ความสัมพันธ์ของทั้งสองพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จนหญิงสาวเองก็ยังแปลกใจที่ตัวเองนั้นยอมมอบกายและใจให้ชายหนุ่มในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน
หญิงสาวรู้สึกชอบเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่พบหน้ากัน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่แปลกมาก เพราะตัวเธอนั้นไม่ใช่คนใจง่าย กว่าที่เธอกับวีรภัทรจะคบหากันก็ใช้เวลาอยู่นานพอสมควร
แต่กับวีรภพเธอสามารถตกหลุมรักเขาในระยะเวลาเพียงสั้น ๆ เท่านั้น
เธอรู้สึกผูกพันกับเขาอย่างมาก แม้จะไม่เคยเจอกันมาก่อนก็ตาม แต่หญิงสาวกลับคิดว่าเป็นเพราะเวลานั้นเธอกำลังอ่อนแอ เมื่อมีใครเข้ามาก็อาจจะหวั่นไหวโดยไม่รู้ตัว
อีกอย่างวีรภพก็เป็นคนอ่อนโยน ทั้งยังชอบเทคแคร์ดูแลผู้อื่นอยู่เสมอ
“ผมว่าจะพาคุณออกไปกินข้าวข้างนอก”
ชายหนุ่มเดินตรงเข้ามาในครัว ด้านล่างสวมกางเกงขาสั้นส่วนด้านบนนั้นเปลือยเปล่า เขาเข้ามาสวมกอดร่างบางจากทางด้านหลัง ก่อนที่จะสูดดมความหอมจากแก้มเนียนนุ่ม
“ไม่เอาหรอกค่ะ เปลืองเงิน”
แม้เงินเดือนเธอจะไม่ได้ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน แต่หญิงสาวเป็นคนที่ประหยัดมัธยัสถ์เห็นว่าการซื้ออาหารข้างนอกทุกมื้อนั้นเป็นสิ่งที่สิ้นเปลือง ฉะนั้นมื้อเช้าและมื้อเย็นเธอมักจะทำอาหารกินเองที่คอนโด และนำค่าใช้จ่ายส่วนนี้แปรเปลี่ยนเป็นเงินเก็บ
วันนี้ก็เช่นกัน หญิงสาวตื่นขึ้นมาทำอาหารแต่เช้า โดยเป็นเมนูอาหารง่าย ๆ สองอย่างคือผัดผักรวมน้ำมันหอยและหมูทอด
“ก็ได้ครับ ผมตามใจที่รัก”
หญิงสาวยกยิ้มเขินอาย เธอกระทุ้งซอกเบา ๆ ลงบนหน้าท้องของชายหนุ่มก่อนจะขอร้องให้เขาถอยไปก่อน เนื่องจากว่าเธอนั้นยังไม่ได้อาบน้ำ จึงกลัวว่ากลิ่นกายจะรบกวนเขา
แต่ชายหนุ่มไม่ได้รังเกียจเลยแม้แต่น้อย เขากลับรู้สึกว่าร่างกายของสโรชานั้นหอมกรุ่นอยู่ตลอดเวลา วีรภพซุกไซ้ใบหน้าลงบนซอกคอขาว พลางเลื่อนลงมาพรมจูบทั่วแผ่นหลังเนียน
หลังจากที่คลอเคลียหญิงสาวจนหนำใจแล้ว เขาก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัว โชคดีที่หญิงสาวตื่นขึ้นมากลางดึกและนำเสื้อผ้าของเขาไปซักปั่นจนแห้ง เธอเตรียมพร้อมไว้ให้ทุกอย่าง ทำให้เช้านี้ชายหนุ่มไม่ต้องวิ่งวุ่นหาเสื้อผ้ามาเปลี่ยน
“ขอบคุณนะครับ ที่ซักผ้าให้ผม”
เขามีความสุขที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากหญิงสาว ถึงขั้นที่ว่าคิดวางแผนอยากจะขอหมั้นหมายกับเธอเอาไว้ก่อน แต่ทว่าพอหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดสโรชากลับไม่เห็นด้วย หญิงสาวมองว่าทั้งเธอและเขาเพิ่งจะคบหากันได้ไม่นานนัก คงจะเร็วเกินไปหากจะผูกมัดกันเอาไว้
