ตอนที่ 18 : ส่งคนขึ้นเกวียน

ใจคนผันเปลี่ยนหมุนแปรได้ราวกับสายลม

ชั่วระยะเวลาแสนสั้นเพียงข้ามคืน ข่าวลือใหม่เอี่ยมจากวงในบ้านคหบดีใหญ่ตระกูลซีก็แพร่สะพัดออกจากปากต่อปากราวกับไฟลามทุ่งยากยิ่งจะหยุดยั้ง อันที่จริงมันยังคงเป็นเรื่องราวของฝาแฝดซึ่งผสมผสานกับข้อเท็จจริงบางประการ ทว่าเนื้อหากลับพลิกกลับจากหน้ามือเป็นหลังมือ

ในที่สุดก็กลายเป็นเรื่องราวของเด็กเล็กที่ถูกกลั่นแกล้งโดยอนุใจทรามซึ่งวางแผนกำจัดเลือดเนื้อเชื้อไขนายท่านตระกูลซี ไม่รู้ป่านนี้แม่สาวขี้โรคจะสะดุ้งเพราะเสียงก่นด่าของชาวบ้านชาวช่องกี่มากน้อย

ก็นะ มนุษย์สายกินแตงชอบเรื่องดราม่าตบตีหลังบ้านผู้อื่นมากกว่าเรื่องภูตผีปีศาจอยู่แล้ว

เด็กหญิงยักไหล่ไม่หือไม่อือต่อข่าวลือ

ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเด็กสักหน่อย ผู้ใหญ่เขาว่าหว่านพืชเช่นไรย่อมได้ผลเช่นนั้น

อย่างไรก็ดี ลงไม้ลงมือขนาดนี้ซีเยว่คิดว่าน่าจะได้อยู่อย่างสงบเงียบไปอีกสักพัก โดยเฉพาะตอนนี้นางเริ่มฝึกเคล็ดวิชาบ่มเพาะวาฬกลืนนภาแล้ว กำลังอยู่ในช่วงซึมซับปราณจากธรรมชาติเพื่อสร้างรากฐานให้ตันเถียนแข็งแรง ซึ่งวิธีการที่ง่ายที่สุดคือ การดูดกลืนผ่านการกิน

“ท่านแม่ ท่านว่าบัวลอยของลูกกลมหรือไม่เจ้าคะ?” ซีเยว่แสดงก้อนแป้งสีขาวนวลบนฝ่ามือออกไปข้างหน้า

“ลูกสาวของแม่ปั้นบัวลอยได้กลมกลึงมาก” เว่ยเฉินลี่ชื่นชมเด็กหญิงเปราะ ดวงตาสีน้ำตาลกระจ่างพินิจลูกบัวลอยยักษ์แล้วค่อย ๆ อธิบาย “แต่แม่ว่าเจ้าปั้นให้เล็กลงหน่อย ลูกใหญ่จะทำให้ไส้ข้างในไม่สุก แล้วก็อาจจะแตกได้ด้วย”

“อื้อ” ลูกมือหัดทำขนมพยักหน้าเข้าใจ “ได้เจ้าค่ะ เยว่เอ๋อร์จะปั้นเล็กลงหน่อย”

“เยว่เอ๋อร์ ของแม่เก่งมาก”

“แล้ว แล้วของหยวนเอ๋อร์ ล่ะขอรับ” ซีหยวนแบมือของตนเองแสดงลูกบัวลอยเม็ดเล็กสีขาวนวลบ้าง

มารดาหันไปใส่ใจลูกชายอย่างเท่าเทียม “ไหนขอแม่ดูซิ”

บ่ายวันที่แสงแดดอบอุ่นทอดลงมา ขณะที่ทินกรคล้อยต่ำลงไปทางทิศตะวันตก คุณแม่ดีเด่นแห่งปีกำลังพาลูกสาวลูกชายทำกิจกรรมเสริมสร้างพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดเล็กและความรู้เรื่องรูปทรงเรขาคณิต มีแป้งบัวลอยเหนียวนุ่มและไส้งาดำหอมกรุ่นเป็นเครื่องไม้เครื่องมือ

