ภายใต้ค่ำคืนที่ตกแต่งด้วยโคมไฟหลากสีสัน เสียงดนตรีบรรเลงขับกล่อมดังก้องกังวานไปทั่วเรือนหลักของจวนตระกูลหวัง ซึ่งในยามนี้ดูงดงามราวกับสรวงสวรรค์ที่ถูกจัดตกแต่งประดับประดาด้วยซุ้มไม้เลื้อยเรียงรายเป็นทิวแถว พาให้บรรยากาศร่มรื่นละเมียดละไม เหล่าบรรดาคนรับใช้ชายหญิงเดินกันขวักไขว่อย่างขมีขมันจัดเตรียมสำรับอาหารเลิศรส หัวหน้าพ่อครัวขะมักเขม้นคัดสรรไป่จิ่วชั้นดีเพื่อนำมารับรองแขกผู้มาเยือนในคืนวันเฉลิมฉลองที่เต็มไปด้วยความพิเศษที่ หวังจิ้งเหวินได้รับแต่งตั้งเป็นเตี้ยนจงชื่อยฺวี่ฉื่อ ซึ่งเป็นตำแหน่งขั้นสูงสุดที่สกุลหวังได้รับความไว้วางใจจากองค์จักรพรรดิ
บรรดาเหล่าขุนนางระดับสูงในราชสำนัก รวมถึงคหบดีใหญ่ต่างหัวเมืองที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันต่างก็มาร่วมแสดงความยินดีอย่างพร้อมหน้า สุ้มเสียงที่เต็มไปด้วยความปรีดาปราโมทย์ในวาสนาของผู้นำตระกูลหวังไม่ต่างจากคำสรรเสริญความยิ่งใหญ่ของ แม้ว่าก่อนหน้านี้ตระกูลหวังจะไม่ใช่ตระกูลที่ราชวงศ์โปรดปราน แต่ด้วยคุณธรรมและความสามารถอันล้ำเลิศที่แสดงให้องค์จักรพรรดิได้รู้ทำให้ตระกูลหวังได้ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของราชสำนักในเวลาต่อมา ท่ามกลางคำครหาต่าง ๆ อย่างหนาหู
ยิ่งเมื่อบุคคลไม่ธรรมดาเฉกเช่นองค์ชายสามผู้ไม่โปรดงานสังคม ปรากฏตัวขึ้นในงานเฉลิมฉลองเตี้ยนจงชื่อยฺวี่ฉื่อคนใหม่ยิ่งทำให้ขุนนางอีกฝ่ายที่คอยจับตาความไม่โปร่งใส มุ่งใส่ใจตรวจสอบการได้มาถึงตำแหน่งเตี้ยนจงชื่อยฺวี่ฉื่อในครั้งนี้ของใต้เท้าหวัง ถึงแม้ว่าเหล่าเสนาบดีจะรู้ว่าโอรสที่ให้กำเนิดด้วยไฉเหรินผู้นี้จะไม่ได้รับสำคัญและมีภาระหน้าที่ทางการเมืองใด ๆ นอกจากมีชื่อเหมือนฮ่องเต้ผู้ปกครองแคว้นคนปัจจุบันเพียงเท่านั้น
ทว่า ภายใต้ความไร้ซึ่งความสำคัญนั้นทำให้องค์ชายสามใช้ชีวิตได้อย่างสุขสำราญ ครั้นเมื่อใคร่ขับขานกวีเขาก็รวมตัวกับสหายบัณฑิตซึ่งมากจากตระกูลสูงศักดิ์ในเมืองหลวงได้อย่างไม่ต้องคำนึงถึงว่าจะติดภารกิจใด และเมื่อนึกอยากเล่นหมากล้อมขึ้นมาก็สามารถทำได้ในทันทีอย่างไม่ต้องรีรอ เขาคือองค์ชายที่เปี่ยมไปด้วยวาสนาที่ไม่ต้องลงมือกระทำสิ่งใดแม้แต่น้อย เมื่อเทียบกลับผู้ครองแคว้นที่ต้องรับผิดชอบทุกสิ่งเพื่อให้อาณาประชาราษฎร์ได้อยู่เป็นสุข
เจิ้งหยงเฉียงเดินนำหน้าขันทีคนสนิทเข้ามายังภายในงาน ด้วยอาภรณ์แพรไหมสีน้ำเงินเข้มที่เต็มไปด้วยความเรียบง่ายทว่าประดับด้วยทองคำและหยกชั้นสูงแม้นมองเพียงผิวเผินก็สามารถสัมผัสถึงอำนาจบารมีของสายเลือดมังกรที่ไม่อาจซ่อนเร้นเอาไว้ได้มิด
“คารวะองค์ชาย เป็นพระกรุณาที่พระองค์เสด็จมาด้วยพระองค์เอง กระหม่อมมิได้ตระเตรียมการต้อนรับ ขอพระองค์ได้โปรดประทานอภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ” ชายวัยกลางคนท่าทางซื่อตรงประสานมือ โน้มศีรษะลงด้วยใจคารวะอย่างนอบน้อม
