ตอนที่ 2 เดี๋ยวองค์จะลง

ณ โรงแรมรัชโยกุล รีสอร์ท แอนด์ สปา

@แผนกต้อนรับ

มีอาเดินทางมาถึงจังหวัดภูเก็ตเป็นที่เรียบร้อย แต่สิ่งที่ทำให้เธอฉุนเฉียวอยู่ในตอนนี้ เป็นเพราะเธอไม่สามารถเข้าพักในห้องพักของพี่อีริคได้

“ว่าไงนะ เช็กอีกทีสิ คนทั้งคนมันจะหายไปได้ยังไง ทำไมฉันจะพักกับพี่ชายไม่ได้” มีอายืนเถียงหน้าดำหน้าแดงอยู่หน้าเคาท์เตอร์แผนกต้อนรับของโรงแรม

“ทางโรงแรมต้องขอโทษด้วยจริง ๆ นะคะมิส ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของห้อง ดิฉันไม่สามารถให้กุญแจห้องของลูกค้ากับมิสได้ค่ะ” พนักงานต้อนรับหญิงพยายามอธิบายอย่างใจเย็น

“เฮ้อ ช่างเถอะ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เปิดห้องใหม่ก็แล้วกัน ขอเป็นห้องเพรสสิเด้นท์นะ” เมื่อเข้าพักกับพี่ชายไม่ได้ เธอจึงตัดสินใจเปิดห้องพักเอง

“มิสคะ ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ค่ะ ช่วงนี้ห้องพักเต็มหมดเลย ทางเราต้องเก็บห้องไว้ให้กับแขกที่ทำการจองก่อนนะคะ ทางเรายังไม่เปิดวอล์คอินค่ะ”

“อะไรกันเนี่ย ฉันเดินทางมาตั้งไกล พี่ชายก็หาไม่เจอ เปิดห้องเองก็ไม่มีห้อง แล้วจะให้ทำยังไง” มีอาถามอย่างหัวเสีย

“มิสเตอร์คอลลินส์ทำการจ่ายเงินค่าห้องพักไว้เรียบร้อยแล้วและแจ้งเอาไว้ว่าอาจจะไม่ได้กลับเข้ามาพัก แต่ให้เก็บห้องไว้ตามปกติ เราจึงไม่สามารถทำการเปิดห้องให้คุณลูกค้าได้ ต้องขออภัยอีกครั้งนะคะ”

“ไม่รู้ล่ะ ฉันจะพักที่ห้องของพี่อีริค ฉันจะไม่ยอมออกไปจากโรงแรมนี้แน่นอน” มีอายังคงยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“งั้นกรุณารอสักครู่ ดิฉันขอปรึกษาหัวหน้าก่อนนะคะ” พนักงานต้อนรับเดินกลับเข้าไปในห้องหัวหน้า เธอเล่าเหตุการณ์ให้ฟังและให้ออกมาช่วยตัดสินใจ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดอยู่ในสายตาของปกรณ์ วันนี้ชายหนุ่มมีโอกาสได้เข้ามาที่โรงแรมเพื่อเซ็นเอกสารบางอย่าง

ถึงแม้ว่าปวิช พี่ชายของเขาจะเป็นคนดูแลธุรกิจโรงแรม แต่เขาก็มีหุ้นอยู่และมีตำแหน่งเป็นถึงรองประธาน จึงหลีกเลี่ยงงานเอกสารต่าง ๆ ที่ต้องการความเห็นชอบจากเขาบ้างเป็นครั้งคราวไม่ได้

ปกรณ์เรียกหัวหน้าแผนกต้อนรับมาสอบถามทันทีเมื่อเห็นว่าเริ่มมีความวุ่นวายย่อม ๆ เกิดขึ้น

“เกิดอะไรขึ้นคุณมนตรี”

“มีลูกค้าต้องการเข้าพักในห้องของแขกที่มาพักอยู่ก่อนแล้ว ทางเราแจ้งว่าให้ไม่ได้ ต้องได้รับอนุญาตจากแขกก่อน เธอจึงต้องการเปิดห้องเพรสสิเด้นท์ แต่ว่าช่วงนี้ ห้องพักเต็มหมดเลยครับ นายหัว ถ้าผมเปิดห้องแขกให้พัก เกรงว่าอาจจะเป็นพวกต้มตุ่นหรือเปล่า” มนตรี หัวหน้าแผนกต้อนรับอธิบายด้วยสีหน้ากลืนไม่เข้า คายไม่ออก

“คุณมนตรีรู้ได้ไงครับว่าแขกคนก่อนจะไม่เข้ามาพักอีกนาน” ปกรณ์ถามด้วยความสงสัย

“เพราะเขาโทรมาแจ้งไว้ครับ แต่ไม่ได้แจ้งว่าจะมีคนตามมาทีหลัง”

