หลังยุติความสัมพันธ์กับแฟนหนุ่ม สโรชาก็กลับมาอาศัยที่คอนโดของตัวเอง แต่พบว่าเรื่องนี้กระทบต่อจิตใจของหญิงสาวเป็นอย่างมาก ทำให้เธอสูญเสียสมาธิในการทำงานจนต้องตัดสินใจลาออก
หญิงสาวเดินทางมาที่บริษัทเพื่อเก็บข้าวของ เพื่อนร่วมงานหลายคนต่างก็เข้ามาถามไถ่ถึงเหตุผลที่สโรชาตัดสินใจลาออกจากงานกระทันหัน
ทุกคนสงสัยว่าหญิงสาวอาจจะเลิกรากับวีรภัทรแล้ว ใบหน้าถึงได้ดูเศร้าหมอง ดวงตาที่เคยสดใสก็หม่นลงอย่างเห็นได้ชัด
“คิดดีแล้วเหรอพี่ชา”
รุ่นน้องสาวเอ่ยถาม ขณะที่กำลังช่วยสโรชาเก็บข้าวของใส่กระเป๋า หญิงสาวรุ่นพี่ไม่ได้พูดอะไร สายตาเธอมองตรงไปยังอดีตคนรักที่เพิ่งเดินเข้ามาในแผนก
สบตากัน แต่ก่อนที่วีรภัทรจะเดินตรงเข้ามา เขาก็ถูกเรียกเอาไว้เสียก่อน
สโรชาเห็นดังนั้นจึงรีบเร่งเก็บของก่อนจะเดินออกมาเงียบ ๆ เธอยอมรับว่ายังอาลัยอาวรณ์เขาอยู่ มันคงเป็นเรื่องยากที่จะทำใจ วีรภัทรเป็นรักแรกของเธอ เป็นผู้ชายคนแรกในชีวิตที่ทำให้เธอรู้จักกับคำว่ารัก
กลับมาถึงคอนโดหญิงสาวไม่รอช้าที่จะเริ่มต้นหางานใหม่ แม้ว่าจะพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง แต่เธอไม่ค่อยอยากดึงเงินส่วนนี้มาใช้จ่ายสักเท่าไหร่
หญิงสาวส่งใบสมัครไปหลายบริษัท เธอใช้เวลาที่เหลือนอนพักผ่อน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงคิดมากจนหลับตาไม่ลง
โดยปกติแล้วสโรชาไม่ใช่คนที่ชอบดื่มแอลกอฮอล์ แต่วันนี้เธอจำเป็นต้องพึ่งพาสิ่งนี้ โดยหวังว่าจะช่วยให้เธอเลิกคิดฟุ้งซ่านได้ แต่ดูเหมือนว่ายิ่งเมาเธอก็ยิ่งคิดถึงวีรภัทรมากขึ้น
หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเกือบกดโทรหาชายหนุ่มหลายครั้ง แต่ยังมีสติที่ยังคงฉุดรั้งเธอได้อยู่ หญิงสาวเก็บโทรศัพท์ในกระเป๋า ก่อนจะนั่งดื่มคนเดียวเงียบ ๆ จนเวลาใกล้รุ่งสาง ความง่วงและความเมามายก็ทำให้เธอนั้นหลับลงไปได้อย่างง่ายดาย
โทรศัพท์แผดเสียงดังลั่น ก่อนที่หญิงสาวจะควานมือหา เธอล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าใบใหญ่ของตัวเอง ก่อนจะกดรับสายทั้งที่ยังคงสะลึมสะลือ น้ำเสียงงัวเงียเอ่ยทักทายปลายสาย ก่อนที่เธอจะเบิกตากว้างดีดตัวลุกขึ้นนั่ง
