ตอนทื่ 8 สิ่งแลกเปลี่ยน
เหยียนฮ่าวออกจากถนนเส้นนั้นได้สักพักแล้ว
วันนี้อาหลีไม่ได้รับหน้าที่สารถีแต่เป็นองครักษ์นายหนึ่งที่รับหน้าที่แทน
เขานั่งอยู่ด้านในร่วมกับเจ้านายของตนเอง อาหลีขมวดคิ้วแน่น
ครุ่นคิดมานานสองนานก็ยังไม่กระจ่างแจ้งใจจนเหยียนฮ่าวทนไม่ไหว เป็นฝ่ายเอ่ยปาก
“เจ้าสงสัยอันใดก็พูดมา
นั่งทำหน้าเหมือนคนตายอยู่ได้”
อาหลีชาชินกับฝีปากนายท่านเสียแล้ว
เขากดใบหน้าลงเล็กน้อย กล่าวว่า “นายท่าน
ข้ายังคงไม่เข้าใจว่าเหตุใดท่านถึงได้เมตตาเด็กนั่นนัก
และข้าก็ไม่เข้าใจว่าทำไมนางถึงทำให้ท่านประหลาดใจได้ขอรับ”
“พบพานกันครั้งแรก
ข้ารอดจากยาพิษสังหาร พบพานครั้งที่สอง
อาหลางที่ออกหน้าอยู่ในงานเทศกาลส่งสัญญาณว่าเกิดเรื่องขึ้นในงานรวมตัวผู้ฝึกยุทธ์
อาหลี ถ้าหากวันนี้ข้าไม่ลงจากรถม้าเพื่อพูดคุยกับนางสักหน่อย
เห็นทีวันนี้เจ้ากับข้าคงต้องฝ่าฝนคาวเลือดออกมาแล้ว”
อาหลีคิดตามแล้วก็ยังคงไม่เข้าใจ “นายท่าน
ฝีมือท่านเป็นหนึ่งในยุทธภพ อีกทั้งข้าและอาหลางก็ยังอยู่ที่นั่นเช่นกัน
ต่อให้มีคนนับร้อยก็ไม่มีทางทำร้ายท่านได้”
“ทำร้ายข้าไม่ได้ แต่ข้าเหนื่อย
เหตุใดต้องขยับร่างกายด้วย” เหยียนฮ่าวโบกมือปัด
“เจ้าตามสืบเรื่องของท่านแม่ทัพฮวาหรือยัง”
“จากของที่ท่านแม่ทัพให้มา
รูปภาพหยกยืนยันแล้วขอรับว่าเป็นของจริง ส่วนเรื่องหยกสุริยันจันทรา
ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่อาจหาข่าวไปมากกว่านี้แล้วขอรับ”
เหยียนฮ่าวนั่งคิดอยู่กับตนเอง
เมื่อคราวนั้นแม่ทัพใหญ่สกุลฮวาแจ้งเจตจำนงต้องการจ้างคนหาข่าวเกี่ยวกับหยกสุริยันจันทราคู่หนึ่ง
เหยียนฮ่าวไม่คิดสนใจเรื่องของเล็กน้อยพวกนี้อยู่แล้วถ้าหากสิ่งแลกเปลี่ยนนั่นมิใช่สมุนไพรที่เขาตามหามานานหลายปี
เป็นตัวยาสุดท้ายที่จะช่วยให้เขาฟื้นคืนจากความอัปยศที่ติดอยู่ในใจ
พัดด้ามจิ้วไถลลงจากมือโดยไม่รู้ตัว
เหยียนฮ่าวขมวดคิ้วแน่น คล้ายรู้สึกว่าแผลเป็นบนใบหน้าเริ่มเจ็บปวดขึ้นมาราง ๆ
เขาถอนหายใจหนัก ๆ ครั้งหนึ่งก่อนพูดเสียงเข้ม
“ไปจวนสกุลฮวา”
ฮวาไท่ซีเป็นแม่ทัพใหญ่มานานหลายสิบปีแล้ว
เขาใกล้จะวางมือเต็มที แต่เพราะบุตรชายได้ส่งจดหมายมาจากแดนเหนือ
ฮวาไท่ซีที่ไม่อาจวางใจได้จึงยังรั้งอยู่ในตำแหน่งต่อไปแม้สังขารจะเริ่มไม่เอื้ออำนวย
ท่านแม่ทัพใหญ่เดินเข้าห้องโถง เขากวาดสายตามองรอบหนึ่ง เห็นเพียงบุรุษรุ่นราวคราวเดียวกับบุตรชายยืนอยู่ตรงกลาง
มือทั้งสองข้างไพล่หลัง บ่าเหยียดตรง ท่าทางดูสูงศักดิ์มิน้อย
ฮวาไท่ซีส่ายหน้าไล่ความคิดไร้สาระ
เขาเดินเข้าไปใกล้ เอ่ยปาก “ท่านเหยียน”
“แม่ทัพฮวากล่าวหนักเกินไปแล้ว
ท่านเรียกข้าว่าอาฮ่าวเถอะ” เหยียนฮ่าวนั่งลงตามการชักชวนของแม่ทัพฮวา
รอกระทั่งเจ้าบ้านดื่มน้ำชาได้อึกหนึ่งเขาก็ไม่รออีกต่อไป กล่าวตรง ๆ ว่า
“ท่านแม่ทัพฮวา ข้าขอเรียนท่านตามตรง
