ตอนที่ 14 ที่ปรึกษา

วีรภพเดินทางมาหาแฟนสาวที่คอนโด แต่เมื่อเข้ามาในห้องก็พบว่าหญิงสาวนั้นไม่อยู่ ชายหนุ่มตามหาคนรักทั่วทั้งห้องแต่เมื่อไม่พบ เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาเธอทันที

“ออกไปไหนเหรอครับชา”

เขาเอ่ยถามปลายสาย ก่อนจะวางถุงอาหารลงบนโต๊ะ

“พอดีชากลับมาเยี่ยมพ่อกับแม่ค่ะ น่าจะมาหาอยู่ที่นี่หลายวันเลย ขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้บอกคุณ พอดีชามากระทันหันค่ะ”

หญิงสาวเอ่ยอย่างรู้สึกผิด ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจเพราะจำได้ว่าหญิงสาวนั้นพึ่งไปเยี่ยมพ่อกับแม่มา ฉะนั้นคงมีเรื่องด่วนจริง ๆ ถึงได้ไปกระทันหันเช่นนี้

“ให้ผมไปหาไหม”

“ไม่เป็นไรค่ะ พอดีชาอยากพักผ่อนกับครอบครัว”

ได้ยินเช่นนั้นชายหนุ่มก็รู้สึกน้อยใจ ไม่กล้าที่จะรบกวนเธออีก วีรภพนำอาหารเก็บใส่ตู้เย็นก่อนที่เขานั้นจะเดินทางกลับบ้าน ชายหนุ่มรู้สึกเหนื่อยล้ากับความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้ เขาไม่เข้าใจว่าตัวเองทำอะไรผิด ทำไมหญิงสาวจึงอยากตีตัวออกห่าง

“วันนี้นอนที่บ้านเหรอ”

วีรภัทรเห็นน้องชายเดินเข้ามาในบ้านก็เอ่ยถาม วีรภพพยักหน้า พอดีเขาแวะมาทำธุระแถวนี้กว่าจะเสร็จสิ้นก็มืดค่ำพอดี จึงได้แวะกลับมานอนที่บ้านเพราะรู้สึกเหนื่อยจนไม่อยากฝ่ารถติดกลับไปคอนโด

“เป็นอะไรหรือเปล่า หน้านายดูหมองนะ”

ผู้เป็นพี่เอ่ยถาม วีรภพถอนหายใจยาวก่อนเปิดกระป๋องเบียร์กระดกอึกใหญ่ เขารู้สึกเครียดหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องสโรชา เขาไม่เข้าใจว่าเธอเป็นอะไร ทำไมจู่ ๆ ถึงได้มีท่าทางห่างเหินอย่างเห็นได้ชัด

“เล่าให้ฉันฟังก็ได้นะ”

ผู้เป็นพี่เอ่ยขึ้น แม้จะรู้ดีว่าเขาคือต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด แต่ถึงอย่างนั้นวีรภัทรก็ยังอยากให้น้องชายระบายออกมา

“ผมรู้สึกว่าชาเขาดูแปลกไป”

“ยังไง”

เขาเอ่ยถามพลางเหลือบมองน้องชาย ใบหน้าวีรภพหม่นลง เขาปลดกระดุมเสื้อออกสองเม็ดเผยให้เห็นอกแกร่งที่มีขนรำไร

สองพี่น้องมีบุคลิกที่แตกต่างกัน วีรภัทรค่อนข้างเงียบขรึมและเนี้ยบ ไม่ชอบโชว์เนื้อหนังให้ใครเห็นและมักจะสวมเสื้อผ้าที่มิดชิด ต่างจากวีรภพที่มักจะสวมเสื้อผ้าที่เปิดเผยกว่า ทั้งยังมีเสน่ห์เหลือล้น เข้ากับคนง่าย ไม่แปลกใจเลยที่สโรชาจะตกหลุมรักอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

“เหมือนเขามีเรื่องอะไรในใจแต่ไม่ยอมบอกผม”

ชายหนุ่มพยายามที่จะถามเธอหลายครั้ง แต่ดูเหมือนว่าสโรชาจะพยายามปิดบังและเลี่ยงไม่ยอมบอกความจริงกับเขา วีรภพกลัวใจหญิงสาว กลัวว่าจะมีอะไรหรือใครมาทำให้เธอนั้นเปลี่ยนแปลงไป

“ผมว่าช่วงนี้ชาดูเครียด ๆ ผมเห็นชากินยาบ่อยขึ้น”

ชายหนุ่มเอ่ยกับพี่ชาย ซึ่งนั่นพลอยทำให้วีรภัทรเป็นกังวลไปด้วย ชายหนุ่มรู้สึกผิดขึ้นมาที่เขาเป็นต้นเหตุให้หญิงสาวเครียดและส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับน้องชายเขา