“โทรมาจากที่ไหนนะคะ”
หญิงสาวตื่นเต้นแต่เช้า เมื่อจู่ ๆ เธอก็ถูกตามให้ไปสัมภาษณ์งานกระทันหัน
“ได้เลยค่ะ”
หญิงสาวนัดแนะกับปลายสายก่อนจะรีบลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว วันนี้สโรชาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและกระโปรงทรงเอสีดำ ผมยาวสวยถูกมัดรวบตึง รองเท้าส้นสูงสีดำถูกขัดจนมันวาว
หญิงสาวมองตัวเองในกระจกก่อนจะหมุนซ้ายขวาเล็กน้อยเพื่อสำรวจความเรียบร้อย แฟ้มเอกสารสีน้ำตาลสอดลงไปในกระเป๋าผ้าสีขาว สโรชาสูดลมหายใจลึกก่อนจะทบทวนบทสัมภาษณ์อีกครั้ง
“สู้ ๆ ชา เธอทำได้”
หญิงสาวให้กำลังใจตัวเองก่อนจะส่งยิ้มให้กับเงาสะท้อนหน้ากระจก หญิงสาวมองออกไปนอกหน้าต่าง มองดูการจราจรก่อนตัดสินใจที่จะเดินทางด้วยรถสาธารณะแทนการขับรถไปเอง เธอไม่อยากติดแหง็กอยู่บนท้องถนนเพราะกลัวว่าจะไปสัมภาษณ์งานไม่ทันตามกำหนด
สโรชาเดินตรงไปที่สถานีรถไฟฟ้าซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคอนโดมากนัก เธอใช้เวลาเพียงสิบนาทีในการเดินทาง เมื่อมาถึงหน้าตึกสูงใจกลางเมืองเธอก็ไม่รอช้ารีบเดินตรงเข้าไปโดยทันที แต่แล้วเธอก็ต้องชะงักเมื่อสายตาสบเข้ากับร่างสูงของใครบางคน
วีรภพกำลังคุยกับเพื่อนซึ่งเป็นผู้บริหารอยู่ที่นี่ แต่ระหว่างเขาหันมาเห็นหญิงสาวพอดี จึงรีบตรงเข้ามาทักทายเธอทันทีท่ามกลางสายตาของเหล่าพนักงาน
“คุณชา”
“คุณภพ ทำงานที่นี่เหรอคะ”
ชายหนุ่มพยักหน้า หญิงสาวมองสำรวจเห็นว่าเขาไม่ได้ห้อยป้ายพนักงานเหมือนคนอื่น ๆ ก็สงสัย แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป เพราะกลัวว่าจะเป็นการเสียมารยาท
วีรภพดีใจที่ได้เจอหญิงสาว เมื่อถามไถ่ดูจึงรู้ว่าเธอนั้นมาที่นี่เพื่อสัมภาษณ์งาน
“ดีใจจังเลยครับที่จะได้ร่วมงานกัน”
หญิงสาวรู้สึกแปลก ๆ กับสายตาของเขา เธอจึงได้หลุบตาลงมองต่ำ ชายหนุ่มมองใบหน้าสวยที่แดงระเรื่อก่อนที่เขาจะเอ่ยขึ้น
“ผมขอเบอร์คุณได้ไหมครับ”
“คะ ?”