“เอาอย่างนี้ คุณมนตรีให้แม่บ้านไปเก็บสัมภาระของแขกคนแรกลงกระเป๋า เอาไปเก็บไว้ในห้องดีลักซ์ ถ้าห้องไม่ว่าง ก็เอาไปเก็บไว้ที่บ้านผม แล้วเปิดห้องเพรสสิเด้นท์ขายให้กับเธอไปในราคาเต็ม

ถ้าแขกคนแรกกลับมาแล้วเห็นเธอ และถ้าเธอพูดความจริงก็ไม่มีปัญหา ให้ทางโรงแรมคืนค่าห้องเพรสสิเด้นท์ไป แล้วคิดแต่ค่าห้องดีลักซ์นั่น แต่ถ้าเธอเป็นพวกต้มตุ๋น แอบเนียนมาพักฟรี เธอต้องไม่มีเงินจ่ายค่าห้องแน่นอน ก็ให้ขู่ว่าจะแจ้งตำรวจ” ปกรณ์อธิบาย

“โห นายหัว สุดยอดเลยครับ ขอบคุณที่ช่วยแก้ปัญหาให้นะครับ ผมนี่กลัวที่สุดเลยผู้หญิงดื้อ” มนตรีกล่าวขอบคุณชายหนุ่มที่ช่วยเขาแก้ปัญหา เพราะเขาก็จนปัญญา ไม่รู้ว่าจะรับมือกับสถาณการณ์นี้อย่างไรเช่นกัน

“ไม่เป็นไร รีบไปเถอะครับก่อนที่เธอจะองค์ลงชะก่อน” ปกรณ์พูดจบแล้วก็หันหลังเดินออกไปจากโรงแรมเพื่อเข้าไปหามารดาที่บ้านต่อไป

มีอาที่ตอนนี้กำลังนั่งอยู่บนโซฟาหรูในห้องเพรสสิเด้นท์ กำลังฟ้องเรื่องที่เกิดขึ้นกับมาดามเซรีน่าอย่างอารมณ์เสีย

“คุณป้าดูสิคะ พี่อีริคหายไปไหนไม่รู้ ที่ห้องก็ไม่มี มีอาทั้งส่งอีเมล์ ทั้งโทรหา ติดต่อพี่อีริคไม่ได้สักทาง แถมยังมาเจอโรงแรมงี่เง่านี่อีก ไม่รู้มีอาคิดถูกหรือคิดผิดที่ตามพี่อีริคมาเที่ยวที่ไทย”

“มีอาลูก ใจเย็น ๆ ก่อน ตอนนี้หนูก็ได้ห้องพักแล้วนี่จ๊ะ ส่วนเรื่องอีริค หนูไม่ต้องเป็นห่วงพี่เขานะ พี่เขาส่งอีเมลมาบอกป้าแล้ว ว่าถูกปล้น คนร้ายเอากระเป๋าเงินไป บัตรเครดิตต่าง ๆ ที่อยู่ในกระเป๋าก็ถูกขโมยไปด้วย โชคดีที่พาสปอร์ตไม่หาย

พี่อีริคของมีอาน่ะ เห็นว่าได้ผู้หญิงที่เขาสนใจช่วยเอาไว้ ตอนนี้ก็พักอยู่กับผู้หญิงคนนั้น คงกำลังจีบสาวอยู่ละมั้ง ส่วนจะเป็นยังไงต่อป้าก็ไม่รู้เหมือนกัน คงได้แต่รอให้อีริคติดต่อมาก่อนนั่นแหละ” มาดามเซรีน่าอธิบายให้หลานสาวฟัง

“โธ่ แบบนี้ก็ติดต่อพี่อีริคไม่ได้น่ะสิคะ คงไม่มีโทรศัพท์ เดี๋ยวมีอาฝากเงินสดกับมือถือให้พี่อีริคไว้ที่แผนกต้อนรับดีกว่า อย่างน้อยถ้าพี่อีริคมาที่โรงแรม จะได้มีเงินไว้ใช้และมีโทรศัพท์ติดต่อพวกเราได้” มีอาเสนอความคิดแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้มาดามเซรีน่าฟัง

“ป้าเห็นด้วยและขอบใจมากนะจ้ะ อย่างน้อยเขาจะได้มีเงินไว้ใช้ มีอาก็รอเจอพี่อีริคก่อนละกันนะ เผื่อมีปัญหาอะไรจะได้ช่วยเหลือกันได้”