เพียงแค่ภาพเหมือนหยกและข้อมูลเล็กน้อยที่ท่านให้มาจากแดนเหนือ
เท่านั้นมิอาจตามหาของที่มิเคยมีผู้ใดพบเห็นได้”
ฮวาไท่ซียิ้มแย้ม
ไม่มีท่าทีโกรธเคืองเลยแม้แต่น้อย เขาวางจอกชาลง เอ่ยเสียงต่ำ “ท่านเหยียน
บอกท่านตามตรง สิ่งที่ข้าพอจะบอกท่านได้ก็ล้วนบอกไปหมดแล้ว
นั่นเป็นสิ่งที่องครักษ์ลับในมือข้าสืบมาได้ในหนึ่งปีมานี้”
เหยียนฮ่าวขมวดคิ้วแน่น
“ในหนึ่งปีได้เพียงกระดาษสามแผ่นเองหรือ”
“ใช่แล้ว ได้แค่กระดาษสามแผ่น”
“บอกท่านตามตรง
กระดาษสามแผ่นนั่นตึงมือคนของข้าไม่น้อย
นอกจากจดหมายที่ลูกชายข้าฝากมาและภาพหยกสุริยันจันทรากับข้อมูลเล็กน้อยของทางเหนือแล้ว
ต่อให้ลงแรงทั้งยังลงเงินไปมากก็ยังหาเรื่องอื่นมาเสริมไม่ได้
ไม่มีแม้แต่ข่าวลือหรือเรื่องเล่าเก่าแก่ที่ไหน ข้าอับจนหนทางจริง ๆ
ถึงได้ต้องมาพึ่งพิงท่าน”
เหยียนฮ่าวได้ยินเช่นนี้ก็เริ่มเคร่งเครียดขึ้นมาบ้างแล้วเช่นกัน
ปกติสายข่าวของกองทัพมักจะแม่นยำอยู่เสมอ
ถึงจะไม่ได้มีสายข่าวกว้างไกลเท่าหอขายข่าวของเขาแต่ก็ยังถือว่าแม่นยำเกินเจ็ดส่วน
ลองแม่ทัพใหญ่ยืนยันด้วยตนเองเช่นนี้ เหยียนฮ่าวก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อไป
“ท่านเหยียน
บุตรชายข้าไปเป็นแม่ทัพทางเหนือได้แปดปีแล้ว
ข้ารั้งอยู่เมืองหลวงเพื่อให้หน้าที่การงานเขาก้าวหน้าได้ตามลำดับ
หนึ่งปีมานี้มีเรื่องราวจากแดนเหนือมากมาย ทั้งจริงและไม่จริง” ฮวาไท่ซีคลึงจอกชา
ดวงตาฝ้าฟางเหม่อมองออกไปไกล คล้ายอยากจะมองให้เห็นถึงชายแดนเหนืออันเป็นพรมแดนติดกับเผ่าป่าเถื่อนด้านนอก
“แต่เรื่องจริงที่ข้าอยากจะรู้
คือเรื่องหยกที่ลูกชายข้าส่งมา ท่านเหยียน
สมุนไพรเห็ดน้ำค้างหยกแม้จะมีสรรพคุณมากแต่ไม่มีประโยชน์กับข้าสักนิด
ขอแค่ท่านหาที่มาให้ข้าได้ ข้ายอมยกให้ท่านโดยไม่คิดสิ่งใดทั้งนั้น”
เหยียนฮ่าวลมหายใจกระตุกไปชั่วขณะ
สมุนไพรเห็ดน้ำค้างหยกนั่นไม่มีประโยชน์กับแม่ทัพฮวาแต่มีประโยชน์กับเขาแน่นอน
ทั้งยังมีประโยชน์มากเสียด้วย
มันเป็นสมุนไพรที่เขาตามหามานานหลายปีทั้งยังดั้นด้นจากหุบเขามาถึงเมืองหลวงก็เพื่อมัน
ต่อมารู้ว่าเป็นกลลวงของสำนักดับตะวันยังคิดแค้นเคืองไม่น้อย
ถึงจะมีของจากแม่ทัพฮวาวางอยู่ตรงหน้า
แต่การเอื้อมมือไปคว้าไม่ได้เช่นนี้ช่างทำให้คนทรมานใจดีแท้
เหยียนฮ่าวหลุบสายตามองมือตนเองที่วางอยู่บนตัก
เขาไม่แน่ใจนักว่าจะสามารถหาหยกคู่นั้นให้ท่านแม่ทัพได้หรือไม่ แต่กับสมุนไพรนั่น
เขาไม่ลงมือไม่ได้จริง ๆ
“เช่นนั้นคงต้องรบกวนท่านแม่ทัพฮวาทนรออีกสักหน่อย
ข้าจะต้องหาคำตอบให้ท่านได้แน่”
ฮวาไท่ซีแย้มยิ้มจาง กล่าวลาคนด้วยประโยคแผ่วเบา
“ท่านเหยียน ข้ารอมานานเป็นปียังรอได้ รออีกสักหน่อยคงไม่เป็นกระไร
ต่อจากนี้ก็ต้องฝากท่านแล้ว”
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?