ตอนที่ 10 ปรับความเข้าใจ

มีอานั่งลงที่โซฟาอีกครั้ง เธอรู้สึกหมดแรงและเสียใจกับการมาพักร้อนที่ประเทศไทยในครั้งนี้

ทำไมเธอไม่เชื่อฟังคำเตือนของบิดา ทำไมเธอถึงรั้นมาจนได้เรื่อง คนเถื่อนถึงแม้ว่าจะหน้าตาดูไม่ได้ แต่เขาดูเหมือนจะเป็นคนดีคนหนึ่ง ดูได้จากที่เขาช่วยเธอไว้ที่ผับในคืนนั้น และยังดูแลตอนที่เธอไม่สบาย

ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยได้สติแต่ยังพอรู้เรื่องบ้าง ถ้าตัดอคติต่าง ๆ เรื่องรูปร่างหน้าตาหรือสเปคแบบพี่อีริคออกไป คนเถื่อนก็ไม่ได้ดูแย่ขนาดนั้น เธอต้องขอบคุณเขามากกว่าที่ช่วยเธอไว้

สิ่งที่ควรทำตอนนี้คือตั้งสติ และหาทางให้คนเถื่อนปล่อยเธอออกจากเกาะและขึ้นฝั่งไปให้ได้ เมื่อถึงฝั่ง เธอสามารถบินกลับอังกฤษโดยไม่ต้องกังวลถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่

“แหม่ม แหม่มคะ”

มีอาที่กำลังนั่งคิดถึงวิธีการเอาตัวรอดออกไปจากเกาะเงียบ ๆ คนเดียว ถึงกับสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีผู้หญิงท่าทางมีอายุคนหนึ่งเดินมานั่งใกล้ ๆ

“ขอป้านั่งด้วยคนได้ไหม” ภาษาอังกฤษสำเนียงเอเชียที่ดีระดับหนึ่งทำให้มีอาเงยหน้ามอง

“เชิญค่ะ”

“ขอบใจมาก ป้าชื่อป้านิ่มนะคะ เป็นคนเลี้ยงนายหัวปกรณ์มาตั้งแต่เด็ก ๆ ค่ะ” ป้านิ่มแนะนำตนเองด้วยรอยยิ้มเอื้อเอ็นดู

“ฉันชื่อมีอาค่ะ” มีอาเห็นหญิงชราดูใจดีจึงคลายความระวังตัวลง

“ป้าเรียกคนเถื่อนว่าอะไรนะคะ”

“นายหัวปกรณ์ค่ะ”

“นายฮัวปากอน” มีอาพยายามออกเสียงให้เหมือนป้านิ่ม

“ไม่ใช่นายฮัวปากอน นายหัวปกรณ์ค่ะ” ป้านิ่มพยายามสอนให้หญิงสาวออกเสียงให้ถูกต้อง

“นายฮัวคืออะไรหรือคะ”

“นายหัว หมายถึง คำเรียกเจ้านายของคนที่นี่ค่ะ”

“โอเค เข้าใจละคะ”

“ทะเลาะเรื่องอะไรกันคะ นายหัวถึงได้โกรธมากขนาดนั้น”

“ป้าค่ะ นายคนเถื่อน เอ้อ นายฮัวปากอนของป้าน่ะ เป็นคนไม่มีเหตุผลเลยค่ะ เขาจะขังฉันไว้ที่เกาะนี้ ฉันอยากกลับบ้าน ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ป้าช่วยฉันหน่อยได้ไหมคะ ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่จริงๆ”

มีอาขยับตัวเข้าหาป้านิ่ม เขย่าแขนและขอร้องด้วยเสียงสั่นเครือ

“ใจเย็น ๆ ก่อนค่ะแหม่ม นายหัวใจดีมากนะคะ นายหัวไม่ใช่คนใจร้ายหรอกค่ะ แหม่มลองคุยกับนายหัวดี ๆ คุยกันแบบผู้ใหญ่คุยกันดีไหมคะ ป้าเชื่อว่านายหัวต้องรับฟังและให้คุณกลับแน่นอนค่ะ”

“เขาไม่ฟังฉันเลยค่ะป้า เขาต้องการให้ฉันรับผิดชอบด้วยการแต่งงาน” มีอาฟ้อง

“ว่ายังไงนะคะ นายหัวบอกว่าต้องการแต่งงานกับแหม่มหรือคะ” ป้านิ่มร้องถามออกไปด้วยความตกใจ

“ใช่ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ” มีอาถามด้วยความสงสัยเช่นกัน