“ค่ะคุณป้า ถ้ามีเรื่องคืบหน้าเดี๋ยวมีอาแจ้งให้คุณป้าทราบทันทีเลยค่ะ รักคุณป้านะคะ”

“จ้ะ รักมีอาเช่นกัน”

หลังจากที่วางสายจากการโทรรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับมาดามเซรีน่าฟังแล้ว มีอาก็เหนื่อยเกินกว่าจะออกไปไหนได้ เธอจึงเลือกที่จะพักผ่อนอยู่ที่โรงแรม จัดกระเป๋าเสื้อผ้า นำของมีค่า เงินสด และพาสปอร์ตเก็บไว้ในตู้นิรภัยของทางโรงแรม

เมื่อจัดการข้าวของต่าง ๆ ของตัวเองเสร็จเรียบร้อย หญิงสาวจึงเปลี่ยนใส่ชุดว่ายน้ำ เดินลงไปที่สระของทางโรงแรม ทาโลชั่นบำรุงผิวแล้วนอนอาบแดดอยู่ข้างสระน้ำในโรงแรมตลอดบ่าย ตกเย็นก็สั่งอาหารมาทานที่ห้อง เตรียมความพร้อมสำหรับการลุยเที่ยวดูวิถีชีวิตคนที่นี่ในวันพรุ่งนี้อย่างเต็มที่

เวลาบ่ายกว่า ๆ ปกรณ์เดินเข้าไปในบ้านของตนเอง แต่จะเรียกว่าบ้านก็ไม่ถูกนัก เรียกว่าคฤหาสน์น่าจะเหมาะกว่า

ตัวอาคารตั้งอยู่บนเชิงเขา มองลงมาเห็นวิวเมืองและหาดป่าตองอย่างชัดเจน คฤหาสน์หรู 3 ชั้นออกแบบสไตล์สเปนิชบนพื้นที่เกือบ 800ตารางวา

เมื่อปกรณ์เดินเข้ามาถึงห้องนั่งเล่น ภาพที่ปรากฏต่อหน้าคือ นายหัวปกป้องกำลังเล่นอยู่กับน้องปัน หลานชายคนเดียวที่เพิ่งกลับมาจากโรงเรียน ปู่หลานคุยกันหนุงหนิง เล่นหุ่นยนต์ตัวโปรดบนพื้นห้องนั่งเล่นของบ้าน

“อ้าว ตากร วันนี้ลมอะไรหอบแกออกมาจากเกาะได้ล่ะ” นายหัวปกป้องเอ่ยทัก หลังเห็นว่าเจ้าลูกชายตัวดีที่หายหน้าไปนานกำลังเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น

“คุณพ่อสวัสดีครับ” ปกรณ์ยกมือขึ้นไหว้และเอ่ยทักทายบิดา ก่อนที่จะนั่งลงข้าง ๆ หลานชาย

“อากร สวัสดีครับ” น้องปันยกมือไหว้คุณอาหน้าโหด ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปนั่งตักคุณอาแล้วหอมแก้มไปสองทีแบบหนัก ๆ

“น้องปันสวัสดีครับ เป็นไงเรา จะอ้อนเอาอะไรครับ” ปกรณ์หอมแก้มน้องปันกลับ แต่กลับถูกน้องปันหลานรักเบือนหน้าหนี เพราะหนวดเคราที่ไม่ได้โกนทิ่มผิวเด็กชาย

“อากร ไม่หอมแก้มครับ ปันจักกะจี้” น้องปันเบือนหน้าออกพร้อมหัวเราะคิกคัก

“น้องปัน อากรขอโทษครับ อากรรีบมาเลยไม่ได้โกนหนวดเลย”

ขณะที่ปกรณ์กำลังเอ่ยขอโทษหลานชายด้วยท่าทีรู้สึกผิดอย่างน่าสงสาร หญิงวัยชราที่ยังคงรูปร่างดี แต่งกายด้วยชุดที่ตัดเย็บอย่างประณีตเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น มีสาวใช้ถือถาดที่ใส่จานขนมทานเล่นน่าตาน่าทาน พร้อมแก้วน้ำผลไม้สีแดงสวยตามหลังมา

“อ้าวคุณปก ต้องขอโทษด้วยที่เข้ามารบกวน ฉันไม่นึกว่าจะมีแขกมาที่เยี่ยมที่บ้าน” หญิงวัยชราเอ่ยออกมาด้วยภาษาไทยที่สำเนียงชัดเจน ฉะฉาน ไม่น้อยหน้าเจ้าของภาษาเลยทีเดียว

มาเรียเดินมานั่งข้าง ๆ สามี ก่อนที่จะให้คนรับใช้วางจานขนมและน้ำดื่มให้หลานชายได้กินรองท้อง

