ตอนที่ 6 ข้าจะไม่โง่งม

เดือนนี้ดอกท้อกำลังเบ่งบาน ฉีเหมยลี่จึงไถ่ถามซูเม่ยถึงการเพาะปลูกของที่นี่ว่าเป็นอย่างไรบ้าง เรื่องผลผลิตหรือการค้าขายต่าง ๆ ที่ดูเหมือนจะงอกงามพอควร ทั้งที่อากาศก็หนาวเย็น

“ปกติแล้วนายท่านจะเป็นคนทำงานด้านนี้เจ้าค่ะ ท่านเศรษฐีบิดาของนายหญิง นอกจากจะค้าขายพวกแพรพรรณต่าง ๆ จนร่ำรวยแล้ว ยังมีอีกสิ่งที่ท่านทำควบคู่ไปด้วยเจ้าค่ะ”

ซูเม่ยเป็นบ่าวรับใช้ในจวนของท่านคหบดีมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย คอยวิ่งเล่นกับฉีเหมยลี่ตั้งแต่ครั้งยังเยาว์ นางรู้เห็นทุกอย่าง ถ้านางมิได้มีความเฉลียวฉลาด บิดาของฉีเหมยลี่คงมิให้นางมาเป็นสาวรับใช้คนสนิทแน่นอน

“เจ้าช่างเฉลียวฉลาดยิ่งนักซูเม่ย นับเป็นบุญของข้าที่มีเจ้าเคียงข้างรับใช้มาตั้งแต่เยาว์วัย” นางเริ่มชำนาญในถ้อยคำโบราณได้บ้างแล้ว

ในทุก ๆ วัน ตั้งแต่นางฟื้นขึ้นมาและมีตำแหน่งฮูหยินเอกควบคู่มาดัวย ทำให้นางมิจำเป็นต้องออกไปไหน หรือเมื่อใดที่มีกิจการงานเกี่ยวกับหน้าที่ของฮูหยินที่ต้องทำ ฟางลี่หมิงก็แย่งงานเหล่านั้นไปทำเสียจนหมดสิ้น แถมยังขยันหาข่าวลือเสีย ๆ หาย ๆ ให้กับฮูหยินเอกเช่นนางอีกด้วย!

ข่าวที่นางกระจายไปก็เช่นว่า ฮูหยินเอกคนนั้นฟื้นคืนสติแต่หาได้มีความสมประดีไม่ อย่าให้ใครเข้าใกล้นาง ขนาดบางเรื่องที่เป็นสิ่งง่าย ๆ ฉีเหมยลี่ยังหารู้จักไม่

“อันที่จริงตำแหน่งฮูหยินเอกหาได้มีความจำเป็นสักนิด เพราะไม่ว่าเรื่องใดนายข้าก็ทำได้ทั้งหมดอยู่แล้ว” คำพูดนั้นสาวใช้ของนางได้นำมาพูดจาลอย ๆ เพื่อให้ซูเม่ยได้ยินและนำไปบอกนายของตัวเอง

“ปล่อยให้พวกปากหนอนพูดจาเช่นนั้นต่อไปจะดีหรือเจ้าคะ แม้ว่าพวกนางหาได้ยกย่องคุณหนู แต่ก็ไม่คิดว่าจะเหยียดหยามกันถึงเพียงนี้” ซูเม่ยนั้นแค้นใจแทนฮูหยินของตนยิ่งนัก

“ช่างเขาเถอะ ให้ความลำพองใจของนางเป็นคมดาบกรีดแทงนางในภายภาคหน้าเสียเอง ข้ามิได้สนอันใด” นางพูดเพียงแค่นั้นแล้วก็วางมือจากการทำเทียนหอม

“นายหญิงข้าช่างประเสริฐยิ่งนัก เป็นบุญของซูเม่ยคนนี้ที่ได้รับใช้นายหญิงเจ้าค่ะ”

“ว่าแต่นายหญิงทำเทียนหอมไปทำไมหรือเจ้าคะ ในเมื่อท่านก็มีเงินซื้อหาเอาได้”

สาวใช้ยังมีความแคลงใจอยู่บ้าง เพราะโดยปกติแล้วนายหญิงของนางมักไม่ค่อยลงมือทำสิ่งใดด้วยตนเอง ด้วยเคยชินกับการใช้ตำลึงทองซื้อหาทุกอย่างตามต้องการ

“ข้าอยากทำตัวให้มีประโยชน์ มิใช่ไร้ซึ่งความสามารถ”

ฉีเหมยลี่บอกแก่นางที่นั่งจ้องทำตาโต รอคอยคำตอบอยู่ตอนนี้

“เจ้าสงสัยอะไรหรือซูเม่ย” นางถามพร้อมส่งยิ้มที่จริงใจ

“ข้าคิดว่า ท่านไม่สนใยดีต่อท่านแม่ทัพแล้วหรือเจ้าคะ” นางอยากถามต่อ แต่กลัวว่านายหญิงของตนอาจไม่พอใจ

“ช่างท่านแม่ทัพเถิดซูเม่ย เขาก็เป็นได้แค่บุรุษที่ไร้ยางอาย มิได้คู่ควรกับข้าสักเท่าใด” นางหาได้มีความรักกับเซิ่นหยางไม่ ตั้งแต่ทะลุเข้ามาในมิตินี้และได้รู้เห็นความชั่วช้าจากความทรงจำของฉีเหมยลี่ นางก็เดียดฉันท์นิสัยใจคอของเขามากยิ่งขึ้น และชวนให้สังเวชใจกับความรักที่นางมีเมื่อครั้งก่อน แต่บัดนี้ความลุ่มหลงเช่นนั้นหาได้เกิดขึ้นอีก

“บุรุษเช่นเซิ่นหยางทำให้ข้าตาสว่าง”

นางหยิบพัดลายมังกรทองมาโบกสะบัดสองสามครั้ง

“นายท่านเซิ่นเป็นคนที่โง่เขลา เขามิได้ฉลาดสักปานใด ฮูหยินรองฟางลี่ก็เช่นกัน พวกเขามัวเมาในกิเลสตัณหา ก็เหมือนอย่างที่เจ้าได้เห็น”

สาวใช้อย่างซูเม่ยพยักหน้าเห็นด้วย

“ถ้าข้าพูดผิดคำ ก็แย้งข้าได้นะ”

“ไม่เจ้าค่ะ เป็นอย่างที่ฮูหยินบอกทุกประการ”

ฉีเหมยลี่ใช้นิ้วเรียวของนางยกถ้วยขึ้นจิบน้ำชาหอมหมื่นลี้ ที่สาวใช้นำมาชงให้นางดื่ม “รสชาติดีทีเดียว”

นางเคยเห็นอยู่ ว่าชาชนิดนี้เป็นที่นิยมมากในตอนที่นางอยู่โลกเก่า และมันก็ไม่ได้ทำง่ายดาย ต้องมีการคัดสรรวัตถุดิบและใช้ความประณีตอย่างมาก

นางมองดูถ้วยน้ำชาในมือของตน พลางมองหน้าของสาวใช้ผู้ซื่อสัตย์

“ข้ามีความคิดดี ๆ เจ้าอยากช่วยข้าหรือไม่” หญิงสาวผู้เป็นนายยิ้มเห็นฟันเรียงกันช่างสวยงามยิ่งนัก ซูเม่ยได้ยินดังนั้นก็พลอยยิ้มตามนายหญิง ดวงตากลมโตคู่นั้นฉายแววความสุขที่ได้ปรนนิบัติรับใช้ฮูหยินเอกผู้เป็นที่รัก

“เจ้าค่ะคุณหนู ไม่ว่าจะฝ่าดงฝ่าหนาม หรือให้ข้าไปจับมังกร ถ้าคุณหนูสั่งข้าไม่หวั่นเจ้าค่ะ”

“เยอะไปนะเจ้าเนี่ย! ข้ามิได้ให้ทำถึงเช่นนั้นเสียหน่อย” ว่าแล้วนายสาวกับบ่าวคนสนิทก็หัวเราะร่วน

หลายวันที่ฉีเหมยลี่เข้ามาอยู่ในร่างนี้ นางมิได้แสดงอาการโศกเศร้าที่ได้จากร่างเก่ามาแต่อย่างใด เพราะชีวิตเดิมของนางนั้นก็มิได้มีสิ่งใดที่อยากรั้งเอาไว้

ฉีเหมยลี่ให้ซูเม่ยเรียกนางว่าคุณหนูต่อไป โดยไม่ต้องเรียกว่าฮูหยิน เนื่องจากว่านางก็ไม่ได้รักใคร่เซิ่นหยางแต่อย่างใด

ได้แต่เป็นขี้ปากชาวบ้าน งานที่ทำมาอย่างลำบากยากเข็ญเป็นอันต้องถูกแย่งไปเสียได้ คนรักรึก็มิได้ห่วงหาอาทร ความเป็นอยู่ก็ต้องดิ้นรนถีบตัวเองให้สูงขึ้น ถึงไม่น่าเวทนาเยี่ยงขอทานข้างถนน แต่ก็มิได้สวยสง่าอย่างเจ้าคนนายคน นางก็แค่คนทำงานที่ใช้แรงกายแรงใจไม่ต่างจากคนอื่น

ดีเสียอีกที่สวรรค์หรือสิ่งใดก็มิอาจรู้ ถีบส่งชีวิตนางมาอยู่บนแผ่นดินทองคำแห่งนี้ ยังมีสิ่งต่าง ๆ อีกมากมายที่นางอยากรู้ อยากทำ อยากแสวงหา และเป็นตัวของตัวเอง

“คุณหนูเจ้าขา ท่านคิดสิ่งใดอยู่หรือเจ้าคะ” สาวใช้ของนางช่างเป็นคนจำจดยิ่งนัก ช่างสังเกตและถ้อยคำเจรจาช่างหวานล้ำ ไม่มีครั้งใดในหลายวันนี้ที่ทำให้ฉีเหมยลี่ระคายหูเลยสักนิด

“ข้ามองดูแผ่นดินนี้ซูเม่ย” นางถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง “ผืนดินที่ข้าเพิ่งได้พบเจอ มันช่างสวยงาม” นางพูดพลางเหม่อมองต้นหลิวที่สะบัดกิ่งใบล้อเล่นลม

สาวใช้อย่างนางก็รับรู้ได้เช่นกัน เหมือนว่าหลาย ๆ คนในที่แห่งนี้จะสัมผัสได้ว่านางนั้นเปลี่ยนไป

“คุณหนูหมายความว่าเช่นไรกันเจ้าคะ ท่านดูเหมือนเพิ่งเคยเห็นจวนตนเองเมื่อไม่นานมานี้”

สาวใช้เอียงคอถามนาง

“ตั้งแต่วันนั้น ในหัวข้าเริ่มมีอาการเลอะเลือนบ่อย ๆ เจ้าอย่าได้สนใจเลย”

ฉีเหมยลี่ นางแสร้งพูดออกไปแบบนั้น เพราะความทรงจำเริ่มดีขึ้นเมื่อวันก่อนนี่เองนางถึงเริ่มปลงตก และอยากหาข้อมูลเกี่ยวกับโลกใบนี้ให้มากยิ่งขึ้น

ระหว่างนี้ มีข่าวมากมายเกี่ยวกับเรื่องฮูหยินเอกที่เป็นเจ้าสาวในคืนนั้นเปลี่ยนไป มิใยดีต่อคู่สมรส ทั้งเรื่องที่นางร้องเรียกหาความตายในคืนส่งตัว และเรื่องเกี่ยวกับนางเมื่อฟื้นคืน หามีผู้ใดล่วงรู้ว่านางฟื้นคืนเช่นไร เพราะมีแค่ซูเม่ยและท่านหมอที่เป็นคนอยู่กับนางในวันที่เกือบจบชีวิต

“คุณหนูดูเหมือนจะมีความรอบคอบ และใส่ใจข้ายิ่งกว่าที่เคยมานะเจ้าคะ”

สาวใช้เหมือนอยากจะบอกอะไรนาง แต่ก็ได้แค่ก้มหน้าก้มตา คิดเพียงว่านางมิควรพูดกับนายตนเองมากเกินไป

“เมื่อก่อนข้าเป็นเช่นไรงั้นรึ?”

นางเองก็อยากรู้เช่นกัน

“ก็เมื่อคุณหนูพบเจอและผูกสมัครรักใคร่นายท่านเซิ่น ท่านเองก็มิได้ใยดีข้าเท่าใดเจ้าค่ะ” นางแค่อยากบอกว่า นายหญิงชอบลืมเลือนสาวใช้คนนี้ แม้ว่านางจะคอยเตือนเรื่องเซิ่นหยางที่มิได้คู่ควรกับคุณหนูของนางเลยสักนิด

“เจ้าเป็นสาวใช้ที่ข้ารักเหมือนพี่น้อง เจ้าหวังดีกับข้าทุกอย่าง”

หญิงสาวแบมือของตนเองให้นางจับ “ต่อไปนี้ข้ากับเจ้านับเป็นสหายกันนับแต่นี้นะซูเม่ย” นางกล่าวออกมาเช่นนั้น ทำให้สาวใช้อย่างซูเม่ยถึงกับน้ำตารื้น

“คุณหนูของข้า ท่านช่างมีเมตตาเหลือเกินเจ้าค่ะ” นางรีบคุกเข่าคำนับนายหญิง

“ซูเม่ยขอสาบานว่านับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป หากมีผู้ใดมารังแกคุณหนู ข้าน้อยขอตายแทนและจะไม่ให้คุณหนูได้รับอันตรายใด ๆ เจ้าค่ะ”

คำพูดนี้ฉีเหมยลี่เหมือนเคยได้ยินจากละครเรื่องไหนสักเรื่องหนึ่งนี่แหละ แต่ไม่นึกเลยว่าจะมาได้ยินกับหูตัวเอง...

ยืนยันการสนับสนุน

คุณต้องการสนับสนุนนักเขียนด้วยจำนวนเงิน [จำนวนเงิน] บาท ใช่หรือไม่?

โพสต์ข้อความ