ตอนที่ 9 วิธีแก้เผ็ด

กว่ามีอาจะค่อยยังชั่วกับอาการเผ็ดที่ทำให้ปากบวมเจ่ออย่างเห็นได้ชัด ปกรณ์ก็ไม่สามารถที่จะนั่งลงกินข้าวแล้วปล่อยให้แม่เมียจอมดื้อทุรนทุรายกับอาการเผ็ดได้

“คุณต้องทำอย่างนี้ อ้าปาก ปล่อยให้น้ำลายไหลออกมา ทนเผ็ดแค่ตอนนี้ไม่นานจะหาย ขืนคุณดื่มน้ำเย็นไปแบบนี้ นอกจากจะไม่หายเผ็ดแล้ว คุณจะจุกเพราะดื่มน้ำจนเต็มท้อง” ปกรณ์อธิบายวิธีการแก้เผ็ดให้คุณหนูขี้วีน

มีอาหันกลับมาค้อนคนเถื่อนรอบหนึ่งและไม่ยอมทำตาม

เชื่อเธอเลย พูดเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาเป็นยังไง ปกรณ์ได้รู้วันนี้แหละ ทำไมเมียเขาถึงดื้อขนาดนี้นะ

สุดท้ายมีอาทนไม่ไหว จุกเพราะดื่มน้ำไปจนเต็มท้องแต่ปากยังรู้สึกไหม้อยู่เลย

“ไม่ไหวแล้ว มีวิธีไหนอีกบ้างที่ไม่ต้องทำท่าน่าเกลียดแบบนั้น ใครจะไปทำลงกัน”

“วิธีสุดท้ายแล้ว นี่เลย”

ปกรณ์ยื่นขวดเกลือที่วางอยู่บนโต๊ะกินข้าวให้หญิงสาว

มีอามองหน้าแล้วเลิกคิ้วเหมือนถามว่า เอาเกลือมาทำไม

“ยื่นมือมา” ปกรณ์สั่ง

มีอายื่นมือขวาของตนออกไป เพราะเธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าเอาเกลือมาทำไม

ปกรณ์เทเกลือลงบนฝ่ามือของหญิงสาว

“เลียเกลือเข้าไปทั้งหมด เดี๋ยวนี้ และห้ามคาย”

ปกรณ์มองหน้าหญิงสาว เขาบังคับด้วยสายตาว่าให้ทำตาม อย่าได้มีคำถาม

มีอาใช้ลิ้นเลียเกลือบนฝ่ามือทั้งหมด ก่อนจะลุกไปถ่มเกลือออกจากปาก แต่ถูกคนเถื่อนเอื้อมมือมารั้งไว้

“ผมบอกว่าห้ามคายทิ้งไง อมเอาไว้แป๊บเดียว” ปกรณ์ยื่นมือไปปิดปากเมียจอมดื้อไว้ มีอาได้แต่อึกอักในลำคอ แต่ผ่านไปไม่นาน ชายหนุ่มก็ยื่นแก้วน้ำให้

“กลั้วปากทิ้งได้ คุณคงหายเผ็ดแล้ว”

มีอารับแก้วน้ำมากลั้วล้างเกลือออกจากปาก ก่อนที่จะลุกไปถ่มทิ้ง

“เอ๊ะ!! หายเผ็ดแล้ว นายรู้ได้ไง”

มีอาเดินกลับมาที่โต๊ะกินข้าว เอ่ยชมคนเถื่อน

“เพราะความเค็มของเกลือไปสั่งให้สมองลืมรสเผ็ดและรับรู้รสเค็มแทนไงละ อีกอย่างคุณดื่มน้ำเย็นไปตั้งเยอะ มันคงพอช่วยบรรเทาไปบ้างแล้ว ตอนนี้เป็นไงบ้าง ดีขึ้นยัง” ปกรณ์อธิบายให้หญิงสาวฟัง

“ดีขึ้นแล้วค่ะ แต่ลิ้นไม่รับรู้รสชาติแล้ว มันขม มันเฝื่อนไปหมด”

“ดี จะได้จำ ผมเตือนคุณแล้ว รอบหน้าอย่าดื้อ เพราะถ้าขืนผมบอกอะไรไม่ทำตาม รู้ใช่ไหมว่าจะลงโทษยังไง” ปกรณ์ส่งเสียงเข้มพร้อมกับมองสำรวจหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาราวหมาป่าผู้หิวโหย

