ตอนที่ 12 สอนการดูแลเรือน

โชคดีที่กู้ชางหายไปทั้งวันและสาวใช้พวกนั้นก็ไม่อยากจะปรนนิบัติฮูหยินที่ไม่เป็นที่โปรดปรานอย่างเมิ่งลี่อิน พวกนางจึงทิ้งฮูหยินคนใหม่ไว้ในเรือนใหญ่ ส่วนที่เหลือก็ออกไปจับกลุ่มพูดคุยกันตามประสา เมิ่งลี่อินถึงได้นอนพักผ่อนเป็นครั้งแรกในรอบสองวัน

นางลืมตาตื่นอีกครั้งตะวันก็ใกล้ตกดินแล้ว ในเรือนเงียบสงบไร้เสียงคนจึงรู้ว่ากู้ชางยังไม่กลับ เมิ่งลี่อินไม่ได้เรียกสาวใช้แต่ผลัดเปลี่ยนผ้าด้วยตนเอง นางแต่งแต้มสีชาดที่ปากเล็กน้อยพอไม่ให้หน้าซีดเซียวจนเกินไปจากนั้นก็เดินออกจากเรือน ตรงไปยังเรือนฝั่งตะวันตก

เจียงฮูหยินนั่งอยู่ในห้องด้านนอก นางกำลังมองสาวใช้ปักผ้าอยู่ข้างหน้าต่างก็เห็นร่างแน่งน้อยค่อย ๆ เดินตามทางอย่างไม่คุ้นเคย สีหน้าหญิงสาวประเดี๋ยวตื่นตระหนกประเดี๋ยวราบเรียบ คล้ายตัดสินใจไม่ได้ว่าควรจะไปต่อทางไหนดี เจียงฮูหยินนั่งดูอยู่นานถึงเพิ่งรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังหาทางมายังเรือนตะวันตกของตนเอง

เจียงฮูหยินส่ายหน้าช้า ๆ “ลี่อิน เด็กคนนี้น่าสงสารเกินไปแล้ว”

เรือนตะวันตกไม่เหมือนเรือนอื่น เจ้านายเรือนชื่นชอบการปลูกต้นไม้เป็นที่สุด กู้เจี้ยนหยางไม่ว่าได้ต้นอันใดมาก็จะรีบเอาลงดินไม่สนใจความสวยงามใด ๆ จนในที่สุดมันก็วกวนไปมาเสมือนเดินอยู่ในกลุ่มหมอกที่มองไม่เห็นทาง

แม่นมของเจียงฮูหยินชะโงกหน้ามอง หญิงสาวผู้นั้นนางรู้มาว่าเป็นฮูหยินของคุณชายกู้ เพียงแต่มองจากการแสดงออกและท่าทางที่ไม่กล้าแม้แต่จะถามทางสาวใช้ก็ทำให้แม่นมชราขมวดคิ้วโดยพลัน

“ฮูหยินน้อยดูไม่น่าจะเป็นคนที่แย่งงานมงคลพี่สาวได้เลยนะเจ้าคะ”

เจียงฮูหยินพยักหน้า “นางตัวเล็กมาก เล็กกว่าหลานสาวข้าเสียอีกทั้ง ๆ ที่หลานสาวข้าเด็กกว่านางตั้งสามปี อีกอย่าง ตอนนางเข้ามาใกล้ ๆ ท่านดูผิวพรรณนางเอาแล้วกัน คนที่กล้ายื้อแย่งของของคนอื่นมาเป็นของตนเองส่วนหนึ่งก็ต้องมีความกล้า อีกส่วนหนึ่งต้องมีความมั่นใจที่จะลงมือ แต่ลี่อินไม่มีทั้งความกล้าไม่มีทั้งความมั่นใจ นางมีเพียงความหวาดกลัวและความเจียมเนื้อเจียมตัวเท่านั้น แม่นม ท่านคิดว่าคนอย่างนางจะกล้าแย่งงานมงคลพี่สาวจริง ๆ หรือ”

หากเมิ่งลี่อินแค่แสดงตบตา เจียงฮูหยินย่อมมองออก แต่หลังจากทานข้าวพูดคุยนางก็รู้สึกว่าหญิงสาวนางนี้ไม่เหมือนกับในคำเล่าลือสักนิดเดียว เวลาพูดคุยกับผู้อื่นก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตา หากเงยหน้าขึ้นก็มักจะบีบมือหรือเม้มริมฝีปากอย่างคนไม่กล้าพูดไม่กล้าทำ ผู้อื่นกล่าวว่านี่คือหญิงสาวใจดำแย่งงานมงคลพี่สาวจนทำเมิ่งลี่จูเสียใจจนเตลิดหนีหาย แต่หากคนพวกนั้นมาถาม เจียงฮูหยิน กล้าพูดว่านางไม่เชื่อสักกระผีกเดียว

