยู่ ร่างบางก็รีบดันตัวลุกขึ้นนั่ง

“แกมาตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ก็มาเห็นตอนที่แกนอนหมดสภาพอยู่ในห้องน้ำนั่นแหละ”

วันวิสาถอนหายใจ ก่อนที่เธอจะไปหาน้ำมาให้อีกฝ่ายดื่ม สโรชาปฏิเสธแต่เมื่อถูกคะยั้นคะยอเธอจึงจำใจต้องยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม

ผู้เป็นเพื่อนส่ายศีรษะ ไม่คิดว่าจะพบอีกฝ่ายในสภาพเช่นนี้ ปกติสโรชาเป็นคนที่ดูแลตัวเองอยู่เสมอ ไม่เคยทรุดโทรมให้เห็นเลยสักครั้ง

วันวิสามองผมเผ้าที่รุงรัง ดวงตาบวมช้ำเห็นได้ชัดว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ทั้งอีกฝ่ายยังสวมเสื้อยืดตัวโคร่ง ซึ่งเป็นตัวเดียวกับเมื่อสองวันก่อน

ไม่อยากจะเชื่อว่าความรักสามารถเปลี่ยนแปลงคน ๆ หนึ่งไปได้มากขนาดนี้

“แกไหวไหมเนี่ย”

สโรชาชะงักนิ่งก่อนจะส่ายหน้าอย่างช้า ๆ เธอรู้สึกว่าโลกมันมืดมนไปหมดตั้งแต่วันที่ไม่มีวีรภัทรในชีวิต เธอแทบจะกินไม่ได้ นอนก็ไม่หลับ แม้จะพยายามพึ่งแอลกอฮอล์ พึ่งยานอนหลับแล้วก็ตาม แต่สองสิ่งนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากมายนัก

วันวิสาเห็นว่าหากขลุกตัวอยู่ในห้องก็มีแต่จะทำให้ฟุ้งซ่าน เธอจึงเอ่ยปากชวนเพื่อนรักให้ออกไปเปิดหูเปิดตาด้วยกัน

เธอไล่อีกฝ่ายให้ไปอาบน้ำ ก่อนจะหยิบเดรสรัดรูปสีดำออกมาจากตู้เสื้อผ้า

“แกใส่ชุดนี้ละกัน”

สโรชาเซื่องซึมทำอะไรก็ดูเชื่องช้าไปหมด จนวันวิสานั้นต้องเข้าไปช่วย

“ชีวิตมันไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยความรัก แกอย่าไปจมปลักมาก”

ในฐานะคนที่เคยผ่านความล้มเหลวมาก่อน วันวิสาจึงเตือนเพื่อนด้วยความหวังดี หญิงสาวเคยผ่านการแต่งงานมาถึงสองครั้ง แต่โชคร้ายที่เจอผู้ชายไม่ดีสักคน

แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่เคยนั่งเศร้า ในเมื่อคนมันเลวตัดทิ้งไปก็นับว่าเป็นเรื่องน่ายินดีแล้ว ไม่มีอะไรให้ต้องเสียดายเลยสักนิด

ทั้งสองเดินทางมาที่สถานบันเทิงซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคอนโดมากนัก สายตาชายหนุ่มหลายคนมองตรงมายังสองสาว สโรชารู้สึกประหม่า โดยปกติแล้วเธอไม่ใช่คนชอบเที่ยวกลางคืน กลับจากที่ทำงานก็อาบน้ำนอนทันที

แม้ว่าวันวิสาจะโทรมาชวนทุกวัน แต่เธอก็ปฏิเสธทุกครั้ง

“ฉันเห็นว่ามีคนมองแก”

วันวิสาเอ่ยกระซิบเพื่อนสาว ก่อนที่ทั้งสองจะมองตรงไปยังด้านหน้า ชายหนุ่มร่างสูงสวมเสื้อเชิ้ตสีดำ กระดุมสองเม็ดถูกปลดออกจนเผยให้เห็นแผ่นอกกว้าง

สายตาคมกริบมองตรงมายังสองสาว จนดูไม่ออกว่าเขากำลังจับจ้องใคร

“เขาอาจจะมองแกก็ได้”

สโรชาพูดอย่างไม่ใส่ใจนัก แต่วันวิสาส่ายหน้าไม่เห็นด้วย ชายหนุ่มคนนั้นไม่ได้มองเธออย่างแน่นอน หญิงสาวมั่นใจว่าคนตรงหน้าต้องสนใจเพื่อนรักของเธอ