"รู้แล้ว กินข้าวได้ยัง หิวสุด ๆ” มีอาเปลี่ยนเรื่องคุยเมื่อเห็นว่าตนเองกำลังเสียเปรียบ

อาหารตอนนี้เย็นไปหมดแล้ว ปกรณ์เลยรับอาสาเอาไปอุ่นในครัวอีกครั้ง

ทั้งสองคนนั่งทานอาหารเงียบ ๆ เหมือนแต่ละคนต่างใช้ความคิดอยู่ในโลกของตนเอง ในส่วนลึกแล้วต่างตระหนักได้ว่า หลังจบมื้อกลางวัน พวกเขาต้องตัดสินใจเรื่องใหญ่และสำคัญในชีวิต

หลังจบมื้อกลางวัน ปกรณ์กับมีอาย้ายมานั่งข้างกระท่อมที่จัดไว้เป็นมุมพักผ่อน มีผ้าใบสีขาวขึงเป็นเหมือนกระโจมป้องกันแสงแดด มีโซฟาบุนวมนิ่มสบาย

การได้นั่งมองคลื่นที่เคลื่อนตัวเข้ามากระทบฝั่งและลอยกลับไป เสียงซ่า ๆ ที่ได้ยินอย่างชัดเจน ช่วยทำให้บรรยากาศระหว่างสองคนดูสบาย ๆ ลุงเที่ยงเดินมาเสิร์ฟน้ำดอกอัญชันโซดา สีฟ้าสวยหวาน ๆ ให้กับทั้งสองคน ก่อนที่จะเดินกลับไปที่บ้านพักของตนเอง

“ผมว่ามันคงถึงเวลาที่เราต้องมาคุยกันอย่างเปิดใจแล้วนะ” ปกรณ์เอ่ยขึ้นมาเป็นคนแรก

“อือ” มีอาตอบรับแต่ยังไม่หันหน้าไปมองคนบอก เธอนอนหลับตาฟังเสียงคลื่นซัดสาดเข้าฝั่งอย่างผ่อนคลาย

“งั้นลืมตา แล้วมาคุยกันดี ๆ” ปกรณ์สั่งเสียงเข้ม

“อ้อ แล้วอย่าดื้อ ผมซีเรียสนะ”

มีอาลืมตา ลุกขึ้นนั่งอย่างดี หันหน้าเข้าหาคนเถื่อน เพราะคุยตอนนี้หรือยื้อเวลาออกไป สุดท้ายก็ต้องคุยกันอยู่ดี เธออยากกลับบ้านแล้ว

“ที่นี่คือเกาะนางไม้ ผมชื่อปกรณ์ อายุ 33 ปี ยังไม่ได้แต่งงาน ไม่มีคู่หมั้น หรือคนรัก”

“สมควรแล้วที่ยังไม่มีแฟน หน้าตายังกะโจรสลัด ใครอยากจะมีแฟนแบบนี้” มีอาบ่นเบา ๆ

“ผมได้ยินนะ”

“เหอะ” มีอายู่หน้า พ่นลมออกมาจากจมูกเบา ๆ ด้วยอาการหมั่นไส้คนหูดี

“ฉันชื่อมีอา อายุ 23 ปี เป็นคนอังกฤษ มาพักร้อนที่ไทย ฉันมาหาลูกพี่ลูกน้องของฉัน เขามาพักร้อนที่นี่เหมือนกัน แต่ตอนนี้หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ตามหาตัวไม่เจอ เห็นบอกว่าเจอผู้หญิงไทยที่ถูกใจเลยจะไปตามหารักแท้อะไรนี่แหละ” มีอาแนะนำตัวเองสั้น ๆ

“ผมขอโทษที่ล่วงเกินคุณ ผมไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ ในตอนนั้นผมคิดแค่อย่างเดียวว่าทนเห็นคุณต้องตื่นขึ้นมาในซ่องที่มาเลย์ไม่ได้ ความจริงมันมีตั้งหลายวิธีที่จะช่วยคุณ แต่ผมมันคนเห็นแก่ตัว อ้างเหตุผลงี่เง่าเหล่านั้น ผมยินดีรับผิดชอบทุกการกระทำ ขอแค่คุณบอกมาว่าต้องการให้ผมทำยังไง ผมพร้อมและยินดีทำ”

“นายยินดีทำตามที่ฉันบอกจริงหรือเปล่า”

“ใช่”