“โอ้ นายหัวต้องการแต่งงานกับแหม่ม นี่เป็นเรื่องน่ายินดีที่สุดเลยค่ะ นายหัวอายุไม่น้อยแล้ว ถ้าแต่งงานมีครอบครัวก็จะได้มีจูเนียร์ตัวน้อย ๆ มาให้ป้านิ่มเลี้ยงก่อนที่ป้านิ่มจะวิ่งไล่ไม่ไหวไปซะก่อน” ป้านิ่มบอกด้วยความดีใจเมื่อคิดว่าตนเองจะได้มีโอกาสเลี้ยงลูกของนายหัวในไม่ช้านี้

“เดี๋ยวป้า ฉันไม่ได้บอกว่าจะแต่งงานกับเจ้านายของป้านะ และฉันจะไม่มีวันมีลูกกับคนเถื่อนหรอกค่ะ”

“นายหัวไม่ใช่คนเถื่อนนะคะ แค่ยังกลัวการมีความรักอีกครั้งเท่านั้นเอง” ป้านิ่มอธิบายให้มีอาฟัง

“เจ้านายของป้ากลัวการมีความรัก ทำไมล่ะ”

“นายหัวเคยมีคนรักสมัยที่ยังเรียนอยู่ แล้วผู้หญิงเลือกทิ้งนายหัวเพราะเข้าใจว่านายหัวเป็นคนจน ผู้หญิงคนนั้นไปมีแฟนใหม่ที่ร่ำรวยกว่า ตั้งแต่นั้นมา นายหัวก็ไม่เคยเปิดใจให้กับผู้หญิงคนไหนอีกเลย นายหัวถึงชอบมาอยู่บนเกาะนางไม้นี่ยังไงคะ แหม่มเป็นผู้หญิงคนแรกที่นายหัวพามาที่เกาะนี้ค่ะ ป้าคิดว่านายหัวคงชอบแหม่มเข้าแล้วล่ะ” ป้านิ่มเล่าอดีตของนายตนเองให้แหม่มสาวฟัง เผื่อเธอจะเห็นใจนายหัวบ้าง

มีอาถึงกับอึ้งไปเมื่อได้ยินว่านายคนเถื่อนชอบตนเอง มันน่าตกใจนะ ก็เจอกันแค่ไม่กี่ครั้งและแค่มีเซ็กซ์ด้วยแค่นั้น อะไรมันจะรักกันง่ายขนาดนั้นเชียว!

“ป้าแนะนำให้แหม่มลองเปิดใจคุยกับนายหัวดูดีไหมคะ นายหัวไม่ใช่คนใจร้ายเลยนะคะ ใคร ๆ ต่างรักก็นายหัวกันทั้งนั้น ป้าอยากเห็นนายหัวมีความสุขค่ะ”

“แต่ป้าคะ ฉันเพิ่งเจอกับเจ้านายป้าแค่สองสามวันเองนะคะ แล้วดูซิ เขาบังคับให้ฉันต้องรับผิดชอบด้วยการแต่งงาน มันเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตเลยนะคะ ฉันอายุแค่นี้เอง ยังไม่คิดที่จะแต่งงานเร็ว ๆ นี้แน่นอนคะ” มีอาพยายามอธิบาย หาคำต่าง ๆ มาบอกเหตุผลให้กับหญิงสูงวัยได้รับรู้

“เอาอย่างนี้ดีไหมคะ แหม่มลองคบกันดูก่อนสิ ยังไม่ต้องแต่งงานกัน ลองศึกษาดูใจ เรียนรู้กันไปก่อน ถ้าลองแล้วไปกันไม่รอด หรือว่ามันเป็นแค่ความหลงใหล พลั้งเผลอของนายหัวฝ่ายเดียว ค่อยเลิกกันทีหลัง แต่อย่างน้อยลองให้โอกาสนายหัวของป้าสักครั้งดีไหมคะ ไหน ๆ แหม่มก็มาเที่ยวแล้ว ใครจะรู้ว่ามาเที่ยวครั้งนี้แหม่มอาจจะได้คนรักเป็นของแถม ลองเชื่อป้าดู ไม่เสียหายอะไรเลย ป้าเชื่อว่าถ้าแหม่มได้ลองเรียนรู้นายหัว แหม่มจะตกหลุมรักนายหัวเหมือนคนอื่น ๆ ค่ะ ป้าเชื่อแบบนี้”

“แต่ป้าคะ...” มีอาพยายามจะอธิบายแต่ป้านิ่มไม่ยอมปล่อยช่องว่างให้หญิงสาวเลย

“เชื่อป้านะคะ”