วันวิสาไม่รอช้ารีบดึงแขนเพื่อนตรงเข้าไปหาชายแปลกหน้า ยิ่งเมื่อมองใกล้ ๆ สโรชาก็รู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาเขา ราวกับว่าเคยเจอที่ไหนมาก่อน

ทั้งสองสบตาก่อนที่ชายหนุ่มจะยกยิ้มและเอ่ยเชิญชวนทั้งคู่ให้นั่งด้วยกัน

“ผม วีรภพนะครับ”

“คนนี้สโรชาค่ะ”

วันวิสาไม่ยอมแนะนำตัวเอง แต่เลือกที่จะแนะนำสโรชาให้ชายหนุ่มรู้จักแทน เธอมีความหวังว่าคนตรงหน้าจะช่วยลบเลือนความเศร้าในใจของสโรชาได้

“งั้นผมขอเรียกว่าคุณชานะครับ”

“เรียกชาเฉย ๆ ก็ได้ค่ะ”

สโรชาตวัดสายตามองเพื่อนก่อนยกยิ้มจืดเจื่อน วันวิสาจัดแจงทุกอย่างจนเธอไม่สามารถปฏิเสธได้

“เดี๋ยวฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ ฝากเพื่อนฉันด้วยนะคะคุณวีรภพ”

สโรชาไม่ทันได้ทักท้วง วันวิสาก็เดินไปไกลมากแล้ว หญิงสาวสบตาชายหนุ่มก่อนจะหลุบตามองแก้วไวน์ที่วางตั้งอยู่ตรงหน้า

“ไม่ต้องเกรงใจนะครับ ตามสบายเลย”

ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะพูดแบบนั้นแต่เธอก็ยังรู้สึกประหม่า ยิ่งเวลาที่สบตาเขา ความรู้สึกแปลก ๆ ก็ก่อตัวขึ้นในใจ

“คุณชาจะดื่มอะไรไหมครับ”

“น้ำอัดลมดีกว่าค่ะ”

ช่วงเวลาที่ผ่านมาเธอดื่มค่อนข้างหนัก จึงไม่อยากทำลายสุขภาพไปมากกว่านี้ อีกทั้งเธอไม่กล้าดื่มนอกสถานที่ กลัวว่าหากเมามายกับผู้ชายแปลกหน้าแล้วอาจจะมีอันตรายเกิดขึ้น

สังคมสมัยนี้น่ากลัว รู้หน้าไม่รู้ใจ

“ปกติไม่ดื่มเหรอครับ”

“ก็มีบ้างค่ะ แต่ไม่บ่อย”

นาน ๆ ครั้งเธอถึงจะดื่มสักที ส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นงานสังสรรค์เสียมากกว่า ทั้งสองเริ่มพูดคุยกันมากขึ้น วีรภพชอบที่หญิงสาวนั้นมีความคิดความอ่านคล้ายกับเขา ทั้งสองพูดคุยกันอย่างถูกคอ เพียงไม่นานก็สนิทสนมกันอย่างง่ายดาย

“คุณชาทำงานที่ไหนเหรอครับ”

คุยกันมาตั้งนานเขาก็ลืมถามไปเลยว่าเธอนั้นทำงานอยู่ที่ไหน หญิงสาวลังเลว่าควรจะตอบดีไหมเพราะเธอนั้นตั้งใจว่าจะลาออกอยู่แล้ว

“เพิ่งลาออกค่ะ ตอนนี้กำลังหางานใหม่อยู่”

ชายหนุ่มพยักหน้า ใจจริงเขาอยากแนะนำงานให้เธอ แต่คิดว่ามันอาจจะดูเสียมารยาท หากเข้าไปแทรกแซงเรื่องส่วนตัวของหญิงสาว

“แล้วคุณล่ะคะ ทำงานอะไร”

“ผมเป็นตากล้องอิสระ รับงานถ่ายรูปทั่วไปครับ”

นี่คืออาชีพหลักของเขา อาชีพที่ช่วยหล่อเลี้ยงและสร้างรายได้ วีรภพเปิดอัลบั้มรูปที่ถูกถ่ายโดยฝีมือของเขาให้หญิงสาวดู สโรชาเห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมฝีมือของเขา

“สวยมากเลยค่ะ”

“แต่ผมว่ามีอย่างอื่นที่สวยกว่านี้นะ” หญิงสาวขมวดคิ้วก่อนจะเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย

“อะไรเหรอคะ ?” “คุณไง”

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