“ฮูหยินน้อย วันนี้เจียงฮูหยินกล่าวว่าไม่ต้องไปพบเจ้าค่ะ”
เมิ่งลี่อินวางงานในมือ มองสาวใช้จากเรือนตะวันตกอย่างเป็นกังวล “ท่านแม่ได้กล่าวอย่างอื่นหรือไม่? หรือว่าท่านแม่ไม่สบาย?”
ฮูหยินน้อยเป็นแขกประจำของเรือนตะวันตก มาบ่อยเสียยิ่งกว่าบุตรชายแท้ ๆ อย่างกู้ชางเสียอีก อีกทั้งเมิ่งลี่อินก็หาใช่คนประเภทที่ได้เป็นเจ้านายแล้วก็เย่อหยิ่งชูคอ นางปฏิบัติกับสาวใช้อย่างเท่าเทียมจึงทำให้สาวใช้เรือนตะวันตกมองนางดีขึ้นมาก
สาวใช้ส่ายหน้า กล่าวยิ้ม ๆ “ฮูหยินจะออกไปพบสหายเก่าเจ้าค่ะ เลยให้บ่าวมาแจ้งว่าวันนี้ฮูหยินน้อยไม่ต้องไปพบ และขอให้ฮูหยินน้อยพักผ่อนให้มาก ๆ เจ้าค่ะ”
เมื่อได้รับคำยืนยันว่าท่านแม่มิได้เป็นอันใดมากเมิ่งลี่อินก็ค่อยเบาใจ นางเอ่ยเสียงอ่อน ใบหน้าแต่งแต้มรอยยิ้ม “อืม ขอบใจเจ้ามาก”
คล้อยหลังสาวใช้นางนั้นไปเมิ่งลี่อินก็ไม่รู้ว่าจะทำอันใดดี กู้ชางออกไปแต่เช้าแล้ว เขายังกล่าวคาดโทษนางทุกวันว่าที่เขาหาพี่สาวไม่เจอเป็นเพราะนาง ดังนั้นเขาจึงออกไปด้านนอกทุกวัน แต่ละวันก็ยิ่งใช้เวลานานมากเรื่อย ๆ ทิ้งเรือนไว้ให้นางดูแล
อยู่กับเขามาได้เดือนกว่า ๆ เมิ่งลี่อินก็พอจะเข้าใจความชอบของสามีผู้นี้บ้างแล้ว ไหน ๆ วันนี้นางก็ว่างจึงตั้งใจจะจัดเรือนตามความชอบเขาเสียเลย หากเขาเห็นหน้านางแล้วหงุดหงิดใจ ขอแค่กวาดมองรอบเรือนก็จะได้ลดโทสะนั่นลงไปบ้าง นางไม่มีแรงรับมือเขาทุกวันหรอกนะ
เมิ่งลี่อินคิดได้ดังนี้ก็เดินออกไปหน้าเรือน เรียกหาสาวใช้ “เจ้าไปตามคนมาหน่อย ข้าจะย้ายของในเรือน”
สาวใช้นางนั้นถึงกับชักสีหน้า เท้าเอวอย่างหงุดหงิด “ฮูหยิน ปกติท่านไม่อยู่เรือนก็แล้วไปเถอะ ตอนนี้เกิดอยากจะตกแต่งอันใดขึ้นมา? พวกข้ามีงานมากมายต้องทำ ไม่ว่างมาช่วยท่านหรอกเจ้าค่ะ”
“เจ้าเป็นสาวใช้ จะไม่ทำตามคำสั่งเจ้านายได้อย่างไร”
เมิ่งลี่อินบีบกรอบประตูแน่น นางนึกถึงคำสั่งสอนของเจียงฮูหยินจึงสวนกลับไปเป็นครั้งแรก แต่ถึงจะเรียกว่าเป็นการพูดสวนแต่ก็แค่พูดเท่านั้น น้ำเสียงทอดยาวทั้งยังไร้ความดุดันของนางจะทำให้สาวใช้หวาดกลัวได้อย่างไร
สาวใช้มองฮูหยินน้อยด้วยสายตาเหมือนมองคนปัญญานิ่ม นางขำเสียงดังลั่นลานหน้าเรือน “เจ้าค่ะ ๆ ท่านเป็นเจ้านายข้าเป็นสาวใช้ แต่แล้วอย่างไรเจ้าคะ เจ้านายที่ไม่ได้รับการโปรดปรานจากคุณชายจะมีค่าอันใดให้ข้ารับใช้ หากเป็นอนุฟางก็ยังว่าไปอย่าง!”
