ตอนที่ 4 วันซวย

ถึงแม้ว่าปกรณ์จะมีหนวดเครารุงรัง แต่เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของเขาก็สะอาดสะอ้าน มีราคาทั้งนั้น

บอดี้การ์ดหน้าผับเมื่อเห็นชายหนุ่มก็โค้งทำความเคารพให้ปกรณ์พยักหน้ารับพร้อมกับตบบ่า รปภ. เบา ๆ เขาเดินตรงไปที่ห้องทำงานของพศิน หรือไอ้แบงค์ เพื่อนสนิททันที

ชายหนุ่มไม่เคาะประตู เปิดพรวดเข้าไปโดยไม่ได้คิดอะไร

“ว้าย” เสียงผู้หญิงร้องขึ้น หล่อนกำลังตะกายลงจากตักของพศินหลังจากที่ได้ยินเสียงเปิดประตูโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแล้วรีบออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว

“ไอ้กร มึงหัดเคาะประตูมั่งสิวะ”

พศินจัดการติดกระดุมเสื้อของตนเองจนเรียบร้อย ก่อนลุกขึ้นเดินไปเปิดตู้เย็นขนาดเล็กในห้องทำงาน หยิบเบียร์เย็น ๆ หนึ่งกระป๋องให้ตนเองและยื่นอีกกระป๋องให้กับเพื่อน

“ไอ้แบงค์ นี่มันห้องทำงาน จะทำอะไรก็อย่าประเจิดประเจ้อ”

ปกรณ์รับเบียร์จากพศินมาเปิด ก่อนเดินไปนั่งที่โซฟากลางห้อง

“เออ กูรู้ แค่น้ำจิ้มเท่านั้นแหละ แล้วนี่ลมอะไรหอบมึงมาหากูวะ ไม่จำศีลต่อแล้วเหรอ”

พศินยกเบียร์ขึ้นดื่มระหว่างเดินมานั่งตรงข้ามกับปกรณ์

“คิดถึง ไม่ได้มาเยี่ยมมึงนานแล้ว กูมาซื้อเสบียง เลยไปเซ็นงานที่โรงแรม กะว่าจะกักตัวที่เกาะนางไม้สักสองอาทิตย์”

“กูว่าแล้ว อย่างมึงจะออกจากถ้ำได้นานแค่ไหนกันเชียว แต่ไหน ๆ มึงก็อุตส่าห์ถ่อมาถึงนี่แล้ว ไม่สนใจปลดปล่อยก่อนกลับถ้ำเหรอวะ กูมีน้อง ๆ มาใหม่ สด ๆ สวย ๆ ทั้งนั้นเลย มึงสนใจปะละ หรือมึงจะหอบกลับเกาะไปด้วยก็ได้ กูให้มึงฟรี ๆ เลย” พศินนำเสนอสาว ๆ ให้กับเพื่อนประหนึ่งนำเสนอขายสินค้าพรีเมี่ยม

“ไอ้บ้าแบงค์ อยากโดนเตะก้านคอหรือไงมึง กูไม่สนโว้ย สั่งอะไรมากินหน่อย กูหิวมาก วันนี้นัดลุงเที่ยงให้มารับตอนสี่ทุ่ม อยู่กับมึงได้หลายชั่วโมงเลย” ปกรณ์แหวเพื่อนสนิทเสียงดังก่อนจะยกเบียร์ขึ้นจิบอีกอึกใหญ่

“ไอ้กร ผู้หญิงสวย ๆ มีตั้งเยอะ มึงยังต้องพึ่งแม่นางทั้งห้าอยู่อีกเหรอวะ มึงนี่มันเสียชาติเกิดจริง ๆ จะอะไรหนักหนากะอีแค่ผิดหวังจากผู้หญิงคนเดียว นี่มึงกะจะไม่แต่งงานทั้งชาติเลยหรือ มันผ่านมาเป็นสิบปีแล้วนะโว้ย” พศินถามด้วยความเป็นห่วงเพื่อน