เย็นนี้มีบัวลอยน้ำขิงไส้งาดำ เหมาะมากสำหรับวันที่อากาศเย็น

ทว่าเรื่องดี ๆ มักจะมีคำว่า ‘แต่’ เสมอ

“นายหญิงเจ้าคะ” สาวใช้เรือนหลักค้อมกายดวงตาหลุบมองพื้น อ้อมเข้าไปกระซิบรายงานข้างหูเว่ยเฉินลี่ด้วยเสียงเบาราวกับแมลงหวี่ ซีเยว่นั่งอยู่ไม่ไกลแม้ได้ยินไม่ชัดกระนั้นยังสามารถจับใจความได้ “อนุหนึ่งเจียวจินขออนุญาตเยี่ยมคุณหนูคุณชายเจ้าค่ะ”

โฮ่ แม่ชีปีศาจนางนี้คุกเข่าคราก่อนก็ผ่านมาสักพักแล้ว เข่านางคงหายเจ็บดีแล้วกระมัง

ตี้ดิ้ง!

เสียงแจ้งเตือนเจ้าแต้มตอบสนองรวดเร็วทันใจยิ่ง

[ ขอแสดงความยินดี โฮสต์ที่รักปลดล็อกภารกิจย่อย แก้แค้นสิบปียังไม่สาย! ]

[ รายละเอียด ในฐานะพี่สาวและลูกสาวผู้มีความสามารถ มีบุญคุณต้องทดแทนมีแค้นต้องชำระ ความแค้นที่ล้ำลึกในอดีตไม่สามารถละเลยได้ จงให้บทเรียนแก่อนุหนึ่งเจียวจิน ]

[ รางวัล ไหลเฉาเหม่ยสงบใจ จำนวนหกเถา ]

หน้าต่างของระบบคืนความสุขแก่คู่ยวนยางวันนี้เต็มไปด้วยดอกไม้สีแดงสดและเปลวเพลิงที่โชติช่วงชัชวาลมากเป็นพิเศษ ใส่ความโกรธแทนฝาแฝดลงไปด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราด

อนุหนึ่งเจียวจิน

ถ้าจะต้องอธิบายออกมาด้วยประโยคเพียงหนึ่งประโยคคงไม่มีอะไรเหมาะไปกว่า ข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรง นางเหมือนกับผลมะเดื่อที่มีสีสันสวยงามเต่งตึง ทว่าภายในเต็มไปด้วยตัวหนอนแมลงหวี่ อนุหนึ่งนางนี้ภายนอกโอบอ้อมอารี ธรรมะธรรมโม แท้จริงเคยจับซีเยว่กับซีหยวนอายุสองขวบมัดมือ มัดเท้า อุดปากใส่กระสอบข้าว โยนขึ้นเกวียนเพื่อส่งไปชนบทพร้อมกับข้าวสารอาหารแห้งที่บริจาคให้กับผู้ยากไร้

ใช้ความใจบุญบังหน้าทำความชั่วร้ายลับหลัง

เชื่อเถอะว่าหน้าซื่อ ๆ อย่างนั้นลงมือทำเองทุกขั้นตอนเลยล่ะ

ครานั้นยังดีที่บิดามารดาเห็นว่าเด็ก ๆ หายไปได้อย่างรวดเร็ว เพราะบทเรียนที่ผ่านมาหลายครั้ง เว่ยเฉินลี่เรียกบ่าวใช้ค้นทั่วจวน ซีเฉาหยางสั่งปิดประตูทุกทิศ วุ่นวายทั้งวันทั้งคืน ทว่ากว่าจะพบสองแฝดในกระสอบข้าวก็เป็นเช้าของอีกวัน เด็ก ๆ ขดเป็นก้อนกลมซุกตัวแบ่งปันความอบอุ่นให้แก่กันทั้งที่ใบหน้ายังเปรอะเปื้อนด้วยคราบน้ำมูกน้ำตา

อย่างไรก็ตาม ความผิดครั้งนั้นถูกโยนให้กับบ่าวผู้หนึ่ง ไม่ใช่บิดาไม่อยากเอาผิดหรือลุ่มหลงอะไรในตัวเจียวจินแต่เพราะฮูหยินผู้เฒ่าสอดมือเข้ามาวุ่นวายจึงจำต้องปล่อยเลยไป