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่อาจตัดใจจากหญิงสาวได้โดยง่าย

“หรือชาเขามีปัญหาสุขภาพแต่ไม่กล้าบอกผม”

ชายหนุ่มพยายามวิเคราะห์ก่อนเงยมองพี่ชายที่กำลังกรอกเหล้าเข้าปาก วีรภัทรนิ่งไปก่อนจะที่เขาจะพยายามปลอบใจน้องชายไม่ให้คิดมาก

“ฉันว่านายอย่าเพิ่งคิดอะไรมากเลย บางทีเขาอาจจะแค่เครียดหรือเปล่า”

“พี่คิดว่างั้นเหรอ”

วีรภัทรพยักหน้า เลี่ยงสบสายตาน้องชายเพราะรู้สึกผิดเกินกว่าที่จะสู้หน้าอีกฝ่าย วีรภพพ่นลมหายใจ เขาหลุบตามองเข้าไปในกระป๋องเบียร์ก่อนวางมันลง

“พี่คิดว่าชาเป็นคนยังไง”

จู่ ๆ วีรภพก็เอ่ยถามขึ้น วีรภัทรชะงักเล็กน้อยก่อนส่ายศีรษะ

“ฉันไม่อยากออกความเห็น”

“แต่ผมอยากฟังความเห็นจากพี่นะ ผมอยากรู้ว่าพี่คิดยังไงกับแฟนผม”

เขาจงใจเน้นคำว่าแฟน ซึ่งนั่นทำให้ผู้เป็นพี่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ทั้งสายตาและน้ำเสียงของน้องชายมันดูแปลกไป

“ก็…ดูเรียบร้อยดี แล้วก็สวย”

ชายหนุ่มเอ่ยตอบ มีบางช่วงจังหวะที่เสียงนั้นขาดห้วงไปบ้าง เขารู้สึกประหม่าเมื่อต้องเอ่ยถึงคนรักเก่าต่อหน้าน้องชายตัวเอง ที่เป็นคนรักใหม่ของเธอ

“แค่นั้นเหรอ”

“ก็แค่นี้แหละ ฉันเพิ่งเจอแฟนนายครั้งเดียว จะไปรู้ได้ยังไงว่าเธอนิสัยแบบไหนอะไรยังไง”

วีรภพเลิกคิ้วก่อนกระตุกยิ้ม เขาเปลี่ยนเรื่องคุยก่อนจะเอ่ยถามอีกฝ่ายเรื่องแฟนสาวของวีรภัทรที่เลิกรากันไปสักพัก

“ผมไม่เคยเห็นแฟนพี่เลย จะว่าไปก็อยากเห็นหน้า”

วีรภัทรหรี่ตามองน้องชาย ก่อนที่เขาจะไหวไหล่และเอ่ยขึ้น

“ฉันเลิกกับเขาไปหลายเดือนแล้ว ไม่มีรูปให้นายดูหรอก”

แม้ความเป็นจริงวีรภัทรจะยังคงเก็บทุกอย่างเกี่ยวกับสโรชาเอาไว้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ใจกล้าพอที่จะให้น้องชายดู และเขาก็ขี้ขลาดเกินกว่าที่จะบอกความจริงวีรภพ

“เสียดาย”

ชายหนุ่มเอ่ยก่อนเอนหลังพิงโซฟาด้วยท่าทางสบาย เขาจับจ้องพี่ชายที่พยายามหลบเลี่ยงสายตาก่อนจะเบนสายตามองไปยังนาฬิกาเรือนใหญ่

“ดึกแล้ว พี่ไม่นอนเหรอ”

“ฉันก็คุยกับนายอยู่ไง”

“ผมไปนอนดีกว่า ว่าจะโทรหาชาสักหน่อย”

วีรภพลุกขึ้นเต็มความสูงก่อนที่เขานั้นจะเดินขึ้นบันไดไป ทิ้งให้ผู้เป็นพี่มองตามอย่างไม่สบายใจนัก

วีรภัทรหยิบโทรศัพท์ออกมา เขาลังเลอยู่ชั่วครู่ว่าควรลบช่องทางการติดต่อหญิงสาวทิ้งดีหรือไม่ แต่เมื่อคิดไปคิดมาเขาก็ตัดสินใจล้มเลิกความคิด ชายหนุ่มส่งข้อความหาหญิงสาวก่อนที่เขาจะล้มตัวลงนอนและยกแขนก่ายหน้าผาก