ป้านิ่มเอื้อมมือไปจับมือหญิงสาวมากุมไว้แล้วตบลงไปบนหลังมือเบา ๆ

“ก็ได้ค่ะป้า แต่ฉันไม่รับรองว่ามันจะออกมาอย่างที่ป้าต้องการนะคะ ฉันจะลองพยายาม ป้าพูดถูก ลองดู คิดซะว่าเป็นรสชาติของชีวิตละกัน” มีอาตอบพลางถอนหายใจยืดยาว

“ขอบใจนะคะ รีบไปง้อนายหัวหน่อยสิคะ เราเป็นผู้หญิง อ้อนให้เป็นค่ะ อยากได้อะไรต้องเอาลูกอ้อนไปล่อ ไปค่ะ รีบไปเร็ว”

ป้านิ่มดันหญิงสาวให้ลุกขึ้นเพื่อตามไปง้อนายหัวของตน

“เอาจริงหรือคะป้า” มีอาหันมาถามแบบไม่ค่อยมั่นใจ

“จริงสิคะ” ป้านิ้มยกนิ้วหัวแม่มือให้กำลังใจหญิงสาวรุ่นหลาน

“ได้ ลองดูสักตั้ง ไหน ๆ ก็หนีไม่ได้อยู่แล้ว”

มีอายกมือขึ้นมาลูบอกให้กำลังใจตนเองก่อนเดินไปหาคนขี้โมโหตามทางที่เธอเห็นว่าเขาหายลับไป

“นายหัวคะ ป้าคงช่วยได้เท่านี้ ขอให้นายหัวอย่าใจร้ายกับแหม่มเลยนะคะ” ป้านิ่มได้แต่พูดกับตนเองตามลำพัง ก่อนที่จะลุกจากโซฟา เดินกลับไปที่บ้านพักของตนเอง

ส่วนปกรณ์ เพื่อไม่ให้เผลอทำร้ายเมียจอมดื้อหลังจากที่ได้ยินหญิงสาวที่ตนเองพึงพอใจปฏิเสธเสียงแข็งจนทำใหเขาโมโหจำต้องรีบเดินออกมาจากที่ตรงนั้น

ผู้หญิงอะไรดื้อชะมัด จะแต่งงานด้วยก็ไม่เอา ให้ลองคบกันก่อนก็ไม่เอา จะหนีท่าเดียว เป็นนายหัวปกรณ์ที่มีแต่คนอยากเข้าใกล้ พอมาเจอคุณหนูขี้วีนแบบนี้ ทำเขาไปไม่เป็นเหมือนกัน

ทำไงได้ มันดันถูกใจไปซะแล้ว

เฮ้อ

ปกรณ์เดินมานอนที่เปลยวนอันโปรดที่เขามักจะมานอนเล่นเสมอ เสียงคลื่นที่ไหลกระทบฝั่งแล้วม้วนเกลียวคลื่นกลับออกไป ลมเย็น ๆ ที่พัดผ่านทำให้อารมณ์ของปกรณ์ดีขึ้น

ในตอนที่เงียบสงบแบบนี้ ปกรณ์ได้มีเวลาพิจารณาถึงเรื่องราวระหว่างตนเองกับคุณหนูขี้วีนคนนั้นอีกครั้ง

คงเป็นรักแรกพบละมั้ง

ในตอนที่เจอแรก ๆ นอกจากจะประทับใจในความสวย ความโฉบเฉี่ยวและความมั่นใจในตนเองแล้ว ความคิดที่แวบเข้ามาในหัวเขาหลายครั้งคืออยากปราบแม่เด็กดื้อคนนั้น

มันคงทำให้ชีวิตเขามีสีสันขึ้นมาไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากที่ปิดกั้นตนเองมาเป็นสิบปี มัมคงดีใจที่เขาคิดอยากจะจริงจังกับใครสักคนเสียที

ปกรณ์คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย บางครั้งเขาก็ยิ้มออกมาคนเดียว

ทางด้านมีอา หญิงสาวเดินตามหานายคนเถื่อนอยู่นาน จึงเจอว่าพ่อเจ้าประคุณมานอนสบายอยู่บนเปลญวนใต้ต้นไม้ด้านหนึ่งของบ้าน

หญิงสาวเดินเข้าไปใกล้ ก่อนที่จะส่งเสียงกระแอมไอเพื่อให้ชายหนุ่มรับรู้ถึงการมาถึงของตัวเอง

“อะแฮ่ม...นายฮัวปากอน”

มีอาชะโงกหน้าลงไปมองชายหนุ่มที่นอนอยู่ในเปลณวน เธอพยายามเรียกนายหัวเหมือนกับที่ป้านิ่มเรียก แต่ด้วยสำเนียงอังกฤษ คำที่เปล่งออกมาจึงเพี้ยนไปมากโข