แต่ไม่เชื่อก็ส่วนไม่เชื่อ นางไม่มีหลักฐานทั้งยังไม่อาจยื่นมือไปจัดการเรื่องในสกุลเมิ่งด้วย ทำได้เพียงมอบความเมตตาให้มาก ๆ หวังว่านางจะไม่ถูกน้ำลายคนช่างนินทากดทับจนสิ้นเรี่ยวแรงไปก่อนก็พอ

“ฮูหยิน ฮูหยินน้อยขอเข้าพบเจ้าค่ะ”

เจียงฮูหยินพยักหน้า “ให้นางเข้ามา”

เมิ่งลี่อินเดินเข้าเรือน ยอบกายคารวะ “คารวะท่านแม่เจ้าค่ะ”

“มานั่งนี่เถอะ” เจียงฮูหยินตบมือลงบนเก้าอี้ด้านข้าง “ได้นอนพักแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง ยังเหนื่อยอยู่หรือไม่”

ฮูหยินน้อยสกุลกู้ส่ายหน้าช้า ๆ “ดีขึ้นมากแล้วเจ้าค่ะ ต้องขอบคุณท่านแม่ที่เมตตายอมให้ข้าไปนอนพักผ่อนเมื่อตอนกลางวัน แต่หลังจากวันนี้ข้าจะมาคารวะท่านแม่ตอนเช้าแล้วก็อยู่ปรนนิบัติท่านแม่จนกว่าท่านพ่อสามีจะกลับมานะเจ้าคะ”

กู้เจี้ยนหยางมีงานอยู่สองสามงานในมือที่ยังไม่ได้ส่งต่อให้บุตรชายเขาจึงยังต้องออกไปทำงานด้านนอก บ่ายคล้อยกว่าจะกลับ แต่กลับมาแล้วก็ยังต้องไปสะสางงานในห้องหนังสือ จวบจนได้เวลาอาหารเย็นถึงจะกลับมาที่เรือน

เจียงฮูหยินมองสำรวจสีหน้าลูกสะใภ้ครู่หนึ่ง ครั้นเห็นว่านางดูมีแรงขึ้นมากแล้วก็ค่อยวางใจ “เจ้าไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้ กลางวันอาชางมักจะออกไปด้านนอก หากไม่จัดการธุระก็มักจะแวะเวียนไปหาสหาย เจ้าก็เอาเวลาส่วนนี้ไปพักผ่อนทำสิ่งที่อยากทำเถอะ”

เมิ่งลี่อินนับตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าคฤหาสน์สกุลกู้ก็มีเพียงท่านพ่อท่านแม่สามีที่ให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง มิได้ดุด่าต่อว่า มิได้มองนางด้วยสายตาที่ใช้มองสิ่งสกปรก นางจึงยิ่งอยากอยู่ใกล้พวกท่านให้ตนเองมีกำลังใจมากขึ้นหน่อย

“สิ่งที่ข้าอยากทำคือปรนนิบัติท่านแม่เจ้าค่ะ”

เจียงฮูหยินยกยิ้มจาง เอ่ยอย่างทอดถอนใจ “เช่นนั้นก็ตามใจเจ้าเถอะ เอาเช่นนี้แล้วกัน เจ้ามาที่นี่ตอนกลางวัน ข้าจะสอนการดูแลเรือนให้ พอท่านพ่อสามีเจ้ากลับมาก็ทานข้าวเย็นด้วยกัน แล้วค่อยกลับ เจ้าว่าอย่างไร”

เมิ่งลี่อินเป็นบุตรอนุ นางไม่เคยได้รับการสอนสั่งให้ดูแลเรือนมาก่อน พอตอนนี้ต้องแต่งเข้าในฐานะฮูหยินเอกก็ทำอันใดไม่เป็นสักอย่าง แม้จะอ่านบัญชีได้แต่ก็ได้แค่ง่าย ๆ เท่านั้น มิได้เก่งกาจถึงขั้นคิดคำนวณได้คล่องมือ

เมื่อได้ยินว่าเจียงฮูหยินเต็มใจสอนนางก็รีบรับคำ “ดียิ่งเจ้าค่ะ เช่นนั้นหลังจากปรนนิบัติท่านพี่แล้ว ข้าจะมาหาท่านแม่นะเจ้าคะ”

“ตามใจเจ้า”

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