“ไม่ต้องเป็นพิธีให้มาก ราตรีนี้ข้ามาที่นี่เพียงเพื่อร่วมแสดงความยินดีกับตำแหน่งใหม่ของท่านก็เพียงเท่านั้น...” ชายหนุ่มสูงศักดิ์แย้มยิ้มบางเบาด้วยสีหน้าอ่อนโยน แม้จะรู้ว่ายังคงมีสายตาที่เต็มไปด้วยข้อสงสัยของเหล่าขุนนางมุ่งมองมายังตนเองเป็นตาเดียว
งานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไป ภายใต้เสียงเสียงดนตรีบรรเลงกังวานก้องไปทั่วเรือนหลักของตระกูลหวัง กลิ่นเครื่องหอมที่ไม่ได้ฉุนเฉียวบาดจมูก ลอยมาแตะปลายจมูกของชายสูงศักดิ์พร้อมกับสายลมอ่อนที่โชยพัดแผ่วเป็นระลอก ชวนให้จิตใจที่วูบไหวราวกับเปลวเทียนขององค์ชายสามล่องลอยไปกับตามกระแสที่อบอวลนุ่มนวลละมุนละไมแห่งราตรี
‘ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน?’ หญิงสาววัยยี่สิบห้าก้มหน้ามองตัวเองด้วยความมึนงง
ช่อลดากวาดตามองผู้คนที่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าต่างยุคจากที่เธอเคยอยู่ พวกเขาต่างก็กำลังพูดคุยสนทนากันด้วยสีหน้าและท่าทางที่เต็มไปด้วยความรื่นรมย์และเพลิดเพลิน ดูเหมือนว่าในที่นี้คงมีเธอผู้เดียวที่กำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความสับสน ด้วยครุ่นคิดถึงต้นสายแห่งเหตุที่พาตัวเองหลุดเข้ามาในนิยาย
‘หรือนี่คือหลุมดำแห่งเบญจเพส!!’ หญิงสาวพานโทษไปยังความเชื่อที่ถูกฝังหัวมาแต่เล็กแต่น้อย ก็เพราะเธอพึ่งครบรอบไปหมาด ๆ และตอนช่วงเปลี่ยนผ่านก็ราบรื่นไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งเธอมาอยู่ในร่างของ หวังอ้ายหลิงนางร้ายผู้หยิ่งผยองจากนิยายเรื่อง เล่ห์รักพันธนาการหัวใจ แล้วแค่คนทำงานออฟฟิศในยุคปัจจุบันธรรมดาอย่างเธอจะต้านทานชะตาฟ้าลิขิตได้อย่างไรกัน
ช่อลดาจึงได้แต่นั่งตัวแข็งทื่อขบคิดเรื่องราวอันบ้าบอที่ได้เกิดขึ้นกับตนเอง และในขณะนั้นเองหญิงแรกรุ่นก็เดินตรงดิ่งเข้ามาหาเธอ
“คุณหนูหวังเจ้าคะ”
ช่อลดาเบิกตากว้างเหลือบตาขึ้นมองเจ้าของน้ำเสียงหวานตรงหน้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“คุณหนูเป็นอะไรไปหรือเจ้าคะ ใบหน้าซีดเซียวราวกับไม่สบายเช่นนั้น”
สาวรับใช้ส่งเสียงถามด้วยความห่วงใยสีหน้าแฝงความสับสนเล็กน้อย สองตาจับสังเกตอากัปกริยาด้วยรู้ดีว่าผู้เป็นนายของตนติดนิสัยเจ้าเล่ห์ร้ายกาจอยู่ระดับหนึ่ง
“ขอบใจ ฉันสบายดี” ช่อลดาสื่อสารผ่านร่างของหวังอ้ายหลิง
แม้เนื้อเสียงจะไม่ได้เปลี่ยนไป ทว่าจังหวะที่แผ่วเบาผ่านลมปากที่เคยเจรจาด้วยลีลาร้ายกาจเพียงเท่านั้นก็ทำให้สาวใช้ที่รับใช้ใกล้ชิด สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างน่าประหลาดใจ
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?