ตอนที่ 12. ใครกันแน่ที่จะเสียใจ

มู่เสวี่ยหลิงเดินมาได้ถึงครึ่งทางก็รู้สึกเหมือนได้ยินฝีเท้าใครบางคน นางให้ลี่ลี่กลับไปก่อนทั้งไม่ได้สั่งให้พ่อบ้านเดินตามมาด้วยนางรู้อยู่แล้ว รู้ว่าคนอย่างหมิงเยี่ยเมื่อไม่ได้สิ่งที่เขาต้องการ เขาจะต้องมาทวงถามเอาจากนางแน่ และการที่นางเปิดทางให้เขาเข้าใกล้ในครั้งนี้ เพราะนางมีแผนไว้ในใจแล้วต่างหาก

มู่เสวี่ยหลิงหมุนกายกลับ นางแสร้งถามเสียงสั่น “นั่นใคร”

“ข้าเอง คุณหนูมู่” หมิงเยี่ยเดินออกมาจากเงามืดด้านข้าง เขาขยับฝีเท้าเข้าใกล้นางจะระยะห่างระหว่างทั้งสองคนเหลือเพียงหนึ่งฝ่ามือกั้น

มู่เสวี่ยหลิงย่นหัวคิ้ว ได้กลิ่นสุราจากตัวเขาก็นึกรังเกียจอยู่ในใจ แต่เพราะนางมีแผนใหญ่รอคอย ต่อให้ไม่ชอบใจมากเพียงใดก็ต้องเก็บสีหน้าไว้ ไม่อาจแสดงออกไปให้เขาเห็นเด็ดขาด มู่เสวี่ยหลิงแย้มยิ้มบาง ยอบกายให้เขาครั้งหนึ่ง

“ท่านหมิง ไม่ทราบว่าท่านมาทำอะไรแถวเรือนท่านพ่อหรือเจ้าคะ ถ้าหากท่านต้องการหารือกับท่านพ่อรอให้เช้าก่อนดีกว่าเจ้าค่ะ ท่านพ่อเพิ่งจะนอนพักไปเมื่อครู่”

หมิงเยี่ยส่ายศีรษะ ดวงตาคมกล้าของเขาจับจ้องอยู่บนใบหน้างดงามของมู่เสวี่ยหลิง ยิ่งเห็นนางเฉิดฉายถึงเพียงนี้ก็ยิ่งนึกชิงชังหยวนเซิ่งเจ๋อ เป็นเพียงบุตรชายพ่อค้า ถือดีอย่างไรมาแย่งสตรีกับเขา

“คุณหนูมู่ พอจะมีเวลาให้ข้าสักประเดี๋ยวได้หรือไม่”

มู่เสวี่ยหลิงเอียงคอ “ถ้าหากท่านหมิงต้องการคุยสิ่งใดสามารถบอกกล่าวข้าตรงนี้ได้เลยเจ้าค่ะ”

หมิงเยี่ยไม่อยากคุยกับนางในสถานที่เปิดเช่นนี้แต่เขาก็ได้เห็นกับตามาแล้วว่ายามที่มู่เสวี่ยหลิงดื้อดึง นางเอาแต่ใจตนเองเพียงไร เขาถอนหายใจครั้งหนึ่งก่อนเปิดปาก

“คุณหนูมู่ ข้าจะไม่อ้อมค้อม ข้าชอบท่าน ชอบตั้งแต่แรกเห็น”

หมิงเยี่ยใช้น้ำเสียงอ่อนโยนอย่างถึงที่สุด เขาหมายมั่นปั้นมือ เด็กสาวที่เพิ่งผ่านพ้นวัยปักปิ่นทั้งยังไม่ค่อยได้เจอบุรุษอย่างมู่เสวี่ยหลิงจะทานทนไหวได้อย่างไร ไม่นานนางจะต้องล้มเลิกงานแต่งและตกลงปลงใจกับเขาแน่

“คุณหนูมู่ ท่านอาจจะคิดว่าชีวิตความเป็นอยู่ของท่านในตอนนี้ดีแล้ว แต่ท่านไม่คิดบ้างหรือว่ามันอาจจะดีได้มากกว่านี้อีก เสวี่ยหลิง ข้าเองเป็นขุนนางมานานยังไม่เคยมีภรรยามาก่อน หากวันนี้เจ้าตกลง ข้าจะรับเจ้าเข้าจวน จัดขบวนเกี้ยวแปดคนหามให้เจ้า ไม่ให้เจ้าน้อยหน้าผู้ใดเด็ดขาด”