“ดี ง่าย ๆ เลยนะ แค่นายพาฉันไปส่งที่โรงแรม แล้วเรื่องที่ผ่านมาสองสามวันนี้ฉันจะถือว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น”

“คุณโอเคและลืมได้ง่าย ๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเรางั้นหรือ”

“ฉันมีทางเลือกไหมละ นี่นายอย่าบอกนะว่านายจริงจัง นายคงไม่คิดจะให้พวกเราแต่งงานกันเพียงแค่เพราะฉันเสียพรหมจรรย์และมีเซ็กกับนายไม่กี่ครั้งนะ บ้าน่า ตลกชะมัด” มีอาถามคนเถื่อนด้วยสายตาเหยียดหยาม

“คุณว่ามันตลกงั้นเหรอ เรื่องที่เกิดขึ้นมันคงไม่มีความหมายอะไรกับคุณเลยสินะ”

ปกรณ์รู้สึกโมโหกับคำตอบของหญิงสาวตรงหน้า ชายหนุ่มเอื้อมมือไปจับต้นแขนหญิงสาวไว้แล้วบีบอย่างแรงตามอารมณ์ที่ปะทุขึ้นมา

เพียงแค่ได้ยินเธอบอกว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น มันกลับทำให้เขารู้สึกโกรธได้ถึงเพียงนี้เชียวเหรอ

เขาตกหลุมรักแม่สาวขี้วีนหรือนี่

ปกรณ์ตกใจกับความคิดของตัวเอง เลยยิ่งเผลอเพิ่มแรงบีบที่แขนมีอามากขึ้นไปอีก

“โอ้ย เจ็บนะ” มีอาร้องเสียงหลง

ปกรณ์ได้สติจึงปล่อยมือที่จับแขนขาว ๆ ของหญิงสาวออก

“ได้ ไม่มีปัญหาที่คุณจะไม่ให้ผมรับผิดชอบ ก็ดีเหมือนกัน แต่เรื่องนี้คุณต้องรับผิดชอบผม เพราะผมจะไม่ยอมเสียตัวฟรี ๆ แน่” ปกรณ์บอกเสียงดุ

“ห๊ะ ว่าไงนะ นายจะบ้าหรือเปล่า”

มีอาที่กำลังลูบแขนตัวเองป้อย ๆ และพึ่งหายตกใจจากท่าทางฉุนเฉียวของชายหนุ่มกลับต้องมาตกตะลึงเมื่อได้ฟังข้อเรียกร้องที่แปลกประหลาดนี้

“ผมไม่ได้บ้าและไม่ได้ล้อเล่น ผมอุตส่าห์เสี่ยงช่วยคุณมาจากพวกค้ามนุษย์ เกิดวันหลังพวกมันอยากแก้แค้นผมจะทำยังไง ชีวิตผมไม่ปลอดภัยแล้ว ผมต้องเปลืองตัวช่วยคุณจากยาบ้า ๆ นั่นอีก รู้ไหมผมเสียพลังงานไปตั้งเท่าไร ดังนั้นคุณต้องรับผิดชอบผม”

“ไอ้บ้า ไอ้คนเถื่อน ทำไมนายมันหน้าด้านขนาดนี้ ฉันเป็นผู้หญิง นายเป็นผู้ชาย มีตรงไหนเสียหาย แล้วที่ฉันต้องเสียครั้งแรกของตัวเองให้นาย มันยังไม่เพียงพออีกเหรอ”

“อ้าว ยัยคุณหนูขี้วีน เสียจิ้นให้ผมคนเดียวดีกว่าถูกผู้ชายรุมโทรมทั้งซ่องนะ หรือคุณชอบแบบนั้น”

“ฉันจะรับผิดชอบก็ได้ บอกมาต้องการเงินเท่าไหร่ ฉันยินดีจ่ายให้นายโดยไม่ต่อรองแม้แต่บาทเดียว แต่นายต้องพาฉันไปส่งที่โรงแรมวันพรุ่งนี้”

ปกรณ์เมื่อได้ยินว่าแม่เมียจอมดื้อตีราคาความสาวของตนเองเป็นเงิน แล้วยังจะใช้เงินฟาดหัวเขาให้จบปัญหา ถึงกับเลือดขึ้นหน้าขึ้นมาอีกครั้ง

“ผมบอกคุณเมื่อไหร่ว่าผมต้องการเงิน การที่ผมเป็นเจ้าของเกาะส่วนตัวนี้ รวมถึงโรงแรมที่คุณพักนั่น มันไม่ได้บอกคุณบ้างเหรอไงว่าเงินผมมีเยอะจนใช้ไปสิบชาติก็ไม่หมด แล้วผมจะเอาเงินของคุณมาทำไม ผมต้องการความรับผิดชอบคือการแต่งงานต่างหาก”