“เรื่องของกู มึงไม่ต้องมายุ่ง แต่ก็ขอบใจวะ กูไม่ได้กลัวหรอกความรัก แต่มันยังไม่เจอคนที่ใช่มากกว่า”

“ไอ้กร ถ้ามึงไม่เปิดโอกาสให้ใครสักคนได้เข้ามา แล้วเมื่อไหร่มึงจะเจอล่ะคนที่ใช่ของมึงน่ะ ไม่ซื้อหวยแต่หวังให้ถูกหวย บ้าปะวะ” พศินบ่นให้เพื่อนก่อนจะยกหูโทรศัพท์สั่งอาหาร

วันนี้ตั้งใจจะเลี้ยงเพื่อน ดื่มเบียร์ให้หนำใจ เพราะนาน ๆ เพื่อนคนนี้จะออกมาจากถ้ำซะทีหนึ่ง

พศินกับปกรณ์ย้ายออกจากห้องทำงานไปยังห้อง VVIP ซึ่งเป็นห้องกระจกทึบแบบพิเศษ คนภายนอกไม่สามารถมองเห็นกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในห้องได้ แต่คนที่อยู่ภายในห้องจะสามารถมองเห็นข้างนอกได้ ห้องนี้เป็นห้องที่พศินเอาไว้รับรองแขกคนสำคัญจริง ๆ เพราะเขาสามารถมองเห็นเหตุการณ์ในผับได้อย่างทั่วถึง

นั่งดื่มกันไป คุยกันไป กินกับแกล้มกันไป จนเวลาล่วงเลยจากเย็นมาถึงสามทุ่ม และในขณะที่ปกรณ์กำลังจิบเบียร์เพลิน ๆ เขาก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความไม่ชอบใจ เมื่อเขามองลงไปที่โต๊ะตัวหนึ่งด้านล่างผับ

ชายหนุ่มเห็นแม่สาวเจ้าปัญหา ลูกค้าโรงแรมคนสวยที่ด่าเขาว่าไอ้คนเถื่อน กำลังถูกชายหนุ่มนักท่องราตรีสองคนส่งแก้วเครื่องดื่มที่เขาเห็นว่าหนึ่งในสองคนนั้น ใส่อะไรบางอย่างลงไปก่อนที่จะยื่นแก้วให้หญิงสาวดื่ม

“เชี่ย” ปกรณ์สบถในลำคอก่อนจะลุกพรวดขึ้นทันที เขากึ่งเดินกึ่งวิ่งลงไปที่ผับด้านล่าง

พศินเห็นเพื่อนมีท่าทางแปลกไปจึงรีบวางแก้วเบียร์ลงบนโต๊ะ ลุกขึ้นก้าวตามปกรณ์ไปเช่นกัน

“เฮ้น้องชาย ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรกันหรอกนะ แต่ผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนพี่”

ปกรณ์รีบเดินเข้าไปขวางหน้าชายสองคนที่กำลังช่วยกันพยุงหญิงสาวที่ตอนนี้เริ่มเมา พูดจาแทบฟังไม่รู้เรื่องออกไปจากผับ

“แกนั่นแหละอย่ามามั่ว เธอบอกว่ามาคนเดียว แล้วจะไปมีแฟนได้ยังไง อีกอย่าง หน้าตาแบบแกกับผู้หญิงสวย ๆ แบบนี้ ไม่เจียมตัวซะเลยนะ อย่างกับดอกฟ้าหมาวัด ก่อนที่จะมั่วอะไร ดูสารรูปตัวเองด้วย” ชายที่มาด้วยกันอีกคนกล่าวเยาะเย้ยปกรณ์

“อ้าว นายโคนเถื่อน ไม่ใช่เรื่องของนาย ไม่ต้องมายุ่ง”