มู่เสวี่ยหลิงดวงตามืดครึ้ม เมื่อชาติก่อนก็เป็นเขาที่พูดเช่นนี้ เป็นเขาที่หลอกล่อนางว่าไร้ภรรยาทั้งไม่มีสาวใช้ข้างเตียง ทำให้นางหลงเชื่อสนิทใจ นางตามเขาไปแต่กลับไร้เกี้ยวแดงแปดคนหาม นางตามเขาไปนอกจากจะไม่ได้ตำแหน่งภรรยาเอกแล้วกลับเป็นเพียงอนุผู้หนึ่งไร้ความสลักสำคัญต่อสามี

มู่เสวี่ยหลิงยกยิ้มกว้าง “นายท่านหมิง ข้าหาได้พอใจชีวิตในตอนนี้ไม่ แต่ข้าจะพอใจมากหากได้แต่งงานกับพี่หยวน เรื่องในวันนี้ ถือว่าข้าไม่ได้ยินและไม่เคยพบเจอท่านมาก่อนแล้วกันเจ้าค่ะ ข้าขอตัว”

หมิงเยี่ยเห็นคนกำลังตีจากด้วยความโมโหจึงคว้าท่อนแขนบอบบางของนางไว้ ออกแรงบีบเสียจนใบหน้ามู่เสวี่ยหลิงเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “นายท่านหมิง! ข้าเจ็บนะเจ้าคะ!”

หมิงเยี่ยยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ ทั้งลมหายใจและกลิ่นปากเขาเต็มไปด้วยสุรา ทำเอามู่เสวี่ยหลิงสะอิดสะเอือนจนเกือบจะสำรอกใส่หน้าเขา

“มู่เสวี่ยหลิง แล้วเจ้าจะต้องเสียใจ”

เขาสะบัดนางออกจากมือคล้ายว่ารังเกียจนักหนาก่อนเดินหายลับไปกับสวนข้างเรือน มู่เสวี่ยหลิงสะบัดแขนสองสามครั้งด้วยความไม่ชอบใจนักทว่าปากกลับพูดออกมาประโยคหนึ่ง ดวงตานางเป็นประกายวาวโรจน์

“เดรัจฉานหมิงเยี่ย เจ้าก็คอยดูแล้วกันว่าระหว่างเจ้ากับข้า ผู้ใดจะเสียใจ”

เพราะหยวนเซิ่งเจ๋อบอกกล่าวบิดามารดาไว้ล่วงหน้าแล้ว วันที่แม่สื่อรีบนำฤกษ์กลับไปบ้านสกุลหยวนก็จัดเตรียมงานแต่งทันที เพราะเป็นงานที่ออกจะกระชั้นชิดอยู่สักหน่อย มู่เสวี่ยหลิงจึงไม่มีทางเลือกนอกจากใส่ชุดแต่งงานที่บ้านสามีจัดเตรียมหามาให้ นางก้มมองชุดพิธีการกระโปรงยาวลากพื้นด้วยความสับสนอยู่ในใจ

แน่นอนว่านางอยากช่วยให้ชะตาชีวิตของพี่หยวนเปลี่ยนไปจากเดิม อยากให้เขามีชีวิตที่เป็นสุข เงินทองใช้ไม่ขาดมือ รายล้อมไปด้วยบุตรธิดาและลูกหลาน เพียงแต่นางทำกับเขาไว้ถึงขนาดนั้น ถึงจะได้โอกาสหวนกลับมาแก้ไข ในใจนางก็ยังลบล้างความรู้สึกผิดนั่นไปไม่ได้

ใต้หล้านี้ยังมีอีกหลายทางให้นางเลือกเดิน ทว่าเหตุไฉนนางถึงได้เลือกเดินเส้นทางนี้กัน

เขารักนาง นางรักเขา แต่ว่านางคู่ควรกับความรักของเขาแล้วหรือ คนอย่างมู่เสวี่ยหลิง สตรีจิตใจกลับกลอกผู้นั้น คู่ควรกับความรักงดงามของหยวนเซิ่งเจ๋อจริง ๆ หรือไม่

“คุณหนูเจ้าคะ” ลี่ลี่เดินเข้ามาในห้องรอส่งตัวเจ้าสาว พรุ่งนี้จะเป็นวันแต่งงาน นอกจากญาติและสาวใช้คนสนิทแล้วมู่เสวี่ยหลิงไม่ได้รับอนุญาตให้พบผู้ใดทั้งสิ้น “มีจดหมายมาถึงท่านเจ้าค่ะ”

“จดหมายถึงข้า? ใครส่งมา”

ลี่ลี่เหลือบมองรอบด้านครั้งหนึ่งจนแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ในระยะการได้ยินของพวกนางถึงได้กระซิบเสียงเบา

“คุณชายหยวนเจ้าค่ะ เขาให้คนเอามาฝากบ่าวเมื่อสักครู่ บ่าวถึงได้นำมาให้คุณหนูเจ้าค่ะ”

