เพียงครึ่งเดือนต่อมางานแต่งของว่านชิงชิงและเย่ฟางตงก็จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่บ้านว่าน เจ้าบ่าวเจ้าสาวอยู่ในชุดสีแดงงดงามเป็นมงคล สาวสวยคู่หนุ่มหล่อถูกแขกเหรื่อที่มารวมงานชมแล้วชมอีก ใบหน้าคนในงานเต็มไปด้วยความยิ้มแย้มและอิจฉางานแต่งดี ๆ แบบนี้
“ต๊าย ! ดูนั่นสิ โทรทัศน์ยี่ห้อใหม่ที่เพิ่งออกมาไม่ใช่เหรอ บ้านเย่ทุ่มทุนในการแต่งเจ้าสาวคนนี้มากเลยนะเนี่ย”
“ไม่แค่นั้นนะหล่อน ดูเฟอร์นิเจอร์หลายชิ้นพวกนั้นสิ มีเงินก็ยังไม่รู้จะซื้อได้รึเปล่าเถอะ”
“ทั้งตู้เย็น เครื่องซักผ้า จักรยานยี่ห้อดี คุณนายเจิ้งหลินตกลูกเขยทองคำได้ซะแล้วสิ”
เหล่าคุณหญิงคุณนายที่มาร่วมงานต่างซุบซิบพูดคุยกันด้วยความสนุกสนานปนอิจฉา
“ว่าก็ว่าเถอะ แล้วคุณหนูคนโตของตระกูลว่านที่ประกาศหมั้นหมายกับเจ้าบ่าววันนั้นล่ะ” ครานี้เสียงสนทนาเบาลงเล็กน้อย
“อะแฮ่ม ฉันเองก็พอจะรู้มาอยู่บ้างนะ... เห็นว่าเมาจนไปได้เสียกับคนสวนในงานวันเกิดตัวเอง ก็เลยถูกฝ่ายชายถอนหมั้น สุดท้ายต้องแต่งให้กับคนสวนไปอยู่บ้านนอกนู่น”
“ว้าย ! จริงเหรอค่ะ ! ก็พอรู้อยู่บ้างว่าคุณหนูคนโตนิสัยไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ แต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้นะคะ โชคดีของตระกูลเย่ที่ยังไม่ทันได้แต่งหล่อนเข้าบ้าน”
“ได้ยินมาว่ามีฤกษ์แต่งงานวันเดียวกันนะคะ แต่เท่าที่เห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวคู่เดียวในงาน เดาว่าคงจะอับอายจนไม่มีแม้แต่งานพิธี”
“อุ๊ย ! ดูตรงนั้นสิคะ ใช่คนที่เราพูดถึงอยู่รึเปล่า”
ใครคนหนึ่งชี้ไปทางประตูด้านข้างของบ้านว่านซึ่งติดกับถนนใหญ่อีกด้าน ว่านอันอันและซ่งหมิงในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวสุภาพกำลังหิ้วกระเป๋าคนละใบเดินออกจากบ้าน
ที่จริงว่านอันอันอยากจะออกจากบ้านนี้ตั้งแต่วันแรกที่ได้รับอนุญาตให้แต่งกับซ่งหมิงแล้ว แต่เพราะถูกพ่อรั้งไว้ว่าให้ทำตามฤกษ์ จึงเลื่อนเวลาเดินทางไปอีกครึ่งเดือน ข้อดีคือเธอสามารถทยอยส่งข้าวของเครื่องใช้ไปที่บ้านของซ่งหมิงได้ก่อน วันเดินทางจริงจึงเหลือเพียงกระเป๋าคนละใบ ซึ่งสะดวกกว่ามาก
ว่านอันอันก้าวขาขึ้นรถจี๊ปสีเขียวทหารคันสูงที่พ่อใช้เส้นสายหามาให้อย่างไม่มีท่าทางอาลัยอาวรณ์แม้แต่น้อย กลับเป็นซ่งหมิงที่กังวลแทนเธออยู่เล็กน้อย อันที่จริงว่านหวนเย่พยายามรั้งเธอให้อยู่กินข้าวเย็นด้วยกันอีกสักมื้อก่อน แต่เธอปฏิเสธด้วยกลัวจะไปถึงไม่ทันเวลาปิดของหมู่บ้านทูวา ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางในครั้งนี้
บนรถยนต์คันสูงที่เคลื่อนไปตามถนนว่านอันอันหยิบใบทะเบียนสมรสสีแดงที่เพิ่งได้รับมามองดูอย่างพินิจ เช้าวันนี้พวกเขาสองคนได้ไปที่สำนักงานกิจการพลเรือนเพื่อจดทะเบียนสมรสและเป็นสามีภรรยากันตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว
รูปถ่ายบนนั้นเป็นใบหน้าของเธอและซ่งหมิง ว่านอันอันรู้สึกร้อนผ่าวที่กระบอกตาขึ้นมา ในที่สุดชีวิตก็เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ชาตินี้สามีของเธอไม่ใช่ทหารชั่วอย่างเย่ฟางตงแต่เป็นคนที่รักและจริงใจต่อเธอมาโดยตลอดอย่างซ่งหมิง
หญิงสาวจมอยู่ในความคิดของตนเองโดยไม่รู้ตัวเลยว่าถูกใครคนหนึ่งจ้องมองอยู่
ซ่งหมิงมองหญิงสาวที่จ้องใบทะเบียนสมรสด้วยดวงตาแดงก่ำ หัวใจเขาพลันหนักอึ้งจนหายใจลำบาก มือแกร่งกำกันแน่นบนตัก ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้เขารู้สึกเหมือนกำลังฝันไป เขาได้แต่งงานกับคุณหนูว่านอันอัน และกำลังจะไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิดด้วยกัน
แต่เขาไม่มีอะไรเลย... และไม่อยากให้เธอต้องลำบาก
ซ่งหมิงหยิบซองหนาในกระเป๋าออกมาแล้วยื่นไปให้ภรรยาแสนสวยของเขา
“นี่คือ ?” ว่านอันอันหยิบไปเปิดดูพบว่าข้างในเป็นเงินสด ดูแล้วคงไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันหยวน ซึ่งเป็นจำนวนที่เยอะมากสำหรับคนสวนคนหนึ่ง
“นี่คือเงินที่ผมเก็บออมไว้ได้ทั้งหมดในชีวิตครับ... ผมไม่มีปัญญาหาสินสอดมากมายมาให้คุณหนู ไม่สามารถจัดงานให้คุณหนูภาคภูมิใจ ยังหาชุดแต่งงานสวย ๆ ให้คุณหนูก็ไม่ได้... แต่ผมสัญญาว่าผมจะมอบทุกอย่างที่ผมมีให้คุณหนูไปตลอดชีวิต”
คำสัญญาแสนหนักแน่นและแววตาจริงใจของเขาทำให้น้ำตาที่เอ่อคลออยู่ของว่านอันอันกลิ้งหล่นลงมาตามแก้มนวลในที่สุด ซ่งหมิงยกมือช่วยเช็ดน้ำตาให้เธอรู้สึกเจ็บปวดในใจที่เห็นน้ำตาของหญิงสาว
“ผมสัญญา ว่าจะไม่ทำผิดต่อคุณหนู จะซื่อสัตย์และเคารพรักไปจนช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต”
ร่างบางโผเข้ากอดสามีแน่น เขาเองก็กอดกลับอย่างเงอะงะ
“นี่... ฉันน่ะ เต็มใจแต่งกับนายนะ”
ว่านอันอันพูดเสียงอู้อี้กับอกแน่นของเขา อยากบอกให้เขามั่นใจ ว่าเขาคือคนที่เธอเลือก ไม่ใช่คนที่เธอจำใจแต่งงานด้วย พลันเสียงตึกตึกที่เต้นทึบผ่านอกกว้างก็มีจังหวะเร็วขึ้น
“เป็นสามีภรรยากันแล้วก็อย่าเรียกคุณหนูอยู่เลย เรียกฉันว่าอันอันสิ”
หัวใจในอกแกร่งเต้นเร็วขึ้นอีกครั้งจนซ่งหมิงรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว หลุบตาไม่กล้าสบตาภรรยาที่ผละตัวออกเพื่อจ้องหน้าเขาอยู่ตอนนี้
“อัน... อัน...” เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างตะกุกตะกัก
“อื้อ พี่หมิง”
คำเรียกนั้นทำให้ซ่งหมิงหันขวับมองเธอทันที และพบเข้ากับรอยยิ้มงดงามสดใสของนางฟ้าแสนสวยที่ทำให้จิตใจล่องลอยจนกู่ไม่กลับ
ว่านอันอันหัวเราะคิกคักกับท่าทางเขินอายจนเซ่อของเขา
พี่หมิงของเธอช่างน่ารักจริง ๆ
การสนับสนุนของคุณมีความหมายอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไป ขอบคุณค่ะ/ครับ!
คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?