ด้านสโรชาเธอไม่ได้สนใจข้อความของวีรภัทรที่ส่งมา เพราะกำลังคุยกับวีรภพอยู่ หญิงสาวเล่าให้ชายหนุ่มฟังว่าวันนี้เธอไปทำอะไรและไปที่ไหนมาบ้าง

“ชาว่าถ้าเรารับอาหารทะเลจากชาวประมงและนำไปแปรรูปส่งขายต่างประเทศก็น่าจะดีนะคะ”

หญิงสาวเสนอไอเดียธุรกิจ เธอตั้งใจว่าในอนาคตอยากจะทำงานอิสระเพราะบางครั้งก็เริ่มเบื่อ ๆ งานประจำที่มีปัญหาจุกจิกตลอดเวลา

“ดีเลยนะชา ถ้าอย่างนั้นผมหุ้นด้วยดีกว่า”

ชายหนุ่มเอ่ย เขารู้สึกว่าหญิงสาวดูผ่อนคลายขึ้นมาก ฟังจากน้ำเสียงที่ดูสดใส

“จริง ๆ ชาอยากแปรรูปเป็นขนมค่ะ จะได้กินง่าย ๆ ด้วย”

“พี่ก็ว่าดีนะครับ ถ้าชาอยากได้อะไรเพิ่มเติม บอกพี่ได้นะ พี่มีเพื่อนเป็นเจ้าของโรงงานผลิตแพคเกจจิ้งและโรงงานรับผลิตอาหาร”

“ดีจังเลยค่ะ ยังไงเดี๋ยวไว้ชากลับกรุงเทพ เราค่อยมาปรึกษากันอีกทีนะคะ”

หญิงสาวเอ่ยไปด้วยพร้อมกับจดรายละเอียดลงสมุดเล่มเล็กของตัวเอง ช่วงนี้อาหารทะเลนั้นมีราคาสูงสวนทางกับเศรษฐกิจที่ค่อนข้างซบเซา ทำให้ผู้ค้าอาหารทะเลนั้นประสบความเดือดร้อน เนื่องจากขายของไม่ได้

สโรชาที่อยากช่วยเหลือจึงคิดจะรับซื้อและนำอาหารทะเลเหล่านี้ไปแปรรูปเป็นขนมทานเล่น แต่หากวางขายในตลาดไทย อาจจะทำรายได้ไม่ดีเท่าที่ควรเนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์อาจสูงขึ้นตามต้นทุน ซึ่งหากเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำแล้วน่าจะแพงเกินไป

หญิงสาวจึงอยากหาตลาดในต่างประเทศมากกว่า ซึ่งเธอไม่เคยมีคอนเนคชั่นหรือความรู้ทางด้านนี้ จึงได้มาปรึกษาวีรภพเพราะเชื่อว่าเขาน่าจะพอให้คำแนะนำเธอได้

“งั้นเดี๋ยวยังไงผมจะช่วยติดต่อเพื่อนที่ต่างประเทศให้นะครับ เขาอาจจะพอหาตลาดให้ได้”

วีรภพมีเพื่อนที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศหลายคน ซึ่งพวกเขาน่าจะพอช่วยเหลือเรื่องการนำเข้าได้เพราะบางคนก็มีธุรกิจอยู่แล้ว ดีไม่ดีอาจร่วมหุ้นกันเพื่อกระจายสินค้าไปยังตลาดทั่วโลก

“ดีเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ”

หญิงสาวรู้สึกมีความหวัง เธออยากช่วยเหลือคนที่นี่ในฐานะที่เป็นคนบ้านเดียวกัน ฉะนั้นทางเดียวที่จะช่วยได้อย่างยั่งยืนนั่นคือการนำสินค้าของพวกเขาไปเพิ่มมูลค่าและส่งออก ผลักดันแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก

“ว่าแต่ชาจะกลับเมื่อไหร่ ผมคิดถึง”

หัวใจหญิงสาวอุ่นวาบเมื่อได้ยินคำนั้น ขณะเดียวกันเธอก็รู้สึกผิดที่พยายามผลักไสเขา ทั้งที่วีรภพไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแม้แต่น้อย

“อีกสี่ห้าวันค่ะ”

หญิงสาวได้ยินเสียงชายหนุ่มถอนหายใจ

“ผมกลับมานอนที่บ้าน พอไม่ได้นอนกับคุณแล้วนอนไม่หลับเลย”

ทุกคืนเขาต้องมีหญิงสาวเคียงข้างกาย แต่หลายวันมานี้เขาต้องนอนเตียงกว้างเพียงลำพัง ชายหนุ่มรู้สึกว่าเขาเริ่มเคยตัว ทุกวันมีหญิงสาวอยู่เคียงข้าง แต่หากวันไหนไม่มีเธอ เขาก็นอนไม่หลับ

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