ปกรณ์ได้ยินดังนั้นจึงรู้ว่ามารดาตนเององค์คงลงอีกแล้ว เพราะเธอมักจะน้อยใจเสมอเมื่อเขาไม่ค่อยได้กลับบ้าน ชายหนุ่มวางหลานชายไว้บนโซฟา ส่วนตนเองเดินไปนั่งข้าง ๆ มารดา

“โธ่ มัมครับ อย่าโกรธผมเลยน๊า ผมคิดถึงมัมกับคุณพ่อนะครับ คิดถึงพี่วิช น้องปัน พี่นรีด้วย แต่ผมงานยุ่งม๊ากมากครับ วันนี้เลยกะจะมาค้างที่บ้านหลายวันให้มัมเหม็นหน้าไปเลย ดีไหมครับ”

ปกรณ์เข้าไปกอดมารดาพร้อมกับวางศีรษะไว้บนไหล่บาง เอ่ยออดอ้อนผู้เป็นแม่เหมือนกับสมัยที่ตนเองยังเป็นเด็กชายตัวน้อย

มาเรียเห็นท่าทางออดอ้อนของลูกชายคนเล็กก็โกรธไม่ลง ยิ่งเป็นห่วงมากไปอีกเมื่อหันหน้ามาสำรวจลูกชาย

“นี่ผอมลงไปหรือเปล่า ได้กินข้าวตรงเวลาไหม นิ่มไม่ดูแลลูกเลยเหรอหึ” มาเรียเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

“ป้านิ่มดูแลผมดีมากครับ เหมือนมัมคนที่สองเลย แต่ว่างานยุ่งมากจริง ๆ ยิ่งหน้าท่องเที่ยวแบบนี้มีปัญหาให้แก้ไม่เว้นแต่ละวัน สวนน้ำนี่แทบจะรองรับนักท่องเที่ยวไม่ไหวแล้วครับ”

“หาคนช่วยดีไหมตากร เงินเราก็มีเยอะแยะ รักษาสุขภาพบ้างนะ ถ้าไม่ไหวพ่อว่าหาผู้ช่วยเถอะ ดูพี่ชายเราสิ มีผู้ช่วยตั้งสามคน” นายหัวปกป้องถามลูกชายด้วยความเป็นห่วงไม่ต่างกัน

“ผมยังไหวครับคุณพ่อ ถ้าไม่ไหวจริง ๆ เดี๋ยวผมจะพิจารณารับผู้ช่วยละกันนะครับ ขอบคุณมัมกับคุณพ่อที่เป็นห่วงครับ” ปกรณ์เอ่ยแบ่งรับแบ่งสู้ เขายังสนุกกับงาน อายุยังน้อย งานแค่นี้ไม่คณนามือเขาหรอก

“อากรฮะ มาเล่นกัน คุณพ่อให้หุ่นยนต์ตัวใหม่มา มันมีไฟกระพริบด้วยฮะ” น้องปันที่เห็นผู้ใหญ่ดูเคร่งเครียด จึงเอ่ยชวนคุณอามาเล่นกัน เอ่ยชวนเสร็จก็อ้าปากรอรับขนมที่สาวใช้ป้อนไปด้วย

“กรไปเล่นกับน้องปันเถอะ มัมจะไปเตรียมอาหารเย็นเลี้ยงฉลองที่กรมาค้างกับมัม คุณปกละคะ จะไปช่วยฉันทำอาหารไหม หรือจะอยู่คุยกับตากร” มาเรียถามสองพ่อลูก

“ผมไปช่วยคุณทำอาหารมื้อเย็นดีกว่า ว่าแล้วก็คิดถึงสมัยตอนที่เรายังไม่มีลูกเนาะ” นายหัวปกป้องเอ่ยตอบภรรยา ส่งสายตากรุ่มกริ่มไปให้ มาเรียถึงกับหน้าแดงเพราะเข้าใจความหมายที่สามีสื่อออกมา

มันเป็นเรื่องสมัยเมื่อนานมาแล้วที่สามีของเธอมักจะช่วยทำอาหาร แต่เมื่ออาหารเสร็จ แทนที่จะกินอาหาร แม่ครัวอย่างเธอเป็นต้องโดนจับกินก่อนทุกมื้อไป

“คุณปก พูดอะไรออกมา!” มาเรียอายมาก จึงรีบลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปทางห้องครัว

“หึ หึ” ปกป้องหัวเราะอย่างอารมณ์ดีแล้วเดินตามภรรยาไปอีกคน

ปกรณ์กับน้องปันจึงเล่นหุ่นยนต์ด้วยกันอย่างสนุกสนาน

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