อีกอย่างเธอก็ยังไม่ลืมความเจ็บปวดจากรักครั้งเก่า จึงยังลังเลไม่อยากถลำลึกไปมากกว่านี้
ชายหนุ่มเข้าใจดีและไม่ได้กดดันเธอ แม้ว่าในใจจะรู้สึกผิดหวังอยู่นิดหน่อยก็ตาม
“ผมเข้าใจ ไว้คุณพร้อม เราค่อยคุยกันเรื่องนี้อีกครั้งก็ได้”
หญิงสาวเห็นใบหน้าชายหนุ่มที่สลดลงก็สงสาร เธอคว้ามือของเขามากุมไว้ก่อนจะลูบไล้เบา ๆ
“ชาขอโทษนะคะ แต่ที่ปฏิเสธไม่ใช่เพราะว่ารังเกียจคุณ ชาแค่ยังไม่พร้อม”
หญิงสาวพยายามอธิบายให้เขาเข้าใจ เธอไม่อยากให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าเธอนั้นรังเกียจและไม่อยากเดินร่วมทางกับเขา
แต่เพราะยังกลัวว่าจะต้องเผชิญกับความผิดหวัง หญิงสาวถึงอยากให้ทุกอย่างค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป จนกว่าจะมั่นใจว่าวีรภพนั้นจะไม่นอกลู่นอกทางและมั่นคงมากพอ เธอจึงอยากที่จะเรียนรู้เขาไปก่อน
แม้ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา เขาจะพิสูจน์ให้เห็นว่าเขานั้นจริงใจและจริงจังกับเธอมากเพียงใด แต่ลึก ๆ แล้วหญิงสาวก็ยังรู้สึกกลัว
ด้านวีรภัทร แม้จะกลับมาทำงานได้ตามปกติแต่ดูเหมือนว่าศักยภาพต่าง ๆ จะลดลงอย่างเห็นได้ชัด ในการประชุมเขาไม่มีส่วนร่วมใด ๆ แทบไม่เสนอความคิดเห็นเหมือนที่ผ่าน ๆ มา เอาแต่นั่งเงียบและครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ตลอดเวลา
ตกกลางคืนชายหนุ่มต้องเผชิญความทรมานจากอาการนอนไม่หลับ เขาพยายามทำตามคำแนะนำของผู้เป็นหมอทุกอย่างแต่ทว่ากลับไม่ได้ผลที่ดีนัก จึงจำต้องกลับไปพึ่งยานอนหลับเหมือนเดิม
ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมานี้ ชายหนุ่มต้องพยายามอย่างหนักที่จะหลีกเลี่ยงไม่เข้าไปสอดส่องหญิงสาวในโซเชียลมีเดียของเธอ แต่ทว่าในบางครั้งความคิดถึงก็ทำให้เขานั้นยับยั้งใจไว้ไม่ได้
และทุกครั้งที่เขาเห็นหน้าอดีตคนรัก ก็ทำให้อาการนอนไม่หลับกำเริบขึ้น
ชายหนุ่มตัดสินใจไปหาหมออีกครั้ง ก่อนจะเล่าเรื่องราวของเขาให้อีกฝ่ายฟัง หมอหนุ่มแผนกจิตเวชแนะนำวิธีการแก้ปัญหาให้ชายหนุ่ม ทั้งการออกกำลังกาย งดดื่มกาแฟ ห้ามงีบหลับในช่วงเวลากลางวัน
ชายหนุ่มสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำได้ทุกอย่าง ยกเว้นเพียงเรื่องเดียวที่เขานั้นคงไม่อาจทำได้ นั่นคือการหยุดคิดมากเรื่องของสโรชา
“สี่ปีก่อนผมสูญเสียภรรยาไป ตอนนั้นผมก็เป็นแบบคุณนี่แหละ กินไม่ได้นอนไม่หลับ เป็นเดือนเลยนะคุณ”
ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ข้างๆเล่าเรื่องของเขาให้ชายหนุ่มฟัง เขาจำได้ว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นประธานบริษัทที่ลูกชายของเขาทำงานอยู่ จึงได้ชวนคุย
ชายหนุ่มเมื่อพบเจอกับคนที่มีปัญหาคล้ายกัน เขาจึงขอคำแนะนำ
“แล้วคุณลุงทำยังไงครับ”
วีรภัทรเอ่ยถาม ก่อนใจจดใจจ่อฟังอีกฝ่ายกล่าวต่อ
“ผมก็แค่ปล่อยให้ตัวเองเสียใจไป กินไม่ได้ก็ไม่ต้องกิน นอนไม่หลับก็ไม่ต้องนอน แล้ววันหนึ่งมันก็ดีขึ้นเอง เวลาจะเยียวยาทุกสิ่ง จะช้าจะเร็วสักวันคนเราก็ต้องเดินหน้าต่อไปได้”
ชายหนุ่มนิ่งคิดก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย แม้ว่าฟังดูแล้วเป็นวิธีที่บ้าบอไปหน่อย แต่เขากลับชื่นชอบแนวคิดและทัศนคติของอีกฝ่าย
“จากเป็นก็ยังดีกว่าจากตาย อย่างน้อยก็ยังรับรู้ว่าเขามีชีวิต ยังอยู่ดีมีสุข”
ชายวัยกลางคนเอ่ยก่อนจะนิ่งเงียบไปและกล่าวต่อ
“แต่จากตายเราจะไม่มีวันได้รับรู้เรื่องราวของเขาอีกเลย”
ดวงตาของผู้ชายที่นั่งอยู่ด้านข้างแดงก่ำ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังยกยิ้มให้กำลังใจชายหนุ่ม ตอนนี้เขาพอทำใจได้บ้างแล้ว แม้จะยังไม่เต็มร้อยนัก แต่ก็เริ่มชินชากับการไม่มีภรรยาอยู่เคียงข้าง
วีรภัทรรู้สึกว่าปัญหาของเขากลายเป็นเรื่องเล็กไปเลยเมื่อเทียบกับปัญหาของผู้อื่น ชายหนุ่มตัดสินใจไม่ไปรับยาและเดินทางกลับทันที
ระหว่างทางเขาเหลือบไปเห็นรถน้องชายที่จอดติดไฟแดงอยู่ด้านหน้า เมื่อเพ่งมองเข้าไปด้านในก็เห็นว่ามีใครบางคนนั่งอยู่ข้าง ๆ วีรภพ ชายหนุ่มรู้สึกคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูก เขาเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็ว แต่เพราะอีกฝ่ายเลี้ยวไปอีกทางเขาจึงล้มเลิกที่จะติดตามไป
วีรภัทรตรงกับบ้าน เห็นพ่อและแม่กำลังกระหนุงกระหนิงกันเขาก็รู้สึกผ่อนคลายใจขึ้นมาบ้าง แม้ความรักของเขาจะไม่สุขสมหวัง แต่ก็ใช่ว่าชีวิตของเขาจะเลวร้ายไปเสียทั้งหมด ชายหนุ่มมองเห็นความสุขที่อยู่รอบ ๆ บ้าน ก่อนที่เขาจะตรงเข้าไปหาผู้เป็นแม่และสวมกอดอีกฝ่ายจากทางด้านหลัง
“วันนี้แม่ทำอาหารเอง งั้นผมคงต้องกินข้าวสักหม้อนึงแล้ว”
แม่ของเขามีดีกรีเป็นถึงศิษย์เก่าสถาบันอันดับหนึ่งของประเทศ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกนัก หากอาหารที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะจะดูน่ากินจะส่งกลิ่นหอมโชยไปทั่วแบบนี้
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?