มีอาได้ยินเสียงเหมือนคนเถียงกัน ถึงแม้ว่าจะฟังไม่ออกแต่เมื่อเหลือบตาไปเห็นไอ้คนเถื่อน เหตุการณ์ตอนเช้ากับเมื่อวานก็ผุดขึ้นมาในหัว

“เห็นไหมว่าเธอไม่ต้องการให้แกมายุ่ง”

“ไม่ยุ่งคงไม่ได้แล้วล่ะ เพราะฉันเห็นพวกแกใส่ยาอะไรบางอย่างลงไปในแก้วเครื่องดื่มของผู้หญิงคนนี้ และอีกอย่าง ทำไมฉันจะยุ่งไม่ได้ในเมื่อเธอเป็นแฟนฉัน ตอนนี้เธอก็พักที่โรงแรมของฉัน ถ้าไม่อยากให้เรื่องถึงตำรวจก็รีบไปก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ” ปกรณ์ขู่ชายสองคนนั้นเสียงเข้ม

พศินที่ตามมาทันรีบกล่าวสำทับทันที

“เฮ้ย นายสองคนน่ะ ไม่รู้เหรอว่าผับนี้ไม่สนับสนุนการทำเรื่องผิดกฎหมาย ผมเป็นเจ้าของผับ ทางที่ดีปล่อยผู้หญิงคนนี้ไว้ที่นี่ ส่วนนายสองคนก็ออกไปจากผับนี่แล้วไม่ต้องกลับมาอีกนะ” พศินขู่สำทับ

ชายสองคนเมื่อเห็นว่าเรื่องเริ่มบานปลายไปกันใหญ่ จึงเดินออกไปจากผับด้วยสีหน้าท่าท่างไม่พอใจ

“ไอ้กร ทำไมมึงบอกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนมึงวะ”

“เป็นลูกค้าที่โรงแรมนะ ปากจัด อวดดีแล้วก็ดื้อมาก ถ้าไม่ช่วยก็สงสาร กลัวจะตื่นขึ้นมาที่ซ่องไหนสักแห่งในมาเลย์” ปกรณ์ตอบเพื่อน

“อ้ายโคนเถื่อน ปล่อยนะ ฉานม่ายปาย ฉานจากินเหล้า”

มีอาพยายามแกะตัวเองออกจากการเกาะกุมของปกรณ์ หญิงสาวไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน เธอสะบัดตัวจนหลุดออกจากการเกาะกุมของปกรณ์ไปได้

คนที่มาเที่ยวผับเริ่มให้ความสนใจเมื่อมีอาส่งเสียงดังโวยวาย

“ขอโทษครับ ผมกำลังง้อแฟนอยู่ครับ” ปกรณ์พูดขอโทษคนในผับแล้วจัดการอุ้มหญิงสาวขึ้นพาดบ่า แบกออกไปจากผับทันที

ปกรณ์แบกมีอาออกมา กะจะพาเธอกลับไปส่งที่โรงแรม อีกไม่นานลุงเที่ยงคงมารับเขาแล้ว

พอมาถึงลานจอดรถยนต์ ปกรณ์จึงวางหญิงสาวลงให้ยืนบนพื้น

มีอาหลังจากถูกปล่อยให้ยืนบนพื้น เมื่อตั้งหลักได้ หญิงสาวก็เงื้อมือตบเข้าที่ใบหน้าของชายหนุ่มเต็มแรง

เพี๊ยะ!

