ตอนที่ 17 เจ้าคิดว่าข้าพิศวาสเจ้า

เมิ่งลี่อินวางเชิงเทียนลงช้า ๆ นางประสานมือไว้ตรงหน้าท้องดวงตาหลุบลงมองพื้นไม่วอกแวก ท่าทางไม่ต่างจากสาวใช้สักกระผีก

“ท่านกลับมาดึกดื่นเกรงว่าคงมีของต้องการ อยากให้ข้าช่วยหาหรือไม่เจ้าคะ”

“ไม่ต้อง” กู้ชางที่เดินหายไปหลังฉากกั้นเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว เขาถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกเหลือเพียงเสื้อตัวในและกางเกงขายาว “ฟางหลี่ไม่ใคร่สบายนักเลยให้ข้ามาอยู่เรือนใหญ่ กลัวว่าข้าจะติดไข้จากนางเข้า”

เมิ่งลี่อินถึงขั้นควบคุมกิริยาไม่ได้ นางเงยหน้าขึ้น “อนุฟางไม่สบาย?”

“ใช่ หรือเจ้าคิดว่าข้ากลับมาเพราะพิศวาสเจ้า? เมิ่งลี่อิน ฝันกลางวันกระมัง”

แน่นอนว่าเมิ่งลี่อินไม่คิดว่าเขากลับมาเรือนใหญ่เพราะนางอยู่แล้ว เพียงแต่อนุฟางจะป่วยไข้ได้อย่างไร เมื่อกลางวันตอนนางเดินผ่านเรือนจันทร์กระจ่างของอีกฝ่ายยังเห็นฟางหลี่ยิ้มเล่นหัวกับสาวใช้คนสนิทอยู่เลย ตรงหน้านางคือขนมหวานชั้นเลิศจากห้องครัวใหญ่ ข้าง ๆ มีสาวใช้คอยเติมน้ำชาชั้นดีให้ไม่ขาด ท่าทางไม่เหมือนคนป่วยไข้เลยสักนิด

เมิ่งลี่อินไม่ฉลาดนัก แต่เรื่องเรือนหลังใช่ว่านางจะไม่รับรู้เลย

ฟางหลี่แกล้งป่วยเพื่อส่งกู้ชางมาเรือนใหญ่ เจตนาก็เพื่อตบหน้าฮูหยินเอกเช่นนาง

หากอนุไม่ป่วย นายท่านก็ไม่เหยียบย่างเข้าเรือนฮูหยิน

แค่ปิดตาลงเมิ่งลี่อินก็รู้แล้วว่าพรุ่งนี้นางจะต้องใช้ชีวิตภายใต้สายตาดูถูกและคำเหยียดหยามอย่างไร อีกทั้งนางไม่เชื่อว่าลูกไม้ตื้น ๆ เช่นนี้กู้ชางจะมองไม่ออก เขาต้องมองออกอย่างแน่นอน แต่มองออกแล้วอย่างไรเล่า ขอแค่ฟางหลี่มีใจอยากเหยียบย่ำเกียรติและศักดิ์ศรีของสตรีสกุลเมิ่งผู้นี้ กู้ชางที่สิทธิ์เด็ดขาดในเรือนใหญ่ย่อมต้องตามใจนางแน่

เมิ่งลี่อินหนาวเหน็บไปทั้งใจ ทุกครั้งที่นางคล้ายจะทำใจกับความโหดร้ายของสามีได้แล้ว เขากลับยิ่งลงมือหนักหน่วงขึ้นทุกครา หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ...

นางจะทนไหวได้หรือ...

กู้ชางทิ้งตัวนั่งลงบนตั่งเตียง เขาเหลือบมองสีหน้าภรรยาเล็กน้อยค่อยเอ่ยปาก “เจ้ายืนอย่างนั้นก็เหมาะดี”

เมิ่งลี่อินเก็บสติเสี้ยวสุดท้ายกลับมา นางผินหน้าเชื่องช้าราวคนที่วิญญาณหลุดลอย “เจ้าคะ?”

“ท่าทางเหมือนสาวใช้เช่นนั้น” กู้ชางกระตุกยิ้มมุมปาก “เหมาะกับเจ้าดี”

เขาทิ้งตัวลงนอน ไม่ใส่ใจเลยสักนิดว่าเมิ่งลี่อินจะหน้าชาหรืออับอายเพียงใด หลังจากปัดหมอนและผ้าห่มที่มีกลิ่นกายนางทิ้งลงพื้น กู้ชางก็พูดขึ้นอีกครั้ง

“เจ้าไปหาที่อื่นนอน ข้าจะนอนที่นี่”