หญิงสาวเลิกคิ้วสูงก่อนที่ชายหนุ่มจะยกยิ้มบาง
“ไว้คุยงานครับ เพราะคุณอาจต้องทำงานกับผม”
เขาเป็นหุ้นส่วนใหญ่ แม้ไม่เคยแทรกแซงเรื่องการทำงานของพนักงาน แต่ดูเหมือนว่านับจากนี้เขาอาจจะเข้าบริษัทบ่อยขึ้น สโรชาไม่ได้คิดอะไร ไม่อยากคิดไปเองว่าชายหนุ่มกำลังจีบเธอแม้ว่าคืนนั้นเขาจะหยอดคำหวานใส่ก็ตาม
การสัมภาษณ์ผ่านไปได้ด้วยดี แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่รู้ผลเพราะมีคนสมัครตำแหน่งเดียวกับเธอมากถึงหกคนซึ่งรวมสโรชาด้วย
หญิงสาวมั่นใจในฝีมือพอสมควร แต่ทว่าแต่ละคนก็ดูมีความสามารถไม่แพ้กัน ทั้งบางคนยังเคยทำงานกับบริษัทต่างชาติมาด้วย
สโรชาไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะได้รับเลือก ขอให้สิทธิ์คนที่มีภาษีดีกว่า
หญิงสาวเดินทางกลับถึงคอนโดก่อนจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถ้วยใหญ่คืออาหารมื้อเที่ยงที่สะดวกและประหยัดเวลา แต่ไม่บ่อยนักที่เธอจะกินอาหารสำเร็จรูปแบบนี้เพราะส่วนใหญ่วีรภัทรจะสั่งอาหารมาให้เธอแทบทุกมื้อ
หญิงสาวแทบจะกลืนอะไรไม่ลง เมื่อจู่ ๆ ก็นึกถึงคนรักเก่าขึ้นมา
“เลิกคิดถึงเขาสักทีชา”
เธอพึมพำเสียงเบาก่อนจะคีบเส้นเข้าปาก หญิงสาวรู้ดีว่าเธอคงไม่อาจใช้เวลาเพียงสั้น ๆ เพื่อลืมวีรภัทรได้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็คงไม่คิดจะติดต่อกลับไปหาเขา
เธอปวดหัวกับเรื่องมนชนกมามากพอแล้ว ในเมื่อเขาเห็นผู้หญิงคนนั้นดีกว่าคงไม่มีเหตุผลใดที่เธอจะต้องกลับไปหาเขาอีกต่อไป
ขณะนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเป็นเบอร์ที่เธอนั้นไม่รู้จัก หญิงสาวกดรับสายก่อนที่เสียงคุ้นหูจะดังขึ้น
“คุณชา ผมวีรภพนะครับ”
หัวใจของสโรชาเต้นแรง เธอตื่นเต้นจนทำตะเกียบตกพื้น มือไม้สั่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“อะ...เอ่อ คุณภพเหรอคะ”
“ครับ คุณชาว่างไหมครับ”
ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายโมง หญิงสาวสงสัยว่าเขาไม่ได้ทำงานหรืออย่างไร ถึงได้มีเวลาโทรมาหาเธอแบบนี้
“ชาว่างค่ะ แต่คุณภพไม่ทำงานเหรอคะ”
“ทำอยู่ครับ แต่งานผมไม่เยอะหรอก”
เขาเอ่ยด้วยด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม สโรชานิ่งเงียบไม่รู้จะพูดอะไรปล่อยให้อีกฝ่ายนั้นชวนเธอคุยอยู่ฝ่ายเดียว กว่าจะรู้ตัวอีกทีเวลาก็ล่วงเลยไปเกือบบ่ายสามโมง
“เดี๋ยวคืนนี้ผมโทรหานะ”
รอยยิ้มบางปรากฏขึ้นใบหน้าอย่างไม่รู้ตัว สโรชากัดปากเล็กน้อย จู่ ๆก็รู้สึกราวกับมีผีเสื้อนับล้านบินอยู่ในท้อง
“ค่ะ ชาจะรอนะคะ”
ชายหนุ่มหัวเราะเบา ๆ ก่อนที่เขาจะกดวางสายไป สโรชายกมือทาบลงบนอกข้างซ้ายที่เต้นกระหน่ำ ดวงตาคู่สวยสั่นไหว เธอกระพริบตาถี่หลายครั้งก่อนสูดลมหายใจลึกเพื่อสงบสติอารมณ์
“จะใจง่ายไม่ได้นะชา”
หญิงสาวพยายามเตือนตัวเองเพราะมีบทเรียนมาจากอดีต เธอกับวีรภัทรศึกษากันอยู่นานกว่าจะตกลงคบกัน แต่สุดท้ายแล้วก็ไปไม่รอด หญิงสาวจึงไม่อยากคาดหวังว่าความสัมพันธ์ใหม่จะราบรื่น แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้คิดปิดกั้นตัวเอง
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?