“มายุ่งทำไม อ้ายโคนเถื่อน”

“ฉิบหาย นี่ไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าจะโดนเอาไปขายซ่องน่ะ” ปกรณ์ตอบพร้อมกับลูบแก้มตัวเองเบา ๆ

“มานเรื่องของฉาน นายม่ายเกี่ยว อย่างนายไม่มีวันด้ายเห็นขาสวย สวย ของฉานหรอก” มีอายืนชี้หน้าว่าให้ชายหนุ่ม

“คำก็คนเถื่อน สองคำก็คนเถื่อน ขาสวย ๆ ไม่มีทางได้เห็นใช่ไหม ผมจะไม่แค่เห็น แต่จะกัดจะขย้ำให้ดู ลองมีผัวเป็นคนเถื่อนหน่อยแล้วกัน คงมันส์พิลึกแน่” ปกรณ์โมโหหญิงสาวขึ้นมาจนติดหมัด เขาหรืออุตส่าห์หวังดีอยากช่วย แต่กลับถูกตบหน้าและหาว่ายุ่ง งั้นเขาขอค่าตบหน้าสักทีละกัน

ลุงเที่ยงขับรถมารับปกรณ์ตามเวลาที่กำหนดไว้

ชายหนุ่มเมื่อเห็นลุงเที่ยงขับรถมาเตรียมจะเข้าที่จอด เขาจึงยกมือเรียกลุงเที่ยงให้ขับมาหยุดตรงที่ที่เขายืนอยู่ ก่อนที่จะจัดการอุ้มหญิงสาวขี้เมาปากจัดขึ้นรถ

“ลุงเที่ยงไปที่เกาะนางไม้เลยครับ ผมจะจัดการสั่งสอนคนนิสัยไม่ดีซักหน่อย เอาของไปเก็บให้เรียบร้อย แล้วถ้าได้ยินเสียงอะไรก็ไม่ต้องตกใจนะครับ ผมจะปราบเด็กดื้อคนนี้....ทั้งคืน”

“ร้อน ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย ร้อน...ทำไมมันร้อนแบบนี้”

ขึ้นรถมาไม่ทันไร มีอาก็เริ่มเอามือแกะทึ้งเสื้อผ้าของตนเองออกแล้วบ่นว่าร้อน ปกรณ์รู้ได้ทันทีว่ายาที่หญิงสาวกินเข้าไปคงเริ่มออกฤทธิ์แล้ว

“ลุงเที่ยง เร็วหน่อย ผมว่าแม่เมรีขี้เมาคนนี้ไม่น่าจะรอดไปได้อีกนาน เธอโดนวางยามาน่ะครับ”

“อ้าว แล้วนายหัวไม่พาแหม่มไปส่งโรงพยาบาลล่ะครับ จะพาไปที่เกาะทำไม” ลุงเที่ยงถามด้วยความสงสัย

“ก็พาเด็กดื้อไปปราบไงครับ ตบผมซะเจ็บแก้มไปหมด ตื่นมาคงได้ช้ำกันบ้าง คนอย่างนายหัวปกรณ์ เรื่องอะไรจะยอมโดนตบฟรี ตบหนึ่งครั้ง ก็เอาหนึ่งครั้ง จะได้หายกัน”

ตลอดระยะเวลาการเดินทาง ปกรณ์ต้องคอยจับมือของหญิงสาวไม่ให้ทึ้งเสื้อผ้าของตนเองอยู่เนือง ๆ ยื้อยุดกันไปมาจนเกิดเป็นสงครามย่อม ๆ

ใช้เวลาเดินทางเกือบสี่สิบห้านาที ทั้งสามคนก็มาถึงเกาะนางไม้ ปกรณ์จัดการอุ้มหญิงสาวขึ้นพาดบ่า ตรงดิ่งไปที่กระท่อมของตนเอง ลุงเที่ยงที่รั้งท้ายอยู่ก็จัดการเอาเสบียงที่ซื้อมาไปเก็บที่บ้านตนเองก่อน

คืนนี้บ้านใหญ่คงไม่สะดวกรับแขก เขาต้องรีบกลับไปบอกภรรยาถึงเรื่องวันนี้ด้วย ภรรยาเขาต้องดีใจแน่ที่นายหัวสนใจผู้หญิงกับเขาเสียที

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