ไม่ว่าจะเป็นชีวิตก่อนหรือชีวิตนี้มู่เสวี่ยหลิงก็ไม่เคยอ่านจดหมายของหยวนเซิ่งเจ๋อมาก่อน นางรังเกียจที่เขาเป็นเพียงบุตรชายพ่อค้าจึงโยนมันทิ้งไม่คิดจะเหลือบแล พอมาวันนี้มีโอกาสได้อ่านจดหมายของเขา ได้เห็นลายมือของเขา นางจะทิ้งมันไปได้อย่างไร มู่เสวี่ยหลิงยันกายลุกขึ้นนั่ง สายตานางมีประกายความตื่นเต้นลาง ๆ

“เอามาให้ข้า” ครั้นได้มันมาอยู่ในมือมู่เสวี่ยหลิงก็นึกหวงแหนทั้งยังรู้สึกหึงหวงเล็กน้อย ไม่อยากให้ลี่ลี่รับรู้ตอนที่นางอ่านจดหมายเลยสักนิด

“ลี่ลี่ เจ้าออกไปก่อน พรุ่งนี้เช้าถึงเวลาแต่งตัวค่อยมาเรียกข้า”

“เจ้าค่ะ คุณหนู”

มู่เสวี่ยหลิงนั่งเงียบ ๆ อยู่บนเตียง นางรอจนแน่ใจว่าลี่ลี่เดินออกไปไกลแล้วจึงได้ค่อย ๆ แกะจดหมายในมืออย่างทะนุถนอม นางวางซองจดหมายไว้ด้านหนึ่ง ดึงกระดาษแผ่นเล็กด้านในคลี่ออกบนฝ่ามือ อาศัยแสงเทียนดวงน้อยข้างมือในการอ่าน

‘หลิงหลิง ส่งจดหมายให้เจ้าในเวลานี้ออกจะดูไม่ดีสักหน่อย แต่เพราะธรรมเนียมบ่าวสาวไม่อาจเจอหน้ากันเจ็ดวันทำให้ข้าว้าวุ่นใจนักจึงจำใจส่งจดหมายนี้มาหาเจ้าทั้ง ๆ ที่ใจจริงแล้วข้าอยากจะพูดมันต่อหน้าเจ้าทั้งหมด’

‘ข้าหลงรักเจ้ามาหนึ่งปีเต็ม ตั้งแต่วันนั้นที่ได้เห็นเจ้าในงานปักปิ่นข้าก็รู้สึกว่าของที่เตรียมมาช่างไม่คู่ควรเลยแม้แต่น้อย ข้าเห็นเจ้าแล้วพลันนึกถึงเครื่องประดับหยกแดงของท่านแม่ ข้าสั่งให้คนไปนำมันมา มอบให้เจ้าโดยไม่บอกกล่าวท่านแม่สักคำ สุดท้ายวันนั้นข้าโดนท่านแม่สั่งให้คุกเข่าอยู่เกือบสองชั่วยาม นางถึงยอมคลายความโกรธ’

อ่านมาถึงตรงนี้มู่เสวี่ยหลิงก็นิ่งอึ้ง นางเงยหน้ามองกล่องเครื่องประดับหยกแดง มิคาดว่าเครื่องประดับที่นางนึกชมชอบจะมีที่มาที่ไปเช่นนี้

‘หลิงหลิง ข้าเคยคิดว่าเจ้าไม่ต้องรักตอบข้าก็ได้ ขอเพียงมีเจ้าเป็นภรรยาร่วมเรียงเคียงหมอนข้าก็พอใจแล้ว แต่วันนี้ข้าข้าถึงกับโลภมาก ข้าต้องการให้เจ้ารักตอบ ทั้งอยากครอบครองหัวใจเจ้า หลิงหลิง ถ้าหากเรื่องทั้งหมดที่ผ่านมาเป็นเพียงการละเล่นของเจ้า พรุ่งนี้ เจ้าอย่าได้เข้าพิธีแต่งงานเลย เรื่องทั้งหมดข้าจะรับไว้ให้เอง

‘แต่ถ้าหากเจ้ารู้สึกเหมือนข้าแม้เพียงนิด ข้าหยวนเซิ่งเจ๋อขอสาบาน ชาตินี้ทั้งชาติ ยอมผิดกับคนทั้งใต้หล้าแต่จะไม่ยอมผิดกับเจ้าเพียงผู้เดียว’

“ข้ารู้ว่าท่านทำได้พี่หยวน”

คืนนั้นมู่เสวี่ยหลิงนอนกอดจดหมายฉบับเล็กหลับไปอย่างมีความสุข เป็นครั้งแรกหลังย้อนหวนคืนกลับมาที่นางไม่ฝันร้ายเลยสักชั่วลมหายใจ

โพสต์ข้อความ