วันนี้ กล้าโผล่หน้ามาให้นางเล่นงานถึงที่ เหตุใดซีเยว่จะไม่คว้าโอกาสไว้หญิงงามขมวดคิ้วมุ่น รู้สึกไม่สบายใจมากเพราะไม่รู้ว่าสตรีผู้นี้จะมาไม้ไหน ปากบอกมาเยี่ยมเยียนแต่กลับมายืนกดดันอยู่ที่หน้าเรือนแล้ว สนิทสนมมากนักหรือถึงไปมาหาสู่กันได้โดยไม่ต้องให้บ่าวไพร่นัดแนะ “หยวนเอ๋อร์ เยว่เอ๋อร์ ลูกรอแม่สักครู่นะ”

“อื้อ ได้ขอรับ” เด็กน้อยซีหยวนพยักหน้ารับง่ายดายไร้ข้อกังขา

ผิดกับแฝดคนพี่ “ท่านแม่ เยว่เอ๋อร์ขอไปด้วยได้หรือไม่”

“นั่น..”

“เยว่เอ๋อร์สัญญาว่าจะไม่กวน เยว่เอ๋อร์ไปเพื่อศึกษา!”

นายหญิงตระกูลซีพยักหน้า “ได้ แม่จะพาเจ้าไปด้วย”

เว่ยเฉินลี่ประคองมือบุตรสาวตัวน้อยขึ้นมาเช็ดแป้งข้าวเหนียว แต่ไหนแต่ไรมาซีเยว่เป็นหลักให้น้องชายเสมอ เด็กหญิงเรียนรู้ที่จะปกป้องตัวเองและคนรอบข้างมากขึ้นทุกวัน หากสิ่งใดได้ผลดีก็จะสอนน้องชายต่อ หากสิ่งใดไม่ดีก็เก็บเอาไว้เป็นบทเรียนให้กับตัวเอง แยกแยะได้ดียิ่งกว่าผู้ใหญ่บางคนเสียอีก

เป็นความผิดส่วนหนึ่งของมารดาที่ไร้ความสามารถที่ทำให้ลูกสาวถูกพรากวัยเด็กที่ไร้เดียงสาไป

แล้วนางจะว่ากล่าวได้อย่างไร

“ท่านแม่ เจี่ยเจีย” เด็กชายมองท่านแม่กับพี่สาวที่กำลังจะออกไปด้วยกันพลางร้องถาม “พวกท่านไปกันหมด งั้น งั้นหยวนเอ๋อร์ไปด้วยได้หรือไม่ขอรับ?”

“หยวนเอ๋อร์แม่..”

“ท่านแม่เจ้าคะ”

ซีเยว่ตบ ‘ปุ’ ที่มือท่านแม่เบา ๆ ให้สัญญาณว่านางจะจัดการตะล่อมน้องชายเอง

“ตี้ตี เจี่ยเจียมีเรื่องสำคัญมากจะให้ตี้ตีช่วย!” จิ้งจอกแดงโน้มตัวเอามือนุ่มประคองแก้มกลมของน้องชาย ใบหน้าที่เหมือนกันราวกับแกะฝั่งหนึ่งงุนงง

ฝั่งหนึ่งแสร้งตีสีหน้าจริงจังประหนึ่งเรื่องที่ตนกำลังจะร้องขอนั้นสำคัญเท่าชีวิต

ซีหยวนเผลอจริงจังโอนอ่อนตามพี่สาวอย่างง่ายดาย “อื้อ หยวนเอ๋อร์ช่วยเจี่ยเจียได้ทุกอย่าง!”

“ตี้ตีของเจี่ยเจียดีมาก!”