กล่าวจบสาวใช้นางนั้นก็กระแทกเท้าเดินจากไป เมิ่งลี่อินหน้าแดงสลับซีดขาว นางยืนปรับอารมณ์อยู่ครู่หนึ่งก็หมุนกายกลับเข้าไปในเรือน จัดการเลื่อนเครื่องเรือนหนาหนักเงียบ ๆ เพียงคนเดียว ท่ามกลางเสียงหัวเราะจากกลุ่มสาวใช้ด้านนอก
ไม่มีใครสักคนที่สังเกตเห็นหญิงสาวตัวเล็ก ๆ มือทั้งสองข้างของนางออกแรงดันตั่งเก้าอี้จนเหงื่อชุ่มเสื้อผ้า แม้แต่น้ำตาที่หยดลงข้างแก้มก็ยังแยกไม่ออกว่าแท้จริงแล้วมาจากความเหนื่อยกายหรือเหนื่อยใจ
เมิ่งลี่อินตื่นเช้าคอยปรนนิบัติสามีเช่นเดิม เขามักจะไปค้างกับอนุฟางแต่กลับมาอาบน้ำแต่งตัวที่เรือนใหญ่ หากมิใช่จงใจทรมานนางแล้วจะหมายความว่าอันใดกัน
เมิ่งลี่อินหยิบเสื้อตัวในสวมใส่ให้สามีเงียบ ๆ นางค่อย ๆ ดึงรั้งจนสาบเสื้ออยู่ในที่ทางที่ควร แม้จะยืนอยู่ใกล้เพียงลมหายใจกางกั้นแต่เมิ่งลี่อินกลับไม่ได้รู้สึกดีอกดีใจสักนิด กลับกันนางยิ่งรู้สึกเหมือนถูกมัจจุราชจับจ้อง หากทำผิดพลาดเพียงนิดเดียวเขาก็จะเอาชีวิตนางเดี๋ยวนี้เลย
กู้ชางขมวดคิ้ว เอ่ยอย่างขัดใจ “เจ้าทำให้มันดี ๆ”
“ขออภัยเจ้าค่ะ”
เมิ่งลี่อินเบามือลงหน่อยแต่ก็ยังไม่พอใจอีกฝ่ายเช่นเดิม “เมิ่งลี่อิน เจ้าตาบอดไปแล้วหรือไร เสื้อคลุมจะรัดคอข้าอยู่แล้ว!”
หญิงสาวก้มหน้าลงต่ำ มือคลายสาบเสื้อคลุมตัวนอกออกเล็กน้อย “ขออภัยเจ้าค่ะ”
เมิ่งลี่อินทำงานเงียบ ๆ จวบจนห้อยหยกพกให้เขาเสร็จก็ถอยออกไปยืนด้านข้างเงียบ ๆ ท่าทางไม่ต่างจากสาวใช้คนหนึ่ง หรือสาวใช้ขั้นหนึ่งจริง ๆ อาจจะมีท่าทางที่มีสง่าราศีกว่านางก็เป็นได้ เมิ่งลี่อินยืนก้มหน้าจนกู้ชางเดินผ่านไปนางถึงได้เงยหน้าขึ้น
ทว่ายังไม่ทันได้ถอนใจด้วยความโล่งอก สามีใจร้ายของนางก็พูดขึ้นมาอีกคำหนึ่ง
“อาหารเช้าล่ะ”
กู้ชางไม่เคยนั่งทานสำรับเช้ากับนางมาก่อน แม้แต่อาหารเย็นเขาก็ไปรับกับฟางหลี่ ตอนเช้านางจึงมักจะทำอาหารส่วนของตนเองที่ครัวเล็กด้านข้าง ทานเสร็จแล้วก็เดินไปหาท่านแม่ที่เรือนตะวันตก พอเขาเรียกหาเช่นนี้เมิ่งลี่อินก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงได้แต่ยกสำรับที่นางทำไว้สำหรับตนเองขึ้นวาง
มันเป็นโจ๊กข้าวใส่หมูต้มง่าย ๆ และไข่ต้มสองฟองกับผัดผักอีกจานหนึ่ง อาหารพื้น ๆ ไม่มีความหรูหราอย่างถึงที่สุดจนทำให้กู้ชางนึกรังเกียจอยู่ในใจ เขาเติบโตมากับการที่มีผู้คนรายล้อม แม้แต่อาหารก็ต้องเป็นของชั้นดี จะเคยพบเจอสำรับเช่นนี้ที่ไหนกัน
เขาเกือบจะคว่ำโต๊ะด้วยความโมโหแล้ว หากไม่ใช่เพราะกลิ่นหอมนั่นดึงดูดเอาไว้ กู้ชางก้มหน้ามองเล็กน้อย เขาหยิบช้อนขึ้นตักโจ๊กเข้าปากคำหนึ่ง
รสชาติดีกว่าที่คาดคิดไว้ อันที่จริงมันอร่อยมากทีเดียว
กว่าจะรู้ตัวโจ๊กหนึ่งชามกับไข่ต้มสองฟองและผัดผักก็ถูกจัดการจนสะอาดเอี่ยม หลังจากทานเสร็จสามีผู้นี้ของนางยังผุดลุกขึ้นยืนเดินออกไปเฉย ๆ ไม่มีคำกล่าวอันใดมากกว่านั้น เมื่อกู้ชางจากไปสาวใช้ที่เหลือก็ออกไปจากเรือนใหญ่เช่นกัน เมิ่งลี่อินถอนหายใจเชื่องช้า ในใจหวนนึกถึงมารดาขึ้นมา
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?