“จะบ้าเหรอไง เราสองคนไม่เคยรู้จักกัน ไม่เคยได้เรียนรู้กันและกัน ฉันแค่มีเซ็กซ์กับคุณไม่กี่ครั้ง นี่ฉันต้องรับผิดชอบด้วยการเอาชีวิตทั้งชีวิตของฉันมาจมกับคนเถื่อนแบบนายนี้นะ มันจะบ้าเกินไปแล้ว” มีอาเถียงกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน

“ไม่มีปัญหาถ้าเราจะเริ่มเรียนรู้กันและกัน ลองคบกันไปก่อนก็ดีเหมือนกัน ผมว่ามันไม่น่าจะใช่เรื่องยากอะไรนะ อย่างน้อยเราสองคนก็เข้ากันได้ดี หรือคุณจะเถียงว่าไม่จริง”

ปกรณ์ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าแสนสวยของหญิงสาว มองสำรวจร่างบางตั้งแต่หัวจรดเท้าไปสองรอบ พร้อมส่งรอยยิ้มกวน ๆ และสายตาที่บ่งบอกถึงความปรารถนาอย่างแรงกล้า

คำพูดแบบโจ่งครึ่มและอาการหื่นของคนเถื่อนถึงกับทำเอาหญิงสาวหน้าแดงด้วยความอาย แม้ว่าเรื่องเพศศึกษามันจะเป็นเรื่องธรรมดามาก ๆ ในบ้านเมืองของเธอ แต่เธอรู้แค่ทฤษฎี ไม่เคยได้ปฏิบัติ ต่อให้จะเปิดกว้างแค่ไหน เธอก็ยังคงรู้สึกอายอยู่ไม่น้อย

“ไม่ ฉันไม่ต้องการเรียนรู้หรือคบกับนาย นายไม่ใช่สเปคของฉัน ไม่มีใครอยากมีแฟนเป็นคนเถื่อนแบบนายหรอก” มีอาปฏิเสธเสียงแข็ง

“อีกแล้วนะ คำก็คนเถื่อน สองคำก็คนเถื่อน เป็นคนเถื่อนแบบผมแล้วมันเป็นยังไง ฮึ”

“น่าเกลียด จะแต่งงานกันได้ยังไง ฉันมีสังคมของฉัน ฉันอยู่ที่นี่ตลอดชีวิตไม่ได้หรอกนะ นายควรจะลืมมันไปซะ เรื่องที่เกิดขึ้น ฉันก็จะลืมเช่นกัน และคนที่ควรเรียกร้องความรับผิดชอบมันควรเป็นฉันที่เป็นผู้หญิงมากกว่านายนะ”

“สรุปว่าจะกลับไปให้ได้ใช่ไหม ได้ งั้นอย่าหวังจะได้ออกไปจากเกาะนี้เลย ผมอยากรู้เหมือนกันว่าคุณจะกลับไปบนฝั่งยังไง บอกให้ลองคบกันก่อนดี ๆ ไม่ชอบ ชอบให้บังคับ มาลองดูสิว่าถ้าคุณท้องเจ้าตัวเล็กให้ผมสักสองสามคน คุณยังคิดจะหนีไปจากผมอีกไหม” ปกรณ์พูดเพียงแค่นั้นก็เดินออกไปจากมุมพักผ่อนทันที เขาไม่อยากจะทะเลาะกับหญิงสาวให้ตนเองโมโหไปมากกว่านี้

มันรู้สึกหงุดหงิดและโมโห อารมณ์มาจากไหนเขาก็บอกไม่ได้ รู้แต่ว่าถ้ายังคุยกันต่อไป คงไม่พ้นได้บีบคอยัยเมียจอมดื้อเป็นแน่

“เฮ้ นาย กลับมาคุยกันให้รู้เรื่องนะ นายจะทำแบบนี้ได้ยังไง นายจะขังฉันไว้บนเกาะนี้ไม่ได้ มันผิดกฎหมาย คอยดูเถอะ ฉันจะหนี” มีอาตะโกนเรียกปกรณ์ แต่เหมือนเธอจะพูดอยู่คนเดียวเพราะตอนนี้มีอามองไม่เห็นหลังคนเถื่อนแล้ว

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