ในเรือนใหญ่มักจะมีตั่งเล็ก ๆ นอกห้องไว้ให้สาวใช้นอนเฝ้าเผื่อเจ้านายเรียกใช้ในยามค่ำคืน ถึงจะเรียกว่าตั่งแต่แท้จริงแล้วเป็นเพียงเก้าอี้ตัวเล็ก ๆ ที่เมื่อนอนลงไปแล้วทำได้เพียงนอนตะแคง ไม่อาจขยับเขยื้อนไปไหนได้ ทั้งไม้ที่นำมาทำก็ไม่ใช่ไม้เนื้อดีอะไร เมื่อไม่มีผ้าปูนอนก็หนาวเสียจนเสียดแทงกระดูก เมิ่งลี่อินห่มผ้ากัดฟันนอนอยู่อย่างนั้นทั้งคืน กระทั่งเช้าจึงรีบลุกจากเก้าอี้ไม้เตรียมตัวปรนนิบัติสามี

เมิ่งลี่อินเตรียมสำรับเช้าสำหรับนางและสามีเสร็จก็รีบตรงเข้าไปผลัดเปลี่ยนผ้า ตอนที่กู้ชางตื่นก็เห็นภรรยายืนกุมมือรออยู่ด้านข้างแล้ว

เขาเลิกคิ้วอย่างแปลกใจแต่ไม่คิดจะเปิดปากถาม ราวกับเรื่องทั้งหมดนี่เป็นสิ่งที่เมิ่งลี่อินควรจะทำอยู่แล้ว กู้ชางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าน้ำที่เขาอาบในถังก็เป็นน้ำที่ภรรยาเอกของตนเองเดินไปตักมาจากบ่อด้านหลัง คุดคู้ตัวอยู่ในห้องครัวเล็กเกือบชั่วยาวกว่าจะต้มน้ำร้อนมาให้เขาอาบได้

กู้ชางขยับมือจัดแต่งเสื้อผ้าเล็กน้อย เขาก้าวเท้าตรงไปด้านหน้าพลางเอ่ย “จัดโต๊ะ”

เมิ่งลี่อินหลุบสายตามองเท้า รับคำเสียงแผ่ว “เจ้าค่ะ”

เป็นอย่างที่นางคาดไว้ สำรับที่นางตั้งใจทำถูกเขาจัดการจนเกลี้ยงภายในชั่วพริบตา หากไม่ใช่เพราะนางแยกของตนเองไว้ก่อนหน้า เช้าวันนี้ก็คงต้องกินข้าวเปล่าคลุกเศษผักอีกคราหนึ่ง

กู้ชางยกผ้าขึ้นซับมุมปาก หัวคิ้วมุ่นเข้าหากันเกือบจะผูกเป็นปม

อาหารตรงหน้าเขาแม้จะไม่สามารถเรียกได้ว่ารสเลิศแต่กลับมีรสมือพอเหมาะพอควร คล้ายผู้ปรุงรู้ว่าควรจะใส่อันใดเท่าไหร่เพื่อให้รสชาติของวัตถุดิบยังอยู่ครบ เมื่อกลืนลงท้องก็รู้สึกพึงพอใจไม่น้อย ถึงขั้นทำให้อยากจะกินอาหารทั้งหมดเพียงผู้เดียว

ทว่าเขาสั่งห้ามไม่ให้ห้องครัวใหญ่ส่งอาหารดี ๆ มาให้นางนานแล้ว เช่นนั้นอาหารนี่คงเป็นฝีมือภรรยาเขากระมัง

คิดได้ดังนี้คุณชายกู้ผู้สูงส่งก็โยนผ้าลงพื้นอย่างฉุนเฉียว เขาผุดลุกขึ้นยืน กล่าวเสียงตะคอก “ต่อไปอย่าเอาอาหารพวกนี้มาให้ข้ากินอีก!”

เมิ่งลี่อินสะดุ้งตัวโยน นางถอยหลังสองก้าว ถามอย่างไม่เข้าใจ “เช่นนั้นจะให้ข้าไปเอาสำรับจากครัวใหญ่ให้ท่านหรือไม่เจ้าคะ?”

กู้ชางอยากจะตอบว่าใช่ แต่อีกใจหนึ่งก็วางท้องตนเองไม่ลงและเพราะรังเกียจที่ตนเองลังเลเช่นนี้ กู้ชางจึงยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ “ข้าต้องบอกเจ้าทุกอย่างเลยหรือ? เมิ่งลี่อิน หรือเจ้าจะโง่งมจนไร้สมองไปแล้ว?”

หลังจากที่สามีของนางจากไปด้วยสีหน้าบูดบึ้ง เมิ่งลี่อินก็ค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออก นางกะพริบตาปริบเพิ่งรู้ตัวว่าตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้นางยังไม่ได้ดื่มน้ำชาสักอึก ทั้งยังไม่ได้เงยหน้าสักเค่อเดียว ลำคอนางเมื่อยขบ ท้องส่งเสียงประท้วงดังลั่น

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