“ว้าย” มีอาอุทานออกมาหลังจากที่นายคนเถื่อนเอื้อมมือคว้าเอาตัวเธอลงไปนั่งในเปลด้วย จึงกลายเป็นว่าเธอนั่งบนเปลโดยหันหน้าไปทางที่ชายหนุ่มกำลังนอนอยู่

ปกรณ์ใช้มือที่เหนียวยังกะตุ๊กแกกอดหญิงสาวไว้

“มาทำไม”

“ป้านิ่มให้มาง้อนายฮัวปากอนค่ะ” หญิงสาวเอ่ยบอกไปตามตรง

“ป้านิ่มสอนให้เรียกผมแบบนี้เหรอ” ปกรณ์ถามด้วยความสงสัย

“เปล่า ฉันเรียกเอง เป็นไง เก่งไหม”

“เก่งไม่สุดนะสิ เรียกผมว่า กร คำเดียวง่าย ๆ ก็พอ”

“แต่ฉันชอบนายฮัวนะ มันน่ารักดี” หญิงสาวแอบยิ้มน้อย ๆ

“ตามใจ นายฮัวก็นายฮัว คงดีกว่าไอ้คนเถื่อน...มั้ง”

ปกรณ์ได้แต่ถอนหายใจให้กับความเกลียมัวของตนเอง นี่แค่เธอมาหา มาพูดจาดี ๆ ด้วย เขาก็ใจอ่อนซะแล้ว แล้วที่ทำท่าทางโกรธใหญ่โตมันจะมีประโยชน์อะไร

หมดกัน นายหัวปกรณ์ เข้าชมรมคนกลัวเมียชะแล้ว

“นายฮัว”

“หือ”

“ป้านิ่มเล่าว่า คุณเคยมีคนรัก แล้วต้องเลิกกัน เจ็บมากไหม” มีอาถาม

“ไม่รู้สิ ผมยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าตอนนั้นมันเรียกว่าความรักหรือเปล่า ผมแค่ยอมรับการตัดสินใจของเธอ เมื่อเธอต้องการเลิก ผมก็แค่ปล่อยเธอไป แค่นั้นเอง” ปกรณ์ตอบด้วยเสียงเนือย ๆ

“กับฉันล่ะ”

“........” ความเงียบที่เกิดขึ้น ทำให้มีอาอยากรู้มากขึ้นไปอีก

“ว่าไง กับฉันละ นายรู้สึกยังไง”

“ผมเจอคุณสี่ครั้งในเวลาสามวัน คุณรู้ไหมทุกครั้งคุณมักจะมีปัญหาเสมอ แปลกนะแค่สามวันนี้ คุณกลับเข้ามาอยู่ในความทรงจำของผมไปซะแล้ว คืนนั้นที่ผับ ผมแทบควบคุมตัวเองที่จะไม่เข้าไปต่อยไอ้ผู้ชายสองคนนั้นไม่ได้ ผมแทบคลั่งเมื่อเห็นพวกมันกำลังพาคุณออกไปจากผับ ต้องขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้ผมไปหาไอ้แบงค์เพื่อนผมในวันนั้น ยิ่งมารู้ว่าผมเป็นผู้ชายคนแรกของคุณ มันยิ่งทำให้ผมปล่อยคุณไปไม่ได้ แล้วเป็นไง คุณตื่นขึ้นมาโวยวาย ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น จนผมโมโหอยากจะบีบคอคุณให้หายดื้อ มันน่าสมเพชไหมละถ้าจะบอกตามตรงว่าผมรู้สึกชอบคุณมาก” ปกรณ์บอกเล่าความในใจออกมาจนหมดเปลือก

เขาไม่เห็นว่ามันจะน่าอายตรงไหน ถ้าเราชอบใครสักคนแล้วบอกความในใจออกไป

เขางัดเอาทุกวิธีมาโน้มน้าวให้สาวเจ้าเปลี่ยนใจ ถึงแม้ต้องแสดงบทผู้ชายสำออย น่าสงสาร แต่เพื่อเมียที่รัก เขาบ่หยั่นอยู่แล้ว จริงมะ

มีอาถึงกับอึ้งไปเมื่อได้ยินชายหนุ่มสารภาพความในใจ หญิงสาวยอมรับว่าในชีวิตนี้ ด้วยฐานะ หน้าตาของตนเอง เธอมีประสบการณ์ผู้ชายมาสารภาพรักหรือขอคบด้วยเกือบทุกประเภท

แต่ไม่มีใครสักคนที่บอกออกมาด้วยความจริงใจเหมือนกับชายที่อยู่ตรงหน้าเธอ

แล้วเธอต้องทำอย่างไรละ?

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