เด็กหญิงฉวยโอกาสหอมแก้มฝาแฝดฟอดใหญ่ หยิบเคล็ดวิชาบ่มเพาะที่ไม่ใช่ความลับขึ้นมาพูด “คืออย่างนี้นะตี้ตี เจี่ยเจียกำลังฝึกบ่มเพาะตามคำสั่งของท่านปู่เซียน! ทุกครั้งที่ฝึกเสร็จเจี่ยเจียจะหิวมาก ๆ ถ้าไม่มีบัวลอยน้ำขิงไส้งาดำ เจี่ยเจียจะต้องหิวไส้กิ่ว แต่เจี่ยเจียกับท่านแม่ต้องไปตี- ต้องไปต้อนรับแขก หยวนเอ๋อร์ช่วยเจี่ยเจียปั้นลูกบัวลอยเยอะ ๆ ได้หรือไม่!?”

“ได้ขอรับ!”

หมาป่าน้อยของเจ้น่ารักเป็นอย่างยิ่ง

ใช้คารมหลอกล่อน้องชายเรียบร้อยแล้ว ซีเยว่ก็ถูกมารดาอุ้มออกมายังโถงรับแขกด้วยกันตามคำขอ ดอกบัวขาววันนี้ก็ยังขาวไปทั้งตัว หัวจรดเท้าจืดชืดราวกับกำลังไว้อาลัยให้คนตาย ชีวิตขาดสีสันจนเสมือนเต้าหู้ก้อนหนึ่ง

เจียวจินถอนสายบัวอย่างงดงาม “คารวะฮูหยิน คุณหนูใหญ่”

“อืม” เว่ยเฉินลี่ขานรับในลำคอ หลังและบ่าตั้งตรงขณะนั่งลงบนเก้าอี้ประธานทว่าไม่ได้เอ่ยเชื้อเชิญให้ผู้อื่นนั่ง รู้วิธีวางตัวเหนือภรรยาน้อยที่ไม่คิดญาติดีเป็นอย่างดี “มาทำไมล่ะ?”

“เรียนฮูหยิน อนุผู้น้อยมีใจเป็นห่วงคุณชายใหญ่และคุณหนูใหญ่จึงตั้งใจมาเยี่ยมเยือน” ผู้อาศัยเปลืองข้าวสุกหมายเลขหนึ่งหาได้รู้สึกสะทกสะท้านกับการวางตัวที่บอกต่อกันว่าไม่ต้อนรับ นางคลี่รอยยิ้มแห้งแล้ง หัวคิ้วเชิดขึ้นในขณะที่หางคิ้วลู่ลง

เปล่งวาจาน้อยเนื้อต่ำใจ “เกรงว่าฮูหยินจะไม่สะดวกรับแขก ผู้น้อยทำให้ท่านลำบากแล้ว”

“รู้ว่าครอบครัวเราลำบากไม่สะดวกรับแขก อนุหนึ่งก็ยังอุตส่าห์ดั้นด้นมาพบหน้า ข้าซาบซึ้งใจนัก” เว่ยเฉินลี่วางศอกกับแขนเก้าอี้ มือหนึ่งประคองลูกสาวให้นั่งบนตัก อีกมือใช้ค้ำปลายคางและแก้มเนียน

ซีเยว่เป็นลูกคู่ให้ท่านแม่ “ซาบซึ้ง ซาบซึ้ง”

“มิได้” เจียวจินซ่อนมือกำแน่นไว้ใต้แขนเสื้อ

ใจดีสู้เสือไม่สนคำแดกดัน คลี่รอยยิ้มอบอุ่น ขอบตาแดงเรื่อทอดมองเด็กหญิงตัวอวบเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย “ผู้น้อยภาวนาให้คุณชายใหญ่และคุณหนูใหญ่ดีขึ้น วันนี้เห็นคุณหนูซีเยว่ดีขึ้น อนุหนึ่งผู้นี้ปลาบปลื้มใจอย่างยิ่ง”

สร้างภาพเพื่ออะไรไม่เข้าใจ?

ยังคิดจะฉกซีเยว่กับซีหยวนเป็นลูกของตัวเองไม่เลิก? สาวสมองปลาทองหรอคะ? จำได้ไหมเอ่ยว่าทำอะไรกันไว้? มันไม่ได้มีแค่ยัดกระสอบข้าวนะ โอเค๊!

สตรีงามหัวเราะชอบใจเสียงใส ความหมายผิดจากความพึงพอใจในน้ำเสียงโดยสิ้นเชิง

“อนุหนึ่งจิตใจดีมีเมตตา ตัวข้าเป็นแม่วุ่นวายดูแลร่างกายบุตรธิดาตั้งแต่รุ่งเช้าจรดค่ำต้องขอบคุณเจ้าแล้ว ข้าได้ยินว่าท่านคัดพระสูตร ฝึกสมาธิเจริญภาวนาทุกวัน”

ล่ามซีเยว่จะแปลให้ฟังฉบับซับนรก

‘หุบปากค่ะ วัน ๆ นั่ง ๆ นอน ๆ ขี้เกียจตัวเป็นขนไม่ทำอะไรก็หยุดเคลมผลงานคนอื่น’

เด็กหญิงช่วยตอกย้ำด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพรา “ฝักใฝ่ในพระศาสนายิ่งนัก”

“ฮูหยินกับคุณหนูกล่าวเกินไป” เจียวจินสูดลมหายใจลึก บรรยายความดีงามราวกับหลุดออกมาจากอารามชีของนาง “ผู้น้อยเพียงเลื่อมใสในพุทธศาสนา การคัดพระสูตรและเจริญสมาธิภาวนาเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อย ข้ายังให้ทานบริจาคบ่อยครั้ง ทั้งยังมักจะไปวัดศักดิ์สิทธิ์ หากมีโอกาสก็จะสนทนาแลกเปลี่ยนพระธรรมกับท่านเจ้าอาวาสสักคำสองคำ”

ออหอ

จิตใจดำมืดขนาดนี้ เจ้าอาวาสท่านยอมเสวนาด้วยอ่อ!?

“โอ้ ท่านดีถึงเพียงนี้” จิ้งจอกแดงปรบมือเปาะแปะเล่นตามน้ำกับเขาสักหน่อย

“มิได้”

เมียน้อยคนที่หนึ่งกระหยิ่มยิ้มย่อง แสนภาคภูมิใจ

น่าเสียดายที่ถูกดับความยินดีนั้นในประโยคต่อมา “อ๊ะ ท่านแม่ เยว่เอ๋อร์ได้ยินมาว่าอารามทางใต้แม้อยู่ไกลไปหน่อยศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ขอโชคได้โชค ขอลาภได้ลาภ เจ็บป่วยที่ใดล้วนหายสนิท ลูกมีใจเลื่อมใสนักแต่จนใจเกรงว่าจะเดินทางไม่ไหว”

“เยว่เอ๋อร์ที่น่าสงสารของแม่” เว่ยเฉินลี่ลูบศีรษะลูกสาว ส่งให้เพียงนี้ไม่รับคงไม่ได้ “จริงสิ อนุหนึ่งมีใจเป็นห่วง ตัวข้าและลูกไม่สะดวก ดังนั้นจะขอให้ท่านเดินทางไปขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อพวกเรา”

“นั่น-”

“ท่านคงเต็มใจกระมัง”

...

ได้รับคำตอบบ้าง ไม่ได้รับคำตอบบ้าง แต่แค่ไม่ถูกผลักไสคนก็ไม่ขออะไรมากกว่านั้น โดยเฉพาะระยะหลังมานี้ซีหยวนมีทีท่าโอนอ่อนมากขึ้น

วันนี้ก็ยังเหมือนทุกวัน ท่านพ่อช่างพูดช่างเอาใจเหมือนเคย

“เยว่เอ๋อร์พ่อได้ยินว่าลูกเริ่มฝึกบ่มเพาะแล้วหรือ?”

ข่าวเร็วเอาเรื่องนะ

ซีเยว่ผงกศีรษะ “เจ้าค่ะ ท่านปู่อาจารย์ให้เยว่เอ๋อร์ฝึกเคล็ดวิชาบ่มเพาะวาฬกลืนนภาเจ้าค่ะ”

“หืม” ซีเฉาหยางย่นระยะหัวคิ้วเข้าหากัน ใบหน้าคมคายของคหบดีหนุ่มไม่สู้ดี เต็มไปด้วยความเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด “แต่ลูกยังเด็กมาก พ่อได้ยินมาว่าควรให้อายุมากกว่านี้สักหน่อย”

“ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ เคล็ดวิชาบ่มเพาะวาฬกลืนนภาเหมาะสำหรับการฝึกแต่เล็ก ปลอดภัยมาก ๆ ท่านปู่อาจารย์กำชับเยว่เอ๋อร์ด้วยว่า ถ้าเข้าใจแล้วให้สอนหยวนเอ๋อร์ด้วย ท่านเอ็นดูหยวนเอ๋อร์มากแต่ชะตาไม่สมพงศ์จึงไม่พบกัน”

เล่าความจริงเจ็ดส่วน ความเท็จสามส่วน

“อะ หยวนเอ๋อร์ด้วยหรือขอรับเจี่ยเจีย!?” ซีหยวนได้ยินคำพี่สาวก็ตื่นเต้นจนใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาเป็นประกาย ย่อมไม่มีเด็กชายคนใดไม่ต้องการเป็นผู้บำเพ็ญ

“ช่าย~ รอเจี่ยเจียก่อนนะหยวนเอ๋อร์ เจี่ยเจียจะรีบฝึก”

คหบดีใหญ่พรูลมหายใจ มองลูกสาวลูกชายปลื้มปริ่มดีอกดีใจแล้วก็พูดอะไรต่อไม่ออก อาจารย์ลึกลับของหงส์น้อยเก่งกาจอย่างมาก เมื่อวานเขาเพิ่งจะได้รับกล่องหยกเย็นหมื่นปีที่ใช้บรรจุยันต์มารที่น่าหวาดผวาจากใต้หลุมศพ ด้วยความสัตย์จริงพ่อค้าหนุ่มรู้สึกขอบคุณอาจารย์ของลูกสาวมากที่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ แต่ยังไม่สามารถวางใจได้เต็มที่นัก

จะเป็นอย่างไรหากแท้จริงแล้วเยว่เอ๋อร์ถูกหลอก..

“เยว่เอ๋อร์หากมีสิ่งใดไม่สบายใจให้รีบบอกพ่อนะลูก” หัวอกบิดาอดเป็นห่วงไม่ได้

ซีเยว่ยิ้มยิงฟันขาวเรียงตัวสวย “ได้เจ้าค่ะ”

“อืม วันนี้ลูกเพิ่งจะส่งอนุหนึ่งไปไหว้พระทางใต้ นางว่าห่วงเยว่เอ๋อร์กับหยวนเอ๋อร์มากจนต้องมารบกวนเวลาพักผ่อน ลูกเลยจะให้นางเดินทางวันรุ่งขึ้นเลย ท่านพ่อคิดว่าอย่างไรเจ้าคะ?”

“...”

“...”

เว่ยเฉินลี่และซีหยวนหยุดมือเพื่อสังเกตปฏิกิริยาของบุรุษร่างสูง

โชคดีที่ครานี้บิดาปฏิบัติตนเข้าตา

ซีเฉาหยางพยักหน้าหงึกหงักเห็นดีเห็นงามกับบุตรสาว “ลูกพ่อตัดสินใจได้ดียิ่ง”

ผลบุญที่ได้รับคือ ความพึงพอใจของมารดาคนงามและลูกชายขี้เขิน เว่ยเฉินลี่สั่งให้สาวใช้เพิ่มบัวลอยที่ตนกับลูกช่วยกันปั้นวันนี้จากสามถ้วยเป็นสี่ถ้วย กระทั่งซีหยวนยังคีบเนื้อเป็ดนุ่มให้บิดา

ตีดิ้ง!

[ ขอแสดงความยินดี โฮสต์ที่รักปฏิบัติภารกิจหลัก จังหวะตกหลุมรัก โดคิ โดคิ! สำเร็จอย่างสวยงาม ]

[ ได้รับรางวัล สิทธิ์ผู้ครอบครองสมบูรณ์ ]

ภารกิจที่ค้างไว้ตั้งแต่ครั้งโดดลงหลุมสุสานก็มาเสร็จเอาครั้งนี